xs
xsm
sm
md
lg

"ประวีณมัย" พร้อมร่วมงานผู้บริหารใหม่ "ไอทีวี"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ประกาศข่าวสาว "ตาล ประวีณมัย" เผยยังไม่รู้สึกกระวนกระวายใจอนาคตของต้นสังกัด "ไอทีวี" เจ้าตัวบอกพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้บริหารใหม่แต่ต้องดูรูปแบบและแนวทางก่อน ด้านผู้จัดหน้าใหม่ "สุกี้" ที่เตรียมออกอากาศรายการเรียลิตี้ของตนเอง 6 มีนาคม แสดงความมั่นใจแก้ปัญหาได้แน่ หากถึงวันนั้นไม่มี "ไอทีวี" จริงๆ

ทำท่าว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอนาคตอันไกล้อย่างแน่นอนแล้วสำหรับสถานีโทรทัศน์ "ไอทีวี" ภายหลังจากการออกมาแถลงข่าวในช่วงเย็นที่ผ่านมาของวันนี้(27)จากนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) ระบุว่าไอทีวีพร้อมให้ความร่วมมือในการที่รัฐจะให้หน่วยงานใหม่เข้ามาใช้สถานที่ และอุปกรณ์เพื่อออกอากาศสถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟอย่างต่อเนื่อง หากสำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) บอกยกเลิกสัญญาสัมปทาน เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าปรับและค่าสัมปทานส่วนต่างราวแสนล้านบาทได้ทันเส้นตายที่กำหนดไว้ในวันที่ 6 มี.ค.2550

นอกจากในส่วนทรัพย์สินที่ไอทีวีจะส่งมอบให้รัฐแล้ว ภาระความรับผิดชอบต่างๆ หลังจากที่บริษัทหมดใบอนุญาตแล้วจะเป็นของสปน.ทั้งสิ้น อาทิ การเช่าอาคารที่ทำการ การเช่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เฮลิคอปเตอร์ ดาวเทียม ขณะที่ในส่วนของพนักงาน บริษัทคงต้องเลิกจ้างและจ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงานตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามทางพนักงานเองก็สามารถที่จะเซ็นสัญญาว่าจ้างกับหน่วยงานใหม่ที่ สปน.จะจัดขึ้นต่อไปด้วย

ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาต่างๆ จะมีการหารือในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 20 มี.ค.อีกครั้ง...

เกี่ยวกับเรื่องราวความเคลื่อนไหวดังกล่าว เมื่อสอบถามไปยังคนในอย่าง "ตาล ประวีณมัย บ่ายคล้อย" ผู้ประกาศข่าวสาวเจ้าตัวก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายใจมากนักกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะยังไม่รู้ว่าในท้ายที่สุดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเป็นเช่นไร?..."ยังอ่านข่าวอยู่เหมือนเดิมค่ะ ทำทุกอย่างเหมือนเดิม คือที่จริงตอนนี้ระดับพนักงานก็ยังไม่ทราบอะไรมาก ผู้บริหารเองก็ยังไมได้บอกอะไรชัดเจน เพราะเราก็ติดตามจากสื่อต่างเหมือนกัน เราก็ไม่ได้รู้อะไรมากมายขนาดนั้น"

"ส่วนตัวตาลไม่ได้กระวนกระวายใจอะไรมากมายนะคะ งานมันมีเดิมน่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าพอแล้วหยุดทำ ทุกคนยังเต็มที่น่ะค่ะ ตอนนี้รอดูกันว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เท่านั้นเอง เราก็ทำงานกันเต็มที่นะคะ เหมือนเดิมนะคะ เพราะไม่รู้ว่ารูปแบบการเข้ามาบริหารในวันข้างหน้าจะออกมาอย่างไร ถึงแม้ว่าวันนี้รู้มติครม. แต่ยังไม่รู้ว่ารูปแบบที่ออกมาเป็นอย่างไร"

เผยตอนนี้ยังไม่คิดที่จะไปไหนและพร้อมที่จะร่วมงานกับผู้บริหารใหม่ที่จะเข้ามา แต่ต้องหลังจากที่ได้พิจารณารูปแบบและแนวทางแล้ว
"ตอนนี้คงยังน่ะค่ะ เพราะว่ารัฐบาลรับปากว่าพนักงานจะไม่เดือดร้อน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็คงยังไม่ไปไหน ยังทำงานเหมือนเดิม เราทำข่าวน่ะค่ะ ข่าวมีทุกวันเราหยุดไปคนดูก็ไม่ได้รับข่าว รอบทสรุปก่อนว่ามันคืออะไรตาลกะว่าทำไปจนมีข้อสรุปก่อนว่าอย่างไร ถ้าพนักงานไม่สะเทือนเราก็รอดูท่าที ผู้บริหารใหม่จะมีแนวทางอย่างไร"

"เราเป็นสื่อน่ะค่ะ มันก็ต้องทำงานต่อไป แต่บางคนตอนมีข่าวความไม่แน่นอนของช่องมันก็มีบ้างนะคะที่ต้องหาทางออก เป็นเรื่องธรรมชาติที่ก็มีคนหาที่หาทางออกกัน เรือจะล่มแล้วก็หาทางไป แต่ตัวเองยังไม่ได้คิด ตาลจะรอดูจนกว่าองค์กรจะเปลี่ยนไป ดูนโยบายว่าเป็นอย่างไรก่อน"

"ไอทีวีจะเปลี่ยนแปลงแบบไหน อันนี้ตอบไม่ได้เลยค่ะ เพราะต้องดูว่าใครจะเข้ามา ต้องรอดูนโยบายของเขาก่อน มันต้องดูว่าใครเข้ามา ใครบริหารว่าเขาอยากให้เป็นมั้ยซึ่งตอนนี้ข่าวเรามี 70%...ใจจริงเลยนะ ถ้าไม่ถูกแทรกแซงเลย แล้วมันเป็นทีวีสาธารณะได้จริง คนทำงานก็อิสระกันจริงๆ ไม่โดนแทรกแซงจากกลุ่มนักการเมืองหรือกลุ่มทุน ก็คงจะดี แต่ไม่รู้ว่าในโลกของความเป็นจริงมันจะเป็นไปได้มั้ย"

ด้าน “สุกี้ กมล สุโกศล แคลปป์" ที่ขอทิ้งงานดนตรีชั่วคราวเพื่อมาเป็นผู้ผลิตรายการทีวีซึ่งเพิ่งจะมีการเปิดตัวรายการเรียลิตี้ โชว์ รูปแบบใหม่ "Dream Chaser" กับการเดินทางรอบโลกด้วยการขี่จักรยานยนต์ไปพร้อมกับการทำกิจกรรมแขกรับเชิญ อาทิ ผู้เป็นมารดาของตนเอง "กมลา สุโกศลฯ, พระเอกหนุ่ม "อนันดา" รวมถึงเพื่อนรักอย่าง บอย โกสิยพงษ์ ฯ ไปในช่วงบ่ายของวันนี้(27)

โดยรายการที่ว่ามีกำหนดออกอากาศทุกๆ วันอังคาร เวลา 5 ทุ่มตรงทางไอทีวี เริ่มตอนแรกวันที่ 6 มีนาคม 2550 (จำนวน 12 ตอน) ซึ่งทางเจ้าตัวก็ได้พูดถึงอนาคตของทางช่องไอทีวีที่จะไปร่วมงานด้วยโดยบอกว่า ณ. เวลานี้ตนยังไม่ได้คิดไกลไปถึงอนาคต แต่เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างนั้นในท้ายที่สุดมันจะมีทางออกของตัวมันเอง

"ในมุมมองของผม ผมจะไม่ไปเครียดกับสิ่งที่ผมคอนโทรลไม่ได้ หน้าที่ของผมคือการทำรายการให้ดีที่สุด ทำอย่าไรให้สปอนเซอร์แฮปปี้ คือวางแผนในส่วนของเราเท่านั้น อะไรที่มันเป็นส่วนของทางสถานีของไอทีวีผมจะไม่ไปยุ่งตรงนั้น"

"ผมก็ต้องแก้ปัญหาตรงจุดนั้นของผม ถ้าถึงตอนนั้นไอทีวีไม่มีแล้ว ปัญหาหลักก็คือผมก็ต้องไปหาทางแก้ แต่จากประสบการณ์ผมตั้งแต่ผมเริ่มทำงานมา ทุกอย่างมีคำตอบหมด มันไม่มีวันที่จะจนมุมหรือทำอะไรไม่ได้หรอก ถ้าจะให้ผมตอบตรงๆ ผมยังไม่อยากตอบอะไรตรงนี้ เพราะว่ามันยังไม่เป็นถึงจุดนั้น และตอนนี้ผมก็ยังไม่อยากที่จะพูดอะไรออกไปครับ"
กำลังโหลดความคิดเห็น