xs
xsm
sm
md
lg

พี่ "ไผ่" ทำได้ มหัศจรรย์ “ดิว” กระเป๋าหายที่สนามบิน 10 นาทีได้คืน บอกไม่อยากเอาเรื่องกลัวเครื่องดีเลย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ดิว อริสรา” ซูฮกตำรวจไทย กระเป๋าหายที่สนามบิน แต่แค่ 10 นาทีก็ได้คืน ขึ้นเครื่องบินต่อชิลๆ โอดห่วงว่าจะไม่มีชุดใส่มากกว่า เพราะรู้ว่าในกระเป๋าไร้ของมีค่า รับโทรศัพท์หา “พี่ไผ่” ก่อนเป็นคนแรกๆ

ตื่นเต้นเลยทีเดียว สำหรับ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” หลังถูกมือดีขโมยกระเป๋าที่สนามบิน แต่โชคดีไม่มีของสำคัญ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าทึ่งกับตำรวจไทยมาก เพราะแค่ 10 นาทีก็ได้กระเป๋าคืน รับโทรศัพท์หา “ไผ่ วันพอยท์” เป็นคนแรกๆ

“ก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นค่ะ เพราะว่าไม่คิดว่ามันจะเจออะไรแบบนี้ ก็รู้สึกว่าตำรวจไทยเก่งมากค่ะ จริงๆ เหตุการณ์ในวันนั้นมันไม่มีอะไรเลยค่ะ เราเช็กอินแล้ว แล้วก็แวะซื้อสตาร์บัคส์ แล้วก็มีพี่ที่มาด้วยเขาก็เฝ้ากระเป๋าให้เรานั่นแหละ แล้วเขาหันมาบอกดิวว่าพี่สั่งอันนี้นะ พอหันกลับไปคือกระเป๋าไม่มีแล้ว"

"ก็เป็นกระเป๋าใบเล็กค่ะ เป็นกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์สำหรับทำงานโดยเฉพาะแค่นั้นเลย
พอหันกลับไปไม่เจอเราก็ตั้งสติได้เลยขอเทปจากสตาร์บัคส์มาก็ได้เทปไว แล้วก็ไปประสานประชาสัมพันธ์ ซึ่งประชาสัมพันธ์ก็อาจจะช้าหน่อย เพราะเขายังช็อกอยู่ว่าต้องทำยังไง ทุกอย่างใช้เวลาประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง แต่พอพี่ตำรวจมา ใช้เวลาแค่ 10 นาที ตามกระเป๋าเจอเลย"

เผยตำรวจไปเจอกระเป๋าเปิดอยู่ตกอยู่ ส่วนคนที่เอาไปไม่น่าใช่คนไทย?
"ซึ่งคนที่เอาไปไม่น่าใช่คนไทยค่ะ มันไม่มีเวลาดำเนินการอะไร เพราะว่าหนึ่งคือของเราอยู่ครบ แล้วเครื่องบินก็รอเราอยู่ ไฟลต์ดีเลย์เพราะเรา เราก็เลยต้องรีบวิ่งไปเพื่อขึ้นเครื่อง คือมัน Last call แล้ว แล้วจริงๆ เราก็ไม่ได้อยากจะเอาเรื่องอะไรอยู่แล้ว ด้วยความที่ดิวว่าเขาอาจจะพูดได้ว่าหยิบกระเป๋าผิดไป หรืออะไรก็ตาม"

"แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือกระเป๋าดิวถูกเปิด แต่ของในนั้นมันก็ไม่ได้มีค่าอะไรที่จะต้องหายไป
แต่คือตำรวจเขาไปเจอกระเป๋าข้างทางนะคะ ไม่ได้เจอตัว คงจะค้นแล้ว แล้วไม่มีอะไร มีแค่รองเท้าหนึ่งคู่ ชุดหนึ่งชุด ตุ้มหูหนึ่งคู่ ที่หยิบไปเขาก็คงคิดว่ามันจะมีของมีค่าแหละ แต่ดิวไม่อยากพูดแบบนั้นไง เดี๋ยวจะดรามา แต่เราก็คิดว่าเอาเป็นว่าเรามีชุดใส่ไปทำงานแล้วก็จบแล้ว ถามว่าติดใจอะไรมั้ย คือมันก็น่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องดูจากทรงแล้ว ก็เลยโอเคเราขึ้นเครื่องไปทำงานของเราดีกว่า”

“ต่อไปก็ต้องระวังขึ้น มันทำให้ดิวรู้ว่าช่วงเวลาแค่ 10 นาที มันไม่น่าอันตรธานหายไปได้ไว้ขนาดนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก เราก็ต้องระวัง พี่ที่มากับเราก็ต้องระวังเพราะปล่อยอะไรไว้ไม่ได้เลยค่ะ เราก็ไม่ได้ตามเลย ตอนนั้นแค่แบบขอกระเป๋า เพราะว่ากลัวว่าเดี๋ยวตกเครื่องแล้วจะไปทำงานไม่ทัน แต่ตอนแรกก็กลัวว่าถ้าไปงานทันแล้วจะใส่ชุดอะไร ห่วงแค่นั้นเลย”

บอก “ไผ่” เดือดแทน เป็นคนแรกๆ ที่โทรศัพท์หา
“เขาก็เดือดค่ะ เขาช่วยประสานโน่นนี่ (เหมือนพี่ไผ่ต่อว่าเรื่องการตามหากระเป๋า?) เราเป็นคนคิดว่าจะหากระเป๋ายังไง คือเจ้าหน้าที่เขาก็ยังงงไงว่าจะต้องทำยังไง เราก็ไม่รู้ เราเลยต้องโทร.หาพี่ไผ่ว่าต้องทำยังไง เขาก็บอกเราเป็นสเต็ปๆ ซึ่งมันก็ทำให้ดิวคิดถึงคนอื่นว่าถ้าคนอื่นเขาไม่รู้จะทำยังไง"

"อย่างดิวไปตรงประชาสัมพันธ์ คำตอบแรกที่ได้คือให้ออกไปข้างนอก เพื่อไปแจ้งความ ดิวก็เลยแบบ อ้าว
จะทำยังไงดี ต้องออกไปแจ้งความคือตกเครื่องแน่ๆ เราก็เลยบอกเขาว่าลองประสานทางการท่าได้มั้ยค่ะ ลองแบบนี้ได้มั้ยค่ะ คือเราก็ช่วยๆ กัน แต่ว่าเราก็ต้องโทร.หาพี่ไผ่ก่อนค่ะ”




กำลังโหลดความคิดเห็น