เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูล “ไทด์ เอกพันธ์” ร่วมเป็นจิตอาสาช่วยงานในหลวงทุกเหตุการณ์ของบ้านเมือง ขอรับใช้ประชาชนและพระมหากษัตริย์ตลอดไป ปลาบปลื้มที่สุดได้เข้าเฝ้าฯในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงสง่างาม มีพระเมตตาสูง
ปักหลักเป็นจิตอาสาดูแลประชาชนที่เดินทางมาร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ เป็นเวลา 3 วันแล้ว สำหรับ “ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” โดยรับหน้าที่ดูแลเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความปลอดภัยทุกอย่าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกคน เผยเป็นเกียรติประวัติของวงศ์ตระกูลที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสอยู่ในบรรยากาศประวัติศาสตร์ของประเทศไทย คนไทยโชคดีเหลือเกินที่มีพระมหากษัตริย์ที่รักพสกนิกรมากมายขนาดนี้
“วันนี้มาเป็นวันที่ 3 แล้วครับ ผมเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม และจะทำหน้าที่พรุ่งนี้อีก 1 วัน มากับมูลนิธิร่วมกตัญญูที่ผมสังกัดอยู่ วันแรกที่ผมมา คือ มาจัดสถานที่รถพยาบาล ว่า จะต้องอยู่ตรงไหนกันบ้างรับผิดชอบอะไรกับหน่วยงานที่เราจะต้องทำร่วมกับหน่วยงานอื่น มีการวางแผนว่าถ้าเกิดมีเหตุเกิดขึ้นต้องเข้าออกประตูไหน ทางแพทย์ฉุกเฉินเขาก็จะมีการวางแผนให้ มูลนิธิร่วมกตัญญูโคกับโรงพยาบาลที่จะเอาผู้ป่วยส่งต้องมีการประชุมนัดหมายและวางแผน”
“เราจะไม่ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน เพราะเราจะต้องนำผู้ป่วยส่งให้ถึงโรงพยาบาลรวดเร็วที่สุด เราก็จะมีเส้นทางของเราเลยต้องมาประชุมกัน หลังจากนั้น ก็ดูแลพี่น้องประชาชนทั่วบริเวณ ทั้งที่มาจากต่างจังหวัดมาดูแลเรื่องความปลอดภัย โรคประจำตัว คนเป็นลม หมดสติ ลมชัก พวกเรากระจายกำลังกันไปตามจุดต่างๆ ทั่วบริเวณทั้งหมดที่เสด็จผ่าน ก็มีการวางแผนมีรถโรงพยาบาลของมูลนิธิร่วมกตัญญู และของมูลนิธิอื่นๆ เยอะแยะมากมาย ที่ร่วมกันทำงานและรวมพลังในวันนี้”
“นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังเอาของไปแจกเดินตั้งแต่บริเวณข้างในจนสุด มีทั้งลูกอม ยาดม แอมโมเนีย ที่เอาไว้ให้สำหรับคนที่หายใจไม่สะดวก หรือหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมก็เดินแจก เพราะบางทีเขาเดินมาหาเราไม่ได้ เราก็เลยต้องไปหาเขา อากาศค่อนข้างร้อนผมก็จะประกาศอยู่เสมอว่า ให้ทำใจเย็นๆ อย่าไปร้อนเหมือนอากาศ ถ้าใจเราเย็นมันก็จะช่วยลดความร้อนไปครึ่งหนึ่ง ถ้าใจร้อนอากาศร้อนจะไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ ต้องการอะไร ขาดเหลืออะไร บอกเจ้าหน้าที่ได้เลย โดยที่ท่านไม่ต้องลุกขึ้นมาเลย ขอแค่บอกว่าต้องการอะไร เพราะเราบริการทุกขั้นตอนเท่าเทียมกันหมด”
ประชาชนหลั่งไหลเข้ามาเฝ้ารับเสด็จฯจำนวนมาก ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากชื่นชมพระองค์รัชกาลที่ ๑๐
“คนเฒ่าคนแก่เขาอยากจะมาเห็นพระองค์ท่าน พระพักตร์อันสวยสดงดงาม ฉลองพระองค์รัชกาลที่ ๑๐ ถือว่าเป็นมงคลของพวกเขาทั้งหมด บางคนเกิดมาอยู่ใน 3 รัชกาล บางคน 2 รัชกาล อย่างพวกเรา 2 รัชกาล ฉะนั้น ต่อให้ทุกคนจะเหน็ดเหนื่อยจะร้อนแค่ไหนไม่เคยหวั่น ขอแต่ได้เห็นขอให้มาเปล่งเสียงทรงพระเจริญให้พระองค์ได้รับรู้ ทำให้รู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจประชาชนคนไทยทั่วประเทศ”
“ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็จะมีพี่น้องประชาชนที่ทุพพลภาพครับ เราจะมีช่องทางพิเศษให้เลย คนแก่นั่งวีลแชร์ หรือมีไม้ค้ำยันเราจะมีช่องทางพิเศษไม่ให้ปะปนกับคนร่างกายครบ 32 เราดูแลอย่างดีมีร่มกางให้มีหมวกมีน้ำ หรือเขามีโรคประจำตัวอะไร สมมติเขาเป็นลมชัก เราก็จะมียาสอดใต้ลิ้นให้ หรือใครที่บอกว่าเวลานี้ต้องกินยานี้ๆ เราจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล”
ร่วมงานจิตอาสาทุกเหตุการณ์ของบ้านเมือง
“ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ ทั้งไม่สำคัญและสำคัญ เราไม่เคยพลาด มูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดจากประชาชนและก็เพื่อประชาชนครับ”
ปลาบปลื้มที่ได้ทำงานให้พระมหากษัตริย์ ทรงรักพสกนิกร ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรพระองค์จะช่วยเหลือไม่เคยทอดทิ้ง ทรงพระเมตตาและสง่างาม
“ปลาบปลื้มครับ ปลาบปลื้มมาก สำหรับตัวผมถึงแม้ว่าจะเป็นเศษธุลีดินเล็กๆ ได้มาดูแลประชาชน ได้มาร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของประเทศไทย รู้สึกภาคภูมิใจที่ประเทศเรามีพระมหากษัตริย์ที่รักพสกนิกร ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็แล้วแต่ เห็นไหมครับ ไม่ว่าจะเกิดอุทกภัย อัคคีภัยที่ไหน ถ้าพระองค์ทรงรับทราบ พระองค์จะส่งของให้ตัวแทนนำไปมอบให้ถึงที่ไม่เคยทอดทิ้ง ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาทำงานให้พระองค์ เปรียบเสมือนเราได้ทำความดีให้กับพระองค์ แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อย แต่ก็ปลาบปลื้มและภูมิใจมาก ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย”
“ไม่ใช่แค่เป็นเกียรติต่อชีวิตผมอย่างเดียวครับ แต่เป็นทั้งครอบครัว ทั้งวงศ์ตะกูล สิ่งที่ผมปลาบปลื้มที่สุดเลย คือ ได้เฝ้าพระองค์มาหลายครั้ง ได้รับรางวัลจากพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์จริงของท่านสง่างามมาก พระองค์ท่านทรงมีเมตตาสูง นี่คือสิ่งที่ผมได้สัมผัสกับตัวเอง”
ตั้งปณิธานทำงานจิตอาสาตลอดไปจนกว่าตัวเองจะไม่มีแรงหรือเดินไม่ได้
“ถ้ามีเกี่ยวกับส่วนรวมของบ้านเมือง มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็นงานใดๆ ก็แล้วแต่ ขอให้มูลนิธิร่วมกตัญญู ผมและบิณฑ์เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ก็คิดว่าน่าจะทำตลอดไปจนกว่าตัวเองจะไม่มีแรงเดินหรือเดินไม่ได้ และถึงแม้เดินไม่ได้ ก็จะส่งใจมาครับ”
