มนต์รักอสูร ตอนที่ 25
ที่แท้ภูฤทธิ์ฝุ่นเข้าตา จึงเดินมาหยุดขยี้ตาอยู่ตรงมุมหนึ่งห่างออกมาหน่อย ฟ้าใสตามมาเห็นภูฤทธิ์ขยี้ตาก็ดันเข้าใจผิด คิดว่าเขาเสียใจหนีมาร้องไห้ จึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
“ขอบคุณครับ”
ภูฤทธิ์รับมาเช็ดตา
ฟ้าใสปลอบใจ “คุณภูอย่าเสียใจไปเลยนะคะ”
ภูฤทธิ์งง “เสียใจเรื่องอะไรครับ”
“ไม่ต้องปิดบังฟ้าหรอกค่ะ ฟ้าเข้าใจความรู้สึกของคุณภูดี เวลาเห็นคนที่เรารักอยู่กับคนอื่น ถึงจะรู้ว่าเราควรดีใจกับเขา แต่มันก็อดเจ็บปวดใจไม่ได้ ถ้าคุณภูอยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะค่ะ”
ภูฤทธิ์พยายามจะอธิบาย
“คุณฟ้าครับ ผม...”
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกค่ะ ฟ้าจะอยู่ข้างๆ คุณเอง”
“เดี๋ยวครับ ผมไม่ได้ร้องไห้”
“ไม่ได้ร้อง แล้วทำไมตาแดงล่ะคะ”
“ฝุ่นเข้าตา ผมแสบตา”
ฟ้าใสเหวอ
“ฟ้าคิดว่าคุณเสียใจที่เรื่องน้ำผึ้งกับคุณเทิดซะอีกค่ะ”
“ทำไมผมต้องเสียใจด้วย ผมกลับดีใจที่ทุกคนปลอดภัย”
“แล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้ฟ้าเข้าใจผิดไปไกลเลย น่าอายชะมัดเลย!”
“ไม่เห็นน่าอายเลยครับ น่ารักออก”
“ว่าไงนะคะ”
“คือ...ผมดีใจที่คุณฟ้าเป็นห่วงผม ขอบคุณนะครับ”
ภูฤทธิ์มองสบตายิ้มหวานซึ้งมาให้ ฟ้าใสอายม้วน ทำตัวไม่ถูก
ฟ้าใสและภูฤทธิ์เดินคุยกันมา
“ทำไมตอนนั้นคุณภูถึงเสี่ยงชีวิตช่วยฟ้าไว้คะ มันอันตรายมากนะคะ ถ้าคุณภูถูกยิงจะทำยังไง”
“ตอนนั้นผมไม่ทันคิดอะไรเลยครับ รู้แค่ว่าต้องปกป้องคุณ”
ฟ้าใสสบตาภูฤทธิ์ ด้วยความซาบซึ้งใจ น้ำผึ้งเข้ามา
“คุณภู ยัยฟ้า มาอยู่นี่เอง”
ภูฤทธิ์กับฟ้าใสชะงักทั้งคู่
“ขอบคุณคุณภูที่ช่วยน้ำผึ้งไว้นะคะ ถ้าไม่ได้คุณภู น้ำผึ้งกับคุณเทิดแย่แน่”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ฉันขอโทษนะฟ้าที่ทำให้แกลำบาก”
“ขอโทษอะไรกัน เพื่อนมีอันตราย ก็ต้องช่วยกัน จะทิ้งกันได้ไง”
น้ำผึ้งสวมกอดฟ้าใสอย่างซาบซึ้ง
“แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ฉันโชคดีจริงๆ ที่มีเพื่อนอย่างแก”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมแกถึงอยู่ที่โรงแรมกับคุณเทิดได้ แล้วคนที่ทำร้ายแกกับคุณเทิดเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้”
น้ำผึ้งอึดอัด มองหน้าฟ้าใสแล้วพูดไม่ออก ไม่อยากให้เพื่อนรับรู้ว่าทรงยศเป็นคนเลว
“ฉัน...ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นพวกไหน”
ภูฤทธิ์สังเกตเห็นท่าทางผิดปกติของน้ำผึ้ง โดยที่ฟ้าใสไม่ได้สงสัยอะไร
“แกต้องระวังตัวนะ ไอ้คนร้ายมันอาจไม่ยอมหยุดแค่นี้”
“ฉันจะระวังตัว”
น้ำผึ้งไม่สบายใจนัก ภูฤทธิ์สังเกตเห็นท่าทีนั้น
แพรวนภาและเมญ่าเข้ามาหาน้ำผึ้งที่รออยู่
เมญ่าถามเสียงแข็ง “มีอะไรไม่ทราบครูน้ำผึ้ง”
น้ำผึ้งจ้องหน้าแพรวนภา “คุณหลอกฉันไปที่โรงแรม ให้ฉันไปรับคุณนันท์ แต่กลับไปเจอนายทรงยศ คุณทำแบบนั้นทำไม”
เมญ่าผวากลัวความผิด
“ทำไงดีคะคุณแพรว”
แพรวนภาย้อนกลับ “ถ้ามีหลักฐานก็เชิญไปฟ้องเทิดเลยสิ”
น้ำผึ้งอึ้งไป เธอเองก็ไม่มีหลักฐาน แพรวนภายิ้มร้าย
“วันนี้คุณโชคดีที่ฉันไม่มีหลักฐาน แต่เวรกรรมมีจริง คิดร้ายกับคนอื่น ระวังกรรมจะตามสนองคุณ”
แพรวนภาหน้าเสีย เพราะกรรมได้ตามสนองเจ้าหล่อนแล้ว
น้ำผึ้งเดินหนีออกไป เมญ่าโล่งอก
“โชคดีนะคะที่มันไม่มีหลักฐาน ไม่งั้นเมญ่าหัวขาดแน่”
แพรวนภาเดินหนีไปแล้วเช่นกัน เมญ่าหันมาไม่เจอนายหญิงแล้ว
“อ้าว คุณแพรว”
เมญ่างงที่แพรวนภาเดินหนีไปไม่บอกไม่กล่าว
แพรวเข้ามาในห้อง ทั้งเจ็บปวด ทั้งโกรธแค้นน้ำผึ้งมาก ปัดของใกล้ตัวหล่น ระบายอารมณ์กับข้าวของ
“เวรกรรมไม่มีจริงหรอก ทุกอย่างมันเป็นเพราะแกนั่นแหละนังน้ำผึ้ง! แกทำลายชีวิตฉัน! ฉันไม่ยอมให้แกมีความสุขหรอก! แกต้องเจ็บยิ่งกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า!”
แพรวนภาแค้นน้ำผึ้งมาก
อีกฟากทรงยศโมโหสุดขีด กำลังโวยวายเอากับหมวดสิน
“อะไรกัน จัดการไอ้เทิดไม่ได้ ยังมีหน้ามาขอส่วนแบ่งล่วงหน้าอีกเหรอ”
“ผมช่วยคุณตั้งหลายครั้งแล้ว แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ คุณคิดจะโกงผมรึไง ถ้าคุณโกงผม ผมจะแฉให้หมดเปลือก”
ทรงยศนิ่งไป พยายามใจเย็นประนีประนอม ไม่อยากมีปัญหากัน
“ไม่เอาน่า เราเป็นหุ้นส่วนกัน ผมจะโกงคุณทำไม” พลางทรงยศเซ็นเช็คยื่นให้
หมวดกังฉินรับมา ไม่พอใจตัวเลขในเช็ค “แค่นี้เองเหรอ”
“รออีกไม่นานหรอก รับรองว่าถ้างานนี้สำเร็จ คุณได้ส่วนแบ่งไม่น้อย งานนี้คุ้มเหนื่อยแน่”
หมวดสินยิ้มออก “พูดอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย ที่ไอ้เทิดมันรอดไปได้ ไม่ใช่ความผิดของผม แต่เป็นเพราะน้องสาวคุณนั่นแหละมาเกะกะ ไม่งั้นผมก็จัดการไอ้เทิดกับไอ้ภูฤทธิ์ไปพร้อมกันแล้ว”
ทรงยศตกใจมากกว่าโมโห “น้องฟ้าเหรอ”
หมวดสินกำชับ “ดูแลน้องสาวคุณดีๆ อย่าให้มาขวางผมอีก ไม่งั้นผมไม่รับรองความปลอดภัย”
ทรงยศไม่สบายใจ ลึกๆ เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสาว
อ่านต่อหนน้า 2
มนต์รักอสูร ตอนที่ 25 (ต่อ)
ฟ้าใสกลับถึงบ้านตอนค่ำ เจอทรงยศรออยู่ด้วยหน้าตาอันบึ้งตึง
“ไปไหนมาน้องฟ้า”
ฟ้าใสอึกอัก
“หมวดสินคงรายงานพี่ยศแล้วว่าฟ้าไปไหนมา”
ทรงยศโกรธมาก
“พี่สั่งแล้วใช่มั้ย ไม่ให้ไปยุ่งกับคนพวกนั้น”
“แต่น้ำผึ้งเป็นเพื่อนฟ้านะคะ”
“แต่มันอันตราย! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้องฟ้าจะทำยังไง ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง ก็อย่าหาว่าพี่ใจร้าย”
ทรงยศหันไปสั่งการกับพูนที่ยืนอยู่ห่างไปหน่อย
“ต่อไปนี้ให้คนเฝ้าน้องฟ้าไว้ ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด”
“ครับ”
ฟ้าใสโมโห “พี่ยศ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้”
“พี่ทำเพื่อความปลอดภัยของน้องฟ้า ถ้ายังดื้ออีก ต่อไปพี่จะล่ามโซ่ไว้เลย”
“พี่ยศ”
ทรงยศเดินออกไปเลย ฟ้าใสทั้งน้อยใจและเสียใจ
เช้าวันถัดมา น้ำผึ้งล้างแผล และเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เทิดอยู่ในโถงบ้าน
เทิดยิ้มย่อง แกล้งร้อง “โอ๊ย”
น้ำผึ้งตกใจ “เจ็บเหรอคะ ขอโทษนะคะ”
เทิดตอบหน้าตาเฉย “เปล่า ไม่เจ็บ”
“ไม่เจ็บแล้วร้องทำไมคะ ฉันตกใจหมด”
“แค่อยากรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉันรึเปล่า ฉันดีใจที่เธอเป็นห่วงฉัน”
“เจ้าเล่ห์นักนะคะ เดี๋ยวทุบให้แผลอักเสบเลย”
น้ำผึ้งแกล้งกำมือขู่ เทิดจับมือนั้นกุมไว้
“ถ้าแผลไม่หาย เธอต้องรับผิดชอบ ดูแลฉันไปตลอดชีวิตนะ เอ้า ทุบสิ อยากทุบก็ทุบเลย”
“คุณเทิดอะ รีบทำแผลแล้วไปทำงานได้แล้วค่ะ”
น้ำผึ้งอาย เสไปทำแผลต่อ เทิดยิ้มกริ่ม สุขใจ
ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในสายตาแพรวนภา เมญ่า ที่พานันท์มาแอบมองดูอยู่ห่างๆ
“คุณพ่อกับคุณครูท่าทางสนิทสนมกันจังนะคุณนันท์” แพรวนภาเอ่ยขึ้น
เมญ่าเสริมทันที “แหม เล่นหายไปด้วยกันทั้งคืน คงไม่ใช่แค่สนิทกันธรรมดาแล้วล่ะค่า”
นันท์ไม่เข้าใจ “หมายความว่าไงครับ”
“ก็หมายความว่าครูน้ำผึ้งจะมาแทนที่คุณแม่ของคุณนันท์ไงล่ะ” แพรวนภายุแยง
นันท์ไม่เชื่อ “อานตี้โกหก คุณครูสัญญากับนันท์แล้วว่าคุณครูจะไม่ยุ่งกับคุณพ่อ”
“ก็แค่คำพูด คุณครูจะโกหกอะไรก็ได้” เมญ่าบอก
นันท์โกรธ “คุณครูไม่โกหก คุณครูเป็นคนดี”
“ถ้าคุณนันท์ไม่เชื่อ อานตี้มีอะไรให้คุณนันท์ดู”
แพรวนภายิ้มร้าย นันท์สงสัย
ถัดจากนั้น แพรวนภายื่นใบสมัครโรงเรียนประจำให้นันท์ดู
“คุณครูกับคุณพ่อวางแผนจะส่งคุณนันท์ไปเรียนโรงเรียนประจำ ถ้าคุณนันท์ไม่อยู่ก็ไม่มีใครคอยขัดขวางความรักของคุณพ่อกับคุณครู”
“ไม่จริง นันท์ไม่เชื่อ”
นันท์ฉีกใบสมัคร
“อีกหน่อยคุณครูกับคุณพ่อจะมีน้องด้วยกัน ถึงตอนนั้นคุณนันท์ก็กลายเป็นหมาหัวเน่า” เมญ่าล้อ “ว้าย หมาหัวเน่าเหม๊นเหม็น!”
นันท์โกรธ เอาเศษกระดาษใบสมัครยัดปากเมญ่าจังๆ จนกะเทยยักษ์สำลัก
“อ๊าย”
“นันท์ไม่เชื่อ คุณครูกับคุณพ่อไม่มีวันทำอย่างนั้น!”
นันท์วิ่งหนีไป
เมญ่าโมโห “เด็กบ้า! ทำไงดีคะคุณแพรว ท่าทางคุณนันท์จะรักยายครูน้ำผึ้งมากเลยนะเนี่ย”
“ฮึ ปากบอกไม่เชื่อ แต่ในใจก็ต้องหวั่นไหวบ้างแหละน่า” แพรวนภาออกคำสั่ง “เมญ่า ต่อไปนี้เธอคอยจับตาดูเทิดกับนังน้ำผึ้งไว้แล้วถ่ายคลิปให้คุณนันท์ดู คราวนี้แหละนังน้ำผึ้งกระเด็นแน่”
แพรวนภายิ้มชั่วออกมาในมาดนางร้ายใจโหดเต็มขั้น
อ่านต่อหนน้า 3
มนต์รักอสูร ตอนที่ 25 (ต่อ)
ภูฤทธิ์แวะมาหาน้ำผึ้งที่บ้านพักโดยไม่นัดหมาย น้ำผึ้งยิ้มทักดีใจ
“คุณภู ยายฟ้าไม่ได้มาด้วยเหรอคะ”
“ผมไม่ได้บอกคุณฟ้าครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะถามคุณน้ำผึ้ง”
น้ำผึ้งแปลกใจ “เรื่องอะไรเหรอคะ”
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าคนร้ายเป็นใคร”
น้ำผึ้งอึ้งที่ภูฤทธิ์รู้เรื่องนี้
“คราวก่อนผมถูกลอบยิง ครั้งนี้คุณเทิด ถ้าคนร้ายเป็นคนเดียวกัน มันไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ บอกผมมาเถอะครับว่ามันเป็นใคร”
น้ำผึ้งจำต้องบอก
“นายทรงยศค่ะ”
ภูฤทธิ์ตกใจ
“ทรงยศ! มิน่าคุณถึงไม่กล้าบอกคุณฟ้า”
“ค่ะ น้ำผึ้งไม่อยากให้ยายฟ้าเสียใจ”
ภูฤทธิ์ทบทวนเรื่องราว “ผมสงสัยว่าหมวดสินเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ตอนที่ผมกับคุณฟ้าไปถึง ผมไม่เห็นคนร้ายสักคน เห็นแต่หมวดสินจะยิงคุณเทิด”
น้ำผึ้งเห็นด้วย “เป็นไปได้นะคะ ยายฟ้าเคยบอกว่าหมวดสินไปที่บ้านบ่อยๆ”
“ผมจะสืบเรื่องนี้เอง แต่คุณน้ำผึ้งอย่าเพิ่งบอกใครนะครับ ผมไม่อยากให้คนร้ายรู้ตัว”
“ค่ะ”
สองคนไม่สบายใจทั้งคู่
น้ำผึ้งเดินเข้ามาในตึกใหญ่บ้านเทิด สีหน้าท่าทีดูออกว่าไม่สบายใจชัดแจ้ง เจอเทิดรออยู่ เทิดหึง ไม่พอใจ
“นายภูฤทธิ์มาทำไมอีก เมื่อวานก็เพิ่งเจอกัน”
“คุณภูมาคุยธุระค่ะ”
“ธุระอะไร”
น้ำผึ้งอึกอัก
“คือ...ฉันบอกคุณไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะคะ”
เทิดนึกห่วง “ถ้าเป็นเรื่องหนี้สิน ฉันจะจัดการให้ จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับนายทรงยศอีก”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ เรื่องหนี้ฉันจัดการเองได้ ไม่ต้องรบกวนคุณหรอกค่ะ”
เทิดหึง “ไม่รบกวนฉัน แต่อยากรบกวนนายภูฤทธิ์ใช่มั้ย ไม่ยอมให้ฉันใช้หนี้ให้ เพราะจะได้มีขัออ้างเจอกับนายภูฤทธิ์บ่อยๆ งั้นสิ”
น้ำผึ้งเซ็งปนเสียใจ
“คุณเคยมองฉันในแง่ดีบ้างมั้ยคะ”
“ก็เธอแล่นไปหาผู้ชายคนโน้นที คนนี้ที จะให้ฉันมองในแง่ดีได้ยังไง”
“ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่ดี ก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
น้ำผึ้งเดินหนี เทิดตาม
“ครูน้ำผึ้ง”
นันท์กำลังทำการบ้านอยู่ เห็นเทิดเดินตามน้ำผึ้งมาก็สงสัย
เด็กชายนึกถึงคำพูดของแพรวนภา
“ครูน้ำผึ้งจะมาแทนที่คุณแม่ของคุณนันท์ไงล่ะ”
นันท์ไม่สบายใจ
เวลาเดียวกัน เมญ่าตะโกนโหวกเหวกเข้ามาในห้องรายงานแพรวนภา
“คุณแพรวขา คุณเทิดไปหาครูน้ำผึ้งอีกแล้วค่ะ”
แพรวนภายิ้มในสีหน้า คิดแผนการร้าย
“ถ่ายคลิปไว้ให้คุณนันท์ดูเลย จะได้รู้ธาตุแท้นังน้ำผึ้งซะที”
สองนางร้ายหม้ายหนึ่งกะเทยยักษ์อีกหนึ่งโลดแล่นออกห้องไป
น้ำผึ้งเข้าบ้านพักจะปิดประตูหนี เทิดตามมาดึงประตูรั้งไว้ ไม่ให้ปิด
“ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่ดีแล้วมายุ่งกับฉันทำไม! กลับไปซะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!”
“ไล่ฉันอย่างกับหมูกับหมา ทีกับนายภูฤทธิ์ยิ้มหน้าระรื่น”
“เรื่องของฉัน ปากของฉัน ฉันจะยิ้มให้ใครก็เรื่องของฉัน”
“แต่ฉันไม่ชอบให้เธอยิ้มให้คนอื่น ห้ามยิ้ม”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน! ฉันจะยิ้มให้ทุกคน ยกเว้นคุณ มีอะไรมั้ย!”
เทิดโมโห กระชากน้ำผึ้งมาจูบขยี้อย่างแรง น้ำผึ้งตกใจ
แพรวนภากับเมญ่าแอบดูอยู่ ก็ตกใจ
“ว้าย! เต็มๆ เลยค่า”
แพรวนภาตาลุกวาว โกรธมาก
“ถ่ายทันรึเปล่า”
“ไม่ทันค่ะ เมญ่ามัวแต่อิจฉานังน้ำผึ้ง”
“ไม่ได้เรื่อง”
แพรวนภาอารมณ์บูด
เทิดถอนริมฝีปากออกจากปากน้ำผึ้ง แต่ยังกอดไว้ไม่ยอมปล่อย น้ำผึ้งโกรธ ทุบอกเทิดพัลวัน
“คนฉวยโอกาส! ปล่อยฉันนะ”
“ไม่ปล่อย จนกว่าเธอจะรับปากว่าต่อไปนี้จะไม่เที่ยวแจกยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นอีก”
“ไม่ให้ยิ้มแล้วจะให้หน้าบึ้งทั้งวันรึไงคะ”
เทิดโน้มหน้าลงมาจะจูบน้ำผึ้งอีก
“คุณเทิด!”
“ถ้าไม่รับปาก ฉันจะจูบเธอไปเรื่อยๆ”
เทิดจะจูบอีก น้ำผึ้งผลักเขาออก
“อย่านะคุณเทิด”
จู่ๆ นันท์เดินเข้ามาเห็น
“คุณพ่อ! คุณครู!”
เทิดและน้ำผึ้งหันไปเห็นนันท์ก็ตกใจ
“คุณนันท์”
นันท์มองสองคนแววตาช้ำ
แพรวนภากับเมญ่าต่างก็ตกใจที่จู่ๆ นันท์ห็โผล่มา
“คุณนันท์”
“ไม่จำเป็นต้องถ่ายคลิปแล้วล่ะเมญ่า”
แพรวนภายิ้มร้ายสมใจ
สามคนอยู่ในโถงบ้านพักน้ำผึ้ง นันท์มองน้ำผึ้งด้วยแววตาผิดหวัง เสียใจ
นึกถึงคำพูดที่น้ำผึ้งเคยเกี่ยวก้อยให้คำสัญญากับตนว่าจะไม่คิดจับเทิดเด็ดขาด
นันท์ผิดหวังมากตะโกนใส่หน้าน้ำผึ้ง
“คุณครูโกหก”
น้ำผึ้งไม่สบายใจมาก พยายามจะอธิบายให้นันท์เข้าใจ
“คุณนันท์คะ คุณนันท์เข้าใจคุณครูผิดนะคะ”
“ไม่ต้องพูด นันท์ไม่อยากฟัง! นันท์ไม่เชื่อคุณครูอีกแล้ว”
เทิดปรามลูก “คุณนันท์ ทำไมพูดกับคุณครูแบบนี้”
นันท์ไม่ฟังใครแล้ว “นันท์เกลียดคุณครู นันท์ไม่อยากเห็นหน้าคุณครู! ไปให้พ้น”
แพรวนภาและเมญ่าเดินเข้ามา แพรวนภาสวมบทป้าแสนดี กอดปลอบนันท์ หันมาไล่น้ำผึ้ง
“คุณนันท์ไล่แล้ว ยังจะหน้าด้านอยู่อีก”
ผัน พร แซม หอม อ้อย มาร์ค และชมพู่ ได้ยินเสียงดังลั่นบ้าน เลยยกโขยงออกมาดู
“อะไรกันครับคุณเทิด” ผันแปลกใจ
เมญ่าด่าน้ำผึ้งต่อหน้าทุกคน “ทุกคนมาก็ดีแล้ว จะได้รู้ว่านังผู้หญิงหน้าด้านคนนี้มันร้ายนัก ทำท่าทางซื่อๆ ใสๆ แต่หวังรวยทางลัด คิดจะจับคุณเทิด จะมาแทนที่คุณพริมที่ทุกคนรัก”
เทิดโกรธตวาดลั่น “เมญ่า! หยุดล่วงเกินครูน้ำผึ้งเดี๋ยวนี้”
เมญ่าผวากลัวเทิด แพรวนภาได้โอกาสประจานน้ำผึ้ง
“เมญ่าพูดถูกแล้ว แพรวเห็นคุณจูบกับครูน้ำผึ้ง คุณนันท์ก็เห็น หรือคุณจะปฏิเสธ”
ทุกคนต่างตกใจ
“จูบ” หอมทวนคำ
“ไหนคุณเคยบอกว่ารักน้องสาวแพรวคนเดียว ไม่ทันไรจะหาแม่ใหม่ให้คุณนันท์ซะแล้ว” แพรวนภากระตุ้นความคิดนันท์อีก
“นันท์ไม่อยากมีแม่ใหม่ นันท์มีแม่พริมคนเดียว” นันท์พูดแทบเป็นตะโกน
แพรวนภาเหยียดยิ้มมองหน้าน้ำผึ้ง “ผู้หญิงอย่างเธอ ไม่มีวันแทนที่พริมได้”
“ฉันไม่เคยคิดจะแทนที่คุณพริมนะคะ”
แพรวนภาประกาศก้อง “คนอย่างเธอไม่มีคุณสมบัติจะเป็นครู ไปซะ ที่นี่ไม่ต้องการเธอ จำไว้ด้วยว่าไม่มีใครแทนที่พริมได้ ทุกคนที่นี่รักพริม ไม่ใช่เธอ”
ทุกคนอึ้งๆ งงๆ ทำอะไรไม่ถูก
แพรวนภาสั่งการ “เมญ่า จัดการ”
“ค่ะ คุณแพรว”
เมญ่าคว้ากระเป๋าสัมภาระของน้ำผึ้งซึ่งไปเก็บมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ โยนใส่หน้าน้ำผึ้ง
เทิดตวาด “หยุดนะ”
“พอเถอะค่ะคุณเทิด น้ำผึ้งจะไปจากที่นี่เองค่ะ” น้ำผึ้งมองหน้านันท์ “ในเมื่อคุณนันท์ไม่ต้องการครู ครูก็จะไป เพื่อความสบายใจของคุณนันท์และของทุกคน”
“เธอไม่จำเป็นต้องไปไหนทั้งนั้น” เทิดบอก
“ปล่อยฉันเถอะค่ะ อย่าให้ฉันเป็นต้นเหตุให้คุณกับคุณนันท์มีปัญหากันเลยค่ะ”
น้ำผึ้งเก็บกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินออกไป เทิดเสียใจที่ปกป้องน้ำผึ้งไม่ได้ นันท์เองก็ผิดหวังและเสียใจ
คนอื่นๆ ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองหน้ากันไปมา มีเพียงแพรวนภากับเมญ่าสะใจกันอยู่สองคน
ตกกลางคืน ผันขับรถมาส่งน้ำผึ้งที่บ้าน
“ขอบคุณค่ะน้าผันที่มาส่งน้ำผึ้ง”
“แน่ใจแล้วเหรอที่ลาออก”
“ค่ะ น้ำผึ้งไม่อยากเป็นต้นเหตุให้คุณเทิดกับคุณนันท์มีปัญหากันค่ะ”
“ในเมื่อน้ำผึ้งตัดสินใจแล้ว น้าก็คงเปลี่ยนใจน้ำผึ้งไม่ได้ แล้วจะอยู่คนเดียวได้เหรอ”
“น้ำผึ้งอยู่ได้ค่ะ น้าผันไม่ต้องเป็นห่วง”
“ถ้ามีอะไรให้ช่วย โทร.หาน้าได้เสมอนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำผึ้งยิ้มให้ ผันมองด้วยความสงสาร
นันท์เอาแต่ร้องไห้ อ้อยสงสาร แต่ก็ห่วงน้ำผึ้ง
“คุณนันท์อย่าร้องไห้เลยนะคะ คุณครูรักคุณนันท์มาก พี่อ้อยเชื่อว่าคุณครูไม่ทำอย่างที่คุณแพรวบอกหรอก น่าจะเข้าใจผิดกันมากกว่า”
“ไม่เข้าใจผิดหรอก นันท์เห็นกับตาตัวเอง”
“แต่พี่อ้อยว่า....”
นันท์พาลไม่ยอมรับฟัง “พี่อ้อยไม่ต้องพูดถึงคุณครูให้นันท์ได้ยินอีก นันท์เกลียดคนโกหก”
“โธ่ คุณนันท์”
“ต่อไปนี้ถ้าใครพูดถึงคุณครูให้ได้ยินอีก นันท์จะไม่คุยด้วย”
นันท์นอนร้องไห้
“คนโกหก คนไม่รักษาสัญญา นันท์เกลียดคุณครู”
อ้อยสงสารทั้งนันท์และครูน้ำผึ้งที่ต้องมาผิดใจกัน
หอมถูกเทิดเรียกมาพบ และต้องแปลกใจมากเมื่อฟังธุระที่นายสั่งจบ
“นายจะให้ผมไปเฝ้าคุณครูเหรอครับ”
“ใช่ อยู่บ้านคนเดียวอันตราย ไปคอยดูอยู่ห่างๆ อย่าให้รู้ตัว ถ้ามีใครมาวุ่นวาย โดยเฉพาะพวกนายทรงยศ รายงานฉันด่วน เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจครับนาย”
เทิดเป็นห่วงน้ำผึ้งจับใจ
อีกวันหนึ่ง ราฟาเอล นายทุนต่างชาติแวะมาถามความคืบหน้า พอรู้เรื่องก็โวยวายใส่หน้าทรงยศ
“ยังไม่ได้ที่ดินของนายเทิดกับนายภูฤทธิ์อีกเหรอ ต้องรออีกนานแค่ไหน”
“อีกไม่นานหรอกครับ”
“ไม่นานๆ คุณพูดคำนี้มากี่รอบแล้ว! ผมให้โอกาสคุณมามากพอแล้ว ถ้าคุณไม่มีความสามารถก็ยอมรับมาตรงๆ”
ทรงยศโกรธที่ราฟาเอลด่าว่าแต่ต้องข่มอารมณ์ เพื่อผลประโยชน์
“ขอเวลาผมอีกนิดเถอะครับ รับรองว่าคราวนี้สำเร็จแน่นอน”
ราฟาเอลนิ่งคิด ครู่เดียว
“ผมให้เวลาคุณอีกกอาทิตย์เดียวเท่านั้น”
ทรงยศตกใจ “อาทิตย์เดียวเนี่ยนะ จะไปทำอะไรได้”
“นี่เป็นโอกาสสุดท้าย ถ้าภายในหนึ่งอาทิตย์ยังไม่ได้ที่ดินก็พอกันที ยังมีคนอื่นที่พร้อมจะร่วมหุ้นกับผม ผมไม่จำเป็นต้องง้อคุณ”
ราฟาเอลเดินออกจากบ้านไปเลย ทรงยศเจ็บใจ
“โธ่เว้ย”
พูนเดินเข้ามาหา “ทำไงดีครับคุณทรงยศ”
“ไม่มีเวลาแล้ว ต่อให้ต้องฆ่าอีกสักกี่ชีวิตก็ต้องเอาที่ดินมาให้ได้!ฉันไม่วันปล่อยให้บ่อเงินบ่อทองหลุดมือไปเด็ดขาด”
แววตาทรงยศอำมหิตโหดเหี้ยมสุดจะประมาณ
เทิดนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ไม่มีสมาธิเอาเลย ด้วยเป็นห่วงน้ำผึ้ง เลยโทรศัพท์หาหอม
“เป็นไงบ้าง คนของนายทรงยศมาวุ่นวายรึเปล่า”
อีกฟาก หอมมาแอบซุ่มดูอยู่ริมรั้วบ้านน้ำผึ้งตามคำสั่งเทิด
“ไม่มีเลยครับ มีแต่...”
เทิดสงสัย “ใคร”
“คุณภูฤทธิ์ครับ”
เทิดหึงหวงขึ้นหน้า
“แล้วทำไมไม่โทร.รายงานฉัน!”
“ก็คุณเทิดบอกว่าให้ระวังคนของนายทรงยศ ไม่ได้บอกว่าคุณภูฤทธิ์ด้วยนี่ครับ” หอมตอบพาซื่อ
“นายภูฤทธิ์นี่แหละตัวอันตราย” เทิดคำรามในลำคอ
ภูฤทธิ์คุยหารืออยู่กับน้ำผึ้งที่โถงบ้านน้ำผึ้ง
“ตอนที่คุณภูถูกยิง คุณเทิดบอกว่าอยู่กับนายเก่ง แต่นายเก่งกลับหายตัวไปทำให้คุณเทิดไม่มีพยานยืนยันที่อยู่ค่ะ”
“นายเก่งอาจจะรู้เรื่องก็ได้ พอจะรู้มั้ยว่ามีญาติพี่น้องที่ไหนบ้าง”
“น้ำผึ้งจะลองถามน้าผันดูค่ะ น้าผันน่าจะรู้”
เทิดโผล่เข้ามาหน้าตาดุดันเอาเรื่อง
“น้ำผึ้ง”
ภูฤทธิ์กับน้ำผึ้งตกใจ
“คุณเทิด”
เทิดกระชากน้ำผึ้ง
“ปล่อยคุณน้ำผึ้งนะ”
เทิดชี้หน้าภูฤทธิ์
“คุณไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง กลับไปกับฉัน ฉันไม่ให้เธออยู่ที่นี่แล้ว!” เทิดมองกวนตีนภูฤทธิ์ “น้ำผึ้งหวานๆ นี่มันล่อมดแมลงดีนัก”
น้ำผึ้งสะบัดมือออก
“ปล่อยฉัน! ฉันไม่กลับ ฉันลาออกแล้ว ไม่ใช่คนงานของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน ฉันจะอยู่ที่นี่”
“อยากอยู่ที่นี่เพราะจะได้อยู่กับนายภูฤทธิ์ตามลำพังไม่มีใครขวางใช่มั้ย”
ภูฤทธิ์ไม่พอใจที่เทิดดูถูกน้ำผึ้ง
“ที่นี่บ้านของฉัน ฉันจะอยู่กับใครก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ”
เทิดโกรธจัด “น้ำผึ้ง”
น้ำผึ้งบอกเทิดด้วยท่าทีเฉยเมย และน้ำเสียงอันเย็นชา
“คุณกลับไปชะ ต่อไปอย่ามาที่นี่อีก เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว คนที่คุณควรจะสนใจ...คือคุณนันท์ ไม่ใช่ฉัน”
เทิดเสียใจ “ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกงั้นเหรอ”
“ค่ะ คุณเป็นนายจ้าง ฉันเป็นลูกจ้าง ลาออกแล้วก็จบ”
“แล้วที่ผ่านมาไม่มีความหมายอะไรกับเธอเลยรึไง”
“ใช่ค่ะ เรื่องไม่สำคัญ ฉันลืมไปหมดแล้ว”
“ได้ ต่อไปฉันจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธออีก อยากจะไปไหน อยากจะอยู่กับใครก็เชิญเลย”
เทิดกลับไปพร้อมความเจ็บปวดรวดร้าวในใจ น้ำผึ้งหันหลังปิดปากร้องไห้ ภูฤทธิ์เห็นก็สงสาร
ภูฤทธิ์นั่งคุยกับน้ำผึ้ง
“คุณรักคุณเทิดใช่มั้ย”
น้ำผึ้งอึ้ง
“ฉัน...”
“อย่าโกหกผมเลยครับ ถ้าคุณรักคุณเทิด ทำไมไม่บอกความรู้สึกไป ทำไมต้องทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนที่คุณรักด้วย ผมไม่เข้าใจ” ภูฤทธิ์ทำตัวเป็นกูรูเลิฟไปซะงั้น
“เรื่องของฉันกับคุณเทิดไม่มีวันเป็นไปได้หรอกค่ะ ให้มันจบแบบนี้ดีที่สุดแล้ว”
ภูฤทธิ์สงสารน้ำผึ้งจับใจ
อ่านต่อหนน้า 4
มนต์รักอสูร ตอนที่ 25 (ต่อ)
เทิดหมกตัวอยู่ในห้องซีเคร็ตรูม ที่ระลึกถึงพริม ดื่มไวน์ดับทุกข์ในใจ พอหมดก็ขว้างขวดทิ้งตะโกนเรียกหอหอม
“หอม! เอาไวน์มา”
หอมรีบเอาไวน์ขวดใหม่มาเทให้ ผันและพรยืนมองอยู่นอกห้อง
“คุณเทิดกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว อาการเหมือนตอนที่คุณพริมเสียไม่มีผิด”
“แต่ฉันว่าคราวนี้ท่าจะหนักกว่าเดิมอีกนะ”
ผันและพรสงสารเทิด
โทรศัพท์มือถือของผันดังขึ้น ผันรับโทรศัพท์
“ว่าไงน้ำผึ้ง”
แพรวนภาเดินผ่านมาได้ยินผันพูดชื่อน้ำผึ้ง ก็หยุดยืนแอบฟัง
น้ำผึ้งอยู่ที่บ้าน “น้ำผึ้งมีเรื่องรบกวนค่ะ น้าผันพอจะรู้มั้ยว่านายเก่งมีญาติพี่น้องที่ไหนบ้าง”
“น้ำผึ้งจะเอาที่อยู่นายเก่งไปทำอะไร”
“คุณภูกำลังสืบเรื่องคนร้ายที่ยิงคุณภูแล้วโยนความผิดให้คุณเทิดค่ะ แต่น้าผันอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้นะคะ”
“ได้ แต่น้ำผึ้งต้องระวังตัวด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะน้าผัน”
น้ำผึ้งนึกห่วงเทิดเลียบๆ เคียงๆ ถาม
“แล้ว....ที่ไร่เป็นไงบ้างคะ”
“ไร่ปกติดี แต่คุณเทิดนี่สิ”
น้ำผึ้งตกใจ “คุณเทิดเป็นอะไรคะ”
“เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง”
“แล้วคุณนันท์ล่ะคะ”
“คุณนันท์สบายดี ไม่ต้องห่วง”
“น้าผันช่วยดูแลคุณเทิดด้วยนะคะ”
แพรวนภาแอบฟัง ด้วยสีหน้าสงสัย
“นังน้ำผึ้งถามถึงนายเก่งทำไม”
ฟ้าใสจะออกไปนอกบ้าน แต่ไม่ว่าจะขยับตัวไปไหนลูกน้องทรงยศก็ตามประกบทุกฝีก้าว ฟ้าใสรำคาญเลยวีนเอา
“เลิกตามฉันซะทีได้มั้ย รำคาญ”
“เป็นคำสั่งของคุณทรงยศครับ”
ฟ้าใสหงุดหงิด กลับเข้าบ้าน กดโทร.หาภูฤทธิ์
ภูฤทธิ์รับสาย เขาอยู่ที่บ้าน
“คุณฟ้า เป็นไงบ้างครับ”
“พี่ยศไม่ให้ฟ้าออกจากบ้านเลยค่ะ”
“ดีแล้วครับ เพื่อความปลอดภัย”
ฟ้าใสงง “ดีตรงไหนคะ ฟ้าอึดอัดจะแย่แล้ว”
ภูฤทธิ์ห่วง พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อดทนไว้นะครับ อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบ”
ยิ่งฟังฟ้าใสยิ่งแปลกใจ “คุณภูหมายความว่าไง ฟ้าไม่เข้าใจ อะไรจบ”
“เอาไว้ผมจะอธิบายให้คุณฟ้าเข้าใจ ตอนนี้คุณอยู่บ้าน อย่าออกไปไหน ห้ามดื้อนะครับ ผมรู้ว่าคุณอยู่ในที่ปลอดภัย ผมก็สบายใจ แค่นี้ก่อนนะครับ”
ฟ้าใสไม่เข้าใจเอาเลย
ภูฤทธิ์วางสาย ขณะที่น้ำผึ้งมาถึงพอดี
ภูฤทธิ์และน้ำผึ้งมาที่หน้าบ้านเก่ง ดูแผนที่ในไอแพด
“บ้านหลังนี้แหละครับ บ้านนายเก่ง คนงานที่ไร่ที่หายตัวไป”
น้ำผึ้งจะไปเคาะประตู ภูฤทธิ์จะห้าม
“ผมเอง ระวังตัวด้วย”
“ค่ะ”
ภูฤทธิ์เคาะประตู สักครูหญิงชาวบ้านเมียเก่งมาเปิดประตู ท่าทางระแวดระวังตัวแจ
“มาหาใคร”
“ที่นี่บ้านเก่งใช่มั้ยคะ”
“ใช่”
“เก่งอยู่มั้ยคะ”
“ไม่อยู่ ไม่ได้กลับมานานแล้ว”
ตอนที่น้ำผึ้งคุยกับเมียเก่ง ภูฤทธิ์มองสำรวจเข้าไปในบ้าน สังเกตเห็นว่ามีผ้าขาวม้าแขวนอยู่
“แต่เก่งหายตัวไป พอรู้มั้ยว่าเขาจะไปที่ไหน ถ้าไม่กลับบ้าน”
“ไม่รู้! ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว ไม่ต้องมาอีกนะ”
เมียเก่งปิดประตูใส่หน้าดังปัง น้ำผึ้งผิดหวัง
“ทำไงดีคะคุณภู”
“ในเมื่อไม่อยู่ เราก็กลับกันเถอะครับ”
น้ำผึ้งแปลกใจที่ภูฤทธิ์จะกลับง่ายๆ ภูฤทธิ์พยักหน้าให้น้ำผึ้งอย่างมีแผน
ภูฤทธิ์หลบมุมแอบซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ น้ำผึ้งมองฉงน
“ทำอะไรคะ”
ภูฤทธิ์จุ๊ปากให้เงียบ แอบจับตามองต่อ สักพัก เก่งย่องออกมาจากบ้านเหมือนจะหนี
“นั่นนายเก่งนี่คะ”
ภูฤทธิ์รีบออกไปจับตัวเก่งไว้ เก่งดิ้นหนี ภูฤทธิ์ชักปืนออกมาขู่ เก่งกลัวมาก
“อย่า อย่าฆ่าผม ผมยอมแล้ว”
เก่งยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ภูฤทธิ์และน้ำผึ้ง ยังไม่ต้องเปิดดู
“หลักฐานเท่าที่ผมรู้อยู่ในนี้หมดแล้ว ผมจะไปจากที่นี่ นายทรงยศไม่ปล่อยผมแน่”
“ขอบคุณมากนะจ๊ะที่ยอมร่วมมือกับพวกเรา”
“คุณเทิดมีพระคุณกับผมมาก ผมเสียใจจริงๆ ที่ทำร้ายคุณเทิด”
ระหว่างนี้มือปืนรับจ้างซ้อนมอเตอร์ไซค์เข้ามา ยิงเก่งล้มลง ภูฤทธิ์กับน้ำผึ้งตกใจ
“นายเก่ง!”
ภูฤทธิ์ดึงน้ำผึ้งหลบและยิงสู้มือปืน มือปืนยิงสู้แล้วหนีหายไปเลย เพราะเป้าหมายถูกจัดการแล้ว
“เป็นไรรึเปล่า”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่านายเก่ง”
ภูฤทธิ์รีบมาดูอาการเก่ง แต่เก่งแน่นิ่งไปแล้ว ภูฤทธิ์ตรวจชีพจรแล้วส่ายหน้าว่าเก่งไม่รอด สองคนเสียใจ
ด้านแพรวนภาจูงแขนนันท์มาจะพาออกไปเที่ยวสวนสนุก เมญ่าตามมาด้วย อ้อยขวางไม่ยอมให้ไป
“จะพาคุณนันท์ไปไหน”
“เรื่องของเจ้านาย ขี้ข้าไม่เกี่ยว”
“แต่คุณเทิดสั่งไว้ ห้ามคุณนันท์ออกจากบ้าน เพื่อความปลอดภัย”
“ฉันจะพาคุณนันท์ไปเที่ยว และคุณนันท์ก็อยากไปด้วย หลีก!” แพรวนภาหงุดหงิด
อ้อยไม่ยอม “ไม่’
“เมญ่า”
“ค่ะ คุณแพรว”
เมญ่าจับอ้อยไว้
“ปล่อยฉันนะ”
แพรวนภารีบพานันท์ออกจากบ้านไป
“ไปค่ะคุณนันท์”
นันท์เล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ร่าเริงตามประสาเด็ก แพรวนภาแอบมองนันท์อยู่ห่างๆ เห็นนันท์ไม่สนใจ ก็หลบออกเฟรมไป ปล่อยให้คุณนันท์เล่นสนุก
เทิดดื่มไวน์ดับกลุ้มอยู่ลำพัง โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เทิดรับสาย ได้ยินเสียงแพรวนภาดังลอดออกมา
“เทิดคะ ช่วยด้วย พวกมันจับตัวแพรวกับคุณนันท์!”
เทิดตกใจ พูนแย่งมือถือไปพูด
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย”
“แกเป็นใคร ต้องการอะไร ปล่อยคุณแพรวกับลูกฉันเดี๋ยวนี้”
“เอาโฉนดที่ดินไร่ของแกไปให้ฉันที่...”
เทิดนิ่งฟังสถานที่นัดแนะ หน้าตาเคร่งเครียด พูนขู่ทิ้งท้ายว่า
“ถ้าแจ้งตำรวจ แกจะไม่ได้เห็นหน้าผู้หญิงกับเด็กอีกเลย”
เทิดเครียดจัด เป็นห่วงแพรวนภาและนันท์
“คุณนันท์”
มุมหนึ่งในสวนสนุก พูนกดตัดสาย แพรวนภายืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้ถูกจับแต่อย่างใด ลึกๆ แพรวนภารู้สึกผิด และห่วงเทิด แต่จำเป็นต้องทำ
“หมดธุระแล้วใช่มั้ย”
แพรวนภาจะออกไป พูนขวางไว้
“คุณควรจะไปกับผม เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะไม่ทรยศ”
“ไม่ คุณทรงยศรับปากฉันแล้วว่าจะไม่แตะต้องคุณนันท์ ถ้าพวกแกคิดจะจับคุณนันท์ไป ฉันยอมตายดีกว่า ถ้าฉันตาย แผนของแกก็พัง”
ไม่เพียงขู่แพรวนภายังเปิดกระเป๋าถือให้พูนเห็นว่ามีปืนพกเล็กๆ อยู่ในนั้น พูนตกใจไม่กล้ายุ่ง แพรวนภาเดินเชิดออกไป
ด้านเทิดรีบร้อนถือซองใส่โฉนดที่ดินออกจากบ้านมาเจอผันซึ่งถามด้วยความสงสัย
“คุณเทิดจะไปไหนครับ”
“คุณแพรวกับคุณนันท์ถูกจับตัวไป”
ผันตกใจ
“คนร้ายเป็นใครครับ”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่มันต้องการที่ดิน”
“ผมไปด้วยนะครับ ไปคนเดียวอันตราย”
“ไม่ได้! มันต้องการให้ฉันไปคนเดียว”
ผันทักท้วง “แต่นี่อาจเป็นกับดัก”
“ต่อให้เป็นกับดัก ฉันก็ต้องไป ผันอยู่ที่นี่ ถ้าคืนนี้ฉันยังไม่กลับ แจ้งตำรวจได้เลย”
“ครับนาย”
เทิดรีบร้อนออกไป ผันเป็นห่วงนาย
เทิดมาถึงบ้านร้างสถานที่นัด แต่มองหาจนทั่วก็ไม่เห็นหนังหน้าใครสักคน จึงตะโกนขึ้น
“ฉันมาแล้ว!”
คนร้าย1 แสดงตัวออกมา
“นี่โฉนดที่ดินที่พวกแกต้องการ คุณนันท์อยู่ที่ไหน!”
คนร้าย1 ยิ้มชั่วให้สัญญาณ คนร้ายอีก 4 คน กรูกันเข้ามาล้อมกรอบเทิด เปิดฉากต่อสู้สุดเท่ เทิดสู้ไหวในเบื้องแรก พวกวายร้ายเห็นว่าจัดการเทิดไม่ง่ายนัก คนร้าย1 จึงชักมีดออกมาจะแทง เทิดหลบทัน
แต่คนร้าย 2 คว้าไม้มาฟาดใส่หลังอย่างแรง เทิดเสียหลักล้มลง และโดนรุมทำร้ายจนยับเยิน
ผัน พร แซม หอม อ้อย ชมพู่ มาร์คต่างไม่สบายใจ ห่วงเทิด แพรวและนันท์ สักพักแพรวนภาเดินพานันท์เข้าบ้านมา ทุกคนแปลกใจ
“คุณแพรว คุณนันท์ ปลอดภัยใช่มั้ยครับ” แซมถามแทนทุกคนในที่นั้น
นันท์งง “อะไรเหรอครับ”
ผันสั่งอ้อยไม่อยากให้นันท์ได้ยิน “อ้อยพาคุณนันท์ไปก่อน”
“จ้ะพ่อ คุณนันท์ไปกับพี่อ้อยนะคะ”
รอจนอ้อยพานันท์ขึ้นห้องไป ผันจึงหันมาถามแพรวนภา
“คุณเทิดบอกว่าคนร้ายจับตัวคุณแพรวกับคุณนันท์ไป ให้คุณเทิดเอาโฉนดที่ดินไปไถ่ตัว”
แพรวนภาตีมึนทำไก๋ “ใครจับตัวใคร ฉันไม่รู้เรื่องนะ”
หอมงง ที่เรื่องราวโอละพ่อ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ “อ้าว นี่มันยังไงเนี่ย”
ชมพู่โพล่งขึ้นว่า “หรือว่านายจะโดนหลอก ทำยังไงดีล่ะ”
ทุกคนต่างร้อนใจเป็นห่วงเทิด
“ผมว่าเรื่องนี้ชักไม่ชอบมาพากลแล้ว น้าผันรีบแจ้งตำรวจเถอะครับ” มาร์คเสนอความคิด
ผันรีบโทรศัพท์ ทุกคนใจคอไม่ดี ห่วงเทิดกันทั้งแถบ
พอแพรวนภาได้ยินว่ามีการแจ้งความตำรวจก็หน้าเสีย ร้อนตัวกลัวความผิดสุดขีด
อ่านต่อตอนที่ 26