xs
xsm
sm
md
lg

ทอล์กเดิมๆ ทั้งเชยและน่าเบื่อ! “วู้ดดี้” พักร้อนหาแรงบันดาลใจ เผยไต๋แยกทาง “ส้ม” เนื้อหารายการ 2 ปี ไม่โอเคกับสังคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“วู้ดดี้ วุฒิธร” งง ประกาศจะเลิกทำทีวี แต่มีรายการทีวีติดต่อเข้ามาพรึ่บ ลั่นนั่งทอล์กเดิมๆ ไขว่ห้าง - ชี้หน้าแขกรับเชิญมันน่าเบื่อ ปีหน้าจะกลับมาพร้อมโปรเจกต์ใหม่ ขอพักร้อนค้นหาแรงบันดาลใจ ปัดหอบโปรเจ็กต์ใหม่เสนอช่องวัน ยันแยกทาง “ส้ม ณัชพร” พาร์ตเนอร์ที่ดี เพราะเนื้อหารายการตื่นมาคุย 2 ปี ไม่โอเคต่อสังคม

แม้รายการตื่นมาคุยจะปิดฉากลาช่อง 9 อสมท ไปแล้ว แต่ผู้บริหารก็ยังแย้มว่า “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” จะกลับมาพร้อมโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่ทุกคนต้องว้าว ซึ่งก่อนหน้านี้วู้ดดี้เคยออกมาเปิดใจว่าอิ่มตัวกับรายการโทรทัศน์จะหันไปรุกตลาดออนไลน์มากกว่า ล่าสุดวู้ดดี้เลยขอเปิดใจเคลียร์ถึงประเด็นดังกล่าว โดยยอมรับว่า ตั้งแต่ประกาศจะเลิกทำรายการ มีทีวีติดต่อมาเพียบ แต่ตอนนี้ขอพักร้อน หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ อยากทำรายการใหม่ๆ ให้คนไทยได้ยิ้ม เบื่อรายการที่ต้องชี้หน้าแขกรับเชิญ บอกแบบนั้นมันเชยไปแล้ว

“เป็นการคุยกันอยู่เมื่อตอนที่วู้ดดี้ได้มีโอกาสไปลาออกจากช่อง 9 ก็มีการคุยกันว่าตกลงจะมาร่วมทำรายการใหม่ๆ ยังไงกันต่อบ้าง วู้ดดี้ก็เลยบอกผู้ใหญ่ว่าขอพักสักแป๊บหนึ่งก่อน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็จะกลับมาอีกครั้ง ก็เลยให้โจทย์กันไปว่าถ้าเกิดทำเป็นอะไรที่มันถนัดทั้งคู่ ช่อง 9 อสมท เองก็เคยเกิดจากเรียลลิตี้ เราเองก็เคยทำตั้งแต่ไฮโซบ้านนอก ยุคแรกๆ เลย ก็เลยมานั่งคุยกันว่าหรือเรากลับไปทำลองทำอะไรที่มันไม่ได้อยู่ในกรอบ เช่นสมัยก่อนเราเคยทำรายการประจำ รายการที่มาทุกอาทิตย์ หรือมาทุกเช้า ให้มาลองอะไรใหม่ๆ ก็กำลังอยู่ในกระบวนการคิดอยู่ หนึ่งคือเราต้องอยากทำก่อน บอกผู้ใหญ่ไปว่าขอคิดก่อนว่าอยากทำอะไร สองคือถ้าไอเดียที่เราอยากทำ แล้วมันลงตัวกับเขาก็จะไปต่อกับ อสมท ครับ”

ช่วงนี้เป็นช่วงพักร้อนของวู้ดดี้ (หัวเราะ) ผมทำงานในวงการมา 15 ปี วันที่เลิกทำตื่นมาคุย ผมตื่นมาวันต่อมาแบบเราได้ไปอยู่กับหลาน อยู่กับยาย ได้กินข้าวเช้ากับที่บ้าน ได้ไปอยู่ญี่ปุ่นมาเป็นอาทิตย์ คือ มันมีความสุขมาก แล้วเราก็เลยบอกตัวเองว่าเราไม่ใช่แค่วู้ดดี้ตื่นมาคุย หรือเกิดมาคุย ตอนนี้มันตื่นเต้นตรงที่ว่าเราสามารถลองทำอะไรได้เยอะมาก สำหรับวู้ดดี้มันเหมือนการเข้าวงการใหม่เลย คืออาทิตย์ที่ผ่านมาเราดูวงการเหมือนน้องๆ เหมือนเพิ่งเริ่มทำข่าว มันตื่นเต้น แล้วเราไม่เคยสัมผัสไฟในวงการบันเทิงขนาดนี้มา 10 ปีแล้ว ก็เลยบอกทุกคนว่าหยุดก่อน”

“ตอนนี้คนก็จะเรียกไปทำโน่นทำนี่ เราก็บอกเดี๋ยวๆ ขอใช้เวลาตรงนี้อีกสักพักหนึ่ง ในการใช้ชีวิตก่อน อยากเอ็นจอยกับชีวิตก่อน ทุกวันนี้เราแต่บินไปแล้วก็มีคลิปมาออนบ้าง คนก็ดูต่อแค่นั้นเอง เราไม่ได้หายไปไหน เรายังอยู่ในโซเชียลมีเดีย เราอยู่ในไลฟ์ ผมยังสัมภาษณ์คนในไลฟ์ ซึ่งมันอาจจะไม่เหมือนทีวี เป็นธุรกิจ มันเป็นแค่ความสุขของผม”

รับจำคำพูดของตัวเองได้ อยากหันมารุกออนไลน์ เพราะอิ่มตัวการทำรายการโทรทัศน์ ดูตัวเองไขว่ห้างชี้หน้าถามแขกรับเชิญแล้วเบื่อ มันเชย ตั้งเป้าจะทำให้ทุกคนตื่นเช้ามาพร้อมรอยยิ้ม
“วันที่ผมประกาศเมื่อ ก.พ. ผมจำได้ ว่าผมตั้งใจที่จะรุกออนไลน์ ผมอิ่มกับการทำโทรทัศน์ในรูปแบบเดิม คือตื่นมาก็เป็นแบบนี้ ทุกวันอาทิตย์ก็นั่งสัมภาษณ์นั่งไขว่ห้างแล้วชี้หน้าแบบนี้ ผมดูตัวเองแล้วผมเบื่อ ผมรู้สึกว่ามันเก่า มันเชยแล้ว ต้องหยุด ไปหาอย่างอื่น ไปดูโน่นดูนี่ หลายคนอาจจะไม่ทราบ ผมใช้ชีวิตทุกวันนี้คืออยู่กับคน ไปอยู่กับชาวบ้านที่เขาใช้ชีวิตมากกว่าเรา ไปสัมผัสความทุกข์มันคืออะไร ความสุขของคนคืออะไร ฝันต่อไปของผมคือสามารถทำให้ทุกคนตื่นมาแล้วยิ้มได้ทุกวัน ผมเห็นทุกคนตื่นมาแล้วหน้าบึ้ง เราก็รู้สึกว่าทำไมต้องใช้ชีวิตแบบเศร้า ก็เลยคิดว่าอยากหาเนื้อหาหรือทำรายการที่ทำให้คนรู้สึกมีความสุขได้ทุกวัน ท้าทายมากครับ อันนี้คือโจทย์ต่อไป”

“เราเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจได้เยอะมากเลย ไปประเทศต่างๆ ก็รู้สึกว่าทำไมเขาไม่คิดเหมือนเรา แล้วเราคิดว่าเราถูกแล้ว แต่ปรากฏว่าไปที่อื่น เราคิดอยู่แต่ในสิ่งที่เราเห็นเท่านั้นเอง พอเราไปเห็นคนอื่นก็รู้สึกว่ามันหลากหลายมาก ล่าสุด ไปจีนกับกุ๊บกิ๊บ (สุมณทิพย์ ชี) มา ผมเจอเป่าเปาแค่ไลฟ์ ตอนออกรายการ พอเลิกทำรายการแล้วทำไมเราไม่เคยได้อยู่กับเป่าเปาตอนไม่มีกล้องล่ะ ไม่ต้องถ่ายรายการ ไม่ต้องไลฟ์ พอได้ไปจีนตอนวันเกิดเป่าเปา มีผม กิ๊บ บี้ (ธรรศภาคย์ ชี) มันเป็นชั่วโมงทองคำของเรา เราได้อยู่ด้วยกัน คุยกันถึงชีวิตว่าเราไม่เคยได้สัมผัสอารมณ์นี้เลยถึงจะได้อัดรายการตอนเช้าด้วยกันมาก่อนก็ตาม เลยบอกว่า ฟีลเนี่ยที่แบบรักกันมาก มันไม่มีในวงการเลยนะ มันมีในเบื้องหลัง ก็เลยคุยกันว่า เดี๋ยวอีกไม่นานเราคงจะกลับมาทำอะไรที่ทุกคนแฮปปี้ มีความสุข”

ฟุ้งทีวีติดต่อมาเพียงหลังประกาศจะไม่ทำรายการอีกแล้ว ขอเวลาสักนิด อยากทำรายการที่เกิดประโยชน์กับคนดู
“รายการทีวีเยอะมากครับ มีเข้ามาเยอะจนตั้งตัวไม่ทัน วันที่เราอยากทำทีวี มันก็ได้แค่ประมาณหนึ่ง แต่พอเราไม่อยากทำมันก็เรียงกันเข้ามา จนวันนี้เรารู้สึกว่าเราต้องเลือกว่าอะไรที่มันสำคัญ คือทีมงานอยากทำผมอยากทำ เป็นประโยชน์ต่อคนดู เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีหลายอย่างที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อคนดูแล้วเราไม่รู้ตัวเราคิดว่ามันน่าจะดี แต่พอทำออกไปแล้วไม่น่าดี อาทิตย์ที่ผ่านมาผมกลับไปดูรายการต่างๆ ที่ผมทำ เกิดมาคุย ตื่นมาคุยแล้วก็อยากจะเรียนรู้จากตัวเอง พัฒนาตัวเอง ขอเวลานิดหนึ่งก่อน ค้นหาว่าสิ่งที่ดีสุดในวงการคืออะไร เดี๋ยวจะกลับมาปีใหม่นี้”

โต้หอบโปรเจกต์เสนอช่องวัน ยันถึงจุดหนึ่งมองหน้า “ส้ม ณัชพร สายบัว” ขอแยกทางกัน เพราะรายการเนื้อหาไม่โอเคต่อสังคม
“ไม่จริงครับ อันนั้นคือบริษัท orange mama ของพี่ส้มช่องวัน มันมาถึงจุดหนึ่งที่มองหน้ากันแล้วบอกว่าแยกกันทำจะดีกว่า วันหนึ่งคอนเทนต์บางอย่างที่เรามองว่ามันไม่ใช่ มันก็ต้องจบที่ตัวเราหรือเจ้าของบริษัท มันมีหลายอย่างในรอบปี สองปีที่ผ่านมาเนื้อหาที่นำเสนอออกไป ที่เรารู้สึกว่ามันไม่โอเคต่อสังคม แต่มันต้องรับผิดชอบว่าเราคือเจ้าของรายการ ผมเลยมองว่าต่อจากนี้ไปในชีวิตเรามันต้องชัดเจน ความคิดของใคร คนๆ นั้นก็ต้องรับผิดชอบความคิดนั้น”

“ผมกับส้มอยู่ด้วยกันมานานแล้วเราก็รักกันมากแต่วันนี้เรารู้สึกว่า เขาต้องโตไปมีบริษัทของตัวเอง อีกวันหนึ่งเขาส่งข้อความมาว่าเขาแฮปปี้มาก เพราะได้เคาะอะไรเอง ได้รับผิดชอบเอง เป็นตัวของตัวเอง แล้วเราก็ได้มีโอกาสเป็นในทางที่เราอยากเป็น ผมว่าเราเกิดมาเพื่ออยู่ด้วยกัน เพื่อแยกจากกันและกลับมาเพื่อเจอกันใหม่ และแยกจากกันอีก สิ่งที่เราเข้าใจผิดมาตลอดคือคนเราต้องอยู่ด้วยกันจนถึงวันตาย มันไม่จริง พอต่างคนได้ไปทำในสิ่งที่เราชอบ พอสุดท้ายได้กลับมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน”

กำลังโหลดความคิดเห็น