หัวใจและไกปืน ตอนที่ 8
ราเชนทร์อยู่ด้านนอกของกระท่อมท้ายสวน ได้ยินเสียงชนายุสร้องสุดเสียง
"ช่วยด้วย..."
ราเชนทร์รีบวิ่งไปตามเสียงนั้น พลางเรียก
"ไอ้หนู..!"
ชนายุสวิ่งด้วยความเร็ว โผกระโดดเข้ามากอดราเชนทร์ ราเชนทร์ผงะ
"ผีหลอก"
ชนายุสทรุดลงนั่ง ราเชนทร์ยกขาตั้งการ์ด ชนายุสทรุดตัวลงไป นั่งจุกด้วยความเจ็บไข่
ราเชนทร์ยังคงค้างท่ายกเข่าอยู่ด้วยสัญชาติญาณ
"ผมกลัวผี ครับน้า ... อูยยยย" ชนายุสจุก แล้วทรุดนั่งลงไปกองกับพื้น
ราเชนทร์มองแล้วกลั้นขำไว้
"เอ้ยยยย อย่างนี้ต้องเตะซ้ำ รับรองหายไว โรคกลัวผีเนี่ย" ทว่าแววตาของราเชนทร์กลับเอ็นดูเด็กน้อย
ภายในซุ้มมือปืน เฮียตง ตอนกลางคืน
หมวยถูกเล็กขาวผลักล้มลงข้างตนเองตรงพื้นหน้าเฮียตง เฮียตงมองหมวยอย่างเจ็บช้ำ
แล้วเฮียตงก็ลุกกำหมัดเดินเข้าไปหาหมวย เงื้อมือขึ้นตบเล็กขาวอย่างไม่นับ
เล็กขาวเซไปได้เเต่ปัดป้อง เฮียตงตามตบด้วยมือเปล่า จนปืนเล็กขาวหลุดจากเอวลงพื้น
เล็กขาวมองปืนตัวเอง
"หยิบ ..ไอ้เล็ก หยิบขึ้นมา.."
เล็กขาวส่ายหน้า "ไม่อ่ะ เตี่ย เตี่ยตบผมเรื่องอะไร"
"เอ็งกล้าแตะ อาหมวยเหรอ.."
"แต่..หมวย มัน"
เฮียตงตบ "มัน! ..มันเหรอ" ตบอีกที " มัน! มัน! นี่แน่ะ" ตบอีก "มั..น !"
"หมวย..หมวย หมวย เค้าหนีเตี่ยไปนะ"
"เป็นเรื่องระหว่างหมวยกับอั๊ว ลื้อไม่ต้องยุ่ง"
เฮียตงมองกราดลูกน้องกุ๊ยๆของเล็กขาวที่ยืนมองอึ้งอยู่
เฮียตงถามเสียงเข้ม "ใครมีปัญหาอะไรมั้ย"
พวกลูกน้องกุ๊ยทั้งหลายยืนก้มหน้า
เฮียตงหันไปมองหมวย น้ำเสียงเปลี่ยน เอ็นดู "หมวย"
หมวยหันหลังกลับมามองเฮียตง แบบไม่กลัว
"กินอะไรมารึยัง"
เล็กขาวแทบเอาหัวโขกพื้น แทนที่เฮียตงจะด่าหมวย
"เล็กมันไม่ให้กิน..."
เฮียตงถีบเล็กขาวที่นั่งกอดเข่า เอามือบังหน้าอย่างกลัวอ “สันดาน”
เล็กขาวมองหมวยอย่างขุ่นเคือง
"ขึ้นไปบนห้อง เดี๋ยวเตี่ยให้คนทำอะไรไปให้กิน" เฮียตงบอก
หมวยเดินผ่านเล็กขาว สบตามัน เล็กขาวเก็บความเเค้นสุมใจ หมวยเดินจากไป
เฮียตงสั่งเล็กขาว "ทีกะไอ้ราเชนทร์ ยังจับตัวมันไม่ได้เลย ..ไปเลยนะ ไปตามหาไอ้ราเชนทร์ให้เจอ"
เล็กขาวพยักหน้า เอามือปาดเลือดที่ปากออก เก็บปืน
"พี่เชนทร์ ..! เพราะมึง..."
บริเวณท้ายสวน เวลาเดียวกัน ...
เปลวไฟไหม้ลามเลียฝักข้าวโพดอยู่ ราเชนทร์เขี่ยออกมาเป่าๆ แล้วยื่นให้ชนายุส
"กินเก่งเกินนะ"
"หิวครับ!"
ราเชนทร์มองชนายุสที่พยายามเป่าข้าวโพด เขาถามเด็ก "ชื่ออะไร"
"ชื่อชนายุสครับ เรียกดีเดย์ก็ได้ครับ"
"อื่มมมม... งั้นเรียก...." ราเชนทร์เว้นแบบนึกๆ " งั้นเรียก อื่มม...ไอ้หนูแล้วกันนะ"
ชนายุสบ่นพึมพำ
"อืมม... แล้วถามทำไมครับ"
หมวยมองห้องตัวเองที่ยังคงอยู่สภาพเดิม
แล้วเธอก็มองเห็นภาพเฮียตงที่ถ่ายคู่กับเธอตอนยัง
เป็นเด็กหญิงอยู่อายุเจ็ดแปดขวบซึ่งดูรักใคร่กันดี ทั้งคู่นั่งกินโจ๊กข้างทางแถวเยาวราชอยู่ด้วยกัน
เฮียตงเพิ่งเดินเข้ามา พร้อมถ้วยข้าวต้มในมือ
"โจ๊ก ลื้อเคยชอบตอนเด็กๆ"
"ทำไมไม่ให้แม่บ้านทำ"
"หลับไปแล้ว ขี้เกียจปลุก กินซะก่อน ยังร้อนๆอยู่"
หมวยหมางเมิน "เอาวางไว้เหอะ"
"หมวย...เตี่ยรู้ ว่าลื้อไม่ชอบสิ่งที่เตี่ยทำอยู่ ถึงขั้นหนีออกไปอยู่ที่อื่น แต่นี่มันชีวิตเตี่ย เตี่ยเกิดมาเป็นแบบนี้"
"เตี่ย..ฆ่า..คน"
เฮียตงอ่อนใจ "ลื้อเกลียดเสือที่มันเกิดเป็นเสือ โกรธงูที่มันเกิดเป็นงูได้ไงว้า"
"เตี่ยเกิดเป็นคน"
เฮียตงพูดอ่อนโยน "สัตว์มันก็ฆ่าสัตว์ด้วยกันทั้งนั้น"
"แล้วพี่เชนทร์ล่ะ"
เฮียตงนิ่งไป
"ถ้าเตี่ยนับหมวยเป็นลูก พี่เชนทร์ก็ลูก"
"เชนทร์มันลูกทรพี มันคิดจะวัดรอยเท้าเตี่ย"
"ไม่ใช่แล้ว คนที่จะวัดรอยเท้าเตี่ยนะ ไอ้เล็กขาวต่างหาก คอยดู วันนึงมันไม่เอาเตี่ยไว้หรอก"
เฮียตงพูดอย่างเศร้าๆ
"ลื้อคิดว่าเตี่ยไม่รู้เหรอ..วันนึง ก็ไม่มีใครเอาเตี่ยทั้งนั้น ลื้อเองก็เหอะ"
เฮียตงเดินจากไปอย่างเศร้าๆ หมวยมองดูโจ๊กในชาม แล้วก็เลยไปมองภาพถ่ายในอดีต เธอไม่รู้จะทำไงดีเหมือนกัน หมวยนึกถึงตอนเด็กๆที่เฮียตงทำโจ๊กให้กิน เฮียตงเหน็บปืนไว้ ต้มโจ๊กให้หมวยตอนเด็ก กินอย่างเอร็ดอร่อย
ฝ่ายราเชนทร์นั่งหลับตานึกๆ อยู่ เหมือนหลับ ราเชนทร์แอบชำเลืองมองชนายุสที่นั่งกินข้าวโพดปิ้งไม่ไกลจากราเชนทร์นัก เขาเห็นเด็กน้อย เอามือโบกไล่ยุงตามแขนเขาเบาๆ เอามือตบยุงกลางอากาศไม่โดน เห็นยุงมาเกาะหน้าเขา เด็กน้อยค่อยๆเข้ามา เงื้อมือจะตบ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ใช้ปากเป่าไล่ยุง ที่หน้าราเชนทร์จนแก้มป่อง กลับไปกินต่อไป
เวลาผ่านไป ชนายุสได้ที่แล้ว ก็หลับไปทั้งๆ ที่ข้าวโพดคามืออยู่ แล้วก็หลับตาลงอีกเมื่อเด็กน้อยหันมา
ราเชนทร์ยิ้มเบาๆ
ราเชนทร์พาชนายุสจัดท่านอน เพราะอุ้มไม่ไหว ดูหนักไป
ระหว่างนั้นก็เดินกลับมานั่ง ได้ยินเสียงผิดปกติ ราเชนทร์เดินหายไป มีใครบางคนเดินเข้ามาที่
ที่ชนายุสหลับอยู่ พลิกตัวเด็กดู ..
เสียงปืนดัง "คลิ๊ก" !
บุคคลแปลกหน้าตกใจหันกลับมายกมือขึ้น
"ผมเองพี่..!!"
"ไอ้มิ่ง!!"
"พี่เชนทร์.."
"เด็กคนนี้หรือพี่ที่พ่อโดนเก็บไปแล้ว"
"อื่มมม... รู้ไวดีหนิเอ็ง"
"แล้วพี่จะกระเตงเด็กไปอย่างนี้เหรอ"
ราเชนทร์หนักใจเหมือนกัน "อือ"
"นี่...พี่เปลี่ยนเป็นลักพาตัว เรียกค่าไถ่เหรอพี่"
ราเชนทร์ตวัดหางตามองมิ่ง
มิ่ง "ล้อเล่นน่า ไม่ใช่แบบฉบับของราเชนทร์ ไกทองสักหน่อยคร้าบ"
มิ่งมองที่เด็ก "ถ้าผมเป็นเด็ก มันก็ต้องอยากกลับไปหาแม่นะพี่"
"กลับไปทั้งๆที่รู้ว่าจะโดนเป่างั้นเหรอ!!"
"จริงๆ แล้วผมมีข่าวมาบอก เรื่องเฮียตง ตอนนี้เฮียตงประกาศไม่อุ้มราเชนทร์ ไฟเขียวทุกคนล่าตัวพี่!!"
ราเชนทร์บอก "วงการนี้ ไว้ใจกันยากจริงนะ"
"แล้วผมไว้ใจพี่ได้มั้ยอ่ะ"
"ลูกผู้ชายต้องรักษาคำสัตย์"
"ถ้าสัตย์สลาย ก็คล้ายสัตว์"
ทั้งคู่มองหน้ากันยิ้มๆ แกมหัวเราะ
บรรยากาศ เช้าวันใหม่
จันทร์แจ่มเดินเข้ามาในบ้านเช่าของราเชนทร์อย่างเงียบเหงาเศร้าซึม เธอมองไปรอบๆ แล้วก็เอาเสื้อผ้าของเด็กเล่นของไอ้หนูมาวางไว้กับที่ แล้วเธอก็นั่งร้องไห้คนเดียว มีเสียงน้ำราดส้วมเบาๆ
เธอเงี่ยหูฟัง "พี่เชนทร์"
เงียบ! ไม่มีเสียงตอบออกมาจากห้องส้วม
"พี่เชนทร์ ใช่พี่รึเปล่า"
ความเงียบเช่นเคย จันทร์แจ่มเริ่มมอง... ไม่แน่ใจ เริ่มระวังตัวนิดๆ และแล้ว เสียงดัง “ผลั่ววว..” ประตูเปิดออก
ลุงแหลมออกจากห้องส้วม "กลอนมันเสียนะ" แหลมหัวเราะแหะๆ "หนูคงเป็นแจ๋มใช่มั้ง"
"ลุงเป็นใคร"
"เพื่อน..เชนทร์"
"เพื่อน?"
"เพื่อนรุ่นพี่..เอ่อ รุ่นน้า รุ่นลุงน่ะแหละ"
จันทร์แจ่มเริ่มเอาจริง "พี่เชนทร์ไปไหน"
"หนูควรจะถามว่า ลุงมาทำไมมากกว่า"
แหลมสะบัดผ่าห่มผืนใหญ่ปูลงกลางบ้าน มันเป็นผ้าห่มที่เย็บจากเสื้อผ้าเด็กทารกหลายๆชุด
มีทั้งรองเท้าผ้านุ่มนิ่ม ผ้ากันเปื้อน ชุดหมี หมวกเด็กอ่อน จนกลายเป็นผ้าห่ม จันทร์แจ่มยืนมองอยู่
"สวยนะ มันเป็นผ้าห่มที่เชนทร์ตั้งใจเย็บไว้ให้ไอ้ตัวเล็ก"
จันทร์แจ่มใช้มือลูบเรื่องราวบนผ้าห่ม เสียงเด็กอ่อนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากดังเเว่วมา
แหลมบอก "เสียดายที่ลูกชายเขาคงไม่มีโอกาสได้ห่มได้ใช้"
จันทร์แจ่มพึมพำ "มันคงเต็มไปด้วยอดีต ความรู้สึกของพี่เชนทร์"
"ใช่.. ผ้าผืนนี้ เต็มไปด้วยความทรงจำในอดีต ของราเชนทร์ ลุงสอนมันทุกเรื่องแหล่ะ รวมทั้งสอนเย็บผ้าห่มผืนนี้ด้วย"
"ลุงสอนให้เขาเป็น มือปืน!!"
"เอื่อ" แหลมส่ายหน้า "แต่สอนให้เค้ารู้จักในสิ่งที่เค้าควรจะได้"
"แล้วอะไรที่พี่เชนทร์ไม่เคยได้"
"มันถูกพรากไปต่างหาก"
ลุงแหลมเหมือนลอยข้ามไปยังสวน ... ขณะนั้น ราเชนทร์เดินไปนั่งข้างๆชนายุสที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ ราเชนทร์มองดูชนายุสแบบเศร้าๆ
แหลมบอกเรื่องราวของราเชนทร์แก่จันทร์แจ่ม “ราเชนทร์เคยมีพ่อแม่ที่รักเขาและเขาก็รักมาก”
เย็นวันหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศตลาดสดที่วายแล้ว มีคนเหลืออยู่ไม่มาก ราเชนทร์ในวัยหนุ่ม เพิ่งเข็ญผักกลับมาจากการส่งขึ้นรถให้ลูกค้า มองไปไกลๆ ที่แผงผักของพ่อแม่มีเสียงโวยวาย
เมื่อราเชนทร์เดินเข้าไปใกล้เห็นคนที่ทะเลาะยิงปืนใส่ พ่อแม่ล้มฟุบกลางกองผัก
มอเตอร์ไซด์คันหนึ่งรีบขับหนีไป ราเชนทร์วิ่งไปกอดร้องไห้อย่างรันทด มองตามมือปืนแบบรู้ว่าใคร
“หัวใจแตกสลายของลูกผู้ชายที่สูญเสีย ความเศร้าถูกทดแทนด้วยความเกลียด โกรธแค้น”
ในมุมมืด แววตาราเชนทร์เคียดแค้น มีดในมือสะท้อนเงาวาบ มอเตอร์ไซด์คันหนึ่งแล่นเข้ามาในตรอก ราเชนทร์ดักฟันไม่ยั้งจนมอเตอร์ไซด์ล้ม เลือดกระเซ็นเต็มหน้าราเชนทร์
“ในที่สุด หัวใจมันก็เริ่มด้านชา และยอมรับชะตากรรม”
รถตำรวจเข้ามา ราเชนทร์ที่แววตาเฉยชา ยอมรับชะตากรรมให้ตำรวจจับแต่โดยดี
แหลมพูดต่อ “นั่นทำให้เชนทร์ ถูกส่งตัวไปในที่ลุงกับเขารู้จักกันครั้งแรก ... นั่นคือคุก สำหรับพวกเรา คุกเหมือนศูนย์การเรียนรู้ เรียนรู้ศิลปะการต่างสู้ต่างๆ ทุกแขนง รวมๆ เราเรียกว่า ศิลปะการเอาตัวรอด”
13 ปีก่อน ณ มุมหนึ่งในคุก นักโทษกลุ่มหนึ่ง4-5 คนล้อมกรอบมิ่งอยู่
นช1 บอก “กูบอกมึงแล้วว่าอย่ามาเดินโพยแถวนี้ พี่พงษ์เค้าดูแลอยู่”
มิ่งจะเดินแหวกวงออกไป
“ไม่รู้ พี่แหลมให้กูมา มึงไปเคลียร์กับพี่เค้าเอง”
“เออได้ๆ งั้นกูฝากมึงไปบอกพี่เค้าด้วยละ”
ไม่ขาดคำมิ่งก็ถูกหมัดกระเด็นไปและถูกรุมจนจมตีน นช1กำลังยกตีนจะกระทืบหน้ามิ่ง
ผู้คุมมองเหตุการณ์ แต่ไม่สนใจ
“พอเถอะครับพี่”
ทุกคนหันมองราเชนทร์กันเป็นตาเดียว เป็นครั้งแรกที่ราเชนทร์อยู่ในคุก
นช1 บอก “เสือก!”
นช1 พุ่งเข้าใส่ราเชนทร์ ราเชนทร์สเต็ปหลบหลีกต่อยสู้แบบคนที่เป็นมวย มวยในคุกครั้งนั้น แบบห้ารุมหนึ่ง
ลุงแหลมมองจากมุมสูงลงมาเห็นการต่อสู้ของราเชนทร์
ราเชนทร์ก็โดนจับล็อคบ้าง แต่ก็แก้ออกมาได้จนจัดการกับทุกคน ทุกคนไม่กล้าเข้า และถอยออกไป
ราเชนทร์นั่งลงประคองมิ่ง
ห้องลุงแหลม เวลากลางวัน
ลุงแหลมกำลังเย็บผ้าห่มของตัวเองอยู่ ราเชนทร์ประคองมิ่งเข้ามา
มิ่งชี้ไปที่แหลม ราเชนทร์มอง
“นี่..พี่แหลม”
แหลมพูดโดยไม่มอง “ขอบใจนะ”
ราเชนทร์ไม่พูดจะเดินออก
“มาอยู่กับพี่มั้ย”
ราเชนทร์เข้าใจความหมาย หมายถึงการชวนเข้าแกงค์ เขาส่ายหน้า
“ขอบคุณพี่ แต่ผมอยากอยู่เงียบๆ”
“ซัดลูกน้องไอ้พงษ์ซะขนาดนั้น มันคงไม่ปล่อยให้น้องอยู่สงบๆแล้วหล่ะ”
ราเชนทร์มองแหลมแบบรู้เข้าใจว่าตนไปเปิดศึกไว้แล้ว
“พี่ชื่อแหลม”
“ราเชนทร์”
แหลมสั่งมิ่ง
“มิ่งเอ็งจัดที่ให้พี่เค้านอนด้วย”
ราเชนทร์และแหลมต่างมองหน้ากัน
ผ่านเวลา .... ความสัมพันธ์ในคุกของทั้งสาม
มิ่งมาชวนราเชนทร์มากินข้าวงเดียวกับแหลม
ทั้งสามอาบน้ำด้วยกัน มิ่งคุยตลก ทุกคนหัวเราะกัน
แหลมสอนการต่อสู้ให้กับราเชนทร์ ทั้งมือเปล่า และหาอื่นๆที่หาได้ ทำเป็นมีดสู้กัน
แหลมคุยกับผู้คุม ราเชนทร์แอบมอง
ณ มุมหนึ่งในคุก เวลากลางคืน
แหลมสอนราเชนทร์เย็บผ้าห่มติดกันทำเป็นที่นอน
“หน้าหนาวพื้นที่นี่มันเย็นจับใจ เอ็งเย็บซ้อนไว้จะได้หลับสบาย”
ราเชนทร์เย็บเงอะงะ แหลมเย็บให้ดู
“ออกไปแล้วจะไปทำอะไร” แหลมถาม
“ฆ่าไอ้พวกชั่วให้หมด”
แหลมมองอย่างเห็นใจราเชนทร์
มุมหนึ่งในคุก เวลากลางวัน มีคนมาส่งโพยให้มิ่งเป็นระยะๆ
“อยู่กับพี่แหลมก็ดีอ่ะพี่ มีคนคุ้มกะลาหัว ไม่งั้นพวกแม่งเล่นไม่เลิก แต่ทุกคนก็ต้องทำงานแลก แต่ถึงขนาดให้เอาตัวเข้าแลกขนาดนั้นผมก็ไม่เอาด้วยอ่ะพี่ แฟนผมยังรออยู่ไม่กี่ปีก็ได้ออกแล้วพี่ พี่ก็เหมือนกัน ระวังตัวด้วยนะพี่ ผมว่าไอ้พงษ์มันหาโอกาสเล่นพี่แน่”
ราเชนทร์ไม่พูดอะไร ได้แต่มองนิ่ง
เลิกงานตอนเย็น
นักโทษเริ่มทยอยออกจากห้อง เมื่อถึงแหลมกับราเชนทร์ ผู้คุมให้รอก่อน
มิ่งเหมือนจะรู้ตัวล่วงหน้า แทรกตัวออกไปได้หวุดหวิด ขณะที่กลุ่มไอ้พงษ์นับสิบคน
เดินสวนเข้ามา แหลมและราเชนทร์มองหน้ากัน พลางถอยไปตั้งหลัก หยิบท่อนไม้ไว้
ป้องกันตัว
กลุ่มของพงษ์บุกตะลุยรุมฟาดฟันกับราเชนทร์ ซึ่งถอยพลาง สู้พลาง ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับแหลม ทั้งคู่โดนจนน่วม เลือดท่วม แต่ใจที่แข็งแกร่งทำให้ทั้งคู่ยืนหยัดจนฝั่งตรงข้าม ล่าถอยในที่สุด
แหลมมองราเชนทร์อย่างซึ้งในน้ำใจลูกผู้ชาย
“ที่นั่นมีทุกอย่างเลย ศัตรู หมู่มิตร คนคิดอาฆาต หัวใจของไอ้เชนทร์ มีแต่รอยแผลที่ถูกบาดลึก จากความเกลียด ความโกรธแค้นที่รอวันทดแทนด้วยอะไรซักอย่าง” แหลมบอกเล่า
ราเชนทร์เดินยาวคู่กับผู้คุมที่หน้าคุก ตอนกลางคืน
ราเชนทร์คุยกับใครคนหนึ่งในเงามืด
ชายลึกลับบอกกับเขาว่า
“มีคนเค้าอยากจะอุปการะมึง ถ้ามึงตกลง มึงก็ได้ออกเร็วขึ้น”
ราเชนทร์เงยหน้าขึ้นมอง
ลุงแหลมเล่าบอกต่อว่า
“วันนึงเมื่อมีคนเสนอ มันจึงสนองในที่สุด ไอ้เชนทร์ก็ถูกตีตราว่า เป็นคนของเจ้าพ่ออย่างเฮียตงในฐานะของ มือปืน!!”
ณ บริเวณใกล้กลอนประตูคุกถูกปลดออกเสียงดัง !
เฮียตงยืนดูดบุหรี่เงยหน้าขึ้น ยิ้มให้ราเชนทร์ เล็กขาวยืนอยู่ห่าง ตอนนั้นท่าทางยังเด๋อๆอยู่
เฮียตงถาม
“ไปทำงานกับเฮียมั้ย”
“งานอะไร”
“ประเทศนี้มันก็เหมือนบ้านของเรา มันมีไอ้พวกปลวกเลวๆ ที่มันคอยกัดกินเสาเรือน ถ้าปล่อยไว้บ้านที่เรารักก็คงพัง”
ราเชนทร์สบตาเฮียตง
เฮียตงพยักหน้า เล็กขาวกุลีกุจอไปเอาเป้ราเชนทร์มาถือ เดินนำหน้าไปที่รถ
ราเชนทร์กับเฮียตงเดินตามมา
“เฮียก็แค่อยากให้เชนทร์มาช่วยกำจัดแมลง แล้วต่อไปนี้เรียกเฮียว่าเตี่ยนะ”
เฮียตงยิ้มเย็นโอบไหล่พาราเชนทร์ขึ้นรถไป
ตอนสายในบ้านเช่าของราเชนทร์
“แล้วทำไมที่ผ่านมาถึงไม่เคยเห็นเขา” จันทร์แจ่มถามแหลม
“เพราะลูก ความรักลูกทำให้ราเชนทร์ยอมวางมือ หันหลังให้กับวงการนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าการถอนตัว คือการเปิดฝาโลงให้กับตนเอง”
“แล้วที่เขาต้องกลับมาครั้งนี้” เธอพูดพลางกอดผ้าห่มแน่น “ก็เพราะ..” จันทร์แจ่มกอดผ้าห่มแน่น ไม่มีคำพูดใดๆ อีก
ลุงแหลมตัดบท ยื่นกล่องเล็กๆ ให้จันทร์แจ่ม
“เกือบลืม เชนทร์เขาฝากมาให้หนู” แหลมบอก
แหลมหยิบกล่องใส่แหวนออกมา “เขาบอกด้วยว่า” แหลมวางกล่องนั้นลงบนโต๊ะ
“เขาไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่นี่เมื่อไหร่ หรือจะได้กลับมาอีกมั้ย ถ้าหนูรอเขา ก็ขอให้เก็บไว้ให้ดี แต่ถ้าหนูไม่รอ ก็... อื่มมม... คงเข้าใจนะจ๊ะ ... ลุงหมดหน้าที่แล้วแหล่ะ ไปนะ”แหลมจะขยับตัว
จันทร์แจ่มตัดสินใจ
“เดี๋ยวลุง คำตอบของหนูคือ ไม่รอ!! แต่หนูขอที่อยู่พี่เชนทร์ หนูต้องไปหาเขาเดี๋ยวนี้”
แหลมกำลังจะลุกไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากหน้าบ้าน
“ผมจ่าสมานนะครับ คุณแจ๋มเปิดประตูให้ผมด้วยครับ.. คุณแจ๋มครับ”
“นี่หนูพาตำรวจมาเหรอ”
“หนูเปล่านะ เอาไงดีคะ”
“ไม่ต้องห่วง บ้านนี้ลุงกับเชนทร์สร้างด้วยกันมากับมือ หนูไปเปิดประตูเถอะ ... เอานี่เก็บไว้ แผนที่”
จันทร์แจ่มมองอย่างงๆ
“แล้วลุงจะออกไปทางไหน”
“อืมมม ไปเถอะ เร็ว เดี๋ยวเขาสงสัย”
จันทร์แจ่มเดินไปหน้าประตู แล้วหันกลับมามอง ลุงแหลมหายไปแล้ว
มุมพื้นบ้านเห็นไม้กระดานขยับเปิด ให้รู้ว่าแหลมหนีไปทางนั้น
จันทร์แจ่มเดินออกไปเปิดประตู
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะจ่า...”
“ไม่มีครับ ผมมาตรวจตามหน้าที่” จ่าสมานพูดพลางลอบมองเข้าไปในบ้าน
ระหว่างที่จันทร์แจ่มคุยกับจ่าสมาน เธอเองก็หันหลังกลับไปมอง ก็ไม่เห็นลุงแหลมอยู่ในบ้านแล้ว
จ่าสมานโทรศัพท์รายงานกับสารวัตรเชลียง
“ไม่พบผู้ต้องสงสัยครับ ... ผมว่าก็สงสัย แต่ไม่รู้ว่าจะสงสัยอะไรดีครับ”
“เอ้อ...โอเครับทราบ... ปล่อยไปก่อน... มีคนโทรมาแจ้งที่อยู่ราเชนทร์ ผมจะออกไป
คุณเรียกกองกำลังตามมาสมทบด้วย”
“ครับๆๆ... เจอราเชนทร์... ที่ไหนนะครับ ...อ๋อ.... คลอง 6 ธัญญะ ครับๆ ได้ครับ ไปเดี๋ยวนี้”
จ่าสมานวางสาย จันทร์แจ่มยืนฟังอยู่ ได้ยิน
“แจ๋มขอไปด้วยนะ” เธอแอบดูแผนที่ในมือ
“ไม่ได้ครับ ไม่สะดวกต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ผมขอตัวก่อนนะครับ...สวัสดีครับ”
พูดจบจ่าสมานก็รีบจ้ำอ้าวออกไป
หลังจากที่สารวัตรเชลียงวางสายจากจ่าสมาน แล้วกดโทรศัพท์หาวิภาทันที
ในบ้านเฉลิมเกียรติ วิภาคุยโทรศัพท์กับสารวัตรเชลียง
“ขณะนี้เราได้ข่าวคนร้ายแล้วนะครับ ว่าไปกบดานอยู่ที่ไหน เราจะรีบไปนำตัวลูกชายคุณกลับมาให้ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด”
“อยู่ที่ไหนคะ ขอฉันไปด้วยได้มั้ยคะ”
“อย่าดีกว่าครับ อันตราย รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านจะดีกว่า ผมจะแจ้งข่าวให้ทราบโดยเร็วที่สุดครับ”
“ขอบคุณมากเลยนะคะคุณตำรวจ”
ชาญชัยเดินเข้ามา ปรึกษากับวิภาอยู่อย่างสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน
“ขอให้เจอตัวที่เถอะ น่าเป็นห่วงจริงๆ นะครับ เอื่อมมม แล้วเรื่องงานของเราล่ะพี่ ธุรกิจมันต้องดำเนินต่อไปนะ”
“พี่ต้องปรึกษาทนายก่อน”
“พี่ไม่เชื่อใจผม?”
วิภาว้าวุ่นใจ
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ มันหลายเรื่องมาก พี่...”
“ถ้าพี่ไม่เซ็นต์ยินยอมมอบอำนาจให้ผม ผมก็ตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย” ชาญชัยอ้อนวอน “ผมไม่อยากให้ธุรกิจของเฮีย ต้องมาชะงักลงเพราะผมนะพี่”
วิภามอง สายตาอ่อนลง เข้าใจ
“ทำเรื่องเล็กๆไปก่อนแล้วกัน เรื่องใหญ่ๆก็คาเอาไว้ก่อน..นะ”
ชาญชัยพยักหน้า “แล้วแต่พี่ภาแล้วกันครับ”
วิภาไม่ได้สนใจที่ชาญชัยมาคุยด้วย ใจกังวลเป็นห่วงชนายุส กลัวว่า ลูกชายจะได้รับอันตราย
จันทร์แจ่มยืนชะเง้ออยู่ริมถนน ดูนาฬิกาถี่ๆเหมือนคอยใครอยู่ ชั่วอึดใจนึง หมวยก็ขับรถมาจอดเทียบ
หมวยเดินลงมาจากรถ
“โทรมาเรื่องพี่เชนทร์จะเคลียร์เรื่องอะไรกับชั้นก็เอาให้จบนะ”
“ตำรวจรู้แล้วว่าพี่เชนทร์อยู่ไหน”
หมวยตกโต ตกใจ แต่เก็บอาการ “แล้วมาบอกชั้นทำไม”
“ชั้นก็รู้ว่าพี่เชนทร์อยู่ไหน ?”
“เธอรู้มาจากไหน แล้วพี่เชนทร์อยู่ที่ไหน”
“จะบอกให้ แต่ ... ชั้นไปด้วย ชั้นจะบอกทางเธอเอง”
“เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย”
“ไปเถอะ... ชั้นห่วง ถ้าตำรวจเข้าถึงตัวพี่เชนทร์”
“ติดคุกยังปลอดภัย ยังไงก็ดีกว่าให้พวกหักหลังเข้าถึงตัวเขา มันเอาพี่เชนทร์ตายแน่”
“แต่ตำรวจคนนี้ ก็จับตายทุกครั้งเหมือนกัน”
หมวยชักหวั่นใจ “สารวัตรเชลียง..!”
สารวัตรเชลียงขับรถไป... พร้อมกับดูแผนที่ไปด้วย
เวลากลางคืน ณ กระท่อมท้ายสวน มิ่งมองนาฬิกา
“ชั้นไปก่อนหล่ะพี่เชนทร์ ดีใจนะ ที่ได้เจอกัน ร่วมงานกันอีก”
“ไปหาพี่แหลมด้วยหล่ะ เอ็งได้ที่อยู่แล้วนะ”
มิ่งยิ้มให้ “ขอบคุณนะพี่เชนทร์ ระวังเฮียตงด้วยนะพี่”
ราเชนทร์มองมิ่งสายตานิ่ง
“อื่มมมมม ... มิ่ง!! แล้วฉันไว้ใจแกได้มั้ย”
ทั้งคู่มองหน้ากัน
“ลูกผู้ชายต้องรักษาคำสัตย์ ถ้าสัตย์หาย ก็คล้ายสัตว์” พูดแล้วมิ่งก็เดินจากไป
ชนายุสโผล่หน้าออกมาถาม “เฮียตงเกี่ยวข้องกับการตายของป๋าผมใช่มั้ยครับ”
“งั้นมั้ง”
“เค้าส่งน้าไป บ้านผมใช่มั้ยครับ”
ราเชนทร์มองหน้าชนายุส “แค้นเหรอ”
“ไม่รู้ครับ บอกไม่ถูก ... น้าว่าผมควรรู้สึกยังไง”
“ไม่รู้สิ ตอนนี้ชีวิตชั้น ก็ไม่ต่างกับปะป๊าแกเท่าไหร่หรอก จะตายวันตายพรุ่ง ไม่รู้วันไหนแน่”
“แล้วต้องทำไงต่อ”
“เก็บของ เราต้องไปต่อแล้ว”
“ห๊าาา... ทำไมล่ะครับ”
“เราอยู่เป็นที่ไม่ได้หรอก ยิ่งถ้ามีใครมาหาได้แบบนี้แล้วล่ะก็..”
ระหว่างที่ราเชนทร์เก็บของ และดับกองไฟที่ก่อไว้ เป็นจังหวะเดียวกันกับสารวัตรเชลียงมาถึง แล้วดับไฟหน้ารถเช่นกัน
รถของสารวัตรเชลียงแล่นโคลงเคลงมาตามถนน แล้วก็ดับไฟหน้าลง
สารวัตรเชลียงทิ่มหัวรถเข้าพงตัวเขาเองเดินออกมาจากรถ สำรวจรอบด้าน กระชับปืน แล้วสารวัตรเชลียงก็ออกเดินดุ่มๆไปตามทางเดินในสวน
สารวัตรเชลียงเหยียบสายเตือนภัยอะไรซักอย่าง …
แล้วมันดังไปถึงราเชนทร์
“ไอ้หนู เข้าบ้าน”
เวลาเดียวกัน เฃ่นเดียวกับเล็กขาว ที่เปิดมือถือ ดูแผนที่ เค้ารู้สึกว่าใกล้จุดที่ราเชนทร์อยู่แล้ว
จ่าสมานมาตรงถนนด้านหน้าทางเข้าบ้านกระท่อม
รถยนตร์ของหมวย มาถึงที่หน้าบ้านด้วยเหมือนกัน มองเห็นรถตำรวจ ไฟหวออยู่ด้านหน้า
ทุกคนมารวมกันอยู่หน้าบ้าน เสียงรถหวอ เสียงโทรโข่ง พูดเข้าไปด้านในของบ้าน
“ราเชนทร์ มอบตัวซะ ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว”
ราเชนทร์กับชนายุสแอบดูกันอยู่ด้านใน
ราเชนทร์เมื่อรู้ว่า ตำรวจมาล้อมไว้หมดแล้วก็ตะโกนออกมาว่า
“อย่าเข้ามานะ .... ความปลอดภัยของเด็กคนนี้ ขึ้นอยู่กับพวกคุณ.. ออกไป... ไม่ได้ยินหรือไง!!”
ชนายุสอมยิ้ม “น้าเอาจริงหรอครับ”
“ชู่ววว.. อยู่เฉยๆ เหอะ” ราเชนทร์บอก
“แกหนีไม่พ้นหรอก เสียเวลาเปล่า” เชลียงบอก แล้วหันมาบอกทุกคน “เตรียมตัว”
จันทร์แจ่มกับหมวย รีบมาถึงจุดที่สารวัตรเชลียงยืนสั่งการอยู่ เธอบอกสารวัตรเชลียง
ว่า ขอให้เธอคุยกับราเชนทร์เอง
“ขอให้แจ๋มเจรจากับเขาเองเถอะค่ะ”
“สถานการณ์แบบนี้ผมเชื่อว่าเขาไปไหนไม่รอด และอาจกลายเป็นหมาจนตรอกได้ ดังนั้นจึงอันตรายมาก ผมไม่อนุญาตครับ”
“แต่แจ๋มรู้จักเขาดีกว่าใคร”
“ไม่ได้ครับ ผมขอให้คุณออกไปจากพื้นที่ตรงนี้ ..เดี๋ยวนี้!! นี่เป็นคำสั่ง!”
เธอมองหน้าสารวัตรเชลียง ครั้งนี้เธอรู้ว่าสารวัตรเชลียงเอาจริงแน่ๆ เธอจึงไม่คะยั้นคะยอ แต่มองดูรอบๆ บ้าน ว่าจะมีทางไหนที่เธอจะช่วยราเชนทร์ได้บ้าง
จันทร์แจ่มวิ่งตัดหน้าตำรวจทั้งหมดเข้าไปในบ้านทันที
“กลับมาแจ๋ม .. กลับมา”
ราเชนทร์มองเหตุการณ์อยู่ด้วยความเครียด สถานการณ์เช่นนี้ เขาเองก็ไม่คาดคิด มันเร็วจวนตัวเกินไป เขาเห็นจันทร์แจ่มวิ่งมาก็เปิดประตูรับ ทั้งคู่กอดกันแน่น
“พูดกับแจ๋มตามตรง ด้วยเกียรติศักดิ์ศรีของความเป็นคนทั้งหมดที่มี ตอบความจริง พี่เชนทร์ยิงพ่อของเด็กคนนี้หรือเปล่า”
ราเชนทร์มองหน้า จะตอบ มีเสียงแทรกขึ้นมา
“เปล่าครับ” ชนายุสมอง น้ำเสียงหนักแน่น “น้าเค้าช่วยผมไว้”
เธอมองหน้าราเชนทร์อีกครั้ง เธอดีใจจนน้ำตาจะไหล กอดราเชนทร์
“พี่ต้องหนี”
ราเชนทร์ขมวดคิ้ว มองงงๆ
ทางด้านนอกกระท่อม ได้ยินเสียงจันทร์แจ่มตะโกนออกมา
“โอ๊ยๆๆ อย่าๆๆ ตกลงยอมแล้ว ช่วยด้วย อย่ายิงนะ” เธอค่อยๆโผล่หน้าไปที่หน้าต่าง
“แจ๋ม แจ๋ม .... มันทำอะไรคุณ... แจ๋ม” สารวัตรเชลียงถาม
“เขาเอาปืนจี้ แล้วสั่งให้บอกทุกคนว่า ถ้าใครเข้ามาตอนนี้ เขาพร้อมจะแลกชีวิต โดยเขาจะยิงแจ๋มกับเด็กก่อน... โอ๊ยยๆๆ อย่าาๆ ได้โปรดอย่าใจร้อนนะคะ เขากำลังสติแตก”
พูดจบ จันทร์แจ่มก็หน้าหงายเหมือนโดยจิกผม.. จันทร์แจ่มกระเด็นมาโผล่ที่หน้าต่างอีก
“เขาสั่งให้ชั้นบอกว่า ให้เตรียมรถให้เขาหนึ่งคัน จอดหน้าประตู เขาจะได้ขับออกไป
ห้ามมีใครตามในรัศมีสองกิโลเมตร ถ้าเขาเห็นใครตาม เขาจะยิงเราทั้งคู่ทิ้ง ...โอ๊ยๆๆ” จันทร์แจ่มหงายหลังไปอีก
สารวัตรเชลียงเครียดคิดหนัก “โธ่เอ๊ยยย!”
ภายในกระท่อมท้ายสวน จันทร์แจ่มยืนอยู่คนเดียว เธอมองที่พื้นไม้กระดานขยับปิด
เหลือเพียงเธอที่ส่งเสียงร้อง เพื่อให้ราเชนทร์หนีไปได้ไกลที่สุด
จ่าสมานบอก
“ผมว่าเราเสียเปรียบ..ตัวประกันเป็นเด็กกับผู้หญิง ประกอบกับเวลามืด วิสัยทัศน์ไม่ดีนะครับ”
สารวัตรเชลียงบอก “เราจะปล่อยไว้ไม่ได้หรอก ...จ่า.ไปเจรจากับมัน บอกไปนะว่ารถจะมาไม่เกินสิบนาทีนี้ ให้ปล่อยตัวประกันออกมา ส่วนผมจะอ้อมไปทางหลังบ้าน”
“ครับสารวัตร ... ระวังตัวด้วยนะครับ”
จ่าสมานบอก
“ราเชนทร์!! อีกไม่เกินสิบนาที รถยนต์ตามที่นายขอจะมาถึง แต่ปล่อยคุณแจ๋มกับเด็กออกมา อย่าทำอะไรวู่วาม”
สารวัตรเชลียง อ้อมไปทางหลังกระท่อม เห็นรอยน้ำ เห็นน้ำไม่นิ่ง ตัดสินใจตามไป
ชนายุสเกาะบ่าราเชนทร์ไปตลอดร่องส่วน ชนายุสกอดราเชนทร์ไว้แน่น แล้วค่อยๆ เดินขึ้นฝั่ง เมื่อเห็นว่าพ้นแล้ว
เด็กน้อยกอดราเชนทร์แน่น เอาแก้มแนบ มือจิกเกร็ง
ทางด้านจ่าสมานไม่รอ นำกำลังบุกเข้าไปในบ้าน เจอจันทร์แจ่มนั่งอยู่ในบ้านคนเดียว กำลังเจรจาต่อรองกับด้านนอก
“เขาบอกว่าเขาจะปล่อยตัวประกัน ก็ต่อเมื่อพ้นเวลา..”
จันทร์แจ่มชะงัก หยุด หันมอง จ่าสมานเข้ามายืนในห้อง
ราเชนทร์จูงชนายุสเดินไป
ทั้งคู่ระกิ่งไม้ไปตามทาง เสียงหอบเหนื่อยจนอยู่บนทางเดิน แสงจันทร์สว่าง
สารวัตรเชลียงตะโกน “หยุดนะ ไอ้เชนทร์ ไม่งั้นกูยิง”
ราเชนทร์กับชนายุส หยุดไม่ขยับ
“สารวัตรเชลียง!”
สารวัตรเชลียงหันปากกระบอกปืน เล็งราเชนทร์ “วางปืนลง แล้วมอบตัว”
ราเชนทร์มองหน้าชนายุส แล้วค่อยๆ หันมาหาสารวัตรเชลียง แล้วทันใดนั้น
ชนายุสเข้ามากอดราเชนทร์ไว้
“อย่ายิงนะครับ..เดี๋ยวโดนผมด้วย”
“ไอ้หนู!”
“บรรลัยหล่ะ” เชลียงตะโกน “แกมันหน้าตัวเมียนะไอ้เชนทร์ เอาเด็กเป็นโล่กำบัง แน่จริง ยิงกันตัวต่อตัว !”
“ไม่หรอกสารวัตร ... ผมว่าตอนนี้ ผมได้เปรียบนะ แต่ผมกลัวนะ กลัวว่าสารวัตรตายก่อนได้แต่งเมีย”
“ทิ้งปืนลง!! มันจะมากไปแล้ว!”
“ผมบอกให้วางก็ต้องวาง !” เชลียงวางปืนลง “ที่ขาด้วยครับ”
ราเชนทร์เห็นแสงสะท้อนเงาวาบจากปืนอีกกระบอกหนึ่ง ที่เล็งใกล้อยู่ด้านหลังสารวัตรเชลียง
“ไอ้เล็ก” ราเชนทร์พึมพำ สองจิตสองใจ จะเอายังไงดี
เล็กขาวยิ้มคนเดียว ง้างนกช้าๆ หัวเชลียงอยู่ในวิถีเล็งพอดี
แต่ราเชนทร์เหนี่ยวไกปืนไปที่กระบอกปืนรวดเร็วกว่าเล็กขาวเสมอ ..... ปัง!
“เห้ยยยยย ทำบ้าอะไรว๊ะ”
เล็กขาวนั่นเองที่เล็งปืนมาทางสารวัตรเชลียง เมื่อรู้ว่า ราเชนทร์รู้ตัว จึงรีบหนีออกไป
สารวัตรเชลียงวางปืนแล้ว ราเชนทร์เข้าไปจ่อปืนใกล้สารวัตรเชลียง
“แกมอบตัวสู้คดียังมีโอกาสนะ”
พลั่กกก... สารวัตรโดนราเชนทร์ตีหัว
ราเชนทร์ได้ปืนแล้วใช้ด้ามปืนในมือของเขานั้น ตบเข้าไปที่ท้ายทอยสารวัตรเชลียงอย่างจัง
สารวัตรเชลียง สลบทันที ราเชนทร์กระชากตัวชนายุสให้หนีต่อ ชนายุสวิ่งไปกับราเชนทร์ได้ซักก้าวสองก้าว แล้ววิ่งกลับมาที่สารวัตรเชลียง
“ไอ้หนู!!! ไป๊เร็ว”
ชนายุสเอายาทากันยุงไปทาให้สารวัตรเชลียง ราเชนทร์มองขำอมยิ้ม
“เดี๋ยวยุงกัดน้าตำรวจ”
“เห้ยยย.. ไป๊เร็ว เดี๋ยวตำรวจอีกฝูงก็ตามมาหรอก”
ชนายุสทายากันยุงให้สารวัตรเชลียงเสร็จรีบวิ่งตามไปกับราเชนทร์
สารวัตรเชลียงนอนสลบอยู่คนเดียว
อ่านต่อตอนที่ 9