xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ใช่คนน่ากลัว "ปั้นจั่น" กลัวหน้าแหก ไม่กล้าตอบรัก "ฐิสา" คืบ แต่โวเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ปั้นจั่น ปรมะ" ลุยจีบ "ฐิสา" ร้อยเปอร์เซ็นต์ เข้าใจความรู้สึกทุกคนห่วงใยฝ่ายหญิง บอกตนคงน่ากลัว แต่ยิ่งถูกจับตา เดี๋ยวจะดีให้ดู ยันคบกันไม่เคยหลบซ่อน สองครอบครัวรับทราบ ส่งอีกฝ่ายกลับบ้านก่อนมืดตลอด อุบตอบมั่นใจแค่ไหน กลัวแหก ไม่หวั่นเสียงวิจารณ์ ภูมิต้านทานสูง

ถูกจับตาไม่เลิกจริงๆ สำหรับคู่ "ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย" กับสาว "ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร" ล่าสุดถูกจับผิดฝ่ายชายยืมหมวกฝ่ายหญิงมาใส่ จนถูกเมาท์มอยว่าหรือความสัมพันธ์จะคืบหน้ากันแล้วหรือเปล่า ล่าสุดหนุ่มปั้นจั่นเปิดใจกลางงาน Metinee ’s Secret launch party ณ โซนเซ็นทรัลคอร์ท ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เผยเข้าใจทุกความห่วงใยของแฟนคลับ รู้สึกว่าตนต้องดีจริงๆ เท่านั้น ทุกคนถึงจะโอเค

"ทุกอย่างเป็นไปตามที่น้องให้สัมภาษณ์เลยครับ ไปกินข้าวกัน ทุกอย่างเป็นความจริง ผมไปยืมหมวกเขามาใส่ถ่ายรูปจริงๆ ไม่ได้มีอะไรเลย ซึ่งสาเหตุที่ยืมหมวกเขามาใส่ก็เป็นเพราะหมวกมันเข้ากับชุดเราพอดี ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็เหมือนอย่างที่น้องอัปเดตไป ก็เป็นพี่น้องดูแลกันไปครับ สเต็ปค่อยๆ ไป แต่ผมก็งงว่าเหมือนทุกคนคงติดตามข่าวคู่เรา อาจจะเพราะว่าผมอาจจะดูน่ากลัวมั้ง ทุกคนก็เลยเป็นห่วงน้อง ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว ยิ่งทุกคนโฟกัสเลยยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องดีจริงๆ มันถึงจะโอเค"

"บางทีก็มานั่งคิดนะว่าคนที่กลัวๆ ผมน่ะ เวลาผมคบใครก็คบกันสองคน เขาไม่ได้รู้ว่าผมปฎิบัติยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยลุค ด้วยทางกายภาพอาจจะดูเจ้าชู้แต่ไม่เป็นไรครับ ไม่มีใครเข้าใจก็ไม่เป็นไร ไม่ซีเรียส ถามว่าเจ้าชู้ไหม ผู้ชายมันก็ต้องมีบ้าง แต่อยู่ที่ว่าช่วงจังหวะเวลาไหนเท่านั้นเอง"

ย้ำไม่ได้คบกันหลบซ่อน ครอบครัวรับทราบ ส่งกลับบ้านก่อนมืดตลอด
"ไม่ได้ซ่อนหรอก จริงๆ เราก็ทำทุกอย่าง อย่างเปิดเผยนะครับ คุณพ่อคุณแม่ก็รับทราบ พี่ๆ ที่เรารู้จักก็รับทราบ ตอนที่เราไปเที่ยวเราก็ไม่ได้ปิดบัง เราใช้ชีวิตตามพื้นฐานปกติของคนทั่วไป และทุกครั้งที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันเราก็ไม่เคยกลับบ้านดึกดื่นมืดค่ำ เรากลับบ้านก่อนฟ้ามืดตลอด คือทุกคนก็ต้องระวัง ด้วยความเป็นนักแสดงด้วยแหละ พอคบใครมันก็จะยาก เพราะว่ามันมีตัวแปร"

รับเสียใจ ทำไมด่วนตัดสิน แต่ไม่ซีเรียส เข้าใจความห่วงใยของแฟนคลับ
"ถามว่าคนอื่นมีส่วนไหม ก็ต้องยอมรับว่าคนอื่นมีส่วน เพราะว่าเขาซัปพอร์ต เขาเชียร์ เพราะว่าเราก็เป็นคนธรรมดาทั้งคู่ ถ้าเกิดมีฟีดแบ็กที่ไม่ดีมา เราก็เสียใจนะว่าทำไมด่วนตัดสินเราแบบนั้น แต่ไม่ซีเรียสครับ ทำงานในวงการมานาน เข้าใจทุกอย่างในสิ่งที่แฟนคลับห่วง หรือที่พี่ๆ สื่อถามครับ"

เข้าใจกรอบที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นมา เช่นไม่อยากให้โพสต์ภาพคู่ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากโดนกระแสดรามา
"ผมเชื่อว่าทุกคนมีกรอบของตัวเองครับ และด้วยหน้าที่การงานของเรา เราก็คงจะทำทุกอย่างอย่างรวดเร็วเหมือนคนทั่วไปไม่ได้ จะพูดอะไรก็พูด จะทำอะไรก็ทำ มันทำไม่ได้ เพราะถ้าหากมันไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมาอย่างที่ทุกคนคิดก็อาจจะมีต่อว่าได้อีก ฉะนั้นเราก็อยากจะทำให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติที่สุด ปล่อยให้มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ง่ายๆ คือไม่อยากโดนดรามาครับ"

ไม่น้อยใจ เข้าใจทุกอย่าง
"ไม่เคยน้อยใจเลยครับ แต่ถ้าหากเป็นผมตอนสมัยวัยรุ่นหรือเด็กๆ ผมอาจจะมีน้อยใจบ้าง แต่ตอนนี้ผมเข้าใจทุกอย่างครับ"

"ถามว่าน้องได้โทร.มาบอกผมก่อนไหม ผมว่าไม่จำเป็นต้องโทร.บอก เราคุยเรื่องข่าวกันน้อยมาก ส่วนใหญ่คอมเมนต์ต่างๆ ไม่ได้มาจากที่เราไปอ่านเองด้วยซ้ำ แต่้เป็นจากการที่มีคนมาเล่าให้ฟัง ก็มีทั้งคนเชียร์ คนว่า"

ไม่บั่นทอน มีภูมิต้านทานสูง มีชั่วโมงบินมากพอ ให้คอยดูจะเปลี่ยนได้
"ผมไม่รู้นะครับว่ามันจะมีผลหรือเปล่า แต่สำหรับตัวผมเองเวลามีคนอื่นวิจารณ์เรื่องของผม ผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติทั่วไป ซึ่งผมรับได้ แต่ถามว่ามันจะบั่นทอนหรือเปล่า อันนี้ผมคิดว่าผมเองก็มีชั่วโมงบินที่มากพอ ฉะนั้นการอยู่ในวงการนี้ชั่วโมงบินต้องสูงครับ ภูมิต้านทานก็ต้องสูงด้วย หากภูมิต้านทานต่ำเราก็อาจจะต้องพ่ายแพ้ไป ฉะนั้นทุกอย่างมันอยู่ที่การคิดและการกระทำของเราด้วยว่าเราทำอะไรอยู่ แต่เอาจริงๆ นะผมกลับมองว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำเวลาที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ผม เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่า เดี๋ยวคอยดูคนเราสามารถเปลี่ยนได้ครับ"

ไม่หวังเอาชนะคนวิจารณ์ เดินหน้าจีบเต็มร้อยเหมือนเดิม
"ไม่ใช่ครับ มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องทำอย่างนั้น เพราะถ้าหากมันจะสมหวัง มันก็คือตัวผมกับน้องเขาเท่านั้น มันไม่ได้เกี่ยวกับคนภายนอกเลย เรื่องเดินหน้าจีบ ผมก็เต็มร้อยมาตั้งแต่แรกนะครับ แต่ตอนนี้เราก็ยังคงดูแลกันแบบเป็นพี่น้องตามปกติ ทุกอย่างมันต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ถึงแม้ลุคทางกายภาพของผมจะดูเจ้าชู้หรือไม่มีใครเข้าใจ ผมก็ไม่ได้ซีเรียส"

"ถามว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกไหม เป็นเรื่องความเข้าใจมากกว่าครับ เพราะน้องเขาเองก็ไม่ใช่เด็กแล้ว เขาโตพอที่จะพิจารณาอะไรต่างๆ ด้วยตัวเองได้แล้ว ส่วนตัวผมเองก็แค่ต้องทำทุกอย่างให้มันเสมอต้นเสมอปลาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเลือกผม คนเราถ้ามันจะใช่มันก็ใช่ ถ้ามันจะไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ครับ ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า"

อุบตอบมั่นใจขนาดไหน บอกกลัวหน้าแหก
"ที่จริงมันก็เป็นสิ่งที่ผมรู้ตัว แต่ว่าผมไม่สามารถพูดได้ จะมากหรือจะน้อยผมไม่รู้ แต่บางอย่างผมก็อยากจะขอเก็บมันไว้เป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง เพราะถ้าพูดไปเดี๋ยวก็กลัวว่าจะหน้าแหก (หัวเราะ) สิ่งที่คิดมันต้องเป็นทิศทางที่ดีครับ เพราะในความเป็นพี่น้อง เราก็ดูแลกันแบบพี่น้อง มันไม่มีเรื่องที่ไม่ดีหรอกครับ"

"มันก็คือความสัมพันธ์ที่ดีครับ แต่มันก็ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ผมเลือกที่จะเดินช้าๆ ดีกว่าเพราะบางครั้งเวลาที่เราเดินเร็วๆ แล้วมันแหกโค้งก็มีบ่อยครับ"



กำลังโหลดความคิดเห็น