พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 14 : “ธงรบ” ทิ้งไพ่ล่อเสือออกจากถ้ำ!
บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย
ภายในห้องขังพิเศษที่เจนสั่งทำขึ้นมาในฟีนิกซ์ ผนังทุกด้านเป็นโลหะหนา ไม่มีทางที่ใครจะเจาะได้ ทั้งห้องมีเพียงประตูเดียว ระบบล็อคจากภายนอก เหมือนห้องเซฟของธนาคารใหญ่ ๆ
เคนยกปืนขึ้นยิงไปที่ผนังห้องหลายนัด ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยกระสุนเลยแม้แต่นิดเดียว เขามองด้วยความทึ่ง เจนกับพิงก์เดินเข้ามา
"เป็นไงชอบห้องนี้ไหม" เจนถาม
เคนหันมาตอบ "อย่าบอกนะว่าทำห้องนี้ไว้ให้ผมโดยเฉพาะ"
"เปล่า ! สำหรับ King Crow ต่างหาก พอเห็นท่าว่าจะคุมเขาไม่อยู่ ก็เลยสั่งให้ทำขึ้นมา ผนังทำด้วยโลหะหนา ทางเข้าออกมีทางเดียว และต้องเปิดจากด้านนอกเท่านั้น"
"สุดยอดเลยพี่เจน สงสัย King Crow ตื่นมาเจอแบบนี้ คงต้องคลั่งแน่" เคนบอก
"ช่วยไม่ได้ นี่เป็นทางเดียวที่จะหยุดเขาได้ จนกว่าเราจะมีวิธีจัดการเขา หรือไม่ก็เมื่อเคนสามารถควบคุมเขาได้แล้ว" พิงก์บอก
"ท่าทางจะยาก"
"ไม่หรอก เมื่อคืนนี้ King Crow เกือบจะยิงพิงก์อยู่แล้ว แต่รู้ไหมใครมาขวางเอาไว้"
"เมื่อคืนนี้เหรอ ?"
เคนตั้งคำถามแล้วเขาก็นึกย้อนกลับไป
ขณะที่ King Crow หันปากกระบอกปืนไปที่พิงก์
"สวัสดี เจอกันอีกแล้วนะ เธอนี่ไม่รู้จักเข็ดจริง ๆ"
พิงก์มอง King Crow แต่เธอกลับมองเห็นคนที่อยู่ข้างใน
"เคน ตื่นได้แล้ว ตื่นมาสู้กับ King Crow"
King Crowโมโห "เฮ้ย นี่เธอพูดบ้าอะไรเนี่ย"
"เร็วสิเคน King Crow เขาไม่มีอำนาจเหนือเคนไปได้หรอก"
King Crowโมโหสุด ๆ "หยุดได้แล้ว ถ้าไม่หยุด ฉันยิงหัวเธอกระจุยแน่"
พิงก์ตะโกนเรียก "เคน เคน เคน"
"หยุด !"
นิ้วมือ King Crow ขยับไกปืนช้า ๆ พิงก์มองจ้อง แต่แล้ว King Crow ก็รู้สึกว่าควบคุมนิ้วตัวเองไม่ได้
"หา !"
มือเขาแข็งเกร็ง แล้วมือที่จับปืนก็ค่อย ๆ เบนออกจากพิงก์ เหมือนมีพลังที่มองไม่เห็นมาจับมันออก
King Crow พยายามฝืนดันมันกลับไป แต่มันกลับดีดออกอีกครั้ง
"อะไรกันวะ !"
พิงก์ยิ้มดีใจ "เคน ใช่ไหม"
ทันใดนั้นบุคลิกของ King Crow ก็เปลี่ยนกลายเป็นเคน
"เร็วพิงก์ รีบหนีไป !"
เคนจดจำช่วงเวลานั้นได้
"เรื่องจริงเหรอเนี่ย นึกว่าฝันไปซะอีก"
"เพราะอย่างนี้ไง พิงก์ถึงมั่นใจ ว่าถ้าเคนจะสู้กับ King Crow จริง ๆ เคนต้องชนะเขาได้"
"จริง ในเมื่อผมเป็นคนสร้างเขาขึ้นมา ผมก็ต้องทำลายเขาได้เหมือนกัน"
พิงก์จับมือเคน "เราจะสู้ไปด้วยกันนะเคน"
เคนกุมมือพิงก์ "ฮือ เราจะสู้ไปด้วยกัน"
พุฒินอนหลับอยู่บนเตียงในห้องพักที่ฟีนิกซ์ ซูซี่นั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ เคนเดินเข้ามา โดยมีพิงก์และเจนมาด้วย
"ไอ้พุฒิ"
ซูซี่หันมองเคนอย่างชิงชัง เคนแปลกใจที่เห็นซูซี่ที่นี่
"คุณซูซี่"
ซูซี่ลุกขึ้น แล้วเดินผานทุกคนออกจากห้องนั้นไป เคนมองตามงง ๆ
"ทำไมคุณซูซี่ถึงมาอยู่นี่ แล้วยังดูเหมือนจะโกรธผมด้วย"
"มันก็น่าโกรธอยู่หรอก ก็เมื่อคืน King Crow เล่นจัดหนัก ยิงพุฒิ เกือบยิงพิงก์ แล้วยังหวุดหวิดจะฆ่าซูซี่ด้วย" พิงก์ว่า
"โห !"
"ซูซี่คงรัก King Crow มาก เลยรับไม่ได้ที่จะถูกคนที่รักฆ่าเอา"
ในเวลานั้นเอง พุฒิก็รู้สึกตัวขึ้นมา
"ไอ้เคน"
"พุฒิ"
เคนรีบเข้าไปหาเพื่อน
"ขอโทษด้วยนะเว้ย"
"ขอโทษทำไม แกไม่ได้เป็นคนทำสักหน่อย"
"พุฒิ ฉันสัญญา ว่าฉันจะจัดการกับไอ้คนที่ทำกับแกแบบนี้"
พุฒิยิ้ม "ไอ้บ้า แกจะทำอะไรมันวะ"
"มันจะต้องไปจากชีวิตฉัน"
ทางด้านซูซี่ยืนมองออกไปด้านนอก คิด ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา เคนเดินเข้ามา หยุดยืนมองดูอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเรียก
"คุณซูซี่"
ซูซี่รู้สึกตัว แต่ยังคงยืนนิ่งไม่หันไป เคนเดินเข้าไปหา
"ผมรู้แล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น และคิดว่าคงไม่มีวันที่คุณจะยอมยกโทษ แต่ผม..."
ซูซี่หันขวับมาพูดสวนอย่างระเบิดอารมณ์
"หยุดพูดเถอะ ระหว่างเรามันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ไม่เคยมีอะไรเป็นความจริงสักอย่าง ฉันผิดเองที่เชื่อมาตลอด"
เคนอึ้งพูดไม่ออก
"คุณเคน คุณไม่จำเป็นต้องมาทำดีกับฉันหรอก คนเลว ๆ อย่างฉันมันสมควรแล้วที่จะต้อง ‘เจ็บ’ สมควรที่จะไม่มีใครรัก สมควรที่จะต้องสูญเสียทุกอย่าง"
"แต่คุณไม่ใช่คนเลว"
"คุณรู้ได้ยังไง ฉันคิดแม้กระทั่งจะกำจัดคุณ แล้วให้คิงมาแทนที่คุณตลอดไป อย่างนี้ยังเลวไม่พออีกเหรอ"
"แล้วเพราะอะไรคุณถึงได้คิดแบบนั้น"
"เพราะฉันรักเขาไง" ซูซี่น้ำตาทะลักออกมา พร้อมเสียงที่ตะเบ็ง "ฉันรักเขา ฉันรักเขา ได้ยินไหม"
"นี่ไง"
"นี่ไงอะไร"
"นี่ไงที่บอกให้รู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนเลว คนเลวรักใครไม่เป็นหรอก คุณอาจแค่เคยผิดพลาดมาบ้าง แต่คุณไม่ใช่คนเลว"
คำพูดของเคนทำให้ซูซี่นิ่ง มองหน้าเคนเหมือนได้รับการปลดล็อคบางอย่าง เคนกุมมือซูซี่อย่างให้ความหวัง
"เชื่อผมเถอะ คุณไม่ใช่คนเลว และคุณสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตรงนี้"
เคนชี้นิ้วไปที่อกข้างซ้ายของซูซี่ ซูซี่ขยับถอย เพราะนึกว่าเคนจะจิ้มหน้าอก
"ทะลึ่ง"
"ผมหมายถึงหัวใจ คนเราจะเป็นยังไง ก็ขึ้นอยู่กับใจเราเท่านั้นแหละ"
ซูซี่มองเคนอย่างประทับใจ
ห่างออกไปไม่มากนัก พิงก์ยืนมองดูคนทั้งสอง ด้วยความรู้สึกที่ซ้อนทับกันหลายชั้น ทั้งเห็นใจซูซี่ ขณะเดียวกัน ก็ระแวงว่าซูซี่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเคนอีกครั้ง
ชิปปี้ แม้กกี้ และลูกน้องคนอื่นยืนเรียงแถว ธงรบเดินมองหน้าทีละคน
"มีใครได้ข่าวพวกมันมั่ง" ธงรบชี้หน้าทีละคน แก แก แก แก แก..."
ทุกคนนิ่งหลบสายตาธงรบ ธงรบหงุดหงิดจนระเบิดอารมณ์ออกมา
"โหย ไม่ได้เรื่องเลยสักคน ... แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ ออกไปหาสิ ไปหากันให้ทั่ว ฉันต้องการตัวนังนั่น หรือไม่ก็ฆ่ามันซะ ก่อนที่มันจะปากเสีย พูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา ไป ! ไป"
ลูกน้องคนอื่นเดินแยกกันออกไป จนเหลือแต่ชิปปี้กับแม้กกี้
"นายครับ"
ธงรบหันไปมองหน้าชิปปี้
"ผมว่าซูซี่อยู่กับพวกฟีนิกซ์"
"ต่อให้มันอยู่ในนรกขุมไหน ก็ต้องไปลากตัวมันมาให้ได้ แกเข้าใจไหม" ธงรบตะคอกเสียงดัง "เข้าใจไหม !"
"ครับนาย"
แม้กกี้มองหน้าชิปปี้ทำนองว่ารีบไปเหอะ ทั้งคู่พากันออกไป
มุมหนึ่งในบ้านแม้กกี้ยืนเครียด
"พี่ชิป ถ้าซูซี่ซ่อนตัวอยู่กับพวกฟีนิกซ์จริง ๆ เราจะมีปัญญาอะไรไปลากตัวมันมาได้ล่ะ"
"ได้สิ เข้าไปในนั้นมันก็ไม่ได้ยากอะไรหรอก"
"พูดเป็นเล่น"
"ใครว่าเล่น ฉันเคยเข้าไปมาแล้ว"
ก่อนหน้านี้ แผนกพิสูจน์หลักฐานในฟีนิกซ์
เจ้าหน้าที่นั่งที่เก้าอี้เห็นปืนเก็บเสียงโผล่เข้ามาแล้วยิงไปที่เจ้าหน้าที่หลายนัด ร่างเจ้าหน้าที่สะดุ้ง ชิปปี้ไส่ชุดปิดหน้าเข้ามา ดึงตัวเจ้าหน้าที่ออกจากเก้าอี้ไปนอนบนพื้น
ร่างเจ้าหน้าที่มีแผลแต่เลือดออกไม่เยอะ ปากซีด หน้าเริ่มเขียว
หน้าจอมุมขวาบน
แคบชิปปี้ดึงแฟลชไดร์ฟออก ชิปปี้เดินออกไป กล้องวงจรปิดจากดับอยู่เป็นเปิดมีไฟกระพริบ
แม้กกี้ยิ้มอย่างชื่นชม
"พี่ชิปนี่สุดยอดจริง ๆ เลย"
"อยากเข้าไปเที่ยวในฟินิกซ์ด้วยกันไหมล่ะ"
"อยากอยู่แล้วพี่"
"เตรียมตัวไว้ให้พร้อมก็แล้วกัน งานนี้เราอาจไม่ได้ฆ่าแค่คนเดียว"
"ได้เลยพี่ ยิ่งเยอะยิ่งดี แม้กกี้ยิ่งชอบ"
ชิปปี้ยกมือขึ้นมา แล้วแตะหลังมือกับแม้กกี้ ทำท่าประจำตัวของทั้งสองคน ท่านี้จบด้วยการประกบฝ่ามือกัน คล้ายกับท่าเวลาเล่นงัดข้อ
ในห้องพัก ซูซี่ส่งยาให้พุฒิ พุฒิรับยามากินอย่างว่าง่าย ตามด้วยน้ำที่ซูซี่ส่งให้
เขาส่งแก้วน้ำคืน แล้วยิ้มให้เธอ ซูซี่มองอย่างรู้สึกขอบคุณ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขามากไปกว่านั้น
ที่หน้าประตู เคน เจน พิงก์ และชาคริตยืนมองดูทั้งคู่อยู่ ทุกคนต่างมีอาการคิดหนัก
"เราจะเอายังไงกับซูซี่กันดีล่ะ" เจนว่า
"คงไม่มีทางอื่นหรอกพี่เจน นอกจากต้องรีบให้ซูซี่ออกจากที่นี่ไปเร็วที่สุด ก่อนที่เค้าจะรู้ความลับของเรามากไปกว่านี้" ชาคริตว่า
"เฮ้ย ไม่ได้นะ ให้ซูซี่ออกไปก็เท่ากับส่งเค้าไปตาย ธงรบมันไม่ปล่อยซูซี่ไว้แน่" เคนว่า
"แล้วเคนคิดว่าควรทำยังไงเหรอ" พิงก์ถาม
เคนนิ่งคิด แต่ทันใดนั้นเอง ประตูก็เปิดออก ซูซี่ก้าวเข้ามา
"ฉันต้องการเข้าร่วมกับทีมฟีนิกซ์"
ทั้งหมดหันไปมองซูซี่ด้วยความแปลกใจ
เคนแปลกใจ "คุณซูซี่"
ซูซี่เดินเข้ามาหาทุกคน
"อย่างน้อยสิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับนายธงรบก็น่าจะเป็นประโยชน์"
"ไม่ ! เธอคิดว่าอยู่ ๆ ใครจะเดินเข้ามาขอร่วมทีมฟีนิกซ์ก็ได้อย่างนั้นเหรอ แล้วที่ผ่านมา เธออยู่ฝ่ายตรงข้ามเรามาตลอด คิดเหรอว่าฉันจะเชื่อใจเธอง่าย ๆ"
"ก็ได้ งั้นฉันไป"
ซูซี่หันหลังเดินไป เคนหน้าเสีย
"คุณซูซี่"
เมื่อเห็นคนอื่นไม่มีท่าทีว่าจะห้าม เขาก็รีบวิ่งตามออกไป
พิงก์ไม่ค่อยสบายใจนักกับปฏิกิริยาของเคน
ซูซี่เดินมาตามทางเดิน เคนวิ่งตามมา
"คุณซูซี่ คุณซูซี่"
เคนตามไป จนกระทั่งซูซี่ตัดสินใจหยุด หันกลับมา
"ไหนคุณว่าคนเราเปลี่ยนตัวเองได้ ไม่เห็นจริงเลย คนเลวยังไงก็ถูกมองว่าเลวอยู่วันยังค่ำ"
เคนเข้าไปจับที่ต้นแขนของซูซี่อย่างปลอบโยน
"ไม่ คุณอย่ายอมแพ้สิ ทำให้ทุกคนเชื่อให้ได้ ว่าที่จริงคุณไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิด"
พุฒิเดินเกาะกำแพงเข้ามา
"ใช่ ! ผมคนหนึ่งล่ะที่เชื่อในตัวคุณ"
เคนและซูซี่หันไปมองพุฒิ
"คุณพุฒิ คุณลุกออกมาทำไมเนี่ย"
ซูซี่รีบเข้าไปพยุงพุฒิ
"คุณซูซี่ ผมจะพยายามคุยกับพี่เจนให้เอง"
"ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ คนใจแข็งแบบนั้น ยังไงก็ไม่มีวันยอมเปลี่ยนใจ"
จังหวะนั้นเอง เจน พิงก์ และชาคริตก็เดินเข้ามา
"เธอรู้ได้ยังไง"
เคน ซูซี่ และพุฒิ หันไปมองเจน
"ฉันจะให้โอกาสเธอ"
ซูซี่ยิ้ม "หมายความว่าฉันได้เข้าทีมฟีนิกซ์แล้วเหรอ"
"เปล่า แค่อยู่ในขั้นทดสอบเท่านั้น เธอต้องผ่านอีกหลายด่าน เราถึงจะยอมรับเธอเข้าร่วมทีม"
"ยังไงก็ได้ ฉันพร้อม ขออย่างเดียว แค่ให้ได้กลับไปล้างแค้นนายธงรบให้มันสาสมเท่านั้น"
เจนมองหน้าซูซี่อย่างเริ่มเชื่อมั่นในตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา
"โอเค ถ้างั้นก็แปลว่าตอนนี้เราได้สมาชิกใหม่แล้ว ขอต้อนรับสู่ครอบครัวฟีนิกซ์"
เคนยื่นมือให้ซูซี่จับ ซูซี่ยื่นมือมาจับเคน พิงก์มองอย่างไม่ค่อยพอใจ
"ผมด้วยครับ ขอต้อนรับ"
พุฒิยื่นมือให้ซูซี่บ้าง ซูซี่หันมาจับมือกับพุฒิ พุฒิยิ้มแป้น จับมือซูซี่ยาว ๆ ไม่ยอมปล่อย
"พุฒิ พุฒิ ฉันว่ายินดีพอแล้วมั้ง" เจนว่า
พุฒิแอบเขินเล็ก ๆ "เอ้อ ครับ"
พุฒิปล่อยมือจากซูซี่
เคนเข้าไปกระแซะไหล่พิงก์
"ดูไอ้พุฒิสิ ยิ้มไม่หุบเลย จะว่าไปก็น่ารักดีเนาะ"
พิงก์ไม่หือไม่อือ ไม่เนาะกับเคน รู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ
"เนาะ" เหมือนรู้ตัวเคนเสียงเบาลง "เนาะ"
"เคนรู้ตัวป่ะ เคนก็ดูดีใจเว่อร์ ไม่ต่างจากพุฒิหรอก"
พิงก์พูดแล้วก็หันหลังเดินไป เคนมองตามเหวอ ๆ
"อ้าว"
บรรยากาศภายนอกเปลี่ยนเป็นกลางคืน
เคน พิงค์ และเจนอยู่ที่หน้าห้องขังพิเศษ
"ถึงเวลาแล้ว" เจนบอก
"ครับพี่เจน"
"ไม่ต้องห่วงนะ ในห้องนี้มีกล้องวงจรปิดทุกมุม เราจะคอยดูอยู่ตลอด"
เคนพยักหน้า ก่อนหันไปหาพิงก์ "เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ"
"ฮือ"
เคนเดินผ่านประตูโลหะหนาเข้าไป
เคนก้าวเข้ามาในห้อง ประตูปิดเข้ามา เสียงสลักดังชัดเจน เคนมองไปรอบๆ เห็นในห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ตามมุมต่างๆ
ในห้องสังเกตการณ์เวลาเดียวกัน
ภาพหลายมุมของเคนปรากฏบนจอมอนิเตอร์ ชาคริตยืนกอดอกมองดู พิงก์กับเจนเดินเข้ามายืนมอง
เคนนั่งลงบนเตียงเล็ก ๆ สำหรับคนเดียว
"King Crow แกกับฉันต้องเจอกัน"
เคนนอนลงบนเตียง ใช้แขนหนุนหัวไว้ แล้วหลับตา... หลับ
อยู่ ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตาอันแข็งกร้าวดุดันบ่งบอกให้รู้ว่าเขากลายเป็น King Crow ไปแล้ว
King Crow ลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ
"อะไรกันวะเนี่ย"
King Crow เดินพล่าน เขาทุบไปที่ผนังโลหะ
"ปล่อย ปล่อยฉันออกไปนะ"
พิงก์ เจน และชาคริตเฝ้าดู King Crow โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา
บนจอมอนิเตอร์ ปรากฏภาพหลายมุมของ King Crow แล้ว King Crow ก็เดินมาที่กล้องตัวหนึ่ง มองตรงมาที่กล้องนั้น
King Crow มองเขม่ง เกร็งนิ้วชี้ไปที่กล้อง
"ฉันรู้ว่าพวกแกมองฉันอยู่ อย่าให้ฉันออกไปได้นะโว้ย"
ชาคริตมองด้วยสายตาสังเวช
"นี่มันคนบ้าชัด ๆ"
บนจอมอนิเตอร์ King Crow พยายามทำลายของต่าง ๆ ในห้อง
ซูซี่เดินเข้ามามองดู และถามเรียบ ๆ
"เขาเหรอ"
"นั่นแหละเขาล่ะ"
ข้าวของต่าง ๆ ในห้องนี้สร้างขึ้นอย่างแน่นหนา เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกตรึงไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนได้ สิ่งที่ King Crow กระชากออกได้ด้วยความโกรธมีเพียงเสื้อผ้าและเครื่องนอน เขาฉีกเสื้อตัวเองจนขาดหมด ทึ้งหมอนและที่นอนจนไส้ในฟุ้งกระจายไปทั้งห้อง ก่อนจะคำรามลั่น
ทันใดนั้นเอง King Crow ก็ได้ยินเสียงใครบางคน
"King Crow แกพอได้แล้ว"
King Crow หมุนตัวมองไปรอบ ๆ
"ใครวะ แกเป็นใคร เก่งจริงก็ออกมาสิวะ"
ชาคริตไม่เข้าใจ "ไอ้บ้านั่นมันพูดกับใคร"
"เคน ... เคนกำลังพยายามสื่อสารกับเขา" พิงก์ว่า
"แปลว่ามันคุยกับตัวเองงั้นเหรอ ... โหย พิลึกอะไรแบบนี้วะเนี่ย"
และแล้ว .... ความจริงที่ถูกซ้อนด้วยมโนสำนึก ก็เกิดขึ้นในห้องขังพิเศษ
King Crow ยืนอยู่กลางห้อง อยู่ ๆ ไฟในห้องก็ทยอยดับลงจนหมด
"อะไรกันวะ"
ทันใดนั้นดวงไฟก็ส่องเป็นลำลงมาที่ King Crow
ไฟอีกดวงส่องลงมาด้านหลัง King Crow เคนยืนอยู่ที่ไฟดวงนั้น
"ฉันอยู่นี่"
King Crow หันไปหาเคน
"แกแน่มาก ที่กล้าเข้ามาเจอกับฉันตัวต่อตัวในนี้"
"ที่จริงแกต่างหากที่ต้องกลัว"
King Crowยิ้มเยาะ "อย่างแกจะทำอะไรฉันได้"
King Crow เดินเข้าไปผลักเคน
"อย่าลืมสิว่าฉันสร้างแกขึ้นมา ไม่มีฉันก็ไม่มีแก"
เคนผลักกลับ
King Crow ยิ้มเยาะ
"แกคิดอย่างนั้นจริงเหรอ ไอ้โง่เอ๊ย !"
King Crow ซัดกำปั้นใส่เคน เคนหน้าหันตามแรงหมัด หงายหลังไปกระแทกกับผนัง
King Crow เดินตามมาหาเคน แต่เคนฉวยจังหวะ King Crow เผลอ ถีบเข้าที่ท้องของเขา
เคนตามไป หมุนตัวเตะ คราวนี้ King Crow ถึงกับเซหมดท่า
ภาพในมอนิเตอร์ แสงเป็นปกติต่างจากที่ King Crow เห็น แต่ไม่มีเคน มีแต่ King Crow ที่โดนเตะเซไป
ซูซี่มองหน้าเสีย แม้จะเกลียดแต่เธอก็ยังรัก King Crow
"หา ! เขาเป็นอะไรน่ะ"
"King Crow ของเธอกำลังสู้กับเคนของฉัน"
King Crow ตั้งหลักมองเคนอย่างแค้น ๆ
"แกนี่เก่งกว่าที่ฉันคิดไว้นะ"
"ก็บอกแล้วไง ว่าฉันสร้างแก ฉันย่อมรู้ว่าจะเอาชนะแกได้ยังไง"
"ไม่จริงหรอก"
"ลองดูก็ได้"
King Crow กับเคนตรงเข้าหากัน และสู้กันอย่างดุเดือด ทว่าเมื่อใส่กันเต็มที่ เคนกลับสู้ King Crow ไม่ได้ สุดท้ายเขาก็โดนกระหน่ำจนลงไปกองหมดสภาพ
King Crow มองเคนด้วยดวงตาสังเวช
"เคน แกนี่มันโง่จริง ๆ ฉันหลอกให้แกเชื่อว่าแกเป็นตัวจริง หลอกให้คิดว่าแกเป็นคนสร้างฉันขึ้นมา แกก็เชื่อ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแกมันก็ไม่ต่างจากฉันหรอก แกมันก็แค่ตัวตนหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้น เคน อโณทัย ครีเอทีฟโฆษณา มันก็ปลอมเหมือนกับ King Crow นั่นแหละ"
เคนอึ้งไปกับสิ่งที่ King Crow พูด
King Crow กระชากคอเคนแล้วพูดต่อ
"เพราะฉะนั้นคิดซะใหม่ แกไม่ได้มีสิทธิ์อะไรในร่างนี้มากไปกว่าฉันหรอกเว้ย"
พูดแล้ว King Crow ก็เหวี่ยงร่างเคนออกไป
เคนลอยไปกระแทกผนังอย่างแรง
"โอ๊ย"
King Crow ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเคน
"ยังคิดจะสู้กับฉันอีกไหม"
เคนประคองร่างตัวเองลุกขึ้นอย่างเจ็บระบม
"King Crow แกพูดถูก ทั้งฉันและแกต่างถูกสร้างขึ้นมาจากใครคนหนึ่ง แต่คน ๆ นั้นเป็นใครกัน ? จริง ๆ แล้วเคนเป็นใครกันแน่ ?"
"จะไปสนอะไร้ ในเมื่อไอ้เจ้าเคนคนนั้นมันไม่มีตัวตนอยู่อีกต่อไปแล้ว ไม่มีอีกแล้ว"
แล้ว King Crow ก็หัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมาอย่างเห็นเป็นเรื่องขำสุด ๆ
เคนรู้สึกสับสนไปหมด ร่างเขาค่อย ๆ จางหายไป
ภาพ King Crow ในมอนิเตอร์ แสงเป็นปกติดีทุกอย่าง เขาหัวเราะไม่หยุด
ชาคริตมองอย่างไม่เข้าใจ
"มันอะไรของมัน"
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก พิงก์มองดูเหตุการณ์นั้นด้วยสีหน้าเครียดจัด เธอรู้ว่าเคนของเธอเสียที King Crow แล้ว
"เคน"
King Crow ยังคงหัวเราะอย่างชั่วร้ายบ้าคลั่ง
พระอาทิตย์ยามเช้า ซูซี่วิ่รอบสนามอย่างเอาจริงเอาจัง
เจนและชาคริตยืนมองดูอยู่
"ท่าทางจะเอาจริงนะเนี่ย ... แต่ถามตรง ๆ นะ พี่เจนเชื่อใจเค้าจริง ๆ เหรอ"
"เปล่า ก็แค่เห็นว่าคนอย่างซูซี่อาจมีประโยชน์กับเรา บางทีเค้าอาจช่วยให้เราเจอแฟลชไดรฟ์ได้เร็วขึ้น รอให้หมดประโยชน์เมื่อไร เราค่อยเอาเค้าออกไป"
ชาคริตยิ้มอย่างชื่นชมในความลุ่มลึกของเจน
พิงก์เดินเข้ามามองดูอยู่ด้านหลังเจนและชาคริต
พิงก์เห็นซูซี่วิ่งวนรอบสนามอย่างไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อย
ในห้องขังพิเศษ เคนลืมตาตื่นขึ้นมา เขาดูเหมือนคนเพิ่งผ่านฝันร้าย พอมองภายในห้องที่เศษหมอนเศษผ้ากระจายเกลื่อน เขาก็ยิ่งประหลาดใจ
"อะไรกันวะเนี่ย เละเลย"
เสียงประตูเปิด เคนหันไปมอง พิงก์เดินเข้ามา
"เคน เป็นยังไงมั่ง"
"มึนตึ้บ เหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลย"
"ใช่แล้วล่ะ King Crow เอาแต่โวยวายอาละวาด เพิ่งหยุดได้แค่สักครึ่งชั่วโมงนี้เอง"
"ถึงว่า..."
"เคน เคนจำเรื่องเมื่อคืนได้มั่งไหม"
"เรื่องเมื่อคืนเหรอ"
เคนนิ่งคิด
"เมื่อคืน เคนพยายามสู้กับ King Crow ใช่ไหม"
แล้วบางภาพก็แวบเข้ามาในหัวเคน
การต่อสู้ของเคนกับ King Crow
"ใช่ แต่ผมแพ้เขา"
คำพูดของ King Crow กลับมาดังก้องอีกครั้ง
"เคน แกนี่มันโง่จริง ๆ ฉันหลอกให้แกเชื่อว่าแกเป็นตัวจริง หลอกให้คิดว่าแกเป็นคนสร้างฉันขึ้นมา แกก็เชื่อ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแกมันก็ไม่ต่างจากฉันหรอก แกมันก็แค่ตัวตนหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้น เคน อโณทัย ครีเอทีฟโฆษณา มันก็ปลอมเหมือนกับ King Crow นั่นแหละ"
"King Crow แกพูดถูก ทั้งฉันและแกต่างถูกสร้างขึ้นมาจากใครคนหนึ่ง แต่คน ๆ นั้นเป็นใครกัน ? จริง ๆ แล้วเคนเป็นใครกันแน่ ?"
"ใช่แล้ว ผมต้องรู้ให้ได้ ว่าผมเป็นใคร"
เคนรีบร้อนออกจากห้องนั้นไป พิงก์รีบตามไปทันที
"เคน เคน"
รถดับเพลิงบังคับขนาดเล็กแล่นเข้ามาหา รปภ. แบบทุลักทุเล
จอมือถือของชิปปี้เป็นภาพจากรถบังคับข้างๆ เป็นแม้กกี้ที่ยืนบังคับรถอยู่ทั้งสองคนมาพร้อมอาวุธครบมือ ทั้งสองคนมีเชือกม้วนอยู่รอบตัว
"ตรงไปๆๆ ไม่ใช่ๆๆนั่นมันเลี้ยวซ้าย"
"ตกลงพี่จะเอายังไงจะให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย" แม้กกี้ว่า
"ตรงไปสิวะ"
"นี่ผมก็ขับตรงอยู่นะ"
"ไม่มึงขับไม่ตรง อะไรของมึงเนี่ยงั้นมึงมาดูจอบอกทางเดี๋ยวกูขับเอง"
"พี่ดูจออ่ะดีแล้วผมขับได้"
ชิปปี้เดินมาหาแม้กกี้จะแย่งรีโมทบังคับรถ
แม้กกี้ไม่ยอมให้รีโมท
รถบังคับไปหน้าถอยหลังเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จนสุดท้ายรถคว่ำ ไปไหนไม่ได้ ชิปปี้ตบหัวแม้กกี้ด้วยความโกรธ
"รถคว่ำเลยไอ้บ้า"
หน้าแม้กกี้เจื่อนๆ
รปภ.หันมาเห็นเลยเดินเข้ามามองใกล้ๆ
ที่หน้าจอมือถือเห็นรปภ.มองใกล้ๆ
"พี่ๆดูนั่น"
"ดี เข้ามาใกล้ๆจะได้ไม่ต้องเสียเวลาบังคับรถบ้านี่"
มือชิปปี้บังคับปุ่มยิงที่มือถือ
ที่รถดับเพลิงยิงใส่รปภ.เขาลงมานอนแน่นิ่ง
ชิปปี้แม้กกี้ช่วยกันลากศพรปภ.ไปซ่อนไว้
แม้กกี้ไปที่กำแพงแล้วมองไปที่กล้องวงจรปิดแล้วหยิบกระป๋องโฟมขึ้นมาฉีดใส่กล้อง
"เรียบร้อยพี่ เอาไงต่อดีพี่"
แม้กกี้หันไปเรียกชิปปี้ที่ยังง่วนอยู่ศพรปภ. เห็นชิปปี้เอาอะไรใส่ลงไปในกระเป๋า แล้ววิ่งมาหาแม้กกี้
"ไม่ต้องห่วงพี่เตรียมไว้หมดแล้ว"
สองคนแกะเชือกออกทำท่าเหวี่ยงขึ้นข้างบน
ภายในห้อง เจนกำลังพูดกับซูซี่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ชาคริตยืนฟังอยู่ด้วย
"สายลับฟีนิกซ์จะต้องตัดขาดจากอดีต เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ เธอพร้อมที่จะทิ้งทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่หรือยัง"
"ค่ะ"
เจนยื่นเอกสารให้ซูซี่
"นี่คือเงื่อนไขทั้งหมดของเรา หนึ่งในนั้นคือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม้กระทั่งความตาย นี่เป็นสิ่งที่สายลับฟีนิกซ์ต้องยอมรับ อ่าน แล้วตัดสินใจดี ๆ ก่อนที่จะเซ็น"
ซูซี่รับเอกสารจากเจน แล้วยกปากกาขึ้นมาเซ็นโดยไม่รีรอ
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องเปิดออก เคนก้าวเข้ามา พิงก์ตามมา แต่หยุดอยู่ที่หน้าประตู
"พี่เจน"
เจนชำเลืองมองอย่างตำหนิ
"เคน รอก่อน พี่ยังไม่เสร็จธุระกับซูซี่"
แต่เคนไม่ฟัง เขาเดินพุ่งไปหาเจน
"พี่เจน ตกลงผมเป็นใครกันแน่"
"ถามอะไรเนี่ย เคนก็เป็นเคนน่ะสิ" เจนว่า
"ไม่ ! ก่อนที่ผมจะเป็น เคน อโณทัย ครีเอทีฟโฆษณา ผมเป็นใครมาก่อน ทำไมผมถึงมาเป็นสายลับให้กับฟีนิกซ์ได้ ... ผมจำไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมัยเด็ก ชีวิตทั้งชีวิต ก่อนที่ผมจะมาเป็น เคน อโณทัย"
เจนนิ่งไปกับคำถามชุดใหญ่ของเคน พิงก์มองเคนอย่างเห็นใจ ซูซี่ก็มองด้วยความอยากรู้เช่นกัน
"พี่เจน ผมขอดูอะไรก็ได้ที่ยืนยันตัวผม รูปภาพเก่า ๆ เอกสารการเรียน สำเนาทะเบียนบ้าน หรืออะไรก็ได้"
"ไม่มีของพวกนั้นหรอก เอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเคนถูกทำลายหมด ไม่มีเหลือแล้ว"
"ทำไมล่ะพี่เจน ทำไม"
"มันเป็นกฎของเรา ข้อมูลประวัติทั้งหมดจะต้องทำลาย เพื่อไม่ให้ผู้ที่คิดร้ายต่อเราใช้เป็นประโยชน์ได้ นี่เป็นเรื่องของความปลอดภัยที่ทุกคนต้องยอมรับ ก่อนเข้ามาทำงานกับฟินิกซ์"
"แปลว่า ผมไม่มีทางรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเองเลยเหรอครับ"
"พี่คงบอกเคนได้เท่าที่พี่รู้"
"ถ้างั้นก็บอกมาสิครับ ผมรอฟังอยู่"
เจนมองเคนแล้วคิดทบทวนสิ่งที่เธอรู้
"เคน เธอโตมาในบ้านเด็กกำพร้า"
เคนคิดไม่ถึง "บ้านเด็กกำพร้า"
ชาคริตอมยิ้ม เหมือนกำลังฟังเรื่องตลก ทันใดนั้นเองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ขึ้นสัญญานเตือนภัย
"อะไรกันน่ะ"
สัญญาณเตือนไฟไหม้
"มีผู้บุกรุก"
เจนแปลกใจ
ชาคริตวิ่งมากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารฟีนิกซ์2นายแล้วแยกย้ายกันตรวจพื้นที่ ซักพักฟีนิกซ์นายหนึ่งรายงาน
"รปภ.โดนฆ่าแล้วทิ้งศพไว้ตรงโน้นครับ"
"เปิดสัญญานเตือนขั้นสูงสุด"
ชาคริตมองขึ้นไปบนที่ดาดฟ้า
มุมดาดฟ้าชิปปี้แม้กกี้ชักตัวกลับมาให้พ้นสายตาชาคริต
"โหพี่เก่งจังเลย พี่รู้ทางหนีทีไล่หมดเลย" แม้กกี้ว่า
"แน่นอน กูถึงได้เป็นลูกพี่มึงไง"
แม้กกี้มองไปที่ประตูทางเข้าที่ล็อคโดยการสแกน แม้กกี้หันมองชิปปี้ด้วยหน้าตาสงสัย
"มึงไม่ต้องห่วงลูกพี่มึงได้เตรียมการไว้หมดแล้ว มึงคอยอยู่ตรงนี้แหละ"
ชิปปี้ชี้มาที่ตัวเองแล้วล้วงไปในกระเป๋าเสื้อหยิบบัตรนิ้วยามที่เปรอะไปด้วยเลือดออกมาชูแล้วเดินไปที่ประตู
"มึงก็แค่เอานิ้วทาบไปเดี๋ยวประตูก็เปิดเอง"
ชิปปี้วิ่งไปที่ประตูเอานิ้วไปทาบที่ประตูสแกน แต่ด้วยความที่นิ้วเปรอะเลือดและดินโคลนประตูเลยไม่เปิด ชิปปี้หันไปมองแม้กกี้
"นิ้วมันเลอะไปหน่อยนึงแลยสแกนไม่เห็นลายนิ้วมือ"
ชิปปี้เช็ดนิ้วแล้วทาบใหม่แต่ประตูก็ยังไม่เปิดแล้วหันไปทางแม้กกี้
"มันยังสกปรกอยู่คงต้องทำให้มันสะอาด"
ชิปปี้เอานิ้วมาดูดเพื่อทำความสะอาดชิปปี้ทำหน้าขยะแขยง ไกลๆเห็นรปภ.วิ่งขึ้นมาตรงบันได
"พี่พวกมันมาแล้ว"
ชิปปี้เลยต้องทำ ชิปปี้เอานิ้วทาบแต่ประตูก็ยังไม่เปิดอยู่ดี ทั้งสองคนเริ่มเครียด ชิปปี้เอานิ้วทาบอีกทีด้วยความโมโหแต่ประตูก็ไม่เปิด ชิปปี้โมโหจัดเลยทุบกำแพงจนมือเจ็บ เจ็บใจ
ที่ประตูเปิด แม้กกี้เอาการ์ดทาบ ประตูเลยเปิด ชิปปี้หันมามองแม้กกี้ด้วยความโกรธ
"ผมหยิบมาจากรปภ.เมื่อกี้น่ะ เผื่อไว้"
แม้กกี้เดินเข้าไป หน้าชิปปี้เหมือนจะอ้วก
ชิปปี้ แม้กกี้วิ่งลงมาทางบันได เห็นรปภ.เลยเอาปืนยิงรปภ.ตาย
"เดี๋ยวพวกมันคงมาตามเสียงปืน ถ้าจำไม่ผิดห้องพักของพวกมันอยู่ชั้นล่าง"
"อือ"
สองคนวิ่งลงไปทางบันได สวนทางกับชาคริตที่วิ่งสวนขึ้นมา ที่มุมบันไดชิปปี้ แม้กกี้ โผล่ออกมาแล้ววิ่งลงไปชั้นล่าง
ในห้องพัก พุฒิลุกขึ้นนั่งอย่างยังเจ็บอยู่
"โอย"
ประตูเปิดออก เคน พิงก์ และซูซี่เข้ามา
"มีอะไรเหรอ"
"มีคนบุกรุกเข้ามาในฟีนิกซ์"
"อะไรนะ ทำไมมันเข้ามาได้ง่ายจังวะ คราวก่อนมันก็มาขโมยแฟลชไดรฟ์ไปทีนึงแล้ว ครั้งนี้พวกมันจะมาเอาอะไรอีก"
"น่าจะมาเพราะซูซี่ค่ะ"
"หมายความว่าไง"
ก่อนที่ซูซี่จะพูดอะไรได้มากกว่านั้น ห่ากระสุนก็ถูกสาดมาทางพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องหลบเข้าไปในห้อง มีแต่เคนและพิงก์ที่มีปืนสั้นยิงตอบโต้
ซูซี่รีบเข้าไปประคองพุฒิ
ชิปปี้เห็นซูซี่ก็ดีใจ ชิปปี้หันไปพูดกับแม้กกี้
"นางนั่นอยู่ที่นี่จริงๆด้วย"
ทั้ง 2คนพยักหน้าให้กันแล้วออกมายิงถล่มที่กลุ่มเคนหลบกระสุนกันแทบไม่ทัน
ชิปปี้บอก "ส่งตัวนางซูซี่มาถ้าพวกแกยังอยากมีชีวิตอยู่"
เคน พิงก์หันมามองซูซี่แล้วออกไปยิงจนหมดแม็ก
"ไม่ ไม่มีทาง"
ที่พื้นเห็นลูกระเบิดกลิ้งมาใกล้ เคนเห็นตกใจ
"ทุกคนหมอบลง"
ระเบิดดังขึ้น ตัวอาคารสั่นไหว พอควันจางชิปปี้แม้กกี้เดินผ่านฝุ่นควันเข้ามา
"ได้ งั้นพวกแกตายพร้อมๆกันเลยละกัน" ชิปปี้ว่า
ชิปปี้แม้กกี้เดินตรงมาทางห้องพุฒิยิงใส่ไม่หยุด กลุ่มเคนไม่มีทางหนีได้แต่หลบกระสุน ชิปปี้แม้กกี้ยิงใส่ กลุ่มเคนหลบกระสุนกัน เคนมองพิงก์ พุฒิเอาตัวบังซูซี่ ซูซี่มองซึ้ง ก่อนที่พวกชิปปี้จะมาถึงจุดที่สามารถปลิดชีวิตพวกเคนได้ ชาคริตโผล่มายิงจากด้านหลัง ชิปปี้แม้กกี้หลบกระสุนแล้วยิงตอบ ชาคริตโยนแม็กกระสุนปืนให้เคนกับพิงก์ เคนกับพิงก์รับแล้วยิงใส่ชิปปี้แม้กกี้
ชิปปี้รีบเข้าหลบมุม
"แม้กกี้จัดให้มันซักลูก"
แม้กกี้พยักหน้าแล้วโยนระเบิดใส่พวกชาคริต กลุ่มชาคริตหลบลูกระเบิด ชิปปี้ออกมายิงเปิดทางแม้กกี้เอาหลังมาชนยิงไปทางเคนแล้ววิ่งขึ้นบันไดไป
ชาคริตวิ่งมาหาเคน พิงก์ ซูซี่ และพุฒิ
ชาคริตถาม "มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า"
"ไม่อ่ะ"
ได้ยินแค่นั้น ชาคริตก็รีบหันวิ่งตามชิปปี้ไป เคน พิงก์ ซูซี่ และพุฒิ มองตามด้วยความตื่นเต้น
ชิปปี้แม้กกี้วิ่งมาที่ดาดฟ้า แต่อุปกรณ์ปีนตึกหายไปแล้ว
"เอาไงดีพี่"
ชาคริตวิ่งตามมา ชิปปี้แม้กกี้สาดกระสุนใส่ แต่กลุ่มชาคริตมีเยอะกว่าเริ่มตีวงล้อม
"พี่เราคงต้านไว้ได้ไม่นาน เราเสร็จพวกมันแน่" แม้กกี้ว่า
"ไม่หรอก เตรียมตัวไว้พอฉันบอกว่าไปเรากระโดดหนีไปด้วยกัน"
"ได้พี่"
ชิปปี้โยนระเบิดใส่พวกชาคริตแล้วหันมาทางแม้กกี้
"ไป !"
สองคนกระโดดลงมาจากตึก ชาคริตเห็นสองคนวิ่งไปแล้ว
"โธ่เว้ย !"
ภาพจากกล้องวงจรปิด ในห้องโถง ชิปปี้ แม้กกี้ รปภ. และเจ้าหน้าที่ฟีนิกซ์หลายคน อยู่ในนั้น
แม้กกี้เงยหน้ากวาดตามอง เปิดให้เห็นใบหน้าภายใต้หมวกนิรภัย
"ช่วยซูมเข้าไปหน่อยซิ"
ชาคริตจัดการซูมภาพเข้าไปที่หน้าชิปปี้
"ลูกน้องนายธงรบ"
"ใช่ แต่พวกเค้าต้องการอะไร"
"พวกเค้ามาเพื่อฆ่าฉัน ... ธงรบส่งพวกนี้มา คงเพราะกลัวว่าฉันจะปากโป้ง แฉความลับของเขาออกมา" ซูซี่ว่า
"สงสัยว่าเธอคงเก็บความลับของเขาไว้เพียบเลย" เจนบอก
"ไม่หรอกค่ะ ฉันรู้เฉพาะส่วนของฉันเท่านั้น คนอย่างธงรบไม่เคยไว้ใจใคร เขาไม่ให้ใครรู้อะไรโดยไม่จำเป็นหรอก"
"ถึงยังงั้นเราก็คงต้องคุยกันยาว"
"ค่ะ ฉันพร้อมที่จะให้ข้อมูลทุกอย่าง เพื่อใช้จัดการกับธงรบและพวกไททัน"
"เอาล่ะ ๆ ผมว่าเรากลับไปเรื่องที่พวกนั้นบุกเข้ามาก่อนดีกว่าครับ พี่เจนคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ในเมื่อเรารู้แล้วว่านายธงรบอยู่เบื้องหลัง" เคนว่า
"ผมว่าเราบุกไปรวบตัวพวกมันเลยดีกว่า ขืนชักช้า พวกมันจะคิดว่าเราแหย ไม่กล้าทำอะไรพวกมัน" ชาคริตบอก
"เร็วเกินไปที่จะทำอย่างนั้น ก่อนที่จะบุกจับนายธงรบ ฉันต้องการหลักฐานที่จะทำให้เขาดิ้นไม่หลุดเสียก่อน" เจนบอก
"ข้อมูลในแฟลชไดรฟ์ ?" พิงก์ว่า
"ถูกต้อง"
ธงรบมองชิปปี้และแม้กกี้อย่างค่อนข้างพอใจ
"อย่างน้อยเราก็แน่ใจแล้วว่า ซูซี่อยู่ที่นั่น"
ชิปปี้บอก "แต่คงจะยากแล้วล่ะครับนาย ที่เราจะกลับเข้าไปในนั้นอีก"
"ไม่จำเป็นต้องกลับเข้าไปหรอก มันต่างหากที่จะต้องออกมาหาเรา"
"นายคิดจะทำยังไงเหรอครับ" แม้กกี้ถาม
"ก็แค่หาเหยื่อดี ๆ ล่อให้มันออกมา"
"เหยื่อ ! แบบไหนกันครับ ?"
ธงรบยิ้มแบบมีเลศนัย
ต่อมา ซูซี่ยืนพูดอยู่กับชาคริต
"ขอบคุณนะคะที่ช่วยชีวิตฉันไว้"
"ไม่เป็นหรอก ผมก็แค่ทนไม่ได้ ที่ไอ้คนพวกนั้นมันกล้ามาเหยียบจมูกเราถึงที่"
"ค่ะ แต่ถึงยังไง ฉันก็คงเสร็จมันไปแล้ว ถ้าคุณไม่มาช่วยไว้ซะก่อน"
"ก็โอเคล่ะ นาน ๆ ได้เป็นฮีโร่ซะทีก็ดีเหมือนกัน"
ไม่ไกลกันนัก เคนยืนพูดอยู่กับพิงก์
"บอกตรง ๆ นะ พิงก์ชักไม่แน่ใจแล้วล่ะ ว่าคุณเจนตัดสินใจถูกที่รับซูซี่เข้ามา"
"แต่เราก็ไม่มีทางอื่นนี่นา นี่ขนาดคุณซูซี่หลบอยู่ในนี่แท้ ๆ พวกมันยังกล้าบุกเข้ามาเลย แล้วถ้าเผื่อคุณซูซี่อยู่ข้าง" ดูเคนเป็นห่วงเขานะ"
"ก็... คนมันเห็น ๆ กันอยู่น่ะ ช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วย จริงไหมล่ะ"
พิงก์เหล่มองเคน ไม่พูดอะไรอีก จังหวะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เคนรีบยกสายขึ้นดู
"ไม่รู้สายใคร ขอรับก่อนนะ"
เคนกดรับ
"สวัสดีครับ ผมเคน อโณทัย ครับ"
ธงรบพูดโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
"สวัสดี จำฉันได้ไหม"
"เดี๋ยวนะ คุณเป็นใครกันเหรอ"
ธงรบยิ้มขำ "ทำไมลืมกันง่ายแบบนี้เนี่ย ฉันธงรบไง"
"ธงรบ !"
ชื่อนั้นทำให้พิงก์ต้องหันไปมองจ้องอย่างอยากรู้
"แกเอาเบอร์ฉันมาจากไหน"
"พอดี King Crow มันให้ไว้น่ะ แต่ไม่ต้องตกใจ ฉันไม่ได้อยากคุยกับแกหรอก ฉันต้องการพูดกับซูซี่"
"ซูซี่ไม่ได้อยู่ที่นี่"
"แกนี่มันน่าเบื่อจริง ๆ เร็ว ! รีบส่งโทรศัพท์ให้ซูซี่ แล้วบอกด้วยว่านี่มันเรื่องความเป็นความตาย"
เคนนิ่งอึ้งไป ซูซี่กับชาคริตเดินเข้ามา
"มีอะไรเหรอ"
"ธงรบ เขาอยากจะพูดกับคุณ"
ซูซี่คว้าโทรศัพท์มาจากมือเคน แล้วกระแทกเสียงลงไป
"คุณธงรบ คุณเลิกยุ่งกับชีวิตฉันได้แล้ว"
"ซูซี่ เธออาจตัดใครบางคนไปจากชีวิตได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก"
ธงรบหันโทรศัพท์ไปอีกทาง
โทรศัพท์หันไป หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งถูกแม้กกี้จับไว้อยู่
"ซูซี่ ซูซี่ ช่วยแม่ด้วย"
ซูซี่ตกใจสุดขีด ร้องออกมาดังลั่น
"แม่ !"
อ่านต่อตอนที่ 15