“เอส วรฤทธิ์” ปลื้มชุบชีวิตดาราที่ตายแล้วให้เกิดใหม่ ไม่ขอตอบ “มิน-กรีน-ปู” ใครคือนางเอกตัวท็อปเบอร์ล่าสุดที่ดูดมาร่วมงานด้วย บอกต้องรออีกฝ่ายหมดสัญญาเพราะเป็นกฎกติกา กลัวหน้าแหกอีก แต่ยอมรับอีก 2 นางเอกก็น่าสนใจ ชื่นชมการทำงานของ “ใบเฟิร์น” แม้เรตติ้งไม่โดดเด่นแต่กระแสจับต้องได้
ถูกลือหนักหน่วงว่ากำลังจะมีนางเอกตัวท็อปช่อง 7 ซึ่งกำลังจะหมดสัญญา เตรียมหันมาซบค่ายแกรมมี่ โดย 3 สาวที่ถูกจับตา อาทิ มิน พีชญา วัฒนามนตรี, ปู ไปรยา สวนดอกไม้ และ กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ล่าสุด “เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” ก็ออกมาเปิดใจยอมรับว่ามีการพูดคุยกับ 1 ในสามนางเอกจริง แต่ยังไม่อยากเปิดเผย ต้องรออีกฝ่ายหมดสัญญา เพราะเป็นกฎกติกาและมารยาท
“มันเป็นการพูดคุยกันมากกว่า ในแต่ละปีก็จะมีนักแสดงที่หมดสัญญาและต้องการเป็นนักแสดงอิสระ ส่วนตัวผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่ดีของคนที่อยู่ในวงการบันเทิง เพราะมีโอกาสเลือกเยอะขึ้นกว่าสมัยเป็นอะนาล็อก 3,5,7 และ 9 ปัจจุบันมี 20 กว่าช่อง เป็นการพูดคุยกันปกติ สอบถามข่าวคราวกันมากกว่า”
แย้มคุยแค่ 1 คน แต่อีก 2 คนก็น่าสน เพิ่งรู้ว่าใกล้จะหมดสัญญา เคารพกฎกติกาและมารยาท
“อยากรู้จักเขาเหมือนกัน(หัวเราะ) สำหรับ 2 คนนี้ยังไม่มีการพูดคุย แต่ก็น่าสนใจเนอะ เขาใกล้จะหมดสัญญาเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย ช่องก็คุยไว้หลายคน ผมว่าของอย่างนี้เป็นเรื่องของมารยาท เป็นกฏกติกาที่เราต้องเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน ย้อนกลับไปเหมือนตอนของ พลอย (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ในความรักครั้งสุดท้าย ก็รอให้หมดสัญญาจริงๆ ก่อนถึงพูด เดี๋ยวถ้าเปิดไปแล้วเขาเปลี่ยนใจ เราจะหน้าแหกนะ อย่าให้ผมต้องคอมมิทกับตัวเอง”
“การทำงานมีการวางแพลนล่วงหน้า อย่างละครปีหน้าทั้งปีเราก็มีการพูดคุยและวางความเหมาะสมไว้อยู่แล้ว เราทำละครเยอะมาก ต้องใช้นักแสดงเยอะ บางครั้งนักแสดงของเรา หรือฟรีแลนซ์ที่มีอยู่ในตลาดก็ไม่ได้มีมากเพียงพอ พอมีว่าคนนั้นคนนี้หมดสัญญา ทุกช่องก็ต้องให้ความสนใจเป็นธรรมดา ทุกวันนี้นักแสดงมีโอกาสเลือกมากกว่าช่องด้วยซ้ำ วันนี้เขาเป็นคนเลือกเรามากกว่า”
ฟุ้ง “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ได้เปลี่ยนแปลง เรตติ้งไม่โดดเด่นแต่กระแสจับต้องได้
“ส่วนที่บอกว่ามีแต่คนอยากร่วมงานกับเรา รู้สึกดี ยกตัวอย่างใบเฟิร์นมาเล่นหลงไฟ ทุกคนจะรู้สึกว่าเขาได้เปลี่ยนแปลงตัว มีการพูดถึง โอเคละครช่องเราอาจจะไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของเรตติ้ง แต่กระแสตอบรับที่สะท้อนกลับมาและจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของโซเชียล มียอดวิว ยอดคอมเมนต์เพิ่มขึ้นทุกวัน เริ่มต้นที่ 10 กว่าเค เริ่มไต่ขึ้นมาล่าสุดขึ้นมาที่ 60 กว่าเค ซึ่งเราก็ตื่นเต้นและอยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป ตอนนี้ผ่านมา 10 ตอน จากทั้งหมด 26 ตอน เรารู้ว่าเรื่องเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ยังมีอีก 16 ตอน มาช่วยลุ้นหน่อยว่าจะไปถึงไหน”
ไม่แคร์เรตติ้งก็คงไม่ใช่ แต่ยันเรตติ้งไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
“จะบอกว่าไม่ให้ความสำคัญเรื่องเรตติ้งก็คงจะไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนก็ยังถือเอาเรตติ้งมาเป็นตัวชี้วัดอยู่ เพียงแต่ช่องเราไม่ได้คิดว่าเรตติ้งคือคำตอบสุดท้าย ที่ผ่านมาเราเอาตัวเลขสถิติจากหลายๆ ส่วนมาประกอบกัน ถ้าพึ่งเรตติ้งอย่างเดียวเราอยู่ไม่รอดแน่ๆ สิ่งที่เราทำได้ในช่องนี้คือเราไม่ได้ลงทุนสูงเหมือนช่องอื่นๆ ไม่ได้ซื้ออะไรแพงๆ มา แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเป็นคอนเทนต์ที่เราผลิตเอง”
“เรตติ้งเป็นแบบนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เราขายลูกค้าจะมีแพ็กเกจการขายที่เราสร้างสถิตทุกอย่างผสมรวมกันไป เราสร้างกิจกรรม ทั้งออนแอร์ ออนไลน์ ออนกราวน์ ผสมกันไป ทำให้ลูกค้ายังให้การสนับสนุนเราเหมือนเดิม ในมุมของลูกค้าเขาไม่ได้เลือกเราที่เรตติ้งความเป็น 1 ใน 5 ท็อป 5 โอเคก่อนละครออนแอร์อาจจะมีความเชื่อมั่นน้อย เพราะไม่รู้มันจะออกมายังไง แต่วันนี้สังเกตง่ายๆ เลยพอออนแอร์แล้วมีกระแสปั๊บ ฝ่ายขายก็จะรับออเดอร์แล้ว แปลว่ามุมมองของลูกค้าที่ตอบรับกับละครที่เรตติ้งอาจจะไม่ได้สูงมาก แต่มีลูกค้าพอดูไลฟ์แล้วโฆษณาเข้าเยอะจนหลายคนบ่น แต่เราชอบนะ ขอบ้างเถอะ เดี๋ยวไม่มีเงินมาทำละครให้ดูนะ”
ปลื้มถูกยกเป็นช่องที่ชุบชีวิตดาราที่ตายไปแล้ว
“ผมชอบคำนี้มาก(หัวเราะ) ผมมองว่าสุดท้ายแล้วนักแสดงเขาเป็นคนเลือก ช่องมีหน้าที่คือเราอยากได้เขา คิดว่าเขาเหมาะสมกับงาน เราหยิบยื่นบทไปให้ เขาก็ทำหน้าที่พิจารณา เขาสนใจบทไหน มั่นใจในโปรดักชั่นของใครเขาก็จะเลือกเอาตัวเองเข้าไปอยู่ตรงนั้น ผมมองว่าก้าวแรกของการก้าวออกมาเป็นนักแสดงอิสระเป็นก้าวสำคัญ เพราะมันเป็นการพิสูจน์ตัวเขา ในวันที่เราเป็นนักแสดงมีสังกัด มีสัญญาเป็นพันธะผูกพันว่าเราจะดูแลกันและกัน อย่างนักแสดงในสังกัดผมให้เล่นเรื่องแรกไม่รอด เรื่องที่สองยังไม่ขึ้น ผมก็ต้องทำหน้าที่ในการผลักเขาขึ้นไปให้ได้ถ้ายังมีโอกาสดูแลเขาอยู่”
“แต่ถ้าเป็นนักแสดงอิสระปั๊บแปลว่าเขาต้องเดินด้วยตัวของเขาเอง ฉะนั้นก้าวแรกสำคัญมาก ถ้าเขามั่นใจกับเรา เราก็เต็มที่ ซึ่งก็จะมีตัวอย่างให้เห็นในหลายๆ ครั้ง เราคอมมิทเขาไม่ได้หรอกว่าเขามาแล้วเขาจะบวกกลับไป แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา อย่างในคลับฟรายเดย์เดอะซีรีส์เป็นละครสั้น ใช้เวลาไม่เยอะ มาลองดูก็คงไม่ผิดอะไร แต่ในประวัติศาสตร์คลับฟรายเดย์ถูกสร้างมาก็เห็นภาพชัดว่าบวกขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจจะนิ่งๆ พอมาตรงนี้ก็เป็นกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราได้นักแสดงง่ายขึ้น แต่เราไม่มีใบรับประกันให้เขานะ น้องๆ มาพี่ก็เต็มที่ ก็สาธุ อยากเปิดคลับฟรายเดย์ 10 ด้วยนักแสดงอิสระ 10 คนเลย”
