.......... ได้โปรดเดินไปจากฉัน จงทิ้งฝันที่มี
ไม่รักดี คนคนนี้
โปรดอย่ามองกลับหลัง
อย่าฝังฉันไว้ในหัวใจ
และคงไม่นานเท่าไหร่
เธอจะเจอคนที่ดี ……….
ท่อนหนึ่งจากเนื้อเพลง “ไม่รักดี” ที่แจ้งเกิดนักร้องสาวแนวร็อกมาประดับวงการได้อย่างสง่างาม
“อุ๊ - หฤมัย ม่วงบุญศรี”
ถือเป็นนักร้องที่โด่งดังมากคนหนึ่งในยุค 90 เรียกว่าในตอนนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่มีใครที่จะไม่คุ้น และติดปากกับเพลงนี้
แต่ในช่วงเวลาต่อมาที่แทบจะห่างหายไปจากสารบบของวงการเพลง จึงไม่แปลกที่คนในยุคนี้อาจจะสงสัยว่า
ใครคืออุ๊ อุ๊คือใคร !!???
แม้กระทั่งสื่อบางสำนักยังสับสน ถึงขนาดลงรูปผิดมาแล้ว !!!
ถ้าตัดตอนเรื่องความโด่งดังในฐานะของนักร้องสาวที่มีพลังเสียงสุดยอดระดับหัวแถวคนหนึ่งของวงการเพลงไทย เจ้าของรางวัลสีสัน อวอร์ด ศิลปินหญิงเดี่ยวยอดเยี่ยม ประจำปี 2542 และ 2544 ชื่อของอุ๊มาปรากฏเป็นข่าวอีกครั้งก็เมื่อตอนที่ได้เป็นเจ้าของภาพที่ว่ากันว่าเป็นผลงานเขียนของ “วินเซ็นต์ แวนโก๊ะ” ศิลปินยุคโพสต์อิมเพรสชันนิสม์คนสำคัญของโลก ซึ่งมีมูลค่าคิดเป็นเงินไทยกว่า 3 พันล้านบาท แต่เธอได้มาครอบครองในราคาเพียงแค่ 1 พันบาท เท่านั้น !!
แต่หลังจากที่ข่าวคราวเกี่ยวกับภาพเขียนซาลงไป เมื่อถูกพิสูจน์ว่าไม่ใช่ผลงานของแวนโก๊ะ ชื่อของอุ๊ก็ถูกกลืนหายไปอีกครั้ง ก่อนจะมาตกเป็นข่าวใหญ่ครั้งล่าสุดตลอด 1 สัปดาห์เต็มๆ เกี่ยวกับกรณีที่วิพากษ์แนวคิดการเมืองด้วยถ้อยคำที่เผ็ดร้อนตามสไตล์
โดยปฐมบทของประเด็นดังกล่าวเริ่มมาจากที่เจ้าตัวโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า
“ยอมรับเลยว่า ช่วงหลัง ไม่ค่อยสนใจข่าวการเมืองมากนัก แต่เมื่อ 2 วันก่อนเดินเข้าไปในห้องนอนคุณพ่อ เห็นคุณพ่อดูข่าวการเมือง ได้เห็นนายปิยบุตร แสงกนกกุล บรรยายแนวความคิดที่รุนแรงเกี่ยวกับสถาบันหลักของชาติ อุ๊ตกใจมาก และคิดว่า การวิพากษ์ที่บิดเบือนรุนแรงนี้ เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติเป็นอย่างมาก อุ๊อยากให้สังคมมีความกระตือรือร้น จับตามอง แนวความคิดที่เป็นภัยต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่ากลัวที่จะต่อสู้กับไอ้คนเนรคุณต่อประเทศชาติหมายเหตุ ถ้ามึงรังเกียจประเทศไทยขนาดนี้มึงอย่าอยู่เลย หนักแผ่นดิน”
โดยประเด็นข่าวนี้เองที่ทำเอาเพื่อนนักร้องร่วมค่าย อย่าง “แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร” นั่งไม่ติด เพราะมีสื่อดันลงรูปของเธอในเนื้อข่าวที่ระบุถึงอุ๊ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับต้องวิ่งโร่ขึ้นโรงพักเพื่อแจ้งความ ก่อนที่สื่อสำนักดังกล่าวจะเปลี่ยนรูป และลงข้อความขอโทษ
หลังจากนั้น ก็ยังมีอีกหลายต่อหลายโพสต์ตามมาแบบรัวๆ โดยเฉพาะข้อความที่โพสต์ในทำนองท้าเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ให้ออกมาพูดกับตน จะได้รู้ว่านรกมีจริงในการดีเบต !!
ทำเอาหลายคนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ทำไมอุ๊ถึงได้ “ของขึ้น” ด่ากราดแบบไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหมขนาดนี้ !!???
ขณะที่คนส่วนใหญ่ก็มองว่าแนวคิดของอุ๊เองก็ “สุดโต่ง” เกินเหตุไป หรือเป็นไปได้มั้ยว่า ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอารมณ์ของเธอนั้น มีผลมาจากฤทธิ์ยา จนทำให้ประสาทหลอน !!
อย่างไรก็ตาม อุ๊ก็ปฏิเสธทุกข้อกังขา ซ้ำยังเดินหน้าท้าชนต่อ ด้วยการพาทนายความเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์และคำพูดของนายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือของประเทศชาติหรือไม่ ?
ต่อเมื่อมีการย้อนกลับไปดูชีวประวัติของอุ๊ ก็พบว่า นอกจากจะโด่งดังในฐานะนักร้องในยุค 90 รวมถึงเป็นเจ้าของค่ายมวย "ลูกเจ้าแม่เข็มทอง ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว รวมถึงร้านจำหน่ายกางเกงมวยลุมพินีช็อปแล้ว ในอีกด้านหนึ่งนั้น ยังถือว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความสนใจในเรื่องของการบ้านการเมือง เห็นได้ชัดจากการที่ไปปรากฏตัวเป็นหนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535 และถูกจับขังนานถึง 2 วัน 1 คืน ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว
ที่สำคัญ ยังถึงขนาดลงสมัครเลือกตั้ง ส.ข. หรือ สมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2549 ได้เป็น 1 ใน 7 ทีม ส.ข. เขตพระโขนง ด้วยคะแนน 14,069 คะแนน และยังรักษาตำแหน่ง ส.ข. ในปี พ.ศ. 2553 เป็นสมัยที่ 2 อีกครั้ง ด้วยคะแนน 16,213 คะแนน
เชื่อว่าหลังจากนี้ ชื่อของ อุ๊-หฤทัย ก็น่าจะเป็นชื่อที่ถูกกล่าวขวัญถึงไปอีกพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว จนกว่าจะมีข่าวอื่นใดที่มาแรง จนกลบข่าวนี้ไปในที่สุด
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 489 6-12 เมษายน 2562