xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) อดีตไม่น่าจำ “เปิ้ล” ยันไม่ลงรูปคู่ “แอม” ไม่ได้หมายความว่าต้องโกรธ บอกเรามุ้งมิ้งแต่ไม่เคยออกสื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เปิ้ล หัทยา” ปิดตายข่าวลือเคยมีปัญหาในอดีต ยันไม่เคยโกรธ “แอม เสาวลักษณ์” เจอหน้ากันยังมีความมุ้งมิ้งประสาผู้หญิง บอกเจอกันบ่อย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปคู่ลงโซเชียล เพราะเคารพสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน รับต้องเคาะสนิมเล่น “Side by Side” แค่ได้ฟังเรื่องเล่าจาก ผกก. น้ำตาก็ไหล เปิดใจเคยเล่นรับเชิญละครช่อง 3 แต่ขออนุญาตถอนตัว


อดีตไม่น่าจำ “เปิ้ล” ยันไม่ลงรูปคู่ “แอม” ไม่ได้หมายความว่าต้องโกรธ บอกเรามุ้งมิ้งแต่ไม่เคยออกสื่อ

ถูกจับตาว่ามีปัญหาส่วนตัวกันมานาน แต่ภายหลัง “แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร” โพสต์ภาพสวมกอดทั้ง “ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” และ “เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง” ซึ่งถือเป็นภาพหายาก และดีต่อใจแฟนคลับเอามากๆ ล่าสุด เปิ้ลได้เปิดใจในงานกิจกรรม Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ บริเวณ helix garden ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ยันไม่เคยมีปัญหากันอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ไม่เคยลงรูปคู่กันเพราะเคารพสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน

“ไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ เรากับแอมถือว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่โรงเรียนราชินี เราเองก็เคยทำงานร่วมกันอยู่เรื่อยๆ อย่างที่เราได้จัดคอนเสิร์ตห้างๆ หนึ่ง มีแอมไปร้องเพลง เพียงแค่ว่าเราไม่ได้ถ่ายรูปลงเท่านั้นเอง จริงๆ เรามุ้งมิ้งกันนะ แต่ไม่ค่อยออกสื่อเท่านั้นเอง เราเป็นผู้หญิง เวลาที่คุยกันก็จะเข้าใจกัน แอมเป็นคนน่ารักและเขาเป็นคนที่แยกแยะได้ เวลาที่เราคุยกันเลยงาน แอมมาทำงานให้ไม่มีปัญหาอะไรเลย”

คนอาจจะไม่เข้าใจ คิดว่าเขาคงโกรธกันหรือเปล่า แต่เราไม่ได้โกรธกันนะ เพียงแต่ว่าบางครั้งมันเป็นความส่วนตัวที่เราเคารพซึ่งกันและกัน บางที่เราถ่ายรูปเอาไว้แล้วไม่ได้ลง แต่เมื่อเราเจอกันเราถ่ายรูปด้วยกัน จริงๆ การที่คนจำเรื่องในอดีตได้ เราว่ามันเป็นเรื่องราวที่ไม่มีใครพูดถึงมั้งนะ พอมีภาพอะไรออกมาดีใจที่้เขาดีกันโน๊ะ แต่ว่าจริงๆ แล้วไม่มีการโกรธกัน (เป็นภาพที่หาดูยาก?) อย่างที่บอกเวลาเราทำงานกับแอม เราถ่ายรูปแต่ไม่ได้ลง เพราะว่าเราเคารพซึ่งกันและกันนะ ถามว่าจะมีรูปอีกมั้ย ก็ไม่แน่นะ เป็นไปตามธรรมชาติ”

เคาะสนิมเล่นซีรีส์ Side by Side แค่ได้ฟังเรื่องเล่าจาก ผกก. น้ำตาก็ไหล เผยเคยเล่นรับเชิญให้ช่อง 3 แต่ต้องถอนตัว
“ต้องบอกการรับละครแต่ละเรื่องของเราในแต่ละครั้งมันมีข้อจำกัดนะ เนื่องจากเมื่อเราต้องมาทำคลื่นวิทยุของตัวเองแล้ว เราต้องออกหาลูกค้าและบริหารงาน แต่พอดีทีมงานของเรื่องนี้เขามาคุยกับเราที่ออฟฟิศ แล้วเล่าเรื่องให้ฟังคือเรื่องที่เราฟังผู้กำกับเล่าเรื่องฟังกันไป น้ำตายังไหลเลย นี้ขนาดแค่ฟังนะ เราเลยบอกกับบอส (ผกก.) ว่าเราจะหาเวลามาเล่นให้ได้ เราขอเมนหลักเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ ได้มั้ย บอสบอกว่าถ่ายวันพุธ - พฤหัส - ศุกร์ - เสาร์ อยู่แล้ว แล้วหลังจากนั้นเราสามารถกำหนดเวลาให้การทำงานของเราผ่านไปได้ด้วยดี บทก็แบบว่าบอกไม่ถูกเลยนะมันกินใจ มันเห็นแล้วมันอยากเล่น มันรู้สึกว่าการที่จะเล่นบทแบบนี้มันต้องตีความ สองต้องเข้าใจเนื้อหาแล้วเขาเองก็มีการเวิร์กช็อปกันก่อน ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกสบายใจ ให้เราได้รู้จักในตัวของยิมและโด่ง ตัวแตนและตัวผู้กำกับ การทำเวิร์กช็อปปมันมีประโยชน์มากๆ เลย”

“นานมากเลยนะ จริงๆ เราเคยเล่นรับเชิญกับทางช่อง 3 อยู่นะ แต่เล่นไปสักพักต้องขออนุญาตถอนตัวออกมา เนื่องจากว่าเราเองมีปัญหาในเรื่องของเวลา เรื่องนี้เขาพยายามให้เวลามาเลย ถ้าเป็นเดือนนี้ขอวันพฤหัสบดีสักสองวัน ศุกร์อีกสักวันได้มั้ยแล้วเสาร์กับอาทิตย์ เราก็จะกำหนดเวลาของเราได้ ไม่มีปัญหาในเรื่องของเวลานะ แต่มีปัญหาในเรื่องของการแสดงที่เราห่างมานานมาแล้ว ทำให้เราเข้าใจนะว่าการทำงานและชอบวิธีการการทำงานของเด็กรุ่นใหม่คือเขามีการเตรียมพร้อม อย่างตัวของต่อ (ธนภพ ลีรัตนขจร) ในเรื่องนี้เขารับบทเป็นเด็กออทิสติก เขาทำการบ้านโดยไปคลุกคลีกับเด็กออทิสติก 2 - 3 เดือน ทุกคนทำการบ้านหมดเลย ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราเองก็ต้องพร้อมว่าเราจะต้องเล่นแล้ว เราต้องพร้อม”

เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ที่มีลูกเป็นออทิสติก
“เข้าใจเลย ถึงแม้ว่าเราเองจะมีลูกสาว เวลาที่เขาจะว่าแม่ ไม่เคยขึ้นกูมึง หรืออี แต่แค่ว่าลูกสาวใช้น้ำเสียงแค่ว่าแม่ (เปล่งสั้นๆ แบบตะคอก) เรารู้สึกแล้วว่าต้องเรียกแม่ (เสียงยาว) อีกแบบหนึ่งก็ได้ แต่พอมาเจอยิมเกลียดอีตั้ม อีตั้มควายเรารู้สึกแล้วว่าเราต้องสวมบทเป็นแม่ตั้ม เราต้องเข้าใจว่าเขามีปมมาตั้งแต่เด็กๆ เราอาจจะใช้คำที่ว่าเขาจะจำ หรือการกระทำบางอย่างของเราแล้วไม่คิดว่าเขาจะจำ จนเปลี่ยนมาเป็นคำพูด แล้วด้วยลูกเป็นออทิสติกแม่ต้องเข้าใจลูกด้วยว่าลูกไม่ได้ตั้งใจ แต่มันเป็นอารมณ์”

“เราเคยเล่นเรื่องโดมผู้จงหองคือนานมากแล้วนะ (ยิ้ม) นั้นก็ดรามาแต่ว่ามันนานมากแล้วนะ เรื่องนั้นเป็นละครพีเรียดเลยนะ อันนี้เป็นดรามาที่โอ้โห ลูกเป็นออทิสติกแล้วแม่ไม่เข้าใจและแม่อายที่จะบอกกับเพื่อนที่ทำงานด้วย จนกระทั้งมารู้สึกว่านี้คือความสุขของลูกที่ลูกรักการตีแบดจริงๆ จึงค่อยๆ คลายปมออกมา”

“ฟีดแบ็กก็ดีนะ สวัสดีแม่ตั้ม (ยิ้ม) ก็มีตั้ม อีตั้มมีหมดนะ ความรู้สึกเรารู้สึกดีใจแทนทีมงานนะ ไม่ว่าจะเป็นทีมงานเขียนแบบหรือทีมกำกับเขาต้องทำงานกันหนัก แล้วทีมนักแสดงหลักอย่างต่อและสกาย น่าจะทำงานกัน ตัวเรากับขวัญ (สู่ขวัญ) ทำงานหนักพอสมควร ดูไปเรื่อยๆ จะเห็นความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้นะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น