ออสการ์ 2017 จบไม่สวยหลังประกาศรางวัลหนังยอดเยี่ยมผิดจาก Moonlight เป็น La La Land ทำเอาวุ่นไปพักหนึ่ง ด้าน “เคซีย์ อัฟเฟล็ค” จาก Manchester by the Sea และ “เอ็มมา สโตน” จาก La La Land คว้ารางวัลนักแสดงนำชาย - หญิงยอดเยี่ยม
โดยเปิดงานปีนี้ด้วย จัสติน ทิมเบอร์เลก ซึ่งเขาได้ขึ้นแสดงในเพลง Can’t Stop the Feeling จากผลงานอนิเมชันเรื่องดัง Trolls ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเพลง Lovely Day ของ บิลลี วิทเชอร์
ซึ่งงานนี้ก็ทำเอาผู้ชมนั่งกันไม่ติดทั้งงาน ซึ่งการแสดงครั้งนี้ยังถือเป็นการแสดงครั้งแรกในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ของจัสตินด้วย
ก่อนจะส่งมอบเวทีอย่างเป็นทางการให้กับ จิมมี คิมเมล ผู้รับหน้าที่พิธีกรประจำปีนี้ และแน่นอนว่า สิ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดยังเป็นเรื่องของคู่ปรับเก่าอย่าง แมตต์ เดมอน ที่มาเผชิญหน้ากันในงานครั้งนี้ โดยเขาได้ยกเอาประเด็นความแตกแยกในเวลานี้ของอเมริกามาพูดถึง พร้อมยกตัวอย่างให้เริ่มปรับความเข้าใจกันกับผู้ที่เห็นต่าง และแน่นอนว่า งานนี้ แมตต์ เดมอน ก็โดนกล่าวถึงไปเต็มๆ
“ตอนที่ผมเจอแมตต์ครั้งแรก ผมเป็นไอ้อ้วนคนหนึ่ง ส่วนเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว และใครที่ได้ร่วมงานกับเขาก็จะรู้ดีว่าเป็นแบบนั้น แต่เขาได้ทำบางสิ่งที่ไม่เห็นแก่ตัวแล้ว เขาโปรดิวซ์หนัง Manchester by the Sea ซึ่งเขาสามารถเล่นบทนำเองเลยก็ได้แต่เขากลับมอบบทนี้ให้กับเพื่อนสมัยเด็กแล้วไปผูกเปียเล่นหนังจีน เรื่องนั้นก็ The Great Wall”
นอกจากนั้น เขายังจิกกัดภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง La La Land ด้วยว่า “ปีนี้เป็นปีที่วิเศษของหนังไปเลย คนดำช่วยปกป้อง NASA ส่วนคนขาวช่วยปกป้องดนตรีแจ๊ซ”
ส่วนอีกคนที่ถูกพูดถึงยังเป็น เมอร์รีล สตรีพ ที่เคยพูดเรื่องการเมืองหลังขึ้นรับรางวัลบนเวที Golden Globes ก็โดนจิกกัดโดยอิงคำพูดที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เวลานี้ที่วิจารณ์เธอเป็นการตอบโต้ว่าเธอไม่ใช่นักแสดงที่ดี โดย จิมมี กล่าวว่า “เรายังรู้สึกเป็นเกียรติที่มีนักแสดงที่ดูเหมือนจะดีแต่จริงๆ แล้วไม่ดีอยู่ที่นี่ด้วย”
นอกจากนั้น ยังพูดถึงประเด็นดรามาเรื่องชุดของ เมอร์รีล สตรีพ กับดีไซเนอร์ชื่อดัง คาร์ล ลาเกอร์ฟีลด์ ที่ออกมาแฉว่าเธอปฏิเสธใส่ชุดของ Channel แม้ว่าจะมีการออกแบบและเริ่มเตรียมงานไปแล้ว โดยระบุว่า เมอร์รีล สตรีพ อยากใส่ชุดของดีไซเนอร์แบรนด์อื่น เพราะมีการให้เงินค่าจ้างใส่ชุดด้วย ก่อนระบุว่า เธอเหมือนจะดูแพงแต่จริงๆ แล้วไม่แพงเลย และกลายเป็นดรามาถึงขั้นต้องออกมาขอโทษกันภายหลังเมื่อรู้ว่าเป็นเพียงการเข้าใจผิด ซึ่ง จิมมี คิมเมล ก็จิกกัดใส่เมอร์รีล โดยระบุว่า “ชุดสวยนะครับ ว่าแต่ นั่นใช่ชุดของ อีแวนกา ทรัมป์ หรือเปล่า?” ก่อนจะเริ่มการประกาศรางวัลแรก
โดยมาร์เฮอร์ชาลา อาลี ก็ประเดิมรางวัลแรกกันไปด้วยการคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Moonlight ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลแล้วหลังเดินสายกวาดเรียบทั้ง SAG Awards, Critics’ Choice Award และ N.A.A.C.P. Image Award.
โดยเขาได้กล่าวขอบคุณ โดยระบุว่า “ผมอยากจะขอบคุณแฟนผมและอาจารย์ของผม ผมมีอาจารย์ที่วิเศษหลายท่านมากๆ และหนึ่งสิ่งที่พวกท่านบอกผมคือ มันไม่ใช่ตัวนาย ไม่ใช่นาย ไม่ใช่นาย แต่มันเป็นการแสดง” นอกจากนั้น เขายังได้กล่าวขอบคุณเพื่อนนักแสดง ทีมงาน และภรรยาของเขาที่เพิ่งคลอดลูกสาวคนแรกของทั้งคู่ไปก่อนหน้างานประกาศรางวัลแค่ 4 วันด้วย
และเดินสายกวาดรางวัลเช่นกันสำหรับ วิโอลา เดวิส ที่คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปครองจากบท โรส แม็กซ์สัน ในภาพยนตร์เรื่อง Fences ที่เพิ่งคว้ารางวัลนี้จากงาน Tony Awards ไปได้ไม่นานจนกลายเป็นตำนานอีกหนึ่งคนในฐานะนักแสดงแอฟริกัน-อเมริกัน คนแรกที่สามารถคว้ารางวัลไปได้หมดแล้ว ทั้ง Emmy, Tony และ Oscar ซึ่งครั้งนี้ยังถือว่าเป็นการคว้ารางวัลออสการ์ครั้งแรก หลังจากที่เธอเคยมีชื่อเข้าชิงมาแล้ว 2 ครั้งจากบทนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง Doubt เมื่อปี 2008 และชื่อเข้าชิงนักแสดงนำหญิงจากเรื่อง The Help เมื่อปี 2011
ด้านภาพยนตร์อนิเมชันปีนี้ ก็แข่งขันกันดุเดือดอีกเช่นกัน โดยตัวเต็งของปีนี้อยู่ที่ Moana และ Zootopia ซึ่งในที่สุดก็ไม่มีการพลิกโผเมื่ออนิเมชันที่ได้รับเสียงวิจารณ์ดีที่สุดอย่าง Zootopia ได้คว้ารางวัลไป
รางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ถูกจับตามองว่า จัสติน ทิมเบอร์เลก ที่ทำหน้าที่ร้องเพลง Can’t Stop the Feeling จากเรื่อง Trolls จะสามารถคว้ารางวัลไปได้หรือไม่ แต่ก็เป็นไปตามที่หลายๆ คนคาดการณ์ไว้ เมื่อ City of Stars จาก La La Land คว้ารางวัลนี้ไปครอง แม้ว่าจะไม่ได้เห็นพระ-นางขึ้นร้องเพลงนี้ด้วยตนเองบนเวที แต่ จอห์น เลเจนด์ ที่ได้แสดงในเรื่องนี้ด้วยก็มารับหน้าที่แทนพร้อมกับยกการแสดงที่คล้ายกับในภาพยนตร์ให้เกิดขึ้นจริงบนเวทีด้วย
และรางวัลใหญ่อย่าง ผู้กำกับยอดเยี่ยม ก็ตกเป็นของเดเมียน เชเซลล์ ผู้กำกับจาก La La Land ที่ตอนนี้สามารถคว้ารางวัลไปได้หลายรางวัลแล้ว
ส่วนรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ตกเป็นของ เคซีย์ อัฟเฟล็ค จากภาพยนตร์ Manchester by the Sea ที่เป็นตัวเต็งและเพิ่งคว้ารางวัลนักแสดงนำชายเรื่องนี้จากสถาบันดังมากมายทั้ง Golden Globes, BAFTA Awards และอีกหลากหลายสถาบันอย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งครั้งนี้นับเป็นการเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 2 ของเขาแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีชื่อเข้าชิงสมทบชายยอดเยี่ยมเมื่อปิ 2008 จากเรื่อง The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford โดยทันทีที่เขาเดินขึ้นเวที สิ่งแรกที่เขากล่าวคือ กล่าวขอบคุณคู่แข่งอย่าง เดนเซล วอชิงตัน ที่เป็นผู้สอนให้เขารู้จักการแสดงอย่างแท้จริง
“หนึ่งในคนแรกๆ ที่ผมอยากกล่าวขอบคุณเพราะเป็นผู้สอนให้ผมรู้ว่าต้องแสดงยังไงคือ เดนเซล วอชิงตัน และผมก็เพิ่งได้พบกับเขาคืนนี้เป็นครั้งแรก ขอบคุณครับ รวมถึงผู้เข้าชิงทุกๆ คนด้วย คุณทำงานกันอย่างดี ผมภูมิใจมากที่ได้มาอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกคุณ พวกคุณกล้าหาญและผมก็ชื่นชมในสิ่งที่พวกคุณทำมากครับ” พร้อมกันนั้น เขายังขอบคุณ เคนเนธ โลเนอร์แกน ที่ค่อยช่วยเหลือและวิจารณ์ด้านการแสดง พร้อมกันนั้น ยังยกเครดิตให้กับครอบครัวรวมถึงพี่ชายอย่าง เบน อัฟเฟล็ค ด้วย
ด้านนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมก็ไม่พลิกโผเช่นกัน เมื่อสาวผู้กวาดรางวัลมาหลายสถาบันอย่าง เอมมา สโตน ก็คว้ารางวัลไปจากภาพยนตร์เรื่อง La La Land หลังจากที่คว้ามาแล้วทั้ง BAFTA c]t Golden Globe มาแล้วเช่นกัน โดยครั้งนี้ถือเป็นการเข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเข้าชิงในสาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยมเมื่อปี 2015 จากเรื่อง Birdman or (The Unexpected Virtue of Ignorance)
ส่วนที่ทำเอาช็อกกันไปทั้งงาน เมื่อถึงการประกาศรางวัลใหญ่อย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ที่งานนี้เกิดการประกาศผิดไม่ต่างจากเวทีการประกาศผลมิสยูนิเวิร์สสุดอื้อฉาว ทึ่มีการประกาศว่า La La Land คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และในขณะที่นักแสดงและทีมงานต่างตะโกนโห่ร้องแสดงความยินดี พร้อมพาเหรดขึ้นเวทีเพื่อเตรียมกล่าวสปีช ก็ถูก วอร์เรน เบตตี ผู้เชิญรางวัลขัดจังหวะอีกครั้ง โดยกล่าวว่า เขาประกาศผิด และ Moonlight คือ ผู้ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีไปครอง ก็ทำเอาทีมนักแสดง Moonlight โห่ร้องด้วยความยินดีพร้อมกับเสียงอื้ออึงของผู้ชมที่ต่างก็อึ้งและช็อกกันไปตามๆ กัน
นับได้ว่าการประกาศผลรางวัลปีนี้มีหลายรางวัลที่แทบจะไม่พลิกโผ และเกือบจะจบไปแบบตามความคาดการณ์ของใครหลายๆ คน แต่ก็ต้องมาเซอร์ไพรส์กันตอนจบกับการประกาศผิดว่า Moonlight ภาพยนตร์ของค่าย Plan B ที่มี แบรด พิตต์ เป็นผู้บริหารสามารถคว้ารางวัลในปีนี้ไปได้ ในขณะเดียวกัน La La Land ที่เข้าชิงมากที่สุดถึง 14 สาขา ก็กวาดรางวัลไปถึง 6 รางวัล โดยสาขาใหญ่อย่าง ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ก็คว้าไปได้ทั้งหมด
และปีนี้ต้องถือว่าเป็นปีที่เปิดโอกาสให้นักแสดงที่ไม่เคยคว้ารางวัลออสการ์ หรือแค่เคยเฉียดๆ รางวัลออสการ์คว้ารางวัลกลับบ้านไป โดยทั้งนักแสดงนำชาย, นักแสดงนำหญิง, สมทบชาย, สมทบหญิง และผู้กำกับยอดเยี่ยม ต่างก็เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกด้วย
สรุปผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 89
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Moonlight
นักแสดงนำหญิง: เอมมา สโตน La La Land
นักแสดงนำชาย: เคซีย์ อัฟเฟล็ค Manchester by the Sea
ผู้กำกับ: เดเมียน ชาเซลล์ La La Land
นักแสดงสมทบหญิง: วิโอลา เดวิส Fences
นักแสดงสมทบชาย: มาร์เฮอร์ชาลา อาลี Moonlight
ภาพยนตร์อนิเมชัน: Zootopia
ภาพยนตร์อนิเมชันขนาดสั้น: Piper
ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ: The Salesman
ภาพยนตร์ขนาดสั้น: Sing
สารคดี: O.J.: Made in America
สารคดีขนาดสั้น: The White Helmets
บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม:Manchester by the Sea
บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม: Moonlight
ดนตรีประกอบ: La La Land
เพลงประกอบ: “City of Stars,” La La Land
ออกแบบเสื้อผ้า: Fantastic Beasts and Where to Find Them
ออกแบบงานสร้าง: La La Land
แต่งหน้าและทำผม: Suicide Squad
เทคนิคพิเศษ: The Jungle Book
บันทึกเสียง: Hacksaw Ridge
ตัดต่อ: Hacksaw Ridge
ตัดต่อเสียง: Arrival
กำกับภาพยอดเยี่ยม: La La Land
