“ตั้ว เสฎฐวุฒิ” เผยไม่แปลกแหกคอกมาเล่นหนังค่ายไฟว์สตาร์ บอกสัญญายังติดอยู่กับค่ายนาดาว ยันต้นสังกัดไม่ได้ห้าม และในสัญญาก็ไม่ได้เขียนว่าห้ามเล่นค่ายอื่น ลั่นที่ผ่านมาไม่ใช่นาดาวไม่ป้อนงานให้ แต่เป็นตนที่ไม่พร้อมเล่นเอง
ทำเอาหลายๆ คนงงว่าอยู่ๆ นักแสดงเลือดใหม่จากเรื่องฮอร์โมนของค่ายจีดีเอช อย่าง “ตั้ว เสฎฐวุฒิ อนุสิทธิ์” อยู่ดีๆ ทำไมโดดเล่นหนังข้ามค่ายให้กับไฟว์สตาร์ ซึ่งล่าสุดเจอเจ้าตัวในงานเปิดฉายรอบสื่อมวลชนภาพยนตร์เรื่อง SCHOOL TALES เรื่องผีมีอยู่ว่า ณ ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ หนุ่มตั้วก็เผยว่าตนสามารถรับงานข้ามค่ายได้ เพราะสัญญาของค่ายไม่ได้ห้าม
“เรื่องนี้ถือเป็นหนังที่รับเต็มตัวเรื่องแรกครับ ผมคิดว่าไม่น่าแปลกใจที่หลายๆ คนสงสัยว่ามาโดดเล่นข้ามค่าย เพราะจริงๆ สังกัดของผมคือนาดาวบางกอก จีดีเอช ซึ่งความจริงแล้วเป็นบริษัทหนังเหมือนกัน แต่นโยบายของบริษัทเราไม่ได้ห้ามว่าคุณอยู่กับนาดาวบางกอก อยู่กับจีดีเอช คุณห้ามไปรับงานข้ามค่ายนะหรือแม้แต่ไปทำโปรเจกต์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ของค่าย จริงๆ แล้วทางบริษัทของเราไม่มีนโยบายที่ห้ามครับ ผมว่าจริงๆ แล้วผู้ใหญ่ค่ายเราค่อนข้างเปิดเหมือนกันนะ เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้เลือกดูงานว่างานนี้ๆ เราอยากทำ ผมก็เลยได้มาทำงานหนังเรื่องนี้ครับ”
“ก็ไม่ได้มีกฎที่เขียนไว้ในสัญญาหรือบอกมาโดยตรงครับ แต่ผู้ใหญ่อยากให้โฟกัสว่าการที่น้องเลือกจะมาทำงานนอกค่ายเนี่ยบทบาทนั้นน้องโอเคมั้ย ถ้าน้องไปเล่นแล้วจะทำมันได้ดีหรือเปล่า หรือถ้าน้องไปเล่นแล้วจะได้เรียนรู้การทำงานด้านนี้มากขึ้นหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ผมได้มีโอกาสพิจารณางานหลายๆ งานที่มันไม่ใช่งานของค่ายเหมือนกันครับ แต่ด้วยตัวละครด้วยเนื้อเรื่องหรือคิวถ่ายหลายๆ อย่างมันอาจจะไม่ลงตัวสำหรับเราก็ยังไม่มีโอกาสทำมาก่อนหน้านี้ แล้วเจอโปรเจกต์นี้ของทางไฟว์สตาร์ก็ได้มีโอกาสอ่านบท ได้เจอกับผู้กำกับว่าตัวละครนี้จะเป็นยังไง จะทำออกมาเป็นแนวทางไหน พอคุยแล้วน่าสนใจ แล้วตั้วเองอยากทำหนังผีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้วด้วยครับ เป็นงานที่ท้าทายเหมือนกันครับ”
“ผมว่าการรับชมมันต่างกับซีรีส์ครับ คือซีรีส์เราสามารถรับชมทางโทรทัศน์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ แต่พอมาเป็นภาพยนตร์เราได้ดูที่มืดๆ จอใหญ่ๆ มันน่าจะเติมเต็มความรู้สึกต่างจากซีรีส์อยู่แล้วครับ ในส่วนของการแสดงผมว่าฮอร์โมนก็เป็นซีรีส์แนวหนังอยู่แล้วครับ เลยไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรมาก แต่จะกลัวในเรื่องของการทำงานมากกว่า แต่โชคดีที่เจอผู้กำกับดีและได้พูดคุยกับพรีม รณิดา ก็เลยทำให้ลดความกลัวไปได้เยอะเหมือนกัน”
บอกไม่เคยน้อยใจค่ายไม่ค่อยป้อนงานให้ เพราะอีกไม่นานจะได้เห็นผลงานตนแน่นอน
“ถามว่าเป็นเพราะค่ายไม่ป้อนงานด้วยมั้ย โดยส่วนตัวผมว่าทุกบทบาทมันต้องเป็นคนที่ใช่อยู่แล้ว เพราะบทมันก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะเสร็จออกมาอยู่แล้วครับ และพอมาถึงเราผมว่ามันก็น่าสนใจและเราอยากลองออกมาฝึกวิชาข้างนอกดูครับ แต่ปกติจะมีพี่ย้ง ทรงยศคอยสแกนงานให้ก่อนครับ แล้วก็มาถามความเห็นของผมว่าโอเคมั้ย ไม่มีปัญหากันครับ ยังแฮปปี้เหมือนเดิม”
“กับค่ายก็มีการคุยโปรเจกต์กันอยู่เรื่อยๆ ครับ แต่พอมีการพัฒนาบทมาเรื่อยจนถึงเวลาที่ใกล้จะถ่าย เราอาจจะติดภารกิจเรื่องเรียนหรือเรื่องอื่นๆ ก็เลยอาจจะไม่ได้ทำงานนั้น อยู่ที่ความเหมาะสมของเวลาและโอกาสมากกว่าครับ ก็คิดว่าอีกไม่นานคงได้เห็นผลงานกันครับ น้อยใจทางค่ายมั้ย ผมว่าน่าจะเป็นพี่ๆ ทางค่ายมากกว่าที่น้อยใจ (หัวเราะ) คือผมมีโอกาสได้เห็นงานที่ทางค่ายบอกมาว่าสนใจอยากให้เราทำ แต่พอเราลองเข้าไปทำแล้วผมบอกกับพี่ๆ เขาว่าผมยังไม่พร้อมที่จะทำบทบาทนี้ ก็เอาไว้เป็นเรื่องของในอนาคตดีกว่า”
