“เพื่อน-คณิน” ประทับใจ “แม่ก้อย-ทาริกา”
เล่น “ริมฝั่งน้ำ” ดราม่าหนัก
“เพื่อน-คณิน” เปิดใจถึงบทบาท “อาจารย์พฤกษ์” พร้อมเผยความประทับใจต่างๆ ในละคร “ริมฝั่งน้ำ”
“เรื่องนี้รับบทเป็นอาจารย์ครับ อาจารย์ “พฤกษ์” จะสอนบริหารธุรกิจ แล้วก็จะมีครอบครัวที่อบอุ่น เป็นคนรักครอบครัว แล้วก็ตัวผมจะเป็นเหมือนตัวแทนของคนทำงานในยุคปัจจุบัน ก็จะมีเวลาน้อยแถมเป็นลูกคนเดียวด้วย ส่วนใหญ่ครอบครัวเดี่ยว ก็จะมีเวลาให้ครอบครัวที่น้อยมาก แล้วอยู่ดีๆ ชีวิตก็พลิกผัน จากครอบครัวที่อบอุ่น ก็สูญเสียพ่อไปกะทันหัน แล้วแม่ก็ล้มป่วย ตัวเองที่แพลนชีวิตไว้ว่าจะไปเรียนต่อดอกเตอร์ที่เมืองนอก วาดฝันไว้อย่างดีก็พังลงทุกอย่าง แล้วมันก็จะเกิดเหตุการณ์อะไรสารพัดขึ้นจนเราต้องส่งแม่เราไปอยู่เนอร์สซิ่งโฮม คือมันเป็นความจำเป็น เค้าก็จะอยากพิสูจน์ตัวเอง อยากดูแล อยากจัดการทุกอย่างของตัวเองให้ได้ แต่สุดท้ายมันก็จะมีอุปสรรคเข้ามา ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ครับ”
บทอาจารย์พฤกษ์เป็นอย่างไรบ้าง
“อาจารย์พฤกษ์จะมีความนิ่งเป็นผู้ใหญ่มาก อยากที่จะดูแลครอบครัวให้ได้ เค้ามีความ perfectionist คือทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบ ตั้งกรอบกับตัวเองมากจนบางทีมันอึดอัด แล้วก็มาเจอนางเอก นางเอกเป็นคนที่ไม่มีกรอบอะไรเลย ชีวิตไปข้างหน้าอย่างเดียว ก็เลยทำให้คนที่มันคนละแบบมาเจอกัน มันก็ต้องเรียนรู้กัน ผ่านความรัก ผ่านการใช้ชีวิต ผ่านการดูแลแม่จริงๆ เรื่องนี้เป็นดราม่าจัดมาก ชีวิตผมไม่เคยร้องไห้เกี่ยวกับชีวิตครอบครัว พ่อแม่อะไรเยอะขนาดนี้มาก่อน ร้องไห้เพราะปัญหาชีวิตจริงๆ ที่ทุกคนจะเจอได้ครับ”
เป็นการร่วมงานกับ “อาตู่-นพพล” อีกครั้ง
“ตอนได้รับติดต่อให้มาเล่นเรื่องนี้ ดีใจครับ ดีใจที่ได้ร่วมงานกับอาตู่-นพพลอีกครั้ง แล้วเป็นบทที่ผมว่ามันยากนะครับ ต่างจากตัวจริงเยอะครับ เพราะว่าที่บ้านครอบครัวจะแบบสุขสบายมาก อันนี้เปิดมาแต่ละอย่างมรสุมชีวิตเยอะมาก ผมก็ต้องทำการบ้านเยอะครับ แล้วก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่องด้วยนะครับ ที่ส่งบทดีๆแบบนี้มาให้เรา แรกๆ ก็มีกังวล เพราะว่าเล่นเป็นอาจารย์ด้วย ไม่รู้จะไปสอนใครได้ยังไง ก็ไปดู นั่งนึกที่เคยเรียนมากับอาจารย์เป็นยังไง แล้วก็จะมีเข้ากับแม่ ตอนแรกผมจะค่อนข้างมีปัญหานิดหน่อย เพราะว่าไม่สนิทกับแม่ก้อย แล้วรู้สึกเกร็ง เรารู้จักเขาในฐานะที่เขาเป็นผู้จัด พอเล่นด้วยกันก็จะรู้สึกเกร็งๆ หน่อย แต่พอใช้เวลาสักแป๊บนึง ก็โอเคครับ”
ฉากประทับใจ
“ฉากที่ผมประทับใจเป็นพิเศษ คือ ฉากที่ผมเข้าด้วยกันกับแม่ก้อยหลายฉากเลยครับ คือแรกๆ ผมก็ไม่คิดว่าจะไปได้ถึงขนาดนี้นะครับ เพราะว่าครอบครัวผมเองหรือว่าอย่างแม่ผมเองก็ไม่ได้ป่วย แล้วก็พ่อผมก็ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พอเข้ากับแม่ก้อยนี่ ผมแบบทุกอย่างมันเข้ามาเลยครับ คือส่งมาดีมากๆ ประทับใจทุกๆฉากเลยครับที่เข้ากับแม่ก้อย”
เรื่องนี้มีฉากหวานมั้ย
“เรื่องนี้ฉากหวานเยอะ หวานฟรุ้งฟริ้งเลยหวานแบบรักใสๆ เหมือนหนุ่มสาวที่เพิ่งรู้จักกัน แล้วก็มาเรียนรู้กันผ่านประสบการณ์ของแต่ละคนที่แบบมีเรื่องกัน คนนี้ก็มีเรื่องของตัวเอง อีกคนก็มีเรื่องของตัวเอง แล้วก็มาเจอกัน เหมือนการที่รู้จักคนตั้งแต่เริ่มจนไปเป็นแฟนกัน จนขอแต่งงาน ระดับความหวานค่อยๆ ไต่ระดับขึ้น”
ร่วมงานกับผู้อาวุโสจำนวนมาก เป็นอย่างไรบ้าง
“เรื่องนี้นักแสดงอาวุโสระดับตำนานเยอะมากตื่นเต้นครับ บรรยากาศในกองอบอุ่นมาก แล้วก็สนุกเพราะว่าบางทีท่านจะมีจังหวะอะไรที่เราก็คาดไม่ถึง ทำงานด้วยแล้วสนุก ยิ่งเวลานั่งฟังผู้ใหญ่คุย ท่านจะคุยกันแต่ประสบการณ์ที่ผ่านๆมา จะเล่าให้ฟัง เหมือนการสอนผ่านประสบการณ์ก็เอามาเป็นวิชาได้เทคนิคมาเยอะเลยครับ อย่างพ่ออาด พ่อเค้าจะเคยกำกับ แล้วบางทีเค้าจะแบบพอเราเล่นไป เค้าก็จะดูที่เราซ้อม แล้วก็ช่วยจับตรงนี้นิดตรงนี้หน่อย ปรับแบบมากระซิบให้ แล้วก็กระซิบให้ทุกคนเลยที่เป็นแบบรุ่นเด็ก ยิ่งอย่างโอม อย่างผมจะเข้ากับพ่ออาดเยอะ พ่ออาดก็จะคอยมาบอก ตรงนี้อีกนิดนึง ตรงนั้นอีกนิดนึงไรงี้ ทำให้มันคมขึ้น ทำให้มันถึงซึ่งออกมาแล้วดีเลยครับ”
“กัปตัน” กับ “เฟรช” มีส่วนอย่างมากกับการทำงาน
“พี่กัปตันจะมีพี่เฟรชเป็นผู้ช่วยสองคนนี้ทำงานด้วยกัน ก็รู้สึกสบายตัวดีนะครับ เพราะว่าเราก็ปรึกษาเขา เขาก็ฟังเรา แล้วก็รู้สึกว่าเป็นวัยรุ่นมีความภาษาเดียวกัน เข้าใจกัน แล้วเค้าก็ยังเป็นนักแสดงที่ดีด้วย เขาก็จะเข้าใจอาการเรา ปัญหาของเราบางฉากบางอย่างเราอธิบายไม่ถูก แค่เขาดูเราในมอนิเตอร์หรือว่าเขาเห็นเราตอนซ้อมเนี่ย เขาก็อธิบายได้ว่าตรงนี้รู้สึกอะไรยังไง ประมาณนี้อยู่ใช่ไหม เขาก็จะหาทางแก้ให้ บางอย่างถ้ามันไม่โอเคหรืออย่างบางที่มันมีจุดบางจุดที่เราต้องปรับอีกนิดนึงแล้วเราไม่รู้ เค้าก็จะมองเห็นในจุดนั้น ส่วนพี่เฟรช บิลด์เก่งมาก พี่เฟรชเป็นคนที่เข้าใจวัยเรามากครับ”
หลังจากที่ได้ร่วมงานกับผู้อาวุโส มุมมองเปลี่ยนไปบ้างไหม
“มุมมองของผมที่มีต่อผู้สูงอายุหลังจากที่ได้แสดงเรื่องนี้ เปลี่ยนไม่มากนะครับ เพราะว่าที่บ้านจะค่อนข้างอยู่กับคุณปู่คุณย่า แล้วก็เป็นครอบครัวใหญ่ ที่จะได้เห็นชัดๆ คือเรื่องนี้ทำให้เห็นว่าสิ่งที่ผู้สูงวัยเค้าอยากเห็นก็คือ อยากเห็นลูกหลานมีความสุข อยู่ด้วยกันรักกันแล้วก็มีอะไรก็แชร์กันแค่นั้นเอง แล้วก็ใส่ใจคนในครอบครัวไว้ให้ดีที่สุด เพราะว่ามันไม่มีใครรักเราแล้วก็หวังดีกับเราเท่าคนในครอบครัว”
ฝากข้อคิดกับละครเรื่องนี้
“ละคร“ริมฝั่งน้ำ” สนุกครบรสเลยครับเป็นชีวิตของคนยุคปัจจุบันจริงๆคือคนเราบางทีมันแก้ปัญหาคนเดียวไม่ได้ มันต้องมีเพื่อน มันต้องมีคนรอบข้าง มีคนที่ไว้ใจ ต้องมีคนช่วย ปัญหามันมีทางออกทุกอย่าง คืออาจารย์พฤกษ์ยืนอยู่ฝั่งนึงของชีวิตที่กำลังจะต้องก้าวข้ามไป แต่ว่าจะข้ามไปโดยโดดเดี่ยว หรือจะข้ามไปโดยที่มีเพื่อนร่วมทางไปด้วย ไปแบบทุกคนที่นี่คือมีความรัก มีความผูกพัน มันสำคัญตรงนี้ ชีวิตเราจะไปตลอดรอดฝั่งไหม มันจะไปอย่างสวยงามไหม หรือจะไปอย่างทุลักทุเล แต่ว่ามันก็คือการเรียนรู้ของตัวละครที่จะไปถึงตรงนั้นให้ได้ ฝากติดตามริมฝั่งน้ำของพวกเรานะครับ เรียกว่าสนุกทุกรุ่น มีทั้งรุ่นของเราแล้วก็มีทั้งรุ่นใหญ่ด้วยครับผม เรียกว่าทุกคนเนี่ยฝีมือสุดยอด ดูแล้วคุ้มเวลาแน่นอนครับ”
ติดตามชม “ริมฝั่งน้ำ” ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 - 23.00 น. วันเสาร์ และ อาทิตย์ เวลา 20.15 - 22.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกอากาศให้ชมตอนแรก วันเสาร์ที่ 22 กันยายนนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ช่อง 33 และทาง Application Ch3 Thailand
