xs
xsm
sm
md
lg

นางคางคก ด่า “น้ำตาล” โทษฐานเรื่องมากลืมตัว เจ้าตัวเอือมโดนด่าเป็นประจำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“น้ำตาล ชลิตา” โต้เป็นคางคกขึ้นวอเรื่องมากลืมตัว ท้าห้องเสื้อคู่กรณีที่โพสต์แฉไหนหลักฐาน ทำใจเกิดเป็นน้ำตาลทำไรก็ผิด มีเรื่องจนชิน รับมีผลกระทบกบเรื่องงาน

โดนห้องเสื้อออกมาโพสต์แฉถึงความเรื่องมาก โวยว่าชุดโป๊ใส่แล้วหน้าเป็นนางร้าย แถมเหยียดไม่พอใจที่ต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์ไทยถ่ายโฆษณา ไม่มีสัมมาคาราวะ มาทำงานก็มือแข็งหน้าเชิด งานนี้ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ถึงกับไปเม้นต์กลับว่า เหรอคะ? พร้อมออกมาตอบโต้ขณะมาร่วมงานเปิดรับสมัครสาวงามเพื่อร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์

“ก็จริงๆ แล้วที่ถ่ายวันนั้นเป็นโฆษณาแป้งค่ะ ก็ต้องเป็นงานผิว แล้วเรื่องชุดก็อยากจะถามเขาว่า เอาหลักฐานตรงไหนมาว่า ตาลเป็นคนพูด เพราะว่าตาลยังไงก็ได้อยู่ที่เขาเคลียร์กัน เพราะจริงๆ เราก็มีการจ้างสไตลิสต์อยู่แล้ว ซึ่งชุดนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามีชุดนั้นมาให้เราใส่ เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย แล้วอีกอย่างหนึ่งเวลาที่เราถามไปว่า มีชุดอะไรแบบไหนยังไงบ้าง แต่เขาก็ไม่มีฟีดแบคกลับมา เราก็ไม่รู้ว่าอะไรยังไง เพราะไม่เคยฟิตติ้งเลย เราก็เลยแบบอืม...แล้วต้องทำยังไงต่อไป”

ห้องเสื้อยืนยันว่าส่งชุดให้ดูแล้ว แต่ “นาตาล” ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ขายืนยันว่าเขาส่งชุดให้เราดูแล้ว
“ไม่เคยเลยค่ะ ถ้าเคยส่งชุดตาลจะต้องรู้ เพราะว่าจริงๆ เวลาที่จะถ่ายโฆษณา เราต้องมีการฟิตติ้งอยู่แล้ว เวลาจะเอาชุดไหนก็ต้องตกลงกันว่าเอากี่ชุดๆ แต่อันนี้คือไม่รู้เรื่องเลยเพราะว่าก็ถามไปในกรุ๊ปที่มีเจ้าของด้วย เราถามหมดเลย ซึ่งก็ไม่มีอะไรตอบรับเลย เราก็เลยรู้สึกว่า เขาอาจจะยุ่งแต่พอถึงวันจริงๆ มันก็สมควรที่เราจะรู้บ้างว่าเราต้องใส่อะไรแบบไหนบ้าง”

“ดิสเครดตเราหรืเปล่าอันนี้ตาลก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ซึ่งเขาไปโพสต์อย่างนั้น แน่นอนว่ามันต้องเสียหายกับตาลอยู่แล้ว ตาลเองเป็นคนง่ายๆ ยังไงก็ได้ ไม่เคยบ่น ไม่เคยขอ ไม่เคยรีเควสอะไรเลยตั้งแต่ทำงานมา พอเขาโพสต์แบบนั้นตาลก็ทักเขาไป แต่เขาก็ไม่ยอมตอบกลับมา จนแม่ขอเบอร์กับทางเจ้าของเพื่อที่จะโทรไปคุย เขาก็บอกว่าไม่ได้มีเจตนาแล้วก็ขอโทษ แต่ก็ยังบอกว่าไม่ได้หายไปนะ แต่แม่ขอไว้ จริงๆ แม่ไม่ได้ขอนะคะ แต่แม่บอกว่าถ้าคุณมีหลักฐานคุณเอาออกมา ถ้าไม่มีอย่าขนาดผู้จัดการตาลยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ คือยังไม่มีใครรู้ ส่วนสไตลิสต์ที่ไปกับตาลเขาก็ไม่รู้เรื่องเลยว่า มีชุดอีกหนึ่งมาด้วยเหรอ ถ้าเขากล้ายืนยันว่าเขาเป็นคนส่งชุดมาให้ตาลแล้ว ตาลยินดีรับผิดเลย คือถ้าไม่มีหลักฐานตาลก็ไม่อยากให้พูดค่ะ มันเสียทั้งสองฝ่าย”

คู่กรณีขอโทษมาทางโทรศัพท์
“ใช่ค่ะ ขอโทษแต่ก็ยังมีออกมาพูดอีกบ้าง แต่เราก็ปล่อยผ่านค่ะ(ถอนหายใจ) ตาลว่าตั้งแต่รับมงแล้ว (หัวเราะ) เราโดนจนชินแล้วก็เลยรู้สึกว่าอะไรที่มันปล่อยไปได้ก็ปล่อยไป แต่อะไรที่มันมากเกินไปที่มันไม่จริง เราก็ควรที่จะตอบโต้บ้าง เพราะเราก็เป็นคนมีจิตใจเหมือนกัน เราก็มีเรื่องจริงเรื่องไม่จริง ยังไงก็พูดออกมาตรงๆ เลย เพราะตาลก็พูดออกมาตรงๆ อยู่แล้ว”

“ตอนนี้เขาก็ขอโทษแล้ว เขาคุยกับแม่ค่ะ วันนั้นตาลไปทำงาน ก็เหมือนเขาบอกแม่ว่า น้องไม่ชอบโน่นนี่ ซึ่งตาลไม่ได้พูดอะไรเลย ถามว่าขอโทษส่งๆ หรือเปล่า ก็ธรรมดาแหละค่ะ เป็นตาลหายใจก็ผิด(หัวเราะ)”

อยากบอกเขาไม่ว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้รับชุดนะ
“ก็เรื่องนี้เราคุยกับทุกฝ่ายแล้ว มีการเคลียร์กันแล้ว แล้วตาลก็บอกหลายครั้งแล้ว คือเวลาที่เราถามอะไรไปไม่มีการตอบกลับมาว่าต้องทำอะไรแบบไหนถึงกี่โมงกี่ชุด เราก็เลยรู้สึกว่า แบบงานนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า แต่เราก็เลยอ่ะ ไม่เป็นไรเพราะเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ก็ไม่อยากไปคิดมากมาย การที่จะโพสต์ออกมา ตาลอยากให้โพสต์ออกมาจากจิตสำนึกของตัวเองมากกว่า ถ้ามาโพสต์ลอยๆมั นก็สูญเปล่า อยากให้เขาโพสต์ออกมาจากความจริงใจของเขาจริงๆ ตาลเองไม่ได้เรียกร้องอะไรอยู่แล้วค่ะ แค่มีอะไรก็ขอเป็นหลักฐาน”

โต้เป็นคางคกขึ้นวอร์ ไม่ใส่แบรนด์ไทยจะใส่แต่แบรนด์เนม
“คือตาลไม่เคยพูดค่ะ ตาลใส่ทุกแบรนด์ วันนี้ที่ใส่ก็แบรนด์ไทย ซึ่งมันแล้วแต่งาน ตาลไปแฟชั่นวีค ตาลไปดูของแบรนด์อะไรตาลก็ใส่ของแบรนด์นั้น เวลาที่เราไปไหนมีผู้ใหญ่ซัพพอร์ตเราซึ่งถือว่าดีมาก ตาลไม่เคยบอกว่าฉันใส่แบรนด์เนม ฉันไม่อยากใส่แบรนด์ไทย ตาลเป็นคนที่ใส่แบรนด์ไทยทุกแบรนด์ที่สนับสนุนมาตั้งแต่ตาลประกวดและหลังประกวด ตาลใส่ตลอดอยู่แล้ว นอกจากงานใหญ่ๆ จริงๆ ที่เราใส่ชุดแบรนด์เนมเพราะมันจะได้ดูสง่าดูสวยดูเข้ารูป ถามว่าชุดของแบรนด์ไทยดีไหม ดี แต่มันขึ้นอยู่กับกาลเทศะ ขึ้นอยู่กับงานด้วย”

“ส่วนเรื่องที่บอกว่าหยิ่งไม่ไหว้ใครหนูนี่แทบจะไหว้มาทุกคนแล้ว เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นเราไม่ใส่ใจดีกว่าค่ะ หนูก็โดนโพสต์แย่ๆ มาหลายเรื่อง หนูไม่ได้ทำหนูก็โดนตลอด”

แจงไปคอมเมนท์ใต้โพสต์ที่โดนแฉว่า เหรอค่ะ?!
“คือ เหรอค่ะ ในเชิงของตาลหมายถึงว่าจริงเหรอค่ะ แล้วที่แชร์โพสต์มาของตาล ตาลก็บอกว่าขอติดต่อกลับด้วยค่ะ เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องจริงมันต้องมีหลักฐานออกแล้ว”

ยินดีร่วมงานกับคู่กรณี เพราะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว
“เอ่อ...ตอนนี้เราก็ไม่ได้มีโอกาสร่วมงานกันแล้วค่ะ แต่ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสก็เรื่องงานคือเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัวจริงๆ หนูควรชินไหม(หัวเราะ) จริงๆหนูควรชินได้แล้วมากกว่า แต่ถามว่าท้อไหม ไม่ท้อค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้เราเคยท้อมามากๆ แล้วโดนมาสารพัด ตั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ให้โอกาสให้เวลาเรา แต่ในเมื่อตอนนี้เราได้พิสูจน์ให้เขาเห็นได้แล้ว เราต้องเดินหน้าต่อไป เราไม่อยากจะกลับไปถอยหลังเพื่อคิดอะไรอยู่กับที่เหมือนเดิม ก็เลยคิดว่าปล่อยทุกอย่างไป คิดว่ารอบข้างที่เขาอยู่กับเราเขาซัพพอร์ตเรารักเราแค่นั้นพอ”

ข่าวเรื่องมากทำให้งานหดไม่มีคนอยากร่วมงานด้วย
“ข่าวมีผลกับงานนะคะ มันก็มีบ้าง เพราะว่า เขาก็จะพูดปากต่อปากว่าตาลเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ด้วยเวลาที่เราไปเจอเขา แล้วเขาเล่าให้เราฟัง เขาก็จะบอกว่าทำไมน้ำตาลไม่เห็นเป็นเหมือนที่ข่าวพูด เราก็เลยรู้สึกว่ามันก็กระทบกับเราเหมือนกันแต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นเวลาที่เราไปทำงานค่ะ ถามว่างานน้อยลงไหม มันก็มาเรื่อยๆ นะ แต่ช่วงนี้ตาลถ่ายละคร จันทร์-พุธ แล้วก็ต้องเรียนพฤหัส-ศุกร์ด้วย เรื่องรับงานคือแคนเซิลไปเยอะมาก จนหลายคนก็ถามว่าทำไมไม่มีงานเลย แต่จริงๆ แล้วเราแคนเซิลเพราะส่วนใหญ่เอาวันลาไปใช้กับงานที่นิวยอร์กหมดแล้ว ก็เลยไม่เป็นไร ถ่ายละครตรงนี้ให้เขาเห็นก่อน”





กำลังโหลดความคิดเห็น