xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) เริดมากแม่ "ชมพู่" เหมาคนเดียว 7 ปีซ้อน ไม่ปล่อยให้ใครเสียบตำแหน่ง ควีน ออฟ คานส์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ชมพู่ อารยา" ยืนหนึ่งเดินพรมแดงเมืองคานส์ 7 ปีซ้อน บอกโรคจิตชอบทำงานภายใต้ความกดดัน ชิลเกินไปไม่มัน ลั่นรับมือกระแสดรามาถูกวิจารณ์ เตรียมกระเตงลูกแฝดไปทำงานด้วย บอกชินดรามาลูกแฝดอมก๊อกน้ำ ของสกปรกก็หยิบใส่ปากมาแล้ว ปล่อยให้เรียนรู้ เตรียมย้ายคอนโดเร็วๆ นี้ มีพื้นที่ให้ลูกมากขึ้น

ไม่ปล่อยให้ใครเสียบตำแหน่งควีน ออฟ คานส์ สักปี สำหรับ "ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต" โดยปีนี้สาวชมก็เตรียมเดินพรมแดงเมืองคานส์เป็นปีที่ 7 แล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าขนเสื้อผ้าไปเยอะมาก และชอบที่จะทำงานภายใต้ความกดดัน ส่วนกระแสดรามา กระแสวิจารณ์ก็เป็นเรื่องปกติ

"ที่บอกว่ายืนหนึ่งก็ยืนคนเดียว (หัวเราะ) แน่นอนว่าทุกๆปีเป็นโอกาสที่ประเมินค่าไม่ได้ เราก็พยายามทำให้มันดีทุกๆ ปี จบในทุกๆ ปีเราก็มานั่งประมวลดูกับทีมงานว่าความประทับใจเราคืออะไร เราเรียนรู้อะไร และถ้าเรามีโอกาสอีกครั้งนึงเราอยากทำอะไร ถ้ามันต้องแก้ปัญหาตรงไหน แล้วถ้าเราเจอปัญหาแบบนี้อีกเราจะทำยังไงอะไรแบบนี้ ก็คือพัฒนาให่มันดีขึ้นเรื่อยๆ"

"ถามว่ากดดันมั้ย คือชมเหมือนคนโรคจิตชอบกดดันตัวเองอยู่แล้ว ก็รู้สึกว่าเราทำงานภายใต้ความกดดันนิดนึงมันก็ดีเหมือนกันเพราะจะมีแรงส่ง แรงถีบเรา ถ้ามันชิลมากเกินก็เหมือนมันไม่มีความหมาย มันไม่หอมหวล ไม่มัน"

"การเตรียมตัวก็ต้องรอดูวันนั้นเลย ก็เหมือนทุกๆ ครั้งคือทำการบ้านมาตลอด คิดมาตลอด สิ่งที่เราเจอ สิ่งที่เราพบเห็นเวลาเดินทางไปไหน ประสบการณ์ต่างๆ มันสามารถหยิบยกเอาไปใช้ที่คานส์ได้ มันประกอบไปด้วยส่วนประกอบต่างๆ มากมายที่มันส่งเราในวันนี้"

กระเตงลูกแฝดไปด้วย
"ใช่ค่ะ จริงๆ ก็ค่อนข้างคุ้นชินกับการเดินทางกับลูกเพราะชมพาเขาไปทุกที่ที่พาไปได้ จะมีแค่บางทริปที่ไม่เอื้อกับเด็กจริงๆ ที่ไม่พาเขาไป ก็เลยไม่รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษ เพราะเราสามารถรับมือได้ ไม่เหมือนปีที่แล้วที่เราตัดสินใจนาทีสุดท้ายว่าจะไปคนเดียว เพราะงานก็ต้องคิด ลูกก็อยู่ตรงหน้า แต่ปีนี้คิดว่าเราน่าจะทำได้ อยากให้เป็นประสบการณ์ที่ดีของเขาว่าครั้งนึงเคยไปกับแม่นะ"

เผยหอบชุดไปอื้อ เชื่อเลือกไม่ยาก เพราะมีความฝันสูงสุดอยู่แล้ว
"พรมมีทั้งหมด 4 พรมแดง แต่ว่าจะมีลุคย่อยๆ ที่เกี่ยวกับงานอีเวนต์กลางคืน หรือลุคกลางวันที่เกี่ยวกับงานประกาศรางวัลต่างๆ เยอะแยะไปหมด ก็เตรียมไปเยอะเพราะมีชุดที่ไม่ได้ถูกใส่ด้วย เพราะเรามีแพลนเอ แพลนบี แพลนซี ต่างๆ นานา แต่สิ่งที่เราอยากได้ก็เลือกไม่ยากหรอกเพราะเราก็มีที่อยากได้ที่สุดๆ มีความฝันอันสูงสุดของเราที่เรายังไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้ถือว่ายากมาก เราก็ช่วยกันออกความคิดเห็น มันไม่ใช่ว่าแค่ที่เราชอบที่สุดแต่นอกจากสวยแล้วต้องหลากหลายด้วย ต้องมีภาพรวมที่ดูกลมกลืนต่อเนื่องและหลากหลาย ที่สำคัญเราทำงานกับแบรนด์เครื่องสำอางมันก็ต้องเอื้อให้เราสามารถพรีเซ้นต์การแต่งหน้าได้หลายๆ ลุคด้วย"

ทำใจรับกระแสดรามา มีมาทุกปีเป็นเรื่องปกติ
"สุดท้ายคนใส่มีเราคนเดียว อันนี้ก็เข้าใจเพราะไม่มีอะไรถูกใจทุกๆ คนตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่สุดท้ายเรามีเหตุผลที่ทำให้เราต้องตัดสินใจ มันมีบริบทที่เราต้องตัดสินใจ ซึ่งจะอธิบายให้คนทั้งโลกฟังก็คงเป็นไปไม่ได้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติที่คนจะวิจารณ์"

"ถามว่ากดดันตรงไหน ก็อยากทำให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ จริงๆ ไม่ต้องมีใครมากดดัน ไม่ต้องเป็นเสียงของคนข้างนอกกรอก เสียงของตัวเราเองนี่แหละที่เราอยากทำให้ดีขึ้น มันก็มีความกดดันอยู่แล้ว เราเดินวันแรกจริงๆ วันที่ 14 ค่ะ แต่ถ้าเดินกับทางลอริอัลเป็นวันที่ 16 และ 17 แต่ 14 15 ชมก็เดิน"

ไม่สนดรามาก๊อกน้ำ ลั่นเด็กต้องเรียนรู้ สกปรกกว่านี้ก็เคยเอาเข้าปากมาแล้ว
"เขาก็โตขึ้นทุกวันค่ะ เรายังจำภาพวันเข้าห้องผ่าได้อยู่เลย คือ มันเร็วมาก มีคนช่วยเลี้ยงตลอด (หัวเราะ) ส่วนดรามาก๊อกน้ำ มีดรามาด้วยเหรอ (หัวเราะ) จริงๆ เด็กเนาะ สกปรกกว่านี้ก็หยิบใส่ปากมาแล้ว ถ้าคนเคยอยู่กับเด็กก็จะรู้ ยิ่งวัยที่กำลังเป็นลิงเลยบางทีเราก็ไม่ทัน ก็เป็นวัยของเขาค่ะ ก็ปล่อยให้เรียนรู้ไปตามวัย"

"ตอนนี้คือพยายาม คลาดสายตาไม่ได้จริงๆ แล้วพลังเขาเยอะ เป็นเด็กผู้ชาย คือให้อยู่ในสายตา แต่ก็ไม่ใช่ว่าขังไว้ ไม่ให้เขาทำอะไร คือเด็กมันควรจะได้เป็นเด็ก แล้วเขาก็ไม่ควรจะถูกห้าม หรือไม่ให้ทำอะไรจนไม่เป็นตัวของตัวเอง จนขาดความมั่นใจ เพราะฉะนั้นก็ปล่อยให้เขาเป็นเขา แต่อะไรที่มันนอกลู่นอกทาง อะไรที่มันไม่เหมาะ เราก็บอกเขาว่า โน๊โน นะ ตอนนี้เริ่มพูดรู้เรื่องแล้ว ก็ให้เหตุผลไป ฟังอาจจะรู้เรื่องไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าก็พูด"

รับลูกแฝดทะเลาะกันทุกวัน ส่วนตนไม่ลงไม้ลงมือกับลูก เต็มที่แค่ดุเท่านั้น
"ทุกวัน ส่วนมากก็คือถ่ายคลิป(หัวเราะ) แต่มันมีอะไรที่อันซีนอีกมาก บางทีนึกไม่ได้ว่าต้องถ่าย คือมันเยอะมาก แต่ส่วนมากก็คือแย่งของกัน มี 2 ชิ้น แต่ก็จะเอาชิ้นนั้น ต่อให้มี 2 อัน ก็จะต้องเป็นอันที่อีกคนถืออยู่"

"เราไม่ตีลูกค่ะ ไม่ตีเพราะชมว่าเขายังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงตีเขา เต็มที่ก็คือเอ็ด ถ้าเราขึ้นเสียงจริงๆ เขารู้แล้วนะ ว่าแม่โกรธแล้วนะ แม่ไม่พอใจ ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เราเห็นในแววตาเขา มีอยู่วันหนึ่ง ฮามาก นางตีกัน ตีแบบสนุกๆนะ แล้วก็หัวเราะกันเอง แม่ก็ว่าตีกันได้ยังไง แบบเสียงดังมาก เป็นพี่น้องต้องรักกัน มันลากกันไปกลางบ้าน แล้วมันกอดโชว์เรา คือมันประชด เข้าใจมั้ย (หัวเราะ) แล้วก็ทำเป็นหัวเราะ แต่แววตาเขาแอบดูเรา ว่าเราหายโกรธเขาหรือยัง เราเป็นปกติหรือยัง เขาเริ่มรู้แล้ว"

"ชมว่าลูกชมก็เริ่มมีปฎิเสธแล้ว ชมว่าถ้าเราใจเย็น คืออยู่ด้วยความรักความเข้าใจ สุดท้ายเด็กมันก็คือเด็ก ชมก็ไม่ได้หัวเสียหรืออะไรนะ ยังไม่ได้รู้สึกว่ามันซนหรือดื้อ จนกระทบจิตใจเรา ไม่ได้บอกว่าลูกเราไม่ซนนะ แต่ว่าเราก็ไม่ได้กลุ้มอกกลุ้มใจ"

สามียัดเยียดความเป็นชายให้ลูกมากเกิน ขณะที่ตนอยากให้ลูกอ่อนโยน
"เขาก็สนุกแหละค่ะ บางทีก็จะชวนเล่นอะไรแบบผู้ชายๆ บางทีเราก็จะบอกพี่เบาๆ ก่อน เขาจะแบบยัดเยียดความเป็นชายให้ลูกมาก ซึ่งเราเป็นผู้หญิงมุมมองเราก็อยากให้เขามีความอ่อนโยน ก็จะประมาณนี้แหละค่ะ"

ประมูลภาพราคาสูง วัตถุประสงค์เพื่อทำบุญ
"ค่ะ ก็จริงๆ วัตถุประสงค์มันก็ดีค่ะ เอาไปทำบุญ ก็ไม่ได้คิดอะไรเลย คือเราก็กำลังจะย้ายบ้านแล้ว คิดว่าเราจะมีผนังแขวนแน่ๆ คือจริงๆ ก็เป็นงานของทาง L'Officiel ซึ่งก็เป็นพันธมิตรที่ดีกับชมมาตลอด เราก็อยากจะให้ยอดประมูลภาพเรามันได้สตางค์เยอะๆ แต่ต้องขอโทษทีที่จำชื่อมูลนิธิไม่ได้แล้ว แต่ก็ให้กับเด็กๆ แหละ ก็เป็นภาพพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ กับสมเด็จพระราชินีค่ะ"

เตรียมย้ายคอนโดใหม่ มีพื้้นที่มากกว่าเดิม
"ไม่น่าพูดเลย (หัวเราะ) บ้านนี่ตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน คิดดูสิ แต่ใกล้มากๆ แล้วค่ะ แต่ก็ยังเป็นคอนโดอยู่นะ เพียงแต่ว่าพื้นที่มากขึ้น ใหญ่ขึ้น"

"ถามว่าเด็กๆ ตื่นเต้นมั้ย ไม่เคยพาไปดูค่ะ อย่าว่าแต่เด็กเลย แม่ยังไม่ค่อยไปเลย คือพอเราไปเห็นอะไรที่มันเป็นสิ่งก่อสร้าง เป็นอิฐๆ ปูนๆ เราก็ดูไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่ามันจะสวยยังไง ก็เลยขอไปตอนจบเลยทีเดียวแล้วกัน คุณน็อต (วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์) ทำทุกอย่างเลยค่ะ ชมไม่ยุ่งเลย ชมดูแค่ในพาร์ตของตู้เสื้อผ้าตัวเอง แล้วก็ห้องน้ำกับห้องทำงานแค่นั้น"




กำลังโหลดความคิดเห็น