xs
xsm
sm
md
lg

ตำนานรักเด็กแว้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นประเด็นร้อน กระฉ่อนเน็ต และขยายผลสู่หน้าหนึ่ง นสพ. แทบทุกฉบับประเดิมกันตั้งแต่เริ่มต้นศักราชใหม่กันเลยทีเดียว เหตุอันเนื่องมาจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ B′ben Benchawan โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชุลมุน ขณะกำลังตบตีกับกลุ่มคนอีกฝ่าย ซึ่งในเวลาต่อมานักแสดงสาว “แพท-ณปภา ตันตระกูล” ก็ยืดอกยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปดังกล่าวจริง

"วันนั้นก็ไปเคลียร์ แต่ว่าแพทโทรแจ้งตำรวจไว้ก่อนแล้ว บอกว่ามีคนมาท้าตี วันนี้นัดไปเคลียร์ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาทำร้ายเรามั้ย เลยอยากให้ตำรวจมา เราก็ยืนรอตำรวจ แต่ระหว่างนั้นมันชุลมุนแล้ว ฝ่ายนู้นเขาก็ตบตีกัน ถ้าได้ดูคลิปจะเห็นว่า แพทบอกตลอดว่าให้หยุด อย่ารุม แต่เขาไม่ฟัง ลากพี่สาวแพทไป ทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า แล้วสุดท้ายฝ่ายนั้นกลับเป็นฝ่ายหนีไปก่อนตำรวจมาถึง ขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไปเลย”
แพทเปิดประเด็นไว้แบบนี้ โดยบอกสาเหตุเบื้องต้นว่ามาช่วยเคลียร์ให้กับหลาน ซึ่งมีปัญหากับคู่กรณีคนดังกล่าว
"แพทเป็นดารา ใช่ แต่นี่คือคนในครอบครัวแพท แพทไม่ใช่นางฟ้า แพทเป็นคน วันหนึ่งอยู่ดีๆ บ้านแพทมีปัญหา แล้วจะให้แพทนิ่งเฉยแล้วบอกว่า แพทคงไม่ช่วยเพราะแพทเป็นดารา กลัวเสียชื่อเสียงมาก ไปเคลียร์กันเองเถอะ แพทเชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจค่ะ แพทเป็นคนธรรมดา มีชีวิตจิตใจ ซึ่งฝั่งเราไม่ผิดเลย เราให้ผู้ใหญ่คุย แต่เขาท้าทาย แล้วที่แพททำ แพทไม่ใช่จะไปตีกับเขานะ แพททั้งขอโทษ ให้ผู้ใหญ่คุย แต่ทางฝั่งนู้นบอกไม่เกี่ยวกับพี่แพท แต่ทำไมเวลาไปโพสต์คุณเอาชื่อของเราไปโพสต์"
แล้วจู่ๆ ประเด็นปัญหาก็ถูกเบี่ยงไปที่ปมปัญหาเรื่องชู้สาว หลังจากที่มีการจงใจปล่อยภาพคู่ของแพทกับผู้ชาย
คนหนึ่ง ซึ่งถูกเฉลยในภายหลังว่าเป็นแฟนหนุ่มของแพท ที่เคยคบหากับหญิงสาวที่เป็นคู่กรณีมาก่อน และกลับมาคบหากันอีกครั้ง ทำให้เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา เมื่อหลานสาวของแพทเผลอไปโวยวายใส่ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ เป็นเหตุให้คู่กรณีไม่พอใจ และลุกลามกลายเป็นศึกตบสะท้านกรุงในที่สุด

ขณะที่ฝ่ายคู่กรณี “เบญ-เบญจวรรณ” ก็ให้สัมภาษณ์ด้วยใบหน้าบวมช้ำชนิดเป็นหนังคนละม้วน ยืนยันว่า ไม่ได้แย่งผู้ชาย แต่ผู้ชายกลับมาเอง

“หนูรู้ตัวว่าหนูทำอะไรอยู่ หนูไม่รู้จะตอบโต้กลับไปยังไง หนูไม่ได้ไปแย่งผู้ชายเขาเลย หนูอยู่ของหนูเฉยๆ หนูไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย และด้านผู้ชายเขาก็กลับมาคุยกับหนูเอง หนูยอมรับว่าเราเคยคบกัน แต่นั่นมันก็เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเราก็ได้เลิกกันไปแล้ว แต่เพียงแค่ว่าเขาไม่เคยรู้ว่าหนูเคยเป็นแฟนเก่าแจ็ค และแจ็คเขาก็กลับมาของเขาเอง ไม่ใช่ว่าหนูไปตื๊อหรือว่าไปง้อเขา หรือว่าหนูไปแย่งเขามาเลย แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าเขาเข้าใจผิด คิดว่าหนูไปแย่งเขามา เพราะว่าเขาทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตลอด”

ยอมรับว่าไม่พอใจที่หลานของแพทที่ใช้คำพูดหยาบคาย จึงได้นัดเคลียร์เพื่อให้เรื่องจบ ไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่องตบตี
โดยวันเกิดเหตุไปกับเพื่อน ๆ 10 คน ส่วนฝั่งแพท 30 คน แต่มีเพียงตนคนเดียวที่เข้าไปเจรจา แต่สุดท้ายกลับโดนรุมทำร้าย

แต่ที่สุดแล้วสาเหตุที่นำไปสู่การทะเลาะวิวาท หรือใครตบใครก่อน ก็ไม่มีใครสนใจมากไปกว่าเรื่องของ “ผู้ชาย” ต้นเหตุ อย่าง “แจ็ค” ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรูปสมบัติ และคุณสมบัติแล้ว ดูไม่มีจุดไหนที่ “เทียบเคียง” หรือ “คู่ควร” กับแพทซึ่งเป็นดาราที่มีชื่อเสียง คำครหาบาดหูที่ตามมา ก็คือแพทถูกคนบางกลุ่มตราหน้าว่า “ใฝ่ต่ำ”
น่าแปลกที่คนกลับไม่มองในมุมที่ว่า แพทอาจจะไม่ได้ประเมินตัวเองว่า “สูงส่ง” เกินกว่าคนเดินดินทั่วไป เพราะเธอก็เติบโตมาจากครอบครัวของชนชั้นกลาง แต่อาจจะโชคดีที่มีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ทำให้มีฐานะที่ดีขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น มีสถานภาพทางสังคมที่สูงขึ้น แต่เปลือกแท้ของเธอ ก็คือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง หาเลี้ยงมารดาที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ เธอไม่ได้มองว่าตัวเองเลอค่า ชนิดที่ไม่สามารถ “ลดตัว” ลงไปคบกับผู้ชายที่ฐานะด้อยกว่าได้ จริงๆ ต้องชื่นชมเธอด้วยซ้ำหรือเปล่า ที่เธอไม่ได้เลือกคบคนที่ฐานันดร ที่นามสกุลดัง หรือจะต้องเป็นไฮโซทายาทธุรกิจร้อยล้านพันล้าน เหมือนกับนางเอกคนอื่นๆ
และเมื่อลองไล่เรียงกับความรักครั้งที่ผ่านมาๆ ของแพท ก็เห็นว่าคนที่เธอคบก็ล้วนแต่มีโปรไฟล์ไม่ต่างจากนี้ ซึ่งเธอเองก็ยืนยันทุกครั้งว่านี่คือสเปคที่เธอชอบ

จึงเมื่อฟังคำสัมภาษณ์ที่แพทบอกว่าเป็นฝ่ายไป “แอ๊ว” แจ็คก่อน ก็ไม่ได้นึกแปลกใจอะไร เพราะโปรไฟล์อย่างแจ็ค ก็คงจะไม่กล้าเป็นฝ่ายเดินเข้ามาจีบแพทแน่นอน

เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของสไตล์ใคร สไตล์มัน เป็นรสนิยมส่วนบุคคลที่คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วง และที่สำคัญก็ดูจะสอดคล้องกับคาแรกเตอร์ห้าวๆ ลุยๆ ออกแนวใจถึง พูดอะไรตรงๆ ออกจะโผงผางๆ ของแพทดีด้วยซ้ำไป

ในมุมของแจ็ค การที่เขาตัดสินใจหันหลังให้ผู้หญิงโปรไฟล์หรู เพื่อกลับไปคบกับแฟนเก่า ซึ่งต้นทุนในชีวิตไม่มีอะไรเทียบแพทได้เลยในทุกๆ ด้าน ก็ไม่น่าจะมีสาเหตุอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากไปกว่า การอยากจะมีตัวตน อยากมีพื้นที่ยืนอย่างองอาจในสังคม ตามวิถีของผู้ชายที่คงไม่มีใครอยากมีชีวิตอยู่ใต้ชายกระโปรงของผู้หญิงไปตลอด
การคบกับแพท แม้จะยืดอกได้ว่ามีแฟนเป็นดารา แต่ก็ผยองได้ไม่เต็มภาคภูมิ เพราะยังไงก็คงหนีไม่พ้นครหาเกาะผู้หญิงกิน การถูกมองอย่างดูแคลน กลายเป็นประเด็นที่สร้างความกดดันให้เขามาตลอด เมื่อถึงจุดที่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว การบอกเลิกกับแพท เพื่อกลับไปหาแฟนเก่า ที่หน้าตา และสถานะทางสังคมทัดเทียมกัน จึงน่าจะเป็นทางออกที่ลงตัวที่สุด
เรื่องนี้ก็ต้องให้ความยุติธรรมกับแจ็คด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าเขาตั้งใจที่จะมาฉกฉวยผลประโยชน์จากแพท หรือภาษาบ้านๆ ก็คือ “หลอกแ-ก” เหมือนอย่าง “หาญกล้า” ในละคร “ไฟล้างไฟ” จริงๆ แล้วล่ะก็ เขาก็คงยอมทิ้งศักดิ์ศรีไว้ที่ปลายเตียง ยอมให้คนมองอย่างเย้ยหยัน เพราะคิดว่าเขาเป็นคนขับรถของแพท แลกกับการได้อยู่อย่างสุขสบาย มีแฟนสวย รวย และเป็นฝ่าย “ซัพพอร์ต” ชีวิตเขาได้อย่างเต็มที่ คงไม่ยอมละทิ้งบ่อเงินบ่อทองไปไหนง่ายๆ แน่
ความรักของ “ดอกฟ้ากับหมาวัด” ที่มีให้เห็นกันกลาดเกลื่อนในละคร ทุกคนล้วนเอาใจช่วย “หมาวัด” ให้สมหวัง ในขณะที่ “ดอกฟ้า” ก็มีแต่คนชื่นชม ที่บูชาความรักเหนือเงินตรา แต่ความรักของ “นางเอกกับเด็กแว้น” ในชีวิตจริงกลับตรงกันข้าม นางเอกถูกตราหน้าว่า “ใฝ่ต่ำ” ส่วนเด็กแว้น ก็ต้องถูกสังคมมองอย่างดูถูกว่าเกาะชายกระโปรงผู้หญิง แทนที่เรื่องจะจบแบบ Happy Ending แบบในละคร ก็เลยเอวังตามที่เป็นข่าว ยิ่งเมื่อมีบรรดา #ทีมแพท เข้ามาผสมโรงด้วย เรื่องก็ยิ่งเข้ม ยิ่งแซ่บเข้าไปใหญ่
สังคมอาจจะไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้ แต่คู่กรณีทั้ง 2 ฝั่งได้ไปเต็มๆ แพทก็กลายเป็นดาราที่มีกระแสมากขึ้น ส่วน คู่ของแจ็คกับเบญ ก็กลับมามีพื้นที่ยืนของตัวเอง และก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีตัวละครสำคัญอีกตัว นั่นก็คือ “นาฟ” หลานสาวของแพท ที่มีคนรู้จัก และเห็นหน้าค่าตากันทั้งประเทศแล้ว ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะได้เข้าวงการตามรอยแพทในเร็ววัน
ฉะนั้นแล้ว อย่าไปเดือดร้อนกับเรื่องนี้ให้มากนักเลย

ที่มานิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 322 9-16 มกราคม 2559




















กำลังโหลดความคิดเห็น