ไดมอนด์อายส์ ตา-สัมผัส-ผี 2 ตอนที่ 2 : นางเอก ไลฟ์สดฆ่า “ผัว”!
ชื่อสากล :Diamond Eyes 2
บทโทรทัศน์ : สายขิม
ที่มหาวิทยาลัย นักศึกษา 2 คนกำลังพูดถึงคลิปหนึ่งอยู่
นักศึกษา1 ถาม “นี่ๆแกดูคลิปนี้ยัง”
“ไหน”
“คลิปที่ผู้หญิงโดดตึกฆ่าตัวตายอะ โคตรโหดอ่ะ”
นักศึกษา 2 บอก “ในข่าวเขาว่าเป็นดาราในสังกัดของเอวานี่”
“เอวาอะนะ นางอะเอาเด็กในสังกัดให้ผัวกินตลอดเลย”
“ทำตัวแย่มากเลยอ่ะ”
ระหว่างนั้นเอมิเดินเข้ามาในวงสนทนาบ้าง
“หืม...เม้าท์เก่ง งานจะเสร็จไหม”
นักศึกษา 1 โดนขัดจังหวะ “ไปก็ได้”
ทุกคนลุกออกโต๊ะ กำลังเดินมุ่งหน้าไปทำงานกลุ่ม
ซินเข้ามา “เอมิจ๋า”
“มาทำอะไรหรอ”
ซินพูดยิ้มๆ “พี่ก็มารับเอมิกลับบ้านไงจ๊ะ”
“อื้ม... อย่าบอกนะว่ารถขนศพอ่ะ”
“ใช่จ๊ะ แต่ว่าเขารีบอ่ะ”
“เอาดีดี มีอะไรบอกมา”
“พอดีเขามีคำถามนิดหน่อยอ่ะ ลุงของเอมิมองเห็นผีเหมือนแม่เอมิใช่มะ”
“นี่ก็อีกคน จะยุ่งเรื่องของคนอื่นทำไมเนี่ย”
“ใช่มะ” ชินถามอีกครั้ง
“ไม่รู้อะ อยากรู้ก็ถามลุงเองดิ”
“ก็ถามแล้ว แต่ไม่ตอบอะ”
“ก็ลุงไม่อยากตอบไง” เอมิว่า
“ถามให้หน่อยนะ”
“เดี๋ยวถามให้ก็ได้ แต่เดี๋ยวไปทำงานกับเพื่อนก่อนนะ”
“แล้วเขาอะ”
“ไม่รู้”
เอมิเดินจากไป ปล่อยให้ซินยืนอยู่แบบเก้อๆ
วันเดียวกัน ภายในบ้านแสนแสบ ตอนกลางวัน
แสนแสบนอนหลับอยู่ วางมือถืออยู่บนหัวเตียง
ที่มือถือ ในไลน์มีเสียงเข้าแบบรัวๆ เสียงดังตึ๊งๆๆต่อเนื่อง
แสนแสบตื่นนอนเพราะเสียงจากมือถือนี่แหละ เขารีบตะปบหามือถืออย่างงัวเงีย บ่นฮุบ
“ข้อความอะไรวะเนี่ย ถ้าขายประกันขายครีมนะมึง ก็จะแฉลงบล็อก”
แสนแสบหยิบมือถือมาดู ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าจากหน้าเหวี่ยงๆเป็นตื่นเต้นปนอึ้ง
แสนแสบเปิดดูรัวๆ กระหยิ่ม
“ดังเป็นพลุแน่ บล็อกแสนแซ่บ”
แสนแสบตื่นเต้น เด้งลุกขึ้นแต่งตัวทันที
ที่โต๊ะทำงานจ่าวาว หน่วย DEI วาวพยายามแฮคหาที่มาการอัพเฟสบุ๊กของมาร์คอย่างสงสัย
หมวดสารินเดินผ่านมา เห็นว่าหน้าจอวาวเป็นเฟสบุ๊ค เท้าเอวมอง
“เล่นเฟสบุ๊กในเวลาทำงาน มันใช่มั้ยเนี่ยคุณนักสืบวาว”
จ่าวาวหันมองสารินอย่างหมั่นไส้ “ก็นี่แหละทำงานค่ะ”
“ยังจะเถียง ก็เห็นอยู่ว่าคุณส่องเฟสบุ๊กผู้ชาย”
วาวหันหน้าจอให้ดู ให้เห็นชัดๆว่าดูเฟสบุ๊กของมาร์คอยู่
“นี่หน้าเฟสบุ๊กของมาร์คสามีคุณเอวาค่ะ”
“แล้ว? คดีจบแล้วนี่ เราติดตามคนหาย เค้าก็แสดงตัวแล้วว่าอยู่ที่ไหน ไม่ได้หายตัว”
วาวย้อนถาม “นี่หมวดคิดงั้นจริงๆเหรอคะ ?”
“ก็ผมบอกแต่แรกแล้ว ว่ามันคดีแค่สามีหนีพากิ๊กเที่ยว ไม่มีอะไรซับซ้อน นายมาร์คก็สายนี้อยู่แล้ว”
“แต่ฉันว่าไม่ใช่ มีบางอย่างน่าสงสัย”
หมวดสารินฉงน “น่าสงสัยยังไง”
จ่าวาวคลิกรูปให้ดู รูปล่าสุดก่อนที่จะมีรูปอัพเดทวันนี้ของมาร์ค แล้วไม่บอกหมวดริน
“หมวดลองดู นี่เป็นรูปอัพเดทล่าสุดไม่กี่วันก่อนนายมาร์คหายตัวไป ซึ่งเป็นเวลาจริง เห็นทรงผมเค้ามั้ยคะ”
หมวดสารินมองตาม พยักหน้างงๆว่า วาวหมายความว่าไง วาวคลิกรูปล่าสุด
“แล้วนี่ รูปที่อัพวันนี้ ห่างกันไม่กี่วัน แต่ผมยาวกว่าเดิมมาก เวลาแค่นี้ไม่มีทางที่ผมคนเราจะยาวได้เป็นนิ้วขนาดนี้หรอก ฉันว่ารูปนี้ไม่ได้เพิ่งถ่ายเวลาปัจจุบันแน่นอน”
หมวดสารินคล้อยตามเริ่มเห็นด้วย และชื่นชมอยู่ในทีกับตำรวจสาวรุ่นน้องคนนี้ แต่ก็เขินที่จะชม “อืม มีประเด็น...คุณนี่หูหมาตาแมว กว่าที่คิดนะเนี่ย”
จ่าวาวหันขวับทันที “นี่หมวดชมหรือด่าฉันเนี่ย”
“ชมดิ...เนี่ย ชมแล้ว”
จ่าวาวมองอย่างไม่ไว้ใจ
ภายในหน่วย DEI ซินยังถามแดน...พ.ต.ท. แดเนียล อย่างสงสัย
“ตกลงคุณไม่เห็นแน่นะครับ”
“ก็บอกไปแล้วว่าไม่เห็นจะมาจับผิดอะไรกัน”
“อ๋อ...เปล่าหรอกครับ งั้นผมขอบอกในสิ่งที่ผมเห็นละกัน ผมเห็นวิญญาณนิดา ตามติดคุณเอวาแทบจะขี่คอ”
“แล้วไง”
“ไม่แปลกหรอครับ ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลาย แต่พอเห็นหน้าคุณเอวา นิดาก็สติแตกกระโดดลงมาซะงั้น แถมวิญญาณก็ตามติดขนาดนี้”
“แล้วไงต่อ” แดนถาม
“ผมว่าเรื่องการหายตัวไปของสามีคุณเอวา กับการตายของนิดาน่าจะเกี่ยวกัน”
แดนประชด “สันนิษฐานเป็นตุเป็นตะ นายนี่ไปเรียนตำรวจดีกว่ามั้ง”
“ครับผม”
“แต่ตอนนี้นายไม่ใช่ อย่ามายุ่งได้ไหมมันอันตราย” แดนว่า
จ่าวาวโผล่เข้ามาในห้อง
“ท่านรองคะ เฟสบุ๊กของนายมาร์คมีการอัพเดทล่าสุดคะ”
จ่าวาวส่งแท็บเล็ตให้แดนเนียลดู
ภายในห้องแถลงข่าวของมูลนิธิเพื่อนสตรี
ท่ามกลางบรรยากาศงานแถลงข่าวงาน “ต่อต้านการใช้ความรุนแรงและคุกคามทางเพศต่อสตรี”
เอวานั่งอยู่บนเวทีจัดโต๊ะให้สัมภาษณ์ มีพิธีกรหญิงนั่งตรงกลาง อีกข้างเป็นเหยื่อที่โดนกระทำ เหยื่อผู้นั้นใส่หมวกแก๊บพรางหน้า
พิธีกรถามเอวาเรื่องการรณรงค์ที่เอวาเข้าร่วมทุกปี
“ในฐานะที่คุณเอวา เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับทางมูลนิธิต่อเนื่องมาหลายปี อยากให้คุณเอวาพูดถึงความสำคัญในเรื่องการใช้ความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงหน่อยค่ะ”
เอวายิ้มเย็นๆ ก่อนจะตอบอย่างจริงใจ
“ผู้หญิงเป็นเพศแม่ค่ะ ไม่ใช่วัตถุทางเพศที่ใครจะใช้การมองความอ่อนแอเป็นจุดอ่อนของเราเพื่อหาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะผลประโยชน์ทางกาย หรือผลประโยชน์ในเชิงเห็นเป็นสินค้าไว้ขายทอดตลาด คนที่ทำแบบนั้นได้ เราไม่ควรให้ค่าแม้แต่เรียกคนประเภทนั้นว่า”คน”ด้วยซ้ำ
“ใช่ค่ะ..ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น กว่าขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมจะสิ้นสุด คนที่บอบช้ำที่สุดก็เป็นเหยื่ออยู่ดี เราถึงต้องปลูกจิตสำนึกในการให้เกียรติเพศแม่กับคนรุ่นใหม่”
“บางทีมันอาจจะให้เวลานานเกินไป ดิฉันถึงอยากรณรงค์เรื่องกฏหมายที่เพิ่มโทษเกี่ยวกับคดีทางเพศให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเรา”
“ถูกต้องค่ะ อย่างกรณีตัวอย่างของเราวันนี้ คือผู้หญิงที่โดนกระทำต่อเนื่องยาวนานนับสิบปีจากคนใกล้ชิด แต่ไม่มีใครช่วยเธอได้เลย”
พิธีกรหันถามเหยื่อเกี่ยวกับการโดนทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดจากพ่อของเหยื่อ หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่โดนกระทำและเก็บงำไว้กว่า 10 ปี
“อยากให้น้องฟ้า นามสมมติเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องฟ้าบ้างคะ”
น้องฟ้าก้มหน้าพูดเสียงเศร้า
“เค้าเป็นพ่อแท้ๆของหนูเองค่ะ คนที่เราไว้ใจและเทิดทูนที่สุด”
เอวาอึ้ง เริ่มมือสั่น เสียงสัมภาษณ์ยังคงดำเนินไป แต่เหมือนเอวาเข้าไปอยู่ในภวังค์ เสียงเล่าของเหยื่อเป็นเพียงแบล็คกราวน์ไกลๆ
ภาพในภวังค์อดีต ...
เอวา และมาร์คในชุดแต่งงาน แววตาทั้งคู่รักและเทิดทูนกันมาก กำลังเอ่ยคำสาบานจับมือกัน
“ผมจะรักดูแล ให้เกียรติเทิดทูนผู้หญิงคนนี้ด้วยชีวิตของผม”
เอวายิ้มมีความสุข “ฉันจะไว้ใจ เชื่อใจ เทิดทูนผู้ชายตรงหน้าด้วยชีวิตของฉัน”
เสียงสัมภาษณ์เหยื่อของพิธีกรยังคงดังต่อเนื่อง เหมือนเตือนเอวาให้หลุดจากภวังค์
ภายในบรรยากาศงานแถลงข่าวงาน “ต่อต้านการใช้ความรุนแรงและคุกคามทางเพศต่อสตรี” ของมูลนิธิเพื่อนหญิง ที่มีผู้สนใจจำนวนไม่น้อย รวมถึงสื่อมวลชน
เสียงสัมภาษณ์ค่อยๆกลับมาชัดขึ้น
พิธีกรถาม “เกือบ 10 ปีที่โดนข่มขืนและตบตี อะไรคือเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดคะ”
น้องฟ้าเอ่ยเสียงสั่น “ฉันท้องค่ะ เค้าเอาไม้หน้าสามตีท้องเพื่อให้แท้ง”
พิธีกรตกใจ “ห๊า...”
เอวายิ่งอึ้งเมื่อได้ยิน มือสั่น น้ำตาเริ่มไหล
“ถึงเค้าจะเป็นลูกที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่หนูก็รักลูกนะ” น้องฟ้าเล่า น้ำตาไหล
“เข้าใจค่ะ สัญชาติญาณความเป็นแม่จะเริ่มต้นทันทีที่รู้ว่ามีลูก” พิธีกรหันไปมองเอวา “คุณเอวาก็เคยเสียลูกไปใช่มั้ยคะ ถึงจะแท้งธรรมชาติเพราะไม่แข็งแรงแต่อยากให้พูดถึงความรู้สึกตอนนั้น”
เอวาเริ่มเวียนหัว เหงื่อออก เหมือนโนจี้เรื่องที่เธออยากลืม ภาพทุกอย่างดูเบลอๆ
พี่บี ผู้จัดการเอวาที่นั่งอยู่หน้าเวทีในรพดับใกล้มาก เริ่มเห็น พลางกระซิบถาม
“น้องเอวาเป็นอะไรมั้ยคะ น้องเอวา”
“เอ่อ...คือ...”
เอวากระสับกระส่ายเหมือนจะอาเจียนทนไม่ไหว อยู่ๆก็วิ่งลงเวทีไป ทุกคนเหวอ พี่บีวิ่งตามไป
เอวา รีบวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ ล็อกห้อง
ข้างในห้องน้ำ เอวายืนมองตัวเองที่หน้ากระจกหน้าห้องน้ำ ตัวสั่นเทิ้มไปหมด
เอวาเครียดเหมือนจะอาเจียนแต่อาเจียนไม่ออก เหงื่อแตกเต็มไปหมด เอวามือสั่น เสียงจากฉากที่แล้วดังเข้ามา ...
เสียงน้องฟ้าเล่ายังตามมาหลอน “เค้าเอาไม้หน้าสามตีท้อง”
ภาพหลอนเกิดกับเอวาเหมือนปวดท้องมาก มองเห็นตัวเองเลือดไหลเต็มขาไปหมด เอวาถลาถอยไปนั่งมุมห้อง
เอวารีบเปิดกระเป๋า หยิบขวดยาขึ้นมาเทใส่มือ ใส่เข้าปากรองน้ำกินเข้าไป
เอวาเริ่มสงบลง แต่พอเงยหน้ามองกระจก สายตาเอวาที่มองตัวเองในกระจกเปลี่ยนเป็นกร้าวเหมือนเป็นคนละคน ไม่เหมือนคนที่ตื่นกลัวเมื่อกี๊สักนิด!
ต่อเนื่องมา เอวากำลังพิมพ์ข้อความแชทคุยกับใครบางคน !
คืนนั้น ... แสนแสบเปิดคอมพิวเตอร์รอ ข้อมูล คลิป จาก แอคเคาน์หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “Evil”
เขาดาวน์โหลดและ โพสคลิปลงเพจแสนแสบ
วันต่อมา ในห้องแถลงข่าวของช่องโมโน นางเอกเอวาเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งของช่อง ให้สัมภาษณ์น้ำตาคลอ มีไมค์นักข่าวตั้งข้างหน้าหลายช่อง
เอวา กำลังตอบคำถาม
“ตลอดเวลาเกือบ 20 ที่รู้จักกันมา มาร์คเป็นสุภาพบุรุษ เป็นสามีที่แสนดี เอาใจใส่และให้เกียรติเอวาตลอด เอวาเองก็ไม่อยากจะเชื่อจริงๆค่ะ ว่าเบื้องหลังของเค้ามีด้านที่น่ากลัวขนาดนี้”
นักข่าว1 ถาม “คุณเอวา ไม่ระแคะระคายบ้างเลยเหรอคะ”
“ไม่เลยค่ะ ทุกอย่างตรวจสอบได้นะคะว่า เอวาไม่ทราบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของมาร์คเลย ไม่ว่าจะบัญชีธนาคาร หุ้นส่วนทางธุรกิจ เราให้เกียรติกัน ไม่เคยก้าวก่ายหรือเกี่ยวข้องเรื่องงานกันเลย”
นักข่าว 2 ถามต่อ “พอเรื่องแดงขึ้นมาอย่างนี้คุณเอวาจะจัดการยังไงต่อไปครับ”
เอวาพยายามระงับความเศร้า
“ทุกคนก็รู้เอวา เป็นพรีเซนเตอร์เรื่องการรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงทางเพศมาตลอด ความรักความผูกพันระหว่างสามีภรรยากับความถูกต้อง เอวาแยกแยะได้ เอวาจะขอหย่าค่ะ”
นักข่าว3 ถาม “แต่ตอนนี้คุณมาร์คหนีออกนอกประเทศไปแล้วนี่คะ”
“ใช่ค่ะ เอวาก็เพิ่งรู้พร้อมทุกคนว่าที่เค้าหายตัวไป ก็เพื่อหนีความผิดนี้ ที่เหลือเอวาคงให้ทนายส่วนตัวเป็นคนจัดการ เพราะเอวาคงรับไม่ได้จริงๆที่จะอยู่ในฐานะภรรยาของคนจิตใจ
โหดร้ายอย่างเค้า” เอวาร้องไห้เบาๆ ก่อนบอก “เอวา...ขอตัวก่อนนะคะ เกิดเรื่องร้ายๆมากเกินกว่าเอวาจะรับไหวแล้วจริงๆ”
นักข่าวทุกคนมองเอวาอย่างเห็นใจ นางเอกแสนดีขวัญใจทุกคนดูช่างบอบช้ำ
พี่บีเข้ามาประคองเอวาที่ร้องไห้ออกไป ทุกคนมองตามอย่างสงสาร
หมอก้อยเดินผ่านแผนกจิตเวชของโรงพยาบาล เห็นว่าเอวาเพิ่งออกมาจากแผนกนี้
หมอก้อยเข้าไปทัก เอวาอึ้งๆนิดนึง เพราะไม่คิดว่าจะเจอใคร
“สวัสดีค่ะคุณเอวา”
ที่มหาวิทยาลัย แสนแสบกำลังโดนนักศึกษาสาวๆรุมขอถ่ายรูปด้วย
ซินนั่งมองอยู่ใกล้ๆกัน
“ไอ้คลิปเบื้องหลังหนัง AV พี่มาร์ค ทำโฆษณาเข้าเพจแสนแสบเพียบ นี่ว่าจะเอาเงินไปซื้อรถซูเปอร์คาร์”
เอมิเดินเข้ามาพอดี
“งั้นหนูขอสมัครเป็นตุ๊กตาหน้ารถด้วยคนนะ เพราะหนูเบื่อจะนั่งรถขนศพแระ”
“พี่ว่านะ ถ้าได้อีกซัก 2 -3 คลิปนะ เดี๋ยวพี่ซื้อรถแจกเลยคนละคันดีไหม”
“เฮ้ยพี่แสนแสบ พี่ไปเอาคลิปของผู้กำกับมาร์คมาได้ไง” เอมิถาม
“อ๋อ ก็มีอีเมล์ลึกลับส่งมาให้พี่”
“เฮ้ยพี่ ไม่คิดบ้างหรอ จะมีคนหลอกใช้พี่”
“นั้นอะดิ ผมไปลองคิดคิดดูแล้ว สิ่งที่พี่ทำมันผิด พรบ. คอมพิวเตอร์ ข้อหาโพสสิ่งลามกอนาจาร”
“โอ้ย..ใครจะกล้าจับพี่ คนอย่างพี่นะ ไม่เคยกลัวตำรวจ”
ตำรวจ 2คน ยืนอยู่ด้านหลังแสนแสบ
ตำรวจ 1 ถาม “ ไม่กลัวแน่นะ”
ต่อมาที่ห้องประชุม หน่วย DEI
ที่หน้าจอคอม แสนแสบกำลังเปิดอีเมล์ลึกลับที่ส่งภาพลับของมาร์คมาให้ในตำรวจดู โดยมีจ่าวาวพยายามแฮ๊คหาข้อมูลที่มาอยู่ หมวดสารินบีบไหล่แสนแสบกึ่งขู่กึ่งปลอบให้พูดความจริง
“ผมไม่รู้จริงๆครับหมวด ตรวจสอบได้เลย ผมก็เพิ่งรับเมล์จากชื่ออีเมล์นี้เป็นครั้งแรก อยู่ๆก็ส่งไฟล์รูปมารัวๆ”
“มีการเตรียมการมาอย่างดี เพราะทุกภาพในไฟล์เบลอหน้าผู้หญิงทุกคนไว้หมด ไม่ใช่แค่ภาพหลุดมาแน่ๆ แล้วก่อนหน้านี้ มีเบอร์แปลกๆ อะไรโทร.เข้ามาก่อนบ้างรึเปล่า”
“ไม่มีเลยครับหมวด อยู่ๆรูปก็มาเป็นชุดแบบนี้ ไม่มีกระทั่งข้อความ”
“ตรวจสอบได้แล้วค่ะ...อีเมล์เพิ่งสร้างใหม่ๆในวันที่ส่งเลย ไม่เคยส่งออกให้ใครเลยด้วย เหมือนสร้างมาเพื่อจะส่งให้แสนแสบคนเดียว” จ่าวาวบอก
“แล้วส่งจากที่ไหน?”
“ร้านอินเตอร์เนตคาเฟ่ ชานเมืองค่ะ”
“งั้นผมว่า เราไปดูกันดีกว่า”
ทางด้านโรงพยาบาล เอวา พยายามนิ่ง พูดเสียงปกติ
“สวัสดีค่ะหมอ”
หมอก้อย มองถุงยาในมือเอวา ยิ้มให้กำลังใจ
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ดิฉันเข้าใจค่ะ มีเรื่องเครียดๆนิดๆหน่อยๆ บางทีดิฉันเองก็คุยกับจิตแพทย์เหมือนกันนะคะ แล้วสิ่งคุณเอวาเผชิญในระยะสองสามวันมานี่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจให้สงบได้ ดีแล้วล่ะค่ะ”
เอวายิ้มตอบ
“ขอบคุณนะคะ ที่เข้าใจ ปกติเอวาฝึกสติให้รู้ทันใจที่สุขทุกข์มาตลอด แต่ยอมรับจริงๆค่ะ ว่าเอาไม่อยู่ ไม่เคยต้องถึงกับพบจิตแพทย์แบบนี้เลย”
“ไม่แปลกเลยค่ะ ดิฉันกับแฟนคลับคุณเอวาทั้งประเทศเป็นกำลังใจให้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ งั้นเอวาขอตัวก่อนนะคะ”
เอวาค้อมตัวก่อนเดินไป หมอก้อยมองตามอย่างสงสาร
ในห้องมืดๆ เอวาเปิดประตูเข้ามาห้องห้องหนึ่งในบ้าน
เอวาเปิดไฟ ...เห็นว่าห้องนี้ตกแต่งเป็นห้องเด็ก มีทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว
เอวาเดินดูรอบๆน้ำตาเริ่มไหล
เอวาเห็นภาพตัวเองในอดีต ...ใส่ชุดคลุมท้องอ่อนๆ เดินจัดห้องมุมโน้นมุมนี้อย่างมีความสุข
ซ้อนภาพในอดีต เอวาเดินไปตามจุดต่างๆ เหมือนในอดีต...น้ำตาไหล
เอวามายืนจุดหนึ่ง เป็นกระจกตั้งบานใหญ่ ที่แตกอยู่มุมห้อง
เอวาเห็นภาพหน้าตัวเองสะท้อนกระจกหน้าบิดเบี้ยว
ภาพตัวเองในอดีตผ่านเข้ามา มีมือหนึ่งเข้ามาต่อยท้องเอวา เธอเซมาชนกระจกบานนั้นจนแตก เอวาจุกทรุดลงกับพื้น เลือดเริ่มไหลลงที่ขา
เอวามองพื้นเห็นเลือดสดๆ ก่อนเอวาจะเงยหน้าขึ้นมองกระจก สายตากร้าวโหด!
คืนเดียวกัน แสนแสบเพิ่งกลับถึงบ้าน รีบเปิดแอพ Bleep แล้วเข้าไปหน้าบล็อก แล้วปลดบล็อกแอคเคาน์หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “Evil”
แสนแสบรีบพิมพ์หา “กว่าจะรอดมาได้ แต่ไม่ต้องห่วงครับผ่านฉลุย”
เสียงไลน์เข้า จาก Evil
“ดีมาก ทำตามที่บอกใช่มั้ย”
แสนแสบพิมพ์ตอบ “แน่นอนครับ ตำรวจไม่สงอะไร แต่ตอนนี้ตำรวจแฮคข้อมูลจุดส่งไฟล์เจอแล้ว อ้อ...อีกอย่างรู้ว่าเฟสบุ๊คไม่ได้อัพจากต่างประเทศด้วย”
Evil อ่านแล้ว แต่เหมือนอึ้งไป ยังไม่ตอบ
“งั้นถึงตอนอวสาน รอรับไคลแมกซ์สุดท้ายได้เลย”
แสนแสบตื่นเต้น พึมพาคนเดียว
“โหย...ยังมีไคลแมกซ์อีกเหรอเนี่ย รอไม่ไหวแล้วโว้ย”
ที่ผับหรู เอวาขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถ
เอวาลงจากรถ เนมมองเห็นพอดี
เนมลอบมองเอวา เห็นว่าเอวาเดินตรงไปคลับส่วนที่เป็นวีไอพี
เนมเดินตาม ก่อนจะแอบไปหลังมุมตึก โทรหาแดน
“ท่านรองครับ คุณเอวามาที่คลับวีไอพีคนเดียว ... ใช่ครับ ผมจะจับตาไว้ แต่ยังไงก็คงลอบเข้าไปไม่ได้”
ภายในห้องทำงานแดน
“ไม่ต้องห่วง จ่าวาวแฮ็กคีย์การ์ดเมมเบอร์วีไอพีที่นายฉกมาได้แล้ว ฉันจะเข้าไปเอง นายแค่เฝ้าไว้ แล้วดูว่ามีความเคลื่อนไหวของผู้หญิงชื่ออีฟที่นั่นด้วยรึเปล่า”
“ได้ครับ”
เนมวางสาย รีบเดินไป
ค่ำแล้ว...หมวดสารินจะกลับบ้าน แต่เจอวาวยังนั่งหาข้อมูลอยู่ จึงเดินเข้ามาถาม
“มืดแล้วนะคุณ คนอื่นกลับหมดแล้ว คุณทำอะไรอยู่อีกเนี่ย”
“ฉันว่าแสนแสบมีบางอย่างน่าสงสัย”
“สงสัย...สงสัยอะไรอีก คุณขี้สงสัยไปรึเปล่าเนี่ย?”
“เป็นคุณสมบัติที่ดีของพนักงานสืบสวนไม่ใช่เหรอคะ?”
สารินอึ้ง เหมือนโดนย้อน
“อืม...อะ ไหนว่ามาซิ สงสัยอะไรนักหนา”
“ฉันว่า...แสนแสบบอกเราไม่หมดค่ะ มันไม่ใช่แค่อีเมล์ลึกลับที่ส่งไฟล์คลิปมาแล้วปิดหนีไปแน่ๆ ฉันเชื่อว่ายังมีการติดต่อกันในช่องทางอื่น แอพพลิเคชั่นแชท หรือกล่องข้อความอื่นๆอีกแน่ๆ”
“ท่านรองสั่งให้ทำหรือคุณทำเอง”
“ฉันทำเองค่ะ”
“คุณนี่อวดฉลาดไปทุกเรื่องจริงๆ”
“แต่มันอาจช่วยให้ได้ข้อมูลบางอย่างก่อนเรื่องจะบานปลายก็ได้นะคะ ฉันอยู่ได้
ค่ะ หมวดกลับเถอะ”
หมวดสารินเฉไฉ “ผมไม่ได้สนใจว่าคุณจะอยู่ได้ไม่ได้ ผมก็แค่จะเคลียร์สำนวนคดีต่ออีกนิด
ก็แค่นั้น”
หมวดสารินพูดจบก็เดินไปที่โต๊ะเหมือนตัวเองตั้งใจจะอยู่ต่อเองอยู่แล้ว วาวพยักหน้าตามงงๆ หันมาทำงานแฮ็กข้อมูลต่อ
หมวดสารินเหลือบมองนิดหน่อย แอบชื่นชมในใจ
หน้าทางเข้าคลับวีไอพี แดนปลอมตัวเบาๆในชุดสูทหรูติดหนวดแบบญี่ปุ่น
แดนส่งคีย์การ์ดให้ตรวจสอบ โค้งแบบญี่ปุ่น
การ์ดแสกนบัตร
รอลุ้น ทั้งแดน และเนม ที่มองอยู่ห่างๆ การ์ดมองหน้าแดนอย่างสงสัย รู้สึกไม่เคยเห็น
สายหมอก้อยเข้าเครื่องแดน แดนหยิบมาดู เห็นว่า เมมชื่อไว้เป็นภาษาไทยว่า “หมอก้อย” แดนรีบตัดสาย การ์ดยิ่งสงสัย การ์ดกระซิบกัน
การ์ดกระซิบกัน สงสัย “คนญี่ปุ่นอะไรวะ เมมชื่อแฟนเป็นภาษาไทย”
แดนจึงแกล้งพูดไม่ชัด “ผม ผูด ไท ได นิด หน่อย ครับ”
ลุ้นๆหน้าจอแสกน ดาวน์โหลด..จนปรากฎภาพหน้าแดน ตรงกับชื่อเมมเบอร์ เรียวตะ ฮาจิ
เนมเป่าปากอย่างโล่งอก แดนก็โล่งอกแต่พยายามนิ่ง
การ์ดโบกมือเรียกเนมให้เข้ามา
“ผ่าน...น้องมาเทคแคร์คุณเรียวตะ”
แดนโค้ง “อาริกาโต โกะซาอิมาซ”
“ครับพี่ ผมดูแลเอง”
เนมผายมือให้แดนเข้าไป ทั้งคู่สบตากันเป่าปากโล่งอก เดินเข้าไปข้างในด้วยกัน
ด้านใน แดเนียลผ่านทุกด่าน จนขึ้นมาถึงชั้นสอง ซึ่งเป็นที่รองรับแขกพิเศษเท่านั้น
แดนเห็นว่าทุกห้องเป็นห้องปิด สาวนั่งดริ๊งลุคแพงพาแขกเข้าไปห้องหนึ่งพอดี จึงเห็นว่าห้องตกแต่งดูหรูหรา
แดนเดินต่อไปเรื่อยๆ จนเจอเอวากำลังเดินเข้าห้องส่วนตัว แดนเข้ามาหา
เอวามองหน้าแดนก็จำได้ แต่เอวากลับไม่แปลกใจ
เอวายิ้ม “เก่งจังนะคะท่านรอง ที่นี่ซีเคียวรัดกุมที่สุด ท่านรองก็ฝ่าเข้ามาจนได้”
“แต่ดูเหมือนคุณไม่แปลกใจเลย”
“หน่วยคุณตามคดีมาร์ค ยังไงคุณก็ต้องเข้ามาที่นี่อยู่แล้วนี่ งั้น...เชิญข้างในดีกว่าค่ะ”
เอวาผายมือให้แดนเข้ามาให้ห้องวีไปพีส่วนตัว
ห้องวีไอพีส่วนตัวของเอวา ตกแต่งอย่างหรูหรา มีเก้าอี้หลุยส์ ให้อารมณ์แขกพิเศษเหมือนนั่งบนบัลลังก์
เอวาเดินไปนั่งเก้าอี้หลุยส์ ยิ้มอย่างสง่าและสงบ ราวกับราชินีก็ไม่ปาน เธอผายมือให้แดนนั่งฝั่งตรงข้ามพร้อมรินไวน์ให้
“นั่งสิคะ” เอวาส่งแก้วไวน์ให้
แดนรับแก้ว “ขอบคุณครับ แปลกจังนะครับทำไมคุณถึงชอบมาที่นี่คนเดียว”
“แปลกยังไงกันคะ เอวาก็แค่เครียดๆ คุณก็รู้ว่าชีวิตฉันเจออะไรมาบ้าง การเข้ามาหาที่ดื่มเงียบๆในที่ที่ปลอดภัยเป็นส่วนตัวแบบนี้มันเหมาะกับเอวามากนะคะ”
แดนพยักหน้าเห็นด้วย
“ก็จริงครับ ผมเองก็คงต้องเรียกคุณมาสอบสวนเพิ่มเติม เพราะผมแน่ใจว่าเรื่องที่มีกระแสข่าวว่าสามีคุณหนีไปต่างประเทศเป็นการจัดฉาก”
เอวาหมุนแก้วไวน์ตานิ่ง
“แต่เรื่องแย่ๆที่เค้าทำไม่ใช่การจัดฉากแน่นอนไม่ใช่เหรอคะ”
“คดีแยกเป็น 2 ส่วนครับ การหายตัวไปของสามีคุณ กับธุรกิจมืดที่เค้าเกี่ยวข้อง คนละส่วนกัน ตอนนี้หน่วยผมรับผิดชอบในเรื่องการหายตัวของเค้า และผมแน่ใจว่าเค้าโดนอุ้ม”
เอวาสวน
“ผู้ชายเลวๆคนเดียวจะโดนอุ้มหรือโดนฆ่า สำคัญกว่าคดีที่ผู้หญิงตั้งหลายคนโดนผู้ชายคนนั้นกระทำย่ำยีทั้งร่างกายทั้งจิตใจจนตายทั้งเป็นเหรอคะ”
พ.ต.ท. แดเนียล ซาโต้ถึงกับอึ้งไปนิดที่เอวาเสียงกร้าว
“ผมไม่ได้พูดว่าเรื่องไหนสำคัญกว่า”
เอวาได้สติ “เอวาเข้าใจค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะ ตอนนี้เอวาค่อนข้างสับสนกับเหตุการณ์ทั้งหมดจริงๆ ทั้งรัก ทั้งห่วง ทั้งโกรธ ทั้งช็อก” แล้วเอวาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้หลุยส์ “เอวาคงต้องขอตัวอยู่เงียบๆ”
“ผมยังมีเรื่องอีกมากครับ ที่อยากคุยกับคุณ”
“แต่เอวาไม่สะดวกตอนนี้ และที่นี่ก็ไม่ใช่ห้องสืบสวน เอวาจะไม่เรียกการ์ดเข้ามาเชิญคุณออกไปถ้าคุณออกไปเองดีๆ เอวาจะแกล้งไม่รู้ไม่เห็นว่าท่านรองเข้ามาที่นี่”
แดนจำใจต้องลุกขึ้น เพราะเอวายื่นคำขาดขนาดนี้ เอวาเริ่มเหงื่อแตกมือสั่นแปลกๆ
แดนหันมองอีกครั้งก่อนออกไป รู้สึกถึงความผิดปกติ
ทันทีที่แดนออกไป เอวากดรีโมท มีประตูลับซ่อนอยู่ด้านหลังห้อง เอวาเดินหายเข้าไปด้านใน
ในอดีต เอวาตอนสาวๆ ตื่นเต้นมองบ้านหลังใหญ่ของมาร์คที่เพิ่งสร้างเสร็จ เอวาเดินดูห้องนั้นห้องนี้ มาร์คเดินมากอดจากด้านหลัง
“บ้านนี้ผมสร้างให้คุณนะเอวา มันจะเป็นเรือนหอของเรา”
เอวาเขิน “จริงเหรอคะมาร์ค”
“จริงสิครับ ผมได้โปรเจคยักษ์หนังร่วมทุนกับเมืองนอก และนางเอกเรื่องนี้ก็คือคุณเท่านั้น คอยดูนะ ผมจะปั้นให้คุณจะเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งของประเทศ”
ภาพตอนแต่งงานในอดีต ปรากฏอีกครั้ง
เอวา และมาร์คในชุดแต่งงาน แววตาทั้งคู่ รักและเทิดทูนกันมาก กำลังเอ่ยคำสาบาน จับมือกัน
“ผมจะรักดูแล ให้เกียรติเทิดทูนผู้หญิงคนนี้ด้วยชีวิตของผม”
เอวายิ้มมีความสุข “ฉันจะไว้ใจ เชื่อใจ เทิดทูนผู้ชายตรงหน้าด้วยชีวิตของฉัน”
จากมือมาร์คที่กุมมือเอวา กลายเป็นมือมาร์คดึงมือเอวาเหวี่ยงเข้ามาให้ห้องแดงอย่างแรง
เอวาเซถลาตกใจ มองรอบๆ
“นี่มันอะไรกันคะมาร์ค”
มาร์คย่างสามขุมเข้ามาหาเอวา หน้าตาจิตๆ
“ก็คุณสัญญาแล้วนี่ว่าจะตามใจผมทุกอย่าง”
เอวาร้องไห้ “ไม่ๆๆ..แต่มันไม่ใช่แบบนี้”
มาร์คเงื้อมมือตบหน้าเอวาอย่างแรง เอวาล้มคว่ำ ปากแตก เลือดไหล มองมาร์คแบบทั้งช็อก ทั้งผิดหวัง
มาร์คลากเอวาขึ้นมาที่เตียง ที่มีกล้องตั้งอยู่ปลายเตียง
มาร์คจับหน้าเอวามองกล้อง “รู้มั้ย คุณไม่ได้มาที่นี่ครั้งแรกหรอก กล้องตัวนั้นน่ะบันทึกฉากรักที่แสนดุเดือดเร้าใจของเราไปแล้ว”
“ไม่...ไม่จริง”
มาร์คกดรีโมท ภาพที่ทีวีวาบขึ้น แสงวูบวาบทาบหน้าเอวาให้รู้ว่าเอวากำลังเห็นฉากรักที่ว่า เอวาสะอิดสะเอียน แต่มาร์คจับหน้าหันบังคับให้ดู หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้สารเลว”
“จุ๊ๆๆ...พูดเพราะๆกับสามีแสนดีหน่อยสิจ๊ะเจ้าหญิงวงการบันเทิง ผู้งดงามเพียบพร้อม ถ้าเจ้าหญิงไม่อยากให้หนังแซ่บๆของเจ้าหญิงออกสู่สายตาพสกนิกรแฟนคลับที่แสนเทิดทูนล่ะก็”
เอวาร้องไห้เบือนหน้าหนี “ไม่...ไม่...”
สายหมอก้อยเข้ามาในมือถือแดน ขณะที่ยังอยู่ที่คลับ
“มีอะไรรึเปล่าคุณ”
หมอก้อยคุยโทรศัพท์
“เรื่องคุณเอวาน่ะ ฉันสังหรณ์ใจแปลกๆน่ะค่ะ คิดว่าควรบอกคุณ”
แดนฟังอย่างสงสัย
“สังหรณ์ใจเรื่องอะไร เกี่ยวอะไรกับคุณเอวา”
“ฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะสำคัญกับคดีสามีคุณเอวาและเรื่องเกี่ยวกับที่นิดาฆ่าตัว
ตายด้วย”
“หมายความว่าไง”
“คุณเอวารักษาอาการป่วยทางจิตเกี่ยวกับบุคลิกภาพแปรปรวนค่ะ พูดง่ายๆคือ เค้าเป็นคนประเภทหลายบุคลิก”
แดนอึ้ง ...คิดตามก่อนวางสายแบบอึ้งๆ
ย้อนอดีตในห้องแดง ....เอวาในร่างอีฟเต็มตัวครั้งแรก นั่งอยู่หน้ากระจก เอวาร้องไห้ไม่อยากมองหน้าตัวเอง
มาร์คจับหน้าให้เงยดู
“สวยมากจ๊ะที่รัก ไม่ต้องห่วงนะภาพพจน์ เอวาเจ้าหญิงวงการบันเทิงจะไม่มีวันด่างพร้อย เพราะผู้หญิงที่รักเห็นตรงหน้าคนนี้คือ “อีฟ” จำไว้นะ อีฟคือทาสที่ต้องตามใจผมทุกอย่าง”
มาร์คลากเอวาในร่างอีฟมาหลังกล้อง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนเมายาบนเตียง เอวาตกใจ
มาร์คเดินมาในชุดหนังพร้อมใส่หน้ากากเทพบุตร มาร์คหันมาบอกเอวา
“อีฟจ๊ะ ต่อไปหน้าที่ของเธอก็คือเป็นตากล้องมือหนึ่งนะ แล้วนะ” มาร์คตวาด “ถ่ายสิ อีโง่!!”
ผู้หญิงคนนั้นคือ “นิดา” !
อีฟ....ร้องไห้...
ปัจจุบัน... เอวาที่แปลงโฉมเป็นอีฟเต็มตัวแสยะยิ้มกับกระจก
“ได้เวลาชดใช้แล้ว”
ย้อนอดีต เอวาในห้องเด็ก
เอวาใส่ชุดคลุมท้องอ่อนๆ เดินจัดห้องมุมโน้นมุมนี้อย่างมีความสุข
มาร์คเปิดประตูผลั่วะเข้ามาอย่างแรง ตรงมากระชากตัวเอวา
“เทปกับฮาร์ดดิสก์ที่ถ่ายไว้ทั้งหมดไปไหน”
เอวามองตากร้าว “มันพอได้แล้วมาร์ค คุณต้องหยุด เรากำลังจะมีลูก”
“อย่ามาลองดีกับผม เอาคืนมา”
“ไม่...ฉันไม่ยอมให้ลูกเกิดมากับเรื่องชั่วๆแบบนี้ ไม่มีทาง”
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องให้มันเกิด”
มาร์คต่อยที่ท้องเอวา เอวาเซมาชนกระจกจนแตก เอวาจุกทรุดลงกับพื้น เลือดเริ่มไหลลงที่ขา
ปัจจุบัน อีฟในร่างเอวาเงยหน้าขึ้นมองกระจกตากร้าวโหด!
หลังรับสายหมอก้อย แดนสังหรณ์ใจวิ่งกลับขึ้นไปดูหน้าห้องเอวา เขาลองบิดประตูดู ห้องปิดล็อกด้านใน
ประตูห้องถัดไปเปิดออก และคนที่ออกมาก็คือ อีฟ นั่นเอง
แดนจะรีบวิ่งตามไป แต่ปรากฎว่าติดแขกฝรั่งเมาเซ จนไปไม่ได้
อีฟเดินลิ่วๆไปที่ด้านหลังร้าน
แดนหลุดจากวงล้อมแขกเมาจนได้ รีบวิ่งตามไป
ด้านหลังเป็นประตูทางออกเฉพาะแขกพิเศษ อีฟใช้คีย์การ์ดเปิดประตูกระจกออกไป
แดนวิ่งมาถึง... พยายามจะถลาตัวไปยันประตูแต่ไม่ทัน ประตูปิดแล้ว
แดนรีบใช้คีการ์ดตัวเองรูดบ้าง แต่ปรากฎว่าไม่ผ่าน
อีฟรู้ตัวว่าแดนตามมาแต่ออกมาไม่ได้ อีฟหันไปมองยืนประจันหน้ากับแดนแบบมีกระจกกั้น
อีฟยิ้มเย็นๆ จนน่ากลัว จ้องตาแดน แดนนึกถึงแววตาของเอวาที่เพิ่งคุยกันไปเมื่อชั่วโมงก่อน
แดนรู้แล้วว่า เอวาและอีฟคือคนๆเดียวกัน
อีฟยิ้มอย่างผู้ขนะก่อนจะหันหลังเดินจากไป แดนได้แต่ทุบกระจกอย่างหงุดหงิด มองตาอีฟ
ผ่านเวลา นาฬิกาบอกเวลาเป็นสามทุ่มกว่า ...หมวดสารินเริ่มง่วง หาว...มองวาวที่ทำงานอย่างมุ่งมั่น
หมวดสารินดูนาฬิกาข้อมืออย่างหงุดหงิด ตัดสินใจลุกขึ้นปิดแฟ้มบนโต๊ะอย่างแรง หยิบเสื้อ เดินตรงไปหาจ่าวาว
“นี่คุณ ผมง่วงแล้วนะ กลับๆๆ”
วาวหันมางงๆ “หมวดง่วงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ”
หมวดสารินหงุดหงิดจนเผลอ
“ผมทั้งหิ้วท้องทั้งอดหลับอดนอน เพราะความขี้สงสัยของคุณ อยู่นี่ไง”
วาวตาเป็นประกาย “นี่หมวด ตั้งใจอยู่เป็นเพื่อนฉันเหรอคะเนี่ย”
หมวดสารินเพิ่งรู้ตัว “เอ่อ...ก็ไม่เชิง แต่ผมเป็นหัวหน้าคุณ ดึกดื่นป่านนี้จะปล่อยให้ผู้หญิง
อยู่คนเดียวได้ไงเล่า เฮ้อ”
“โห....น่าร๊อกอะ”
หมวดสารินจะเอื้อมไปปิดคอมให้ ผ่านหน้าวาว หน้าใกล้กัน วาวรู้สึกหน้าร้อนแปลกๆที่หมวดรินหน้าใกล้ๆเธอ
“พอเลย กลับได้แล้ว ปิดคอมเลย ...แฮ็กมาตั้งนานไม่เห็นมีอะไร”
อยู่ๆหน้าคอมวาวมีเสียงตรึ๊ง !! เหมือนมีข้อความเตือนบางอย่าง หมวดสารินซะงัก
“นี่อะไร?”
วาวยังตกภวังค์มองหมวดสาริน จนผู้หมวดต้องเรียกซ้ำ
“คุณ...นี่มันอะไร”
วาวสะดุ้งได้สติ อารามรีบดูมือสั่นเบาๆ วาวกดดู ตาโต
“มีการติดต่อจากแอพแชทลับของแสนแสบจริงๆด้วย”
หมวดสารินสนใจ
“ยังไง ? เหมือนข้อความที่ล็อคกุญแจในไลน์?”
“คล้ายๆค่ะ แต่เดี๋ยวนี้มีหลายแอพพลิเคชั่นที่ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ ฉันเลยดักไว้ว่าแสนแสบมีโหลดแอพไหนไว้บ้าง แอพนี้เพิ่งโหลดใช้สองวันก่อนน่าสงสัยมาก มันเป็นเทคโนโลยี DHT หรือ Distributed Hash Table เทคนิคแบบการกระจายไฟล์แบบ Bit Torrent ข้อมูลส่งเข้าออกจะไม่ผ่านส่วนกลาง เป็น P2P”
หมวดสารินรีบสวน “พอๆ ขอภาษาบ้านๆ ไม่เอาศัพท์แสง เอาง่ายๆ ตกลงเค้าคุยอะไรกัน”
“ไม่รู้ค่ะ!”
“อ้าว”
“การใช้ฟังก์ชั่นวิสเปอร์หรือกระซิบ มันจะทำลายตัวเองในไม่กี่วิค่ะ”
วาวพยายามจะไล่จับข้อความหน้าจอ
“รู้แค่...มาจากผู้ส่งที่ใช้ชื่อว่า Evil”
วาวและหมวดสารินจ้องหน้าจอเขม็ง
แสนแสบเปิดแอพพลิเคชั่น ชื่อ BLEEP (https://www.aripfan.com/bittorrent-serverless-messaging-app-bleep-goes-live-adds/) ในคอมเตรียมรอรับสัญญาณจาก EVIL
แสนแสบตื่นเต้น “เมื่อไหร่ว๊า ลุ้นจะฉี่จะแตกแล้วเนี่ย”
มีสัญญาณข้อความเข้า จาก EVIL พร้อมข้อความ
“เปิดกล้องเดี๋ยวนี้”
แสนแสบรีบเปิดสัญญาณกล้องจากแอพ
“ถ้าอยากดัง ไลฟ์สดไปด้วย”
ภาพยังไม่เห็นอะไร เป็นแค่ห้องมืดๆ แสนแสบตั้งมือถือ
“ดังระเบิดแน่เว้ย”
เสียงเคาะประตูดัง แสนแสบสะดุ้ง
“เฮ้ย...ใครมาวะ”
เสียงซินดังจากนอกประตู
ซินทุบประตู “แสบเปิดหน่อย”
แสนแสบเดินไปหน้าห้อง แต่ไม่ยอมเปิด
แสนแสบตะโกนบอก “กูนอนแล้ว”
ซินตะโกนถามจากข้างนอก “นอนแล้ว แล้วหมาที่ไหนพูดวะ เปิดให้ไว ไม่งั้นพังเข้าไปจริงๆ”
แสนแสบเกาหัว ไม่รู้จะเอาไง ตัดสินใจแง้มประตู โผล่ออกมานิดๆ
“กูไม่สบายนอนแล้วจริงๆ”
ซินผลักประตูอย่างแรงจนแสนแสบกระเด็นไป ซินเข้ามา
“ทำอะไรลับลมคมใน”
“เฮ้ย...ทำอะไรวะเนี่ยะ นี่ห้องส่วนตัวนะ โดนข้อหาบุกรุกได้นะเว้ย” แสนแสบโวยวาย
“หมวดรินให้ฉันมาเฝ้าดูนาย หรือจะให้หมวดรินมาเอง ทำอะไรอยู่บอกมา”
เสียงภาพเฟสทามจากแอพ มีเสียงเพลงคลาสสิกคลอขึ้นมา ซินรีบวิ่งไปด แสนแสบเดินมากันๆ
“นี่มันอะไร?”
“ไม่มีอะไร แค่เฟสทามคุยกับหญิง”
“แล้วตั้งกล้องไลฟ์ทำไม?”
ภาพในเฟสทามชัดขึ้น เห็นเป็นห้องทรมานในตึกร้างจำลองห้องแดงที่ขังมาร์ค ซินอึ้ง
“อะไรกันวะเนี่ย?”
ตึกร้างในห้องทรมาน ภาพจากหน้าจอในไลน์เป็นภาพจริง
อีฟเดินมาขยับกล้อง อีฟมองกล้อง ตากร้าวโหด อีฟพูดกับกล้อง
“นี่คือวันพิพากษา จุดจบหน้ากากเทพบุตรที่เราจะเห็นพร้อมกัน”
อีฟถือกล้อง เห็นว่ามาร์คที่นอนใส่หน้ากากเทพบุตรโดนขึงพืดอยู่
“มันคือปีศาจในคราบเทพบุตร มันไม่ใช่คน !! แต่เพราะคนเลวๆบางคนที่มีอำนาจล้นฟ้า คำพิพากษาที่ยุติธรรมบนโลกความจริงมันไม่มีจริง มันก็ถึงเวลาที่เหยื่ออย่างเราจะทวงคืนความยุติธรรมอย่างสาสม”
มาร์คดิ้นรนทุรนทุราย อีฟหัวเราะอย่างสะใจ
ซินรีบโทรหาแดนอย่างร้อนรน แดนรับสาย
“ท่านรอง เปิดไลฟ์สดเพจไอ้แสบเดี๋ยวนี้เลย”
แดนรีบจอดรถข้างทาง แดนเปิดไลฟ์ตามที่ซินบอก เห็นภาพ...
“คุณเอวา”
ซินคุยโทรศัพท์
“ไม่ใช่คุณเอวาสิ นี่มันผู้หญิงอีกคนของไอ้นายมาร์ค”
“ไม่...นี่แหละคุณเอวา”
“ห๊า...ยังไงนะ”
“ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว แสบมันได้สัญญาณจากไหน”
“จากไลน์ลึกลับในชื่อ EVIL ครับ” ซินบอก
แดนรีบวางสาย วิทยุหาหมวดสารินทันที
“หมวดริน...สั่งให้วาวหาพิกัด จากไลน์ของแสนแสบด่วน แล้วหมวดเรียกหน่วย
สมทบไปแสตนบายทุกจุดที่มีตึกร้างรอบๆบริเวณร้านเนตวันนี้ด้วยนะ”
“รับทราบครับท่านรอง”
แดนรีบออกรถเหยียบคันเร่งไปอย่างเร็ว
อีฟยังคงระบายต่อหน้ากล้อง
“ผู้หญิงกี่คนที่ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจนต้องฆ่าตัวตาย ที่ยังอยู่ก็ตายทั้ง
เป็น ถ้ารอให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินมันช้าไป”
แดนขับรถไป มองภาพไลฟ์สดจากมือถือที่เสียบไว้หน้ารถไป
อีฟระบายต่อ
“อย่างมากมันก็แค่ติดคุก ไม่กี่ปีก็โดนปล่อย คนสารเลวที่เห็นความอ่อนแอของผู้หญิงเป็นของเล่นทางเพศ ยังเดินลอยนวลเสวยสุขจากเงินชั่วๆที่มันได้มาจากความเจ็บปวดทรมานของคนที่เป็นเพศแม่ของมัน”
รถตำรวจเปิดไซเรนแล่นไปตามถนน หมวดสารินอยู่ในรถ โทรคุยกับจ่าวาว
“จับพิกัดได้รึยังวาว”
ภายในรถ แดนเห็นวิญญาณของนิดายืนชี้ทางอยู่
อีฟยังคงพูดหน้ากล้อง
“วันนี้ถึงจุดจบแล้ว” อีฟหัวเราะหลอนๆ “ไม่ใช่แค่มันนะ อีผู้หญิงชั่วๆคนนี้” แล้วชี้หน้า
ตัวเอง “ที่ยอมเป็นทาสทำตามคำบัญชาไอ้สารเลวนี่ ก็ต้องตายไปพร้อมกับมันด้วย ตายๆๆ..ให้หมด”
อีฟหัวเราะแบบหลอนมากๆ
เสียงวิทยุจากหมวดสารินแจ้งเข้ามา
“ได้พิกัดแล้วครับท่านรอง”
แดนหักเลี้ยวรถอย่างเร็ว
อีฟหยิบปืนออกมาโชว์หน้ากล้อง ชาวบ้านตามสถานที่ต่างๆ นั่งดูไลฟ์สดอย่างตื่นตาตื่นใจ ทั้งลุ้นทั้งเสียว
ซินทนไม่ไหว
“หยุดไลฟ์สดเดี๋ยวนี้นะ”
ซินวิ่งไปจะปิดกล้อง แสนแสบรีบมาขวาง
“เฮ้ย...ได้ไงวะ กำลังไคลแมกซ์ เค้าลุ้นกันทั่วบ้านทั่วเมือง”
“ลุ้นอะไร ความเป็นความตายคน มันเรื่องน่าลุ้นตรงไหนวะ”
“แต่มันเป็นจุดจบคนชั่วน่ะโว้ย”
“จะชั่วจะดี ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นกับความตาย เอามานี่”
แสนแสบกับซินแย่งกล้องกัน
เสียงปืนดังปังๆ
ณ ตึกร้าง แดเนียลวิ่งหาไปเรื่อยๆ
แดนค่อยๆเล็งปืนไปที่ ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าร่างของมาร์ค
“หยุดนะ คุณเอวา!”
แดนหันหน้าหญิงคนนั้นมา ปรากฏว่าเป็นหุ่นใส่วิกผมทอง
แดนอึ้งมองไปรอบๆ แต่เอวาหรืออีฟ ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยซะแล้ว
แดนรีบวิ่งเข้าไป เห็นมาร์คนอนจมกองเลือดยังหายใจรวยริน
หมวดสารินตรวจชีพจรใต้คอ
เช้าวันใหม่ ข่าวทีวี ทุกสำนักรายงานแต่เรื่องข่าวเอวา เสียงซ้อนๆกัน
ผู้คน ตามบ้าน หลายๆที่ยืนติดตามบนวีดีโอวอล ข่าวตามถนน ภายในบ้าน จากมือถือบนรถ ระหว่างรถติด
เสียงผู้สื่อข่าว 1รายงาน
“คดีพิพากษาสะเทือนขวัญแบบไลฟ์สดเมื่อคืน กลายเป็นข่าวอันดับหนึ่งไปทั่วประเทศ”
เสียงผู้สื่อข่าว 2 บอก “ช็อกวงการ เป็นที่ยืนยันแล้วว่าเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงนางเอกเบอร์
หนึ่งของคนไทย ก่อคดีฆ่าโหดสามีจอมวิปริต”
เสียงผู้สื่อข่าว3 “สุดสะเทือนใจ จิตแพทย์เผยนางเอกสาวเอวา มีปัญหาสภาพจิตบุคลิค
ภาพแปรปรวนจริง โดยเข้ารับการรักษาหลังโดนสามีจอมซาดิสก์ทำร้าย จนแท้งลูก”
เสียงผู้สือข่าว 4 “ชาวเน็ตฮือ...แบ่งกระแสสังคมเป็นสองฝั่ง ทั้งที่ให้กำลังใจนางเอกสาว
เหยื่อความรุนแรงทางเพศ และประฌามการฆ่าโหดผ่านไลฟ์”
ภาพจากหน้าจอสื่อโซเชียล ทวิตเตอร์ แฮชแทค #ทีมเอวา #วันพิพากษา #โรคจิตไม่ติดคุก ขึ้นอันดับหนึ่งทวิต คนแชร์ข่าวรัวๆ
นิ้วมืออีฟทาเล็บสีสดพิมพ์ข้อความว่า # เอวาจะกลับมา
เงาของอีฟกำลังมองดูจอคอมพิวเตอร์ยิ้มที่มุมปาก หัวเราะเบาๆ
แดเนียลแวะมาหาหมอก้อย เอาของมาให้
“คุณลืมกล่องนี้ไว้ที่บ้านน่ะ ผมเลยเอามาให้”
“อ้อ..จริงด้วย ขอบคุณนะคะ”
“ย้ายมาอยู่ที่นี่ปลอดภัยแน่นะ”
“ค่ะ...ชั้นบนสุด โรงพยาบาลทำเป็นห้องพักหมอ และพยาบาลที่อยู่เวรดึกๆไว้หลายห้อง ต้องมีคีย์การ์ดถึงจะขึ้นชั้นนั้นได้ มี รปภ. เฝ้า 24 ชั่วโมงค่ะ”
“โอเค แต่ถ้าหยุดยาวๆผมจะมารับนะ ผมเช็คตารางเวรคุณไว้หมดแล้ว อย่าไปไหนคนเดียวเด็ดขาด”
“ โอเคค่ะ โอเค”
หมอก้อยขี้เกียจเถียงด้วย เดินไปยกกล่องมา หมอก้อยเปิดดูแล้วหยิบรูปคู่ที่ถ่ายกับน้องชายขึ้นมาดู หมอก้อยหน้าเศร้า
“คุณรู้มั้ย ทำไมฉันถึงไปอบรมเป็นหมออาสาสมัคร เพื่อคูลดาวน์คนจะฆ่าตัวตาย”
“ผมรอคุณเล่าอยู่”
หมอก้อยโชว์รูปน้องชายให้ดู “นี่กายค่ะน้องชายคนเดียวของฉัน เค้าฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้า”
แดนอึ้งไป หมอก้อยน้ำตาคลอ แต่พยายามอธิบายต่ออย่างมีสติ
“กว่าฉันจะเข้าใจโรคที่น้องเป็นจริงๆมันก็สายไปแล้ว คนที่เค้าป่วยเค้ารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เค้าต้องการแค่ใครที่รับฟังอยู่ข้างๆเค้า”
“คุณอยากช่วยคนอื่นเพื่อชดเชยความรู้สึกที่ช่วยน้องไม่ได้งั้นเหรอ?”
“เปล่าค่ะ...ไม่มีอะไรชดเชยการสูญเสียคนที่เรารักได้หรอก คุณก็รู้ดี”
แดนอึ้งเหมือนโดนจี้ใจดำ หมอก้อยพูดต่อ
“แต่เราต้องหาวิธีปลดล็อกปมในใจตัวเราเอง แล้วเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้มากกว่าค่ะ เราทุกคนผ่านการสูญเสียค่ะ อย่าปล่อยให้มีอะไรติดค้าง เราต้องหาวิธีที่จะปลดปมในใจกันทั้งนั้นนะคะ”
หมอก้อยตั้งใจพูดให้แดนกล้าที่จะเปิดใจระบายกับใครสักคน หรือแม้กระทั่งเธอ
คืนนั้น แดเนียลนั่งมองอัลบั้มรูป
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในฟูกูโอกะ บริเวณสวนสาธรณะริมทะเล โมโมชิใกล้หอคอย
พิมสาวไทยหน้าคมเข้มเดินหลงทาง ถือแผนที่พยายามถามคนแถวนั้นเป็นภาษาอังกฤษ พิมเดินไปหาป้าคนนึง
“Excuse me ...Do you know this place , I want to go...”
ป้าพูดรัวๆเป็นภาษาญี่ปุ่น
พิมอึ้ง “เอ่อ...”
ป้าเดินหนีไปซะงั้น พิมพยายามเดินไปหาอีกคน ก็เป็นเหมือนเดิม จนท้อ...
พิมนั่งลงข้างทางดูดน้ำขวดอย่างเหนื่อยอ่อน บ่นเป็นภาษาถิ่นเบาๆ
“จะอู้กันฮู้เฮื่องก๋า ...เวรกรรมจริงจิ๊ง พิมเอ๊ย”
เสียงดังจากชายหนุ่มด้านหลัง เป็นภาษาไทย
“นั่นภาษาเหนือหรืออีสานนะครับ ไม่ได้ยินนานแล้ว”
พิมผุดลุกขึ้นดีใจสุด รีบหันมาเจอแดเนียลแทบกระโดดกอด เผลอพูดเหนืออีก
“อ้า...คนไทยก๋า คนไทยแต๊ๆก๋า...โอยดีใจประล่าประเหลือ”
แดเนียลขำๆ “ช้าๆครับ ผมทรานสเลทในหัวไม่ทัน”
พิมได้สติ “อุ้ย ขอโทษค่ะ ...ดีใจที่เจอคนไทยน่ะสิ เสียงในฟิล์มรัวๆไปหน่อย ฉันนึกว่าต้องนอนข้างถนนซะแล้ว”
“คุณจะไปที่ไหนล่ะ บอกมาผมอยู่ที่นี่ 20 กว่าปีแล้ว รู้จักทุกซอย”
“หล่อ...หล่อเลยค่ะ นาทีนี้คุณหล่อสุด”
พิมมองแดเนียลเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาโปรด ความสดใสเป็นธรรมชาติของพิมกับแววตาขี้เล่นและคำชมของหญิงสาวทำให้แดเนียลแอบหน้าแดงเลยทีเดียว
แดเนียลพาพิมมาที่เกสต์เฮาส์เล็กๆน่ารักที่หนึ่ง
แดเนียลคุยบางอย่างกับเจ้าของอยู่ไกลๆ พิมยืนมองรอบๆอย่างชื่นชอบบรรยากาศ ถ่ายรูปไปด้วย
แดเนียลเดินมาหาพิมยิ้มๆ
“เรียบร้อยแล้วครับ ผมว่าที่นี่ดูดีกว่าที่คุณหาไว้ ใกล้เมืองใกล้อาหารการกินกว่า คุณโอเคนะ”
“โอสิคุณ โคตรจะโอ...ถูกกว่าสะดวกสบายกว่า แถมห้องน่ารักสุดๆ อันซีนขนาดนี้ฉันเขียนรีวิวเพลินเลย”
“คุณเป็นนักเขียน?”
“ก็..ซัมทิงไลค์แดท....ฉันเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวแนวแบคแพคน่ะ”
“อินเทรนด์มาก ผมว่าอีกสัก 10 ปีน่าจะเป็นอาชีพที่ฮอทอยู่นะ”
“ใช่มะ..ฉันมองการณ์ไกลมั้ยล่ะ ถึงตอนนี้ต้องทนๆไส้แห้งไปก่อน แต่ก็โอแหละ มีตังค์พอตระเวนเที่ยวไปเรื่อยก็พอแล้ว”
แดเนียลมองปลื้มๆ
“สุขนิยมดีนะครับ เอ็นจอยละกันนะครับ”
“แน่นอนค่ะคุณตำรวจ ขอบคุณสุดๆเลย”
แดเนียลแปลกใจ
“นี่คุณรู้ได้ไงว่าผมเป็นตำรวจ ผมยังไม่ได้บอกเลย”
“ก็ฉันได้ยินคุณป้าเจ้าของเรียกคุณคำนี้ Keisatsukan (เปิดดิกท่องเที่ยว) ถึงจะพูดไม่ได้ แต่ 10 คาท็อปเทนที่ต้องรู้ ตำรวจนี่มาวินเลยนะ”
“สวยด้วยฉลาดด้วย..รอบคอบดีครับ”
แดเนียลเผลอชมออกไป แล้วต่างคนก็ต่างอึ้งเขินๆ เก้อๆ พิมเลยรีบพูดแก้เขิน
“ฉันอยากเลี้ยงขอบคุณคุณนะ แต่มีแบบถูกๆมั้ยอ่ะ”
“ไม่ต้องครับผมยินดี เดี๋ยวคุณจะผอมไป...ไว้ถ้าบังเอิญเจอกันอีก ผมเลี้ยงคุณเองดีกว่า”
“แจ่ม!”
แดเนียลเขินๆ “งั้น...ผมไปก่อนนะ”
เช้าวันใหม่ มุมหนึ่งของถนนคาวาบาตะ (ถนนคนเดินใกล้ศาลเจ้า) พิมกำลังควานหากระเป๋าตังค์ในเป้ไม่เจอ พิมหงุดหงิด
“บ้าจริง โดนล้วงแน่ๆ เมื่อกี๊ยังอยู่เลย”
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“มีก็ดีสิคะ มันไม่มีน่ะสิ ถึงหงุดหงิดเนี่ย”
“หืม?”
“ก็กระเป๋าตังค์ฉันน่ะสิคะ อยู่มันก็หายไปจากเป้ซะงั้น”
“ลืมไว้ที่พักรึเปล่า?”
“ไม่ลืมค่ะ ไม่ลืมแน่ๆ เพิ่งหยิบมาจ่ายซื้อขนมนี่ตรงต้นถนน มาถึงนี่หายไปเฉยเลย โดนล้วงแน่ๆเลยเนี่ย”
“เมืองเล็กๆแบบนี้ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอกครับ ตั้งแต่ผมทำงานมาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เลยผมรับประกันได้ ลองเดินไปดูทางโน้นดีกว่า คุณมาจากทางโน้นใช่มั้ย”
พิมวิ่งตามงงๆ “ใช่”
แดเนียลและพิมไปทางศาลเจ้า
พิมชี้ไปทางที่หยุดเดิน
“ฉันหยุดกินน้ำตรงโน้นน่ะ ป้ายตรงนั้น”
แดเนียลรีบเดินไปดู มองไปหลังท่อนไม้เห็นกระเป๋าตังค์ที่ตกอยู่ รีบหยิบขึ้นมาส่งให้
“เฮ้ย...คุณรู้ได้ไงเนี่ยว่าอยู่ตรงนี้”
“ศาลเจ้านี้ดังมากนะเรื่องขออะไรได้สมปรารถนา”
“จริงดิ?? เออ...ฉันไม่ได้สังเกตเลย งั้นไปกัน”
พิมดึงแดเนียลเข้าไป แดเนียลเดินตามไปอย่างมีความสุข
ท่ามกลางบรรยากาศต่างๆ แดเนียลพาพิมท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆทั้งอันซีนและแลนด์มาร์ค อาทิ สวนโอโฮริ / ย่านยาไตริมแม่น้ำ / วัดโทโชจิ / ดาวน์ทาวน์เทนจิน / ปราสาทฟุกุโอกะและสวนมาอิซูรุ
ทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้น ใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ เปิดใจและมีความสุข
ภายในศาลเจ้าญี่ปุ่น ตอนกลางวัน
ที่หน้าเทพอธิษฐานในมุมสวยๆ แดเนียลหยิบแผ่นไม้สำหรับเขียนแบบญี่ปุ่น (Enmusubiแผ่นไม้ลายเชือกคู่ เขียนคำอธิษฐานได้)
“เองมูซูบิ แผ่นไม้ลายเชือกคู่ ไว้อธิษฐานเรื่องคู่”
พิมยิ้ม “แค่เขียนชื่อลงไปเหรอ”
“เขียนหรือไม่เขียนก็ได้”
“แล้ว...คุณเคยขอมั้ย”
แดเนียลยิ้มส่ายหัวเขินๆ “ยัง...”
พิมหยิบอีกแผ่นส่งให้แดเนียล “อะ...นี่ของคุณ”
แดเนียลรับไว้เขินๆ
พิมพูดจบก็หันหลังเดินแยกไป เขียนคำอธิษฐานของตัวเอง
พิมแอบไปดูคำอธิษฐานของแดเนียล แต่เขาเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น เธอเลยถ่ายรูปไว้
จุดท่องเที่ยวในฟุกูโอกะ ที่ประภาคารริมทะเล
“คุณฉันหาไม่เจอเลย หัวใจอะ”
“ผมบอกให้ก็ได้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยน”
พิมมองหน้าแดนอย่างเขินๆ หลังเขาเขยิบตัวมาใกล้ๆเธอ
“จริงหรือเปล่าที่คุณไม่อยากกลับเมืองไทย”
แดนพูดพร้อมกับเอามือที่บังรูปวาดหัวใจไว้ที่ประคารออก
พิม ยิ้มอย่างเขินๆ “พิมเฮ้ย หัวใจดวงที่ 3 โห้วกว่าจะหาเจอ”
พิมเอามือไปลูบที่รูปวาดหัวใจ
แดนเอามือไปจับมือพิมไว้ ทั้งสองคนยิ้มให้กัน
“คนที่นี่มีความเชื่อว่า ถ้าคนรักกัน แตะประภาคารคนละฝั่ง เพื่อบอกรักกัน ความรักจะสมหวัง แต่คุณรู้ไหมมีหัวใจดวงหนึ่ง ที่คุณไม่ต้องตามหา”
แดนและพิม มองหน้ากันและกอดกันอย่างมีความสุข
ทั้งสองคนในชุดขาวแบบสบายๆ แต่ดูเหมือนเจ้าบ่าวเจ้าสาวแบบชิวๆ ในบริเวณริมทะเล โมโมชิ ที่ทั้งคู่เจอกันครั้งแรก
แดเนียลบรรจงสวมแหวนให้พิม พิมเองก็สวมแหวนให้แดเนียล ทั้งคู่กอดกัน
สองมองที่สวมแหวนของทั้งคู่จับกัน ...เปลี่ยนเป็นมือเด็กหญิงจับมือทั้งคู่ไว้ตรงกลางแล้วจูงไปด้วยกัน
ภาพเปลี่ยนเป็น 3 คนพ่อแม่ลูก กำลังเดินเล่นกัน
ปัจจุบัน แดนมองรูปแล้วถอนหายใจ
สยามมวยเถื่อน นักมวยหญิงสองคนต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนเวทีมวยเถื่อนที่เป็นลูกกรงสี่เหลี่ยมแบบมวยMMA แขกไฮโซแต่งตัวหรูหรากำลังนั่งข้างเวทีดูโชว์อย่างสะใจ จนกระทั่งรู้ผลแพ้ชนะ
กรรมการอยู่บนเวทีมวย พูดเรียกแขก
“เอาล่ะครับ มวยคู่ต่อไปก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ระหว่างแชมป์มวยหญิงสามนัดซ้อน กับเด็กใหม่ดาวรุ่ง”
สาลี่ชกกับคู่ต่อสู้อย่างสะบักสะบอม หน้าตาของสาลี่และคู่ชกมีบาดแผล
เสียงเฮของกองเชียร์ดังเป็นระยะๆ
สาลี่เหวี่ยงหมัดใส่คู่ต่อชก แต่คู่ต่อสู้เหวี่ยงตัวออกทัน สาลี่เสียจังหวะ คู่ต่อสู้จะตามมาซ้าแต่อยู่ดีๆก็มีอาการหยุดชะงัก หายใจแรงเหมือนหายใจไม่ออก
สาลี่ชะงัก งงว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงคนรอบข้างเริ่มเร่งเร้าสาลี่
สาลี่แววตามุ่งมั่น ตัดสินใจหักตัวกลับไป ชกคู่ชกสุดแรงเกิด คู่ต่อสู้เสียหลักล้มลงไปกับพื้นตาเหลือก กองเชียร์ เฮ!
กรรมการว่า “คุณ!! คุณ! ไม่หายใจแล้ว”
กรรมการเขย่าตัวคู่ชกอยู่กลางเวที ก่อนจะเริ่มลงมือทา CPR เหตุการณ์ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด คนแตกฮือ
สาลี่มองภาพคนตายด้านหน้าอย่างตะลึง
ดวงตาคนตายตาค้างจ้องมองเขม็ง
อ่านต่อตอนที่ 3