เหตุใดจึงต้องตรวจหาสารบ่งชี้การถูกทำลายของดีเอ็นเอ

ทราบหรือไม่ว่า ดีเอ็นเอของคนเราสามารถถูกทำลายด้วยสารอนุมูลอิสระต่างๆ ได้ ซึ่งสารนี้มีทั้งที่เกิดขึ้นเองจากปฏิกิริยาชีวเคมีในร่างกายเรา และได้รับจากปัจจัยภายนอก อาทิ รังสียูวีจากแสงแดด ควันบุหรี่ เขม่าควัน โลหะหนัก และยาฆ่าแมลง เป็นต้น อันตรายจากการได้รับสารอนุมูลอิสระในปริมาณสูงหรือได้รับต่อเนื่องเป็นประจำอาจส่งผลต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความเสื่อมของสมอง และภาวะติดเชื้อเรื้อรัง

ดร.ภูวดล ธรรมราษฎร์ ผู้จัดการอาวุโส ห้องปฏิบัติการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) ระบุว่า การตรวจระดับสารบ่งชี้การถูกทําลายของดีเอ็นเอ (8-OHdG) ในร่างกายเพื่อประเมินภาวะการถูกทำลายของดีเอ็นเอ และภาวะความเสื่อมของร่างกาย สามารถใช้เป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคในอนาคตได้

ทั้งนี้ สาร 8-OHdG เป็นสารชีวเคมีที่เกิดจากดีเอ็นเอถูกทำลาย จากการที่ร่างกายขาดสมดุลระหว่าง สารอนุมูลอิสระ และ สารต้านอนุมูลอิสระ

ดังนั้นผู้ที่มีโอกาสได้รับสารอนุมูลอิสระเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่สูง อย่างผู้ที่อยู่ในภาวะมลพิษเป็นเวลานาน และผู้ที่มีภาวะเครียดเป็นประจำ ควรตรวจระดับสาร 8-OHdG ในร่างกาย เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต อย่างเช่น การออกกำลังกาย การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พฤติกรรมการบริโภคอาหาร หรือ พฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเครียด

“หากเรามีระดับสาร 8-OHdG มาก ก็แสดงว่ามีสารอนุมูลอิสระเข้ามาทำลาย ดีเอ็นเอ ของเราได้มาก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายหรือมีส่วนทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ แต่ไม่สามารถใช้บอกว่าเซลล์หรือร่างกายเรามีภาวะเสื่อมโทรมเทียบเท่ากับคนอายุเท่าไหร่ได้ เนื่องจากภาวะสุขภาพของเราขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเจ็บป่วย การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน หรือสภาวะแวดล้อมรอบตัวเรา”
อย่างไรก็ตาม ระดับสาร 8-OHdG ที่เกิดขึ้นในร่างกายมีปริมาณน้อยมาก ดังนั้น การตรวจวิเคราะห์ต้องใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงและมีขั้นตอนการวิเคราะห์แบบพิเศษจึงจะสามารถตรวจได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ