ถ้าเป็นในนิยาย หรือละครหลังข่าว ฉากแต่งงานของพระเอก-นางเอก มักจะเป็นฉากจบบริบูรณ์ของเรื่อง
แต่ในชีวิตจริง อาจเป็นเพียงการเริ่มต้น !!
เพราะในเส้นทางเดินต่อจากนั้น อาจจะมีเรื่องราวอีกมากมายให้เผชิญ ให้ต้องฝ่าฟัน ซึ่งอาจจะผ่านไปได้ หรือไม่ได้ ล้วนไม่มีใครสามารถคาดเดาล่วงหน้าได้เลย
เหมือนอย่างชีวิตหลังแต่งงานของ “แอฟ-ทักษอร เตชะณรงค์” นางเอกน้ำดีของช่อง 3 ที่หลายคนอาจจะมองว่าน่าอิจฉา เพราะได้สามีรูปหล่อ โปรไฟล์ดี อย่าง “สงกรานต์ เตชะณรงค์” มีคุณสมบัติครบถ้วนแบบที่สาวๆ ทั่วประเทศใฝ่ฝัน
ขณะที่ตัวแอฟเอง ทุกคนก็มองว่าใครได้เป็นภรรยาก็ถือว่าโชคดี เพราะเป็นผู้หญิงที่สุดยอดของความเฟอร์เฟคจริงๆ ทั้งรูปสวย การศึกษาดี กิริยามารยาทงดงาม เลอค่า สวยหรู ดูแพง และไม่เคยมีข่าวคราวด่างพร้อย หรือเสื่อมเสียใดๆ เลย
เรื่องราวของแอฟกับสงกรานต์ ถูกหยิบมาพูดถึงกันในวงกว้างมาพักใหญ่ๆ แล้ว หลังจากที่ข่าวออกมาอย่างหนาหูทำนองว่า ชีวิตครอบครัวของทั้งคู่ ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่ไม่ปกติ ซึ่งก็สอดคล้องกับที่แอฟให้สัมภาษณ์ในเบื้องต้นว่าแยกบ้านกันอยู่จริง ซึ่งโดยพฤตินัย คำว่าแยกบ้านกันอยู่สำหรับคู่สามี-ภรรยา ก็เสมือนว่าสิ้นสุดสถานะความเป็นครอบครัวแล้วนั่นเอง เพียงแต่ยังไม่มีการดำเนินการในขั้นตอนของเอกสารอย่างเป็นทางการเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่ฝั่งพ่อของสงกรานต์ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่ายังไงก็ไม่อนุญาตให้หย่านั้น ในฐานะที่เป็นญาติผู้ใหญ่แน่นอนว่า ย่อมไม่อยากให้มีกรณีการหย่าร้างเกิดขึ้นในครอบครัว อยากให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาทบทวน ปรับจูนเข้าหากัน เพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้สามารถไปต่อได้ และยิ่งทั้งคู่มีลูกด้วยกัน พ่อของสงกรานต์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ ก็ย่อมไม่อยากให้หลานเติบโตขึ้นมาท่ามกลางปัญหาที่พ่อแม่แยกทางกัน ก็ถือว่าเป็นความปรารถนาดีของผู้ใหญ่ที่พึงมีต่อลูกหลาน แต่จริงๆ แล้ว ถ้าสมมติว่ามันเลยจุดที่จะประคับประคองต่อไปได้แล้วจริงๆ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้งแอฟ ทั้งสงกรานต์ ว่าจะจัดการกับชีวิตคู่ของตัวเองอย่างไร เพราะเป็นคนที่อยู่กับปัญหาต่างๆ เหล่านั้นจริงๆ
แหละ.....หลังจากที่ปล่อยให้เรื่องราวคลุมเครือ ค้างคาใจแฟนๆ อยู่เป็นเดือนๆ แอฟเพิ่งมีโอกาสได้ยืนยันความสัมพันธ์ของเธอกับ (อดีต) สามีต่อหน้าสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ
คำยืนยันของแอฟคือ.....ไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม รอเพียงเซ็นใบหย่าเท่านั้น
“มันมาถึงจุดนี้แล้ว ก็คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำให้ดีที่สุดค่ะ ถามว่ามีมือที่สามมั้ย แอฟคงขอตอบในส่วนของแอฟดีกว่า ตอนนี้ไม่อยากจะไปคิดอะไรกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ขอโฟกัสที่ลูกค่ะ แค่คิดว่าต้องเป็นผู้หญิงที่เลี้ยงลูกคนเดียว มันก็เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้วค่ะ ไม่อยากจะเสียพลังใจหรือพลังงานไปคิดเรื่องอื่นค่ะ สำหรับแอฟนะคะ มันไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมค่ะ ถามว่าปัญหาใหญ่มั้ย แล้วแต่คนค่ะ แล้วแต่ความคิดเห็นของแต่ละคน”
แอฟเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว มันเป็นเรื่องของชีวิตคู่ แล้วแต่คนสองคนตกลงกันมากกว่า ถ้าถามว่ายังใช้คำว่าสามีภรรยากันอยู่มั้ย อันนี้ก็แล้วแต่ว่าในแง่ไหนนะคะ แต่ว่าตามกฎหมายแน่นอนว่ายังเป็นค่ะ เพียงแต่ว่าเราแยกกันอยู่มาสักพักแล้วค่ะ แต่ในแง่การใช้ชีวิตปกติ แอฟก็ไม่ทราบว่าแต่ละคนจะใช้คำว่าอะไร กว่าจะถึงวันนี้ก็ยากค่ะ คิดว่าผู้หญิงหลายๆ คนเข้าใจแอฟ ยากค่ะ เพราะไม่ได้เป็นเรื่องตัวเราคนเดียว เป็นเรื่องของลูก การปรับจูนกันเยอะแน่นอน ส่วนใครบอกแยกก่อนก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีเหตุการณ์ในชีวิตเข้ามาในจังหวะที่เร็วมาก หลายๆ เรื่องกลับไปชี้เป็นจุดๆ ว่าจุดไหนก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันค่ะ”
ต้องบอกว่าแอฟตอบคำถามทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ไม่บ่ายเบี่ยง ไม่อ้อมค้อม ด้วยท่าทีที่สุขุม นุ่มนวล ยิ้มแย้ม และในทุกๆ คำตอบนั้นไม่พาดพิงถึงใคร หรือทำให้ใครกระทบกระเทือนหรือเสื่อมเสีย แม้กระทั่งคำถามที่ขยี้ความรู้สึกสุดๆ อย่าง....ที่ผ่านมา สงกรานต์เป็นสามีและเป็นพ่อที่ดีหรือไม่ !!??
เพราะถึงความเป็นสามี-ภรรยา จะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่หน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่ของลูกนั้น ไม่ได้สิ้นสุดตามไปด้วย
เอาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องมายืนตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตคู่ของตัวเองท่ามกลางไมค์ที่จ่อปากเป็นสิบๆ ตัว ด้วยท่าทีที่อ่อนโยน ยิ้มหวาน ในขณะที่หัวใจอาจจะกำลังร้องไห้
เชื่อว่ากว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้ แอฟคงใช้พลังงาน และความเข้มแข็งทั้งหมดทั้งมวลเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งพึงมี เพื่อให้ชีวิตก้าวไปต่อ เพื่อทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูกสาวคนเดียว ภาพที่เธอโผเข้าสวมกอดผู้สื่อข่าวคนสนิท พร้อมกับน้ำตาคลอนั้น จึงอาจจะไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้าโศก แต่อาจจะหมายถึงน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ เมื่อรู้ว่าหนทางที่จะไปต่อนั้น เธอไม่ได้เดินอย่างโดดเดี่ยว หากยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะเป็นกำลังใจให้เธอ
สังเกตว่าส่วนใหญ่เวลาชีวิตคู่ของศิลปิน ดารา นักร้อง มีปัญหา จุดใหญ่ที่ผู้คนมักจะเพ่งเล็งเป็นอันดับแรกเลย ก็คือเรื่องของมือที่สาม อย่างคู่ของแอฟ-สงกรานต์ ก็มีการโยงไปพัวพันกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ตอนที่มีข่าวแรกๆ ก็ไปพาดพิงถึงผู้ประกาศสาวของทีวีช่องหนึ่ง จนกระทั่งมีการฟ้องร้องฐานหมื่นประมาท พอถึงวันที่แอฟประกาศสถานะอย่างชัดเจน ว่ารอเพียงการเซ็นใบหย่า ก็มีคู่กรณีคนใหม่ที่โดนลากเข้ามาพัวพันอีก ซึ่งครั้งนี้เป็นอดีตเนตไอดอลในตำนาน “บอลลูน- พินทุ์สุดา” ที่มีข่าวว่าเพิ่งไปเที่ยวพักผ่อนที่เขาใหญ่ และมีการโพสต์ภาพถ่ายคู่กับลูกสิงโตตัวน้อยๆ ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับที่สงกรานต์ ก็โพสต์ภาพคล้ายๆ กันในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้อดีตเนตไอดอลตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปโดยปริยายว่า อาจจะเป็นชนวนเหตุแห่งการหย่าร้างครั้งนี้หรือไม่ ? อย่างไร ? ซึ่งคงต้องรอให้แต่ละฝ่ายออกมาชี้แจงกันอีกครั้ง
แต่ในความเป็นจริง มีอีกตั้งหลายเหตุผลที่ทำให้ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งไม่สามารถไปต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทัศนคติ , ไลฟ์สไตล์ , ความต้องการ , ความคาดหวัง การแต่งงานก็เหมือนกับการซื้อล็อตเตอรี่ ที่เราไม่มีโอกาสรู้เลยว่าจะถูกรางวัลที่ 1 หรือจะถูกแค่เลขท้าย 3 ตัว หรือจะโชคร้าย โดนกินเรียบ
มองในอีกแง่มุมหนึ่ง แอฟอาจจะโชคดีเสียด้วยซ้ำไป ที่รู้ตัวตั้งแต่ขวบปีที่ 5 ของชีวิตแต่งงาน ว่าคงไปไกลได้ที่สุดเท่านี้ แล้วก็เลือกที่จะจัดการทุกอย่างให้ถูกต้อง สมมติว่าถ้าอยากจะเริ่มต้นใหม่ ก็ยังไม่ถือว่าสายเกินไป ตรงกันข้ามกับอีกหลายๆ คู่ ที่กว่าจะค้นพบคำตอบของชีวิตคู่จริงๆ ก็ใช้เวลาไปเกือบค่อนชีวิต ซึ่งบางทีก็อาจจะยาวนานเกินกว่าที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครได้ที่มา
นิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 419 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2560
