ช็อก! “หมิว” ปล่อยโฮ “เป้ วงมายด์” ขอเลิก บอกคุณไม่ใช่ความสุขของผมอีกต่อไป

“หมิว สิริลภัส” ปล่อยโฮ ถูก “เป้ วงมายด์” บอกเลิก เชื่อหมดแพชชั่น อีกฝ่ายลั่นไม่ใช่ความสุขอีกต่อไปแล้ว มั่นใจไม่มีเรื่องมือที่สาม ไม่ใช่ความผิดใคร เสียใจไม่ใช่คนที่จะอยู่ข้างๆ จับมือเขาไปส่งเข้าเส้นชัย บอกรักครั้งนี้เจ็บจนหน้าชา

เก็บความรักเงียบมาก หลังจากที่ผ่านมรสุมดรามาถูกครหาเป็นมือที่สามแย่ง “เป้ วงมายด์” หรือ “บดินทร์ เจริญราษฎร์” จากอดีตแฟนสาวนอกวงการ ล่าสุดนางร้าย “หมิว สิริลภัส” ก็ออกมาเผยความสัมพันธ์รักระหว่างเธอกับเป้ผ่านรายการ “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ยอมรับรักจบลงแล้ว ฝ่ายชายอ้างไม่ใช่ความสุขของตนอีกต่อไปแล้ว เจ็บจนหน้าชา

หมิวเผยว่ารักครั้งนี้เรียกว่าล้มแรง รู้จักกันมานาน ถ้ารวมเวลาที่รู้จัก 6-7 ปี ก็นั่งคุยกัน ตอนนี้รู้สึกเริ่มไม่มีความสุขแล้วจะเอายังไงดี จะช่วยกันให้ไปต่อหรือพอแล้ว เขาบอกว่าพอแล้วได้มั้ย เขาหมดแพชชั่นแล้ว เราก็ช็อกอยู่ เพราะปกติที่มีปัญหาเรื่องนี้ จะพยายามแก้ปัญหากันตลอด วันนั้นก็ช็อก วันที่เขามานั่งจับมือว่าขอให้กลับมาได้มั้ยก็เป็นที่เดียวกันกับที่เขาขอโทษ เขาบอกว่าเขาหมดแล้ว ไม่ไหวแล้ว

มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้เกียรติกัน คุยกันตลอดว่าเราไม่เปิด ไม่อยากให้เป็นข่าว ถ้าเป็นข่าวไม่ได้กระทบแค่เรา กระทบกับการทำงาน กับหลายๆ ฝ่าย ก็ตัดสินใจว่าเราแฮปปี้ที่จะอยู่ในจุดนี้มั้ยก็อยู่ แต่คนรอบข้างที่สนิท เขาก็จะรู้ว่าเราดูแลกันอยู่

ไม่เกี่ยวกับความเจ้าชู้ ภาพลักษณ์เขาอาจดูเจ้าชู้ แต่เวลาเขามีใคร เขาไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ กล้ายืนยัน ถามว่ามีมือที่สามมั้ยก็ไว้ใจ ไม่ได้ตามหาตามสืบ มันอาจมีปัญหาหลายๆ เรื่องที่เคลียร์ไม่จบ เรามาเคลียร์ด้วยเหตุผลมากเกินไป ก็เป็นความผิดของหมิว ที่พอมีปัญหาก็กันตัวเองออกมา จนเขารู้สึกว่าเขาไม่มีตัวตนแล้ว ก็เจ็บกันทั้งคู่ เขาก็รักหมิว แต่ตอนนี้เขาขอรักตัวเอง

ไม่เคยทะเลาะกันเลย มีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย เรื่องที่ตกลงกันไว้แล้วเขาทำไม่ได้ หรือหมิวตกลงกับเขาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าบอกว่าไม่เสียใจเลยก็คงโกหก เสียใจค่ะ (ร้องไห้) เสียใจที่สู้กันมาเยอะ แต่พอจะถึงเส้นชัย เราไม่ได้เป็นคนจับมือเขาไปส่งเส้นชัย แต่ก็รู้สึกดีที่สู้กันมาตลอด

ช่วงแรกก็ร้องไห้ แต่เราก็ยังเป็นกัลยาณมิตร ถ้าเขาล้มหรือไม่มีใคร หมิวจะเป็นคนแรกที่วิ่งไปหาเขาเหมือนเดิม ซัปพอร์ตเขาเหมือนเดิม แต่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถอยู่เคียงคู่กันได้แล้ว ก็ขอเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง มองเขามีความสุข ความสำเร็จในชีวิตดีกว่า เพราะเรารู้แล้วว่าการอยู่ข้างเขาไม่ได้ทำให้เขามีความสุข (เสียงสั่นเครือ)

เจ็บที่เขาบอกว่าเราไม่ใช่ความสุขของเขาอีกต่อไป เราเคยเป็นรอยยิ้มให้เขา เราทำให้เขาหายเหนื่อย เวลาเขามีปัญหา เราเป็นคนเดียวที่ลูบหัวกอดเขาได้ นอกจากพ่อแม่ก็เป็นเราที่อยู่ข้างๆ เขาตลอด (ร้องไห้) เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ใช้คำว่าหน้าชา (หัวเราะ) แต่เราก็จับมือคุยกันว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ ต่างคนต่างยอมให้กันหมดแล้ว ถ้าครั้งนี้ยอมและต้องเจ็บ ต้องเสียใจก็ยอม

ตอนนี้ไม่คุยกันเลย ดีกว่ามานั่งคุยกันแล้วเหลือความรู้สึก มันทำร้ายหมิวเอง แต่ตัวเขาคงหมดไปแล้ว เขาก็คงไม่อยากให้หมิวเจ็บเหมือนกัน เหมือนเนื้องอกที่อยู่ที่ใจ วันหนึ่งตัดทิ้งก็ไม่เหมือนเดิม

วันนี้เข้มแข็งขึ้น เพื่อนๆ ผู้จัดการ โทรหาว่าเป็นยังไง โฟกัสเรื่องอื่นๆ ดีกว่า ตอนนี้ไม่พร้อมเปิดใจคุยกับใครทั้งนั้น เรายังขอรักษาตัวเองให้ดีให้หายก่อน ถ้าคุยกับใครตอนนี้ไม่แฟร์ รักษาตัวเองไม่หายแล้วเอาคนอื่นมาแทนที่

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)