มนต์รักอสูร ตอนที่ 23
แม้จะผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้วที่เทิดถูกคุมตัวไป แต่นันท์ยังคงขวัญเสีย และเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นหาพ่อไม่ยอมหยุด ด้วยความเป็นห่วงตามประสาเด็ก
“นันท์จะหาพ่อ! ฮือๆๆ”
แพรวนภาชักเริ่มหงุดหงิดรำคาญ หันไปสั่งเมญ่า
“ทำยังไงก็ได้ให้คุณนันท์เงียบทีซิ ฉันรำคาญ”
“พูดไม่รู้เรื่องเหรอไง บอกว่าไปไม่ได้ก็ไม่ได้สิ อยากโดนตีใช่มั้ย หา!”
เมญ่าดุนันท์เสียงเขียว แถมยังเงื้อมือขึ้นขู่ จนนันท์ตกใจ น้ำผึ้งเข้ามาเห็นพอดี ร้องห้ามเสียงเข้ม
“อย่าตีคุณนันท์นะคะ”
สองนายบ่าวเหลียวมามองตาคว่ำ ไม่พอใจที่น้ำผึ้งมายุ่ง
“แค่นี้คุณนันท์ก็เสียใจมากแล้ว อย่าซ้ำเติมอีกเลยค่ะ”
“ยุ่งอะไรด้วย หลานฉัน ฉันจะทำยังไงก็ได้”
“ไม่ยุ่งไม่ได้ค่ะ คุณนันท์ก็ลูกศิษย์ฉันเหมือนกัน”
“ฮึ ครูแค่ลูกจ้างเท่านั้น แต่ฉันเป็นคนในครอบครัว ฉันมีสิทธิ์จะทำยังไงก็ได้”
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นแค่ลูกจ้าง ฉันมีหน้าที่รายงานนายจ้าง ถ้าคุณเทิดกลับมาฉันจะบอกคุณเทิดว่าคุณตีคุณนันท์”
ท่าทีและน้ำเสียงจริงจังของน้ำผึ้งได้ผล
“ครูกล้าขู่ฉันเหรอ” แพรวนภาฉุน
“ฉันกล้าทำมากกว่าขู่อีกค่ะ เพื่อปกป้องคุณนันท์”
แพรวนภาจ้องหน้าน้ำผึ้งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ น้ำผึ้งสู้สายตาไม่ยอม
“งั้นเธอก็อบรมลูกศิษย์เธอเองละกัน ไปเถอะเมญ่า”
แพรวนภาลุกเดินหนีไป กะเทยยักษ์มองเข่นเขี้ยวน้ำผึ้งแว่บหนึ่ง จึงสะบัดตูดตามไป น้ำผึ้งรีบเข้ากอดปลอบด้วยความสงสาร ลูบหลังนันท์อย่างอ่อนโยน
อีกฟาก เทิดอยู่ที่โรงพัก ถูกสอบปากคำมาพักหนึ่งแล้ว หมวดสินยื่นเอกสารให้
“เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาด้วยครับ”
เทิดไม่พอใจ “ผมไม่ได้ทำ ทำไมต้องเซ็นด้วย”
“หลักฐานทุกอย่างบอกว่าคุณเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และคุณก็ไม่มีพยานยืนยันว่าเวลาเกิดเหตุคุณทำอะไรอยู่ที่ไหน”
“แค่นาฬิกาเรือนเดียวก็หาว่าผมเป็นคนร้ายแล้วเหรอ อย่างนี้มันยัดเยียดข้อหากันชัดๆ”
“ผมว่าคุณใจเย็นดีกว่า ตามขั้นตอนคุณมีสิทธิ์ประกันตัวสู้คดี ถ้าคุณไม่ผิด ก็ไม่ต้องกลัวอะไร แต่ถ้าคุณใจร้อน อาจจะไม่โดนแค่ข้อหาเดียว”
เทิดไม่พอใจ แต่ไม่อยากมีเรื่อง
“ก็ได้!”
เทิดเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“ประกันตัวเท่าไร”
ผันคุยโทรศัพท์อยู่ที่บ้านเทิด ในมือมีซองเอกสารที่จะไปใช้ประกันตัวเทิดด้วย
“ครับคุณเทิด เรียบร้อยครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ”
ผันวางสาย พร หอม ชมพู่ อ้อยและมาร์ค รอฟังข่าว พรรีบถามผันแทนทุกคน
“คุณเทิดเป็นไงบ้าง”
“ตำรวจให้เอาหลักทรัพย์ไปประกันตัวคุณเทิด ฉันไปก่อนนะ”
ผันรีบไป ทุกคนต่างมองตามด้วยสีหน้าไม่สบายใจที่เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเจ้านาย
นันท์นอนร้องไห้อยู่บนเตียง น้ำผึ้งคอยปลอบอยู่
“ตำรวจจับคุณพ่อไปทำไมครับคุณครู คุณพ่อทำอะไรผิด”
“ตำรวจไม่ได้จับคุณพ่อหรอกค่ะ ตำรวจแค่อยากจะถามคุณพ่อเพิ่มเติมก็เลยเชิญไปคุยที่โรงพัก”
“ถามเรื่องอะไรครับ”
“คุณภูถูกยิงค่ะ ตำรวจอยากรู้ว่าใครทำร้ายคุณภู”
“คุณพ่อไม่ได้ทำร้ายคุณภูแน่ คุณพ่อเป็นคนดี“
“ครูก็เชื่ออย่างนั้นค่ะ คุณพ่อเป็นคนดี เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมาแล้ว คุณนันท์นอนนะคะ”
“ครับ”
นันท์หลับตาลง น้ำผึ้งห่มผ้าคลุมให้
เสียงไลน์ของน้ำผึ้งดังขึ้น น้ำผึ้งเปิดดู เห็นข้อความจากภูฤทธิ์
ฟากสองนายบ่าวอยู่ในห้องด้วยกัน แพรวนภาเองก็ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เมญ่าอดถามไม่ได้
“คุณแพรวคะ ถ้าคุณเทิดจ้างวานฆ่าคุณภูจริงๆ แล้วติดคุกตลอดชีวิตขึ้นมา คุณแพรวจะทำไงคะ”
แพรวนภาเครียดจัด
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ฉันก็ไม่อยู่กับคนขี้คุกหรอก!”
“งั้นเราเก็บของไปกันเลยดีมั้ยคะ”
“ไม่!ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเทิดผิดจริง”
“ก็ไม่แน่นะคะ อย่าลืมว่าคุณเทิดไม่ชอบหน้าคุณภู”
“ถึงฉันจะไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เท่าที่ฉันรู้จักเทิดมา ฉันว่าเขาไม่น่าจะฆ่าใครได้”
เมญ่าจ๋อย
“ถ้าคุณแพรวจะรอ เมญ่าก็รอค่ะ คุณแพรวไปไหน เมญ่าก็ไปด้วย”
แพรวนภากังวลไม่คลาย
เทิดกลับมาถึงบ้านพร้อมกับผันที่เป็นคนไปประกันตัว พร แซม ชมพู่ หอม อ้อย และมาร์ครออยู่ ทุกคนต่างดีใจที่เทิดกลับมา
“คุณเทิดกลับมาแล้ว” พรดีใจไม่ต่างจากคนอื่นๆ
อ้อยบอกกับหอม “เห็นมั้ยพี่หอม ฉันบอกแล้วว่านายไม่ผิด”
เทิดมองหานันท์
“แล้วคุณนันท์ล่ะ”
“เข้านอนแล้วค่ะ”
เมญ่าเดินมา เห็นเทิดก็ตื่นเต้น
แพรวนภารออยู่ในห้องด้วยความกระวนกระวายใจ จนเมญ่าเข้ามารายงานข่าว
“คุณแพรวขา คุณเทิดมาแล้วค่ะ”
“มาแล้วเหรอ”
“มาถึงก็ถามหาคุณนันท์ก่อนเลยค่ะ”
แพรวคิดแผน
เมื่อเทิดเปิดประตูเข้ามา ก็ต้องแปลกใจที่เจอแพรวนภานั่งอยู่ข้างเตียงนันท์
“แพรว”
แพรวนภาจุ๊ปากให้เทิดพูดเบาๆ
“เบาๆ ค่ะ แพรวเพิ่งกล่อมคุณนันท์หลับไปเมื่อกี้เองค่ะ คุณนันท์เสียใจมากที่เห็นเทิดถูกตำรวจจับ”
เทิดลูบผมนันท์และจูบเบาๆ ที่หน้าผาก แพรวนภายิ้มพอใจที่เทิดไม่สงสัยอะไร
เทิดและแพรวนภาออกมาจากห้องนันท์ เมญ่ารออยู่หน้าห้อง
“ขอบคุณที่ดูแลคุณนันท์ให้ระหว่างที่ผมไม่อยู่”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ หลานแพรวทั้งคน แพรวต้องดูแลอย่างดีที่สุดค่ะ”
“แล้วนี่ครูน้ำผึ้งอยู่ที่ไหน ตั้งแต่มาถึง ยังไม่เห็นเลย”
“เมญ่าเห็นคุยกับคุณภูอยู่ค่ะ”
คำพูดของเมญ่าทำให้เทิดไม่พอใจ สองนายบ่าวยิ้มร้ายให้กัน
น้ำผึ้งออกมาคุยสายกับภูฤทธิ์อยู่ในสวนข้างตึกใหญ่ ภูฤทธิ์ตกใจมากเมื่อฟังเรื่องร้ายจากน้ำผึ้ง
“คุณเทิดเป็นเจ้าของนาฬิกาข้อมือเรือนนั้นเหรอครับ!”
“ใช่ค่ะ แต่นาฬิกาเรือนนั้นถูกขโมยไปตั้งแต่วันที่จัดงานเลี้ยงแต่งงานแล้วค่ะ”
“ถูกขโมย แล้วไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้ไง”
“น้ำผึ้งเชื่อว่าคุณเทิดไม่ใช่คนร้ายแน่ เพราะนาฬิกาถูกขโมยไปก่อน เรื่องนี้เหมือนมีคนจงใจทำร้ายคุณภูแล้วป้ายความผิดให้คุณเทิดเลยค่ะ”
เทิดเข้ามาเห็นน้ำผึ้งคุยกับภูฤทธิ์ก็พาล “มาอยู่นี่เอง” เทิดเดินมาแย่งมือถือจากน้ำผึ้งแล้วกดตัดสาย
น้ำผึ้งไม่พอใจ “คุณเทิด”
เทิดโมโหหึง “ฉันสั่งให้เธอดูแลคุณนันท์ทำไมไม่ดูแล ฉันจ้างเธอมาดูแลคุณนันท์ แต่เธอกลับเอาแต่คุยกับผู้ชาย”
“ฉันดูแลจนคุณนันท์หลับไปแล้ว ฉันถึงมาคุยธุระกับคุณภูค่ะ”
“แต่ที่ฉันเห็นมันไม่ใช่อย่างที่เธอพูด”
“บางอย่างก็อาจไม่เป็นอย่างที่คุณเห็นเสมอไปนี่คะ ถ้าคุณเทิดไม่เชื่อที่ฉันพูด รอให้คุณนันท์ตื่นแล้วถามคุณนันท์ก็ได้ว่าฉันพูดความจริงรึเปล่า”
เทิดกับน้ำผึ้งยังไม่ได้พูดอะไรต่อ เสียงนันท์ร้องไห้ดังขึ้น
“พ่อ! ฮือๆๆๆ”
ตามด้วยเสียงเมญ่า “ว้าย คุณนันท์”
เทิดและน้ำผึ้งตกใจ
“คุณนันท์”
อ่านต่อหน้า 2
มนต์รักอสูร ตอนที่ 23 (ต่อ)
เทิดและน้ำผึ้งรีบเข้ามาในห้อง แพรวนภาตามมาสมทบทีหลัง นันท์นั่งร้องไห้บนเตียง เมญ่าอยู่ข้างๆ ทำอะไรไม่ถูก
“เกิดอะไรขึ้น คุณนันท์เป็นอะไร”
นันท์เห็นหน้าเทิดก็ดีใจ โผเข้ากอดเทิด
“พ่อมาแล้ว”
แพรวนภาดุเมญ่า “ดูแลคุณนันท์ยังไงเนี่ยเมญ่า”
“เมญ่าไม่ได้ทำอะไรคุณนันท์เลยนะคะ คุณนันท์หลับอยู่ดีๆ ก็ตื่นมาร้องไห้ค่ะ”
“คุณนันท์เป็นอะไร ไหนบอกพ่อซิ”
“นันท์ฝันร้าย ฝันว่าตำรวจจับพ่อไป”
“ที่แท้ก็ฝันร้าย” แพรวนภาโล่งใจ
“นันท์กลัวครับ แม่ไม่อยู่คนหนึ่งแล้ว ถ้าพ่อไม่อยู่อีกคน นันท์จะอยู่กับใคร”
น้ำผึ้งปลอบนันท์
“โถ ไม่มีอะไรแล้วนะคะคุณนันท์แค่ฝันไป คุณพ่อกลับมาแล้วนะ”
แพรวนภารีบเข้ามาแทรก แย่งปลอบนันท์ ดันตัวน้ำผึ้งออกไปห่างๆ
“แพรวดูแลหลานเองค่ะ อยู่กับคนในครอบครัว ยังไงก็อุ่นใจกว่าอยู่กับคนนอก”
“ค่ะ น้ำผึ้งขอตัวนะคะ”
น้ำผึ้งรู้ตัวว่าถูกไล่จึงไม่อยากยุ่ง เลยออกห้องไป นันท์มองตาม แพรวนภาเห็นรีบปลอบ
“ไม่มีอะไรแล้วนะคะคนเก่ง”
เทิดสงสารลูบหลังลูบไหล่นันท์ปลอบโยน
“ไม่ต้องกลัวนะครับ พ่อไม่มีวันทิ้งนันท์ไปไหน พ่อจะอยู่กับนันท์”
“จริงๆ นะครับ”
“คุณนันท์นอนได้แล้วนะคะ ดึกแล้ว”
“นันท์ขอจับมือพ่อไว้ได้มั้ยครับ”
“พ่อจะจับมือนันท์ไว้จนกว่านันท์จะหลับนะ”
“อานตี้ก็จะจับมือคุณนันท์ไว้อีกข้างนะคะ”
แพรนภาห่มผ้าให้นันท์ ทั้งสองคนนั่งข้างเตียงนันท์คนละข้าง จับมือนันท์ไว้
“นอนนะคะคุณนันท์คนดีของอานตี้”
นันท์หลับตาลงอย่างอุ่นใจ เทิดมองสงสารลูก
น้ำผึ้งแอบมองอยู่หน้าห้อง เห็นสองคนจับมือนันท์คนละข้าง ดูเป็นภาพครอบครัวแสนอบอุ่น ก็สะท้อนใจใจที่ตัวเองเหมือนเป็นส่วนเกินยังไงยังงั้น
เมญ่านอนเฝ้าดูแลนันท์ เทิดและแพรวนภาออกมาหน้าห้อง แพรวนภาเอ่ยขึ้นว่า
“เทิดคะ แพรวคิดว่าคุณน่าจะส่งคุณนันท์ไปเรียนต่างประเทศนะคะ”
เทิดไม่พอใจมาก
“คุณพูดอะไร ไม่มีทาง ผมไม่ให้นันท์ไปไหนทั้งนั้น!”
แพรวนภาพูดอย่างใจเย็น รู้อยู่แล้วว่าเทิดหวงลูกมาก
“เทิดอย่าเพิ่งโกรธสิคะ ฟังแพรวก่อน ที่แพรวอยากให้ไปก็เพื่อความปลอดภัยของคุณนันท์ ไหนจะเรื่องยายพริม ไหนจะเรื่องที่คุณภูถูกยิงอีก ที่นี่ไม่ปลอดภัย แพรวไม่สบายใจเลย แพรวเป็นห่วงคุณนันท์ค่ะ”
เทิดคิดตามเงียบๆ แพรวนภาเห็นเทิดไม่ขัดอะไรก็เกลี้ยกล่อมต่อ
“แพรวคิดว่าควรจะส่งคุณนันท์ไปเรียนต่างประเทศจนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้ค่ะ”
เทิดคิดหนัก แพรวนภายิ้มร้ายสมใจ หวังว่าเทิดจะเห็นด้วย
เทิดพาตัวเองเข้ามาในห้องนอน นั่งมองรูปพริมด้วยสีหน้าสับสน
“ไม่ต้องห่วงนะครับพริม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะปกป้องลูกด้วยชีวิตของผม คุณนันท์จะต้องปลอดภัย”
เทิดเครียดหนัก คิดหาทางที่จะทำให้นันท์ปลอดภัย
คืนเดียวกัน ภูฤทธิ์เปิดดูรูปฟ้าใสในโทรศัพท์ แล้วคิดถึง จึงกดโทรศัพท์หาฟ้าใส
อีกฟาก ฟ้าใสอยู่ในห้องนอนที่บ้าน เห็นชื่อภูฤทธิ์โทรเข้ามา ก็ลังเล ไม่กล้ารับสาย
ภูฤทธิ์รอจนสายตัดไป
“ทำอะไรอยู่นะ หายเงียบไปเลย”
ฟ้าใสมองโทรศัพท์ พูดพึมพำเสียงเศร้า
“ขอโทษนะคะคุณภู ฉันกำลังพยายามตัดใจจากคุณ แต่ถ้าเรายังเจอกัน ฉันคงตัดใจไม่ได้”
ฟ้าใสทอดถอนใจสีหน้าหมองเศร้า
เช้านี้ ในขณะที่น้ำผึ้งสอนหนังสือนันท์อยู่ มีหอมมานั่งเรียนเป็นเพื่อนด้วย เทิดพร้อมแพรวนภาเดินเข้ามาในห้อง เมญ่าตามหลัง
“คุณเทิด คุณแพรว มีอะไรรึเปล่าคะ”
เทิดลำบากใจที่จะพูด แพรวนภาเลยแย่งพูดซะเอง
“ต่อไปนี้ครูไม่ต้องสอนคุณนันท์แล้วค่ะ”
น้ำผึ้ง หอมและนันท์แปลกใจ
“หมายความว่าไงคะ”
แพรวนภามองหน้าเทิดเป็นเชิงให้พูด เทิดตัดสินใจพูดกับนันท์ว่า
“พ่อจะให้คุณนันท์ไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ต้องสอบเข้าเรียนที่นี่แล้ว”
น้ำผึ้ง หอมและนันท์ตกใจ
นันท์ร้องลั่น “ไม่! นันท์ไม่ไป นันท์จะอยู่ที่นี่”
“ไปเรียนที่โน่นสนุกนะคะ มีสวนสนุกใหญ่ๆ มีหิมะด้วย” แพรวนภากล่อม
“แต่ไม่มีพ่อ ไม่มีครูน้ำผึ้ง ไม่มีพี่หอมกับพี่อ้อย ไม่มีทุกคนที่นี่ นันท์ไม่ไป”
แพรวนภากับเมญ่ามองหน้ากัน ด้วยความหนักใจ เพราะนันท์ดูจะไม่ยอมง่ายๆ
เทิดเริ่มหงุดหงิด “คุณนันท์มีเหตุผลหน่อยสิ ที่พ่ออยากให้คุณนันท์ไปก็เพราะ...”
เทิดยังพูดไม่จบ นันท์ก็โพล่งขึ้น ด้วยความน้อยใจ
“เพราะพ่อไม่รักนันท์แล้วใช่มั้ยถึงอยากให้นันท์ไปอยู่ไกลๆ”
“ไปกันใหญ่แล้ว ฟังพ่อพูดให้จบก่อน”
“คุณพ่อรักคุณนันท์นะคะ ถึงจะส่งไปเรียนต่างประเทศ”
แพรวนภายื่นไอแพดให้นันท์ดู
“เดี๋ยวอานตี้เปิดรูปโรงเรียนให้ดูนะคะ”
นันท์ไม่เอาปัดไอแพดเต็มแรงจนหลุดจากมือแพรวนภา
“ไม่ นันท์ไม่ดู”
“ว้าย คุณนันท์”
เทิดโมโห “คุณนันท์ทำเกินไปแล้วนะ! ขอโทษคุณแพรวเดี๋ยวนี้”
“นันท์ไม่ขอโทษ”
“ยิ่งไม่มีเหตุผลแบบนี้ยิ่งต้องไป เผื่อจะโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”
นันท์ตะโกนใส่หน้าเทิด “นันท์ไม่ไป! ไม่ไป๊!”
จากนั้นก็วิ่งหนีออกจากห้องไป
“คุณนันท์” หอมตกใจ
“คุณนันท์! กลับมาเดี๋ยวนี้ มาพูดกันให้รู้เรื่อง!”
หอมรีบตามนันท์ไป เทิดโมโหไม่ยอมตาม ส่วนแพรวนภากับเมญ่าลอบยิ้มให้กัน
น้ำผึ้งได้แต่สงสารนันท์
นันท์ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน เด็กชายร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความน้อยใจพ่อ จนมีเสียงเคาะประตูดัง นันท์ปิดหู ไม่ฟัง
เป็นหอมที่เคาะประตูเรียก น้ำผึ้งก็ยืนอยู่ด้วย
“คุณนันท์ครับ คุณนันท์ เปิดประตูเถอะครับ”
นันท์ไม่ตอบ น้ำผึ้งกับหอมเป็นห่วงมาก สองคนหารือกัน
“คุณนันท์คงจะเสียใจมาก นายก็ประหลาด ปกติหวงอย่างกับไข่ในหิน แต่คราวนี้จะส่งลูกไปอยู่ตั้งไกล ไม่รู้คิดอะไร”
“ครูจะไปคุยกับคุณเทิดให้รู้เรื่อง”
น้ำผึ้งไม่เข้าใจเทิด
เทิดกลุ้มใจอยู่ในห้องทำงาน ได้แพรวนภาคอยพูดปลอบใจ
“คุณทำถูกแล้วค่ะเทิด คุณอย่าใจอ่อนนะคะ ต้องเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของคุณนันท์นะคะ”
น้ำผึ้งเคาะประตูห้องเรียก เทิดและแพรวชะงัก
“เข้ามา”
น้ำผึ้งเปิดประตูเข้ามา
แพรวนภาถามเสียงขุ่น ไม่พอใจ “ครูน้ำผึ้ง มีอะไรคะ”
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณเทิดค่ะ”
“คงไม่ใช่ความลับที่ฉันฟังไม่ได้ใช่มั้ยคะ” แพรวนภาดักคอ
“มีอะไรก็พูดมา”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงจะส่งคุณนันท์ไปเรียนไกลบ้านอย่างนั้น ไม่คิดถึงความรู้สึกคุณนันท์บ้างเหรอคะ”
แพรวเยาะหยัน “ครูน้ำผึ้งคงกลัวตกงานสินะ ถึงเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้”
น้ำผึ้งไม่พอใจ “ฉันไม่ได้กลัวตกงานค่ะ แต่ฉันห่วงความรู้สึกของคุณนันท์”
“ถ้าห่วงคุณนันท์จริง ก็ต้องส่งไปค่ะ เพื่อความปลอดภัยของคุณนันท์”
“คุณนันท์ขาดคุณแม่ไปคนหนึ่งแล้ว ให้ไปอยู่ไกลคุณพ่ออีก มันหนักเกินไปสำหรับเด็กอย่างคุณนันท์นะคะ”
“ไม่ขาดหรอกค่ะ เทิดกับแพรวจะไปหาคุณนันท์เมื่อไรก็ได้ มีเงินซะอย่าง”
“แต่ว่า...”
เทิดหงุดหงิด ไม่อยากฟังน้ำผึ้งกับแพรวนภาเถียงกัน
“พอแล้ว”
สองคนชะงัก
“ฉันตัดสินใจไปแล้ว!”
แพรวนภายิ้มเยาะ น้ำผึ้งเสียใจมาก
“ถ้างั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วค่ะ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา”
น้ำผึ้งออกจากห้องไป เทิดมองตามไม่สบายใจนัก แพรวนภาดูออกรีบพูดโน้มน้าวไม่ให้เทิดใจอ่อน
“แพรวดีใจที่เทิดเข้าใจแพรวนะคะ แพรวรักคุณนันท์เหมือนลูก แพรวทำทุกอย่างเพราะหวังดีกับคุณนันท์ค่ะ”
เทิดหนักใจเหลือเกิน
อ่านต่อหน้า 3
มนต์รักอสูร ตอนที่ 23 (ต่อ)
ฝ่ายนันท์คุยกับรูปแม่อยู่ในห้องนอน
“แม่ครับ แม่ก็ไม่อยู่กับนันท์ พ่อก็ไม่รักนันท์แล้ว จะไล่นันท์ไปอยู่ไกลๆ นันท์ไม่เหลือใครแล้วครับแม่”
นันท์จูบรูปแม่ กอดรูปไว้แนบอก
รุ่งเช้า หอมยกถาดใส่อาหารเช้ามาเคาะประตูห้องนอนนันท์
“คุณนันท์ครับ เปิดประตูเถอะครับ”
เงียบไม่มีเสียงตอบ หอมลองบิดลูกบิดประตู ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อก หอมแปลกใจ เปิดประตูเข้าไป แต่นันท์ไม่อยู่ในห้อง
หอมเรียกหาอีก “คุณนันท์”
หอมวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะ แล้วไปเปิดประตูห้องน้ำดูจนทั่ว แต่ก็ไม่เจอ หอมตกใจที่คุณนันท์หายตัวไป
ขณะที่ เทิด น้ำผึ้ง และแพรวนภากำลังทานข้าวเช้ากันอยู่ หอมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“นายครับ นาย!”
เทิดสงสัย “มีอะไร”
“คุณนันท์หายไปครับ!”
ทุกคนต่างตกใจมาก
เทิดใจหายวับ “คุณนันท์”
แพรวนภาเครียดจัด นั่งไม่ติด
“เด็กบ้านี่ ฉันไม่คิดเลยว่าคุณนันท์จะกล้าหนีออกจากบ้าน ทำไมต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย”
“คุณนันท์ไม่อยู่ก็ดีแล้วนี่คะคุณแพรว”
แพรวนภาหยิกแขนเมญ่า
“โอ๊ย”
“หลานฉันทั้งคนนะ แล้วถ้าเกิดคุณนันท์เป็นอะไรขึ้นมา เทิดต้องโกรธฉันแน่ รีบไปหาคุณนันท์ให้เจอเดี๋ยวนี้เลย”
“จะหาที่ไหนล่ะคะ เมญ่าก็จนปัญญา”
แพรวนภากลุ้ม “โอ๊ย จะทำยังไงดีเนี่ย!”
สองนายบ่าวกลุ้มหนัก
แซม พร ชมพู่ หอม เข้ามาจากคนละทาง แพรวนภาและเมญ่าก็มาจากทางหนึ่ง เทิด น้ำผึ้งและผันเข้ามาจากอีกทาง ทุกคนต่างออกไปตามหานันท์มา แต่ไม่เจอ
“ว่าไง เจอคุณนันท์มั้ย”
“ไม่เจอเลยค่ะ” แพรวนภาบอก
“ผมกับพวกคนงานช่วยกันหาจนทั่วไร่แล้ว ไม่มีวี่แววคุณนันท์เลยครับ” แซมว่า
“ป้าก็หาทั่วบ้านแล้วไม่เจอเลยค่ะ” พรบอก
“ข้าวของทุกอย่างก็อยู่ครบ คุณนันท์ไม่ได้เอาอะไรไปด้วยเลยครับ”
เทิดเครียดจัด เลยเหวี่ยงใส่ทุกคน
“ดูแลกันยังไง คนทั้งคน ปล่อยให้หายไปได้”
ทุกคนหน้าสลด
“แพรวว่าแจ้งความเถอะค่ะ”
น้ำผึ้งคิดบางอย่างออก
“เดี๋ยวค่ะ ยังมีอีกที่หนึ่งที่ยังไม่ได้หา”
เทิด แพรวนภาและทุกคนมองน้ำผึ้งเป็นตาเดียว
คนอื่นรออยู่ด้านนอก เมื่อเทิดเปิดประตูเข้ามาในห้องที่ระลึกถึงพริม ก็พบนันท์นอนหลับอยู่บนเตียงนอนเก่าของพริม กอดรูปแม่แนบอก
“คุณนันท์!”
แพรวนภากับน้ำผึ้งที่ตามเข้ามาด้วย ต่างโล่งอกและดีใจ
“มาอยู่นี่เอง ใจหายใจคว่ำหมด”
เทิดลงนั่งข้างเตียง
“คุณนันท์คงจะคิดถึงคุณพริมมาก” น้ำผึ้งว่า
เทิดช้อนอุ้มนันท์ที่ยังนอนหลับอย่างเบามือ
“ฉันจะพาคุณนันท์กลับห้อง”
เทิดวางร่างนันท์ลงบนเตียงนอนอย่างทะนุถนอม แพรวนภากุลีกุจอมาช่วยดูแล ห่มผ้าห่มให้ น้ำผึ้งยืนมองใกล้ๆ
เทิดสั่งหอมเสียงเบาแต่ดุ “เฝ้าคุณนันท์ไว้ อย่าให้คลาดสายตา ถ้าคุณนันท์หายไปอีก แกโดน!”
หอมจ๋อยสนิท “ครับนาย”
เทิดมองนันท์ด้วยความห่วงใย
“คุณเทิดคะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะ”
แพรวระแวงว่าน้ำผึ้งจะคุยอะไร
ที่ห้องทำงานเทิดเวลานี้ น้ำผึ้งคุยหารืออยู่กับเทิดและแพรวนภา
“คุณเทิดคงเห็นแล้วว่าคุณนันท์ไม่พร้อมจะไปอยู่ไกลหูไกลตา”
เทิดพูดไม่ออก แพรวนภามองประเมิน เห็นเทิดไม่ตอบก็กลัวเขาจะคล้อยตามน้ำผึ้ง
“แต่ถึงยังไงความปลอดภัยของคุณนันท์สำคัญที่สุดนะคะเทิด หรือว่าครูไม่ห่วงความปลอดภัยของคุณนันท์ ห่วงแต่ว่าตัวเองจะตกงาน”
น้ำผึ้งรำคาญแพรวนภาที่คอยแต่จะหาเรื่องตน
“เรื่องความปลอดภัย เราช่วยกันดูแลอย่างเข้มงวดขึ้นก็ได้นี่คะ เพิ่มเวรยามในไร่ก็ได้”
“ถึงจะเพิ่มเวรยาม แต่จะมั่นใจได้ยังไงว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบคุณภู” แพรวนภาโต้
“เอาเถอะแพรว ในเมื่อคุณนันท์ไม่อยากไปเรียนต่างประเทศก็ไม่ต้องไป”
แพรวนภาไม่ยอมทัดทานสุดกำลัง “เทิดคะ”
เทิดพูดต่อว่า “แต่ฉันจะส่งคุณนันท์ไปเรียนโรงเรียนประจำแทน อย่างน้อยในโรงเรียนก็น่าจะปลอดภัย เสาร์ อาทิตย์ ก็ได้เจอกัน”
น้ำผึ้งตกใจ “โรงเรียนประจำ! คุณนันท์จะยอมเหรอคะ”
เทิดบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ยอมไม่ยอมก็ต้องไป ฉันมีทางเลือกให้แค่สองทางเท่านั้น คือเรียนต่างประเทศกับเรียนโรงเรียนประจำ”
แพรวนภายิ้มในสีหน้า ทำเป็นพูดเสียงหวานแดกดันน้ำผึ้ง
“แพรวเสียใจด้วยนะคะครูน้ำผึ้ง เรียนโรงเรียนประจำก็ไม่จำเป็นต้องจ้างครูสอนที่บ้านแล้ว แต่แถวนี้มีโรงเรียนเยอะ ครูน่าจะหางานใหม่ไม่ยากหรอกค่ะ”
น้ำผึ้งไม่พอใจ
“เรื่องนั้นฉันไม่ห่วงหรอกค่ะ ฉันห่วงความรู้สึกของคุณนันท์มากกว่า”
เทิดดุอีก “ไม่ต้องไปหางานใหม่ที่ไหนทั้งนั้น ถึงคุณนันท์จะเรียนโรงเรียนประจำ แต่เธอยังต้องสอนพิเศษให้คุณนันท์วันเสาร์ อาทิตย์ และช่วงปิดเทอม ส่วนวันธรรมดาที่ว่าง จะสอนหนังสือให้ลูกคนงานก็ได้ ฉันไม่ห้าม”
แพรวนภาตกใจ “สอนพิเศษเหรอคะ”
น้ำผึ้งมองสบตาเทิดซึ้งน้ำใจ
“ขอบคุณค่ะ งั้นน้ำผึ้งขอตัวก่อนนะคะ”
น้ำผึ้งเดินออกไป แพรวนภาคุมแค้นไม่พอใจที่กำจัดน้ำผึ้งไม่ได้สักที แต่ต้องนิ่งไว้
น้ำผึ้งเข้ามาหานันท์ที่ยังนอนหลับอยู่
“ครูน้ำผึ้ง เชิญครับ”
หอมเห็นน้ำผึ้งเข้ามาก็ออกไปรอหน้าห้องแทน น้ำผึ้งลงนั่งข้างเตียง มองนันท์ด้วยความสงสาร เห็นใจ
“ครูขอโทษนะ ครูช่วยคุณนันท์ได้แค่นี้”
นันท์รู้สึกตัวตื่นขึ้นเห็นหน้าครูก็แปลกใจ “คุณครู นันท์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ”
น้ำผึ้งลูบผมนันท์
“คุณเทิดอุ้มคุณนันท์กลับมาค่ะ”
นันท์ไม่พอใจ ลุกลงจากเตียง
“คุณนันท์”
เทิดเปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี
“จะไปไหน”
พ่อลูกจ้องตากัน นันท์น้อยใจพ่อ ส่วนเทิดนั้นมองด้วยความรัก
“พ่อไม่รักนันท์ ไม่อยากให้นันท์อยู่ที่นี่ นันท์ก็จะไม่อยู่บ้านนี้แล้ว”
น้ำผึ้งไม่สบายใจ กลัวสองพ่อลูกทะเลาะกันอีก
“ในเมื่อคุณนันท์ไม่อยากไปเรียนต่างประเทศ ก็ไม่ต้องไป”
นันท์ได้ฟังก็ยิ้มออก ดีใจ
“จริงเหรอครับพ่อ”
นันท์โผเข้าไปกอดพ่อ เทิดลูบผมลูกชาย รู้สึกลำบากใจมาก
“แต่...” เทิดจะบอกลูกเรื่องเรียนโรงเรียนประจำ
น้ำผึ้งรู้ รีบขัดจังหวะไว้
“คุณเทิดคะ”
เทิดชะงัก มองหน้าน้ำผึ้งเป็นคำถาม น้ำผึ้งส่ายหน้าบอกว่าอย่าเพิ่งพูดตอนนี้ เทิดเข้าใจ นันท์ดีใจที่ไม่ต้องไปเรียนต่างประเทศ
เทิดและน้ำผึ้งออกมา หอมรออยู่หน้าห้อง เทิดสั่งดุๆ “ดูแลคุณนันท์ให้ดี อย่าให้เกิดเรื่องอีก”
“ครับนาย”
รอจนหอมเข้าห้องไปดูแลนันท์แล้ว เทิดจึงถามน้ำผึ้งขึ้นว่า
“ทำไมถึงไม่ให้บอกคุณนันท์เรื่องเรียนโรงเรียนประจำ”
“ฉันกลัวว่าคุณนันท์จะรับไม่ได้และหนีไปอีกค่ะ คุณควรจะให้เวลาคุณนันท์ทำใจสักนิด ค่อยพูดค่อยจากัน ฉันเชื่อว่าคุณนันท์จะเข้าใจความหวังดีของคุณค่ะ”
เทิดพยักหน้านิดๆ เป็นเชิงเห็นด้วย
น้ำผึ้งสงสารนันท์ แต่ตัวเองก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
แพรวนภากำลังอาละวาดทุบตีหมอนระบายอารมณ์อยู่ในห้อง
“เจ็บใจจริงๆ! คิดว่าจะกำจัดครูน้ำผึ้งได้แล้วเชียว เทิดนะเทิด จะจ้างมันอีกทำไม ทำแบบนี้หาเรื่องให้มันอยู่ต่อชัดๆ”
“นังครูน้ำผึ้งนี่หนังเหนียวจริงๆ นะคะ ทำยังไงก็กำจัดมันออกไปให้พ้นหูพ้นตาไม่ได้ซะที”
“ฉันไม่ยอมหรอก!ฉันต้องหาทางกำจัดมันให้ได้”
นัยน์ตาแพรวนภาวาวโรจน์ คิดหาทางกำจัดน้ำผึ้งให้พ้นทาง
ฟ้าใสนั่งอยู่ที่โต๊ะสนามในสวนสวยหน้าบ้าน ท่าทางเหมือนกำลังจดจ่ออ่านหนังสือ แต่จริงๆ แล้วเธอกำลังเหม่อลอย สีหน้าหม่นหมอง คิดถึงแต่เรื่องภูฤทธิ์ จนถูกเสียงทรงยศปลุกจากภวังค์รักแสนเศร้านั้น
“ทำไมวันนี้อยู่บ้านได้ละฟ้า”
ฟ้าใสหันไปมองพี่ชายที่กำลังเดินตรงมาหา
“ทำไมคะ กลัวฟ้าอยู่บ้านแล้วพี่ยศจะทำอะไรไม่สะดวกเหรอ”
“เก่งจริงๆ เลยนะหาเรื่องพี่เนี่ย”
ทรงยศลงนั่งฝั่งตรงข้าม เห็นสีหน้าน้องสาวเศร้าๆ ก็เป็นห่วง
“มีใครทำอะไรให้ไม่พอใจรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
“ถ้ามีบอกพี่เลยนะ พี่จะไปจัดการมันให้ หรือว่าไอ้ภู”
ฟ้าใสรีบปฏิเสธ
“เปล่านะคะ ทำไมคุณภูจะต้องมาทำอะไรให้ฟ้าไม่พอใจด้วยละ”
“ก็เห็นแกชอบไปทำท่าทีสนิทสนมกับมัน ฉันก็คิดว่าชอบกัน”
“คุณภูเค้าไม่ได้ชอบฟ้าหรอกค่ะ เค้าชอบคนอื่น ฟ้าว่าฟ้าออกไปข้างนอกดีกว่า”
ฟ้าใสลุกเดินออกไปเลย ทรงยศมองตามสงสัยว่าฟ้าใสเป็นอะไร
พูนเดินสวนเข้ามา ในมือถือสมุดจดรายชื่อลูกหนี้
“นายครับ เดือนนี้นังผึ้งมันยังไม่มาจ่ายหนี้แทนพ่อมันเลย เอาไงดีครับ”
“ถึงเวลาของแกแล้วนังน้ำผึ้ง”
ทรงยศยิ้มร้าย มองหน้าพูน
ฟ้าใสเดินเข้ามาในร้านกาแฟประจำ สั่งกาแฟรสโปรดอยู่ตรงเคาน์เตอร์
“ลาเต้เย็นหวานน้อยแก้วหนึ่งค่ะ”
“60 บาทค่ะ”
ในขณะที่ฟ้าใสกำลังจะหยิบเงินจ่าย แต่มีคนยื่นเงินส่งให้พนักงานก่อน ฟ้าใสหันไปมอง
“นี่ครับ”
“คุณภู”
“ผมเลี้ยงนะครับ
ด้วยความน้อยใจ ฟ้าใสทำท่างอนใส่
“ไม่ต้องค่ะ ฟ้าเลี้ยงตัวเองได้”
ฟ้าใสส่งเงินให้พนักงาน ภูฤทธิ์ไม่ยอม ต่างฝ่ายต่างพยายามยัดเงินให้ สุดท้ายพนักงานสาระแนหยิบเงินจากภูฤทธิ์
“ขอรับเงินก่อนนะคะ เชิญลูกค้าท่านต่อไปเลยค่ะ”
สองคนหันไปมองเห็นคนยืนรอซื้อกาแฟอยู่หลายคน ลูกค้าบางคนทำหน้าตำหนิภูฤทธิ์กับฟ้าใส ทั้งสองคนอับอาย รีบขยับไปยืนรอข้างๆ ฟ้าใสมองค้อนภูฤทธิ์
อีกฟาก เทิดเดินยิ้มอารมณ์ดี ออกจากบ้านพักน้ำผึ้ง ก่อนจะเห็นแพรวนภาดักรออยู่ มองเทิดอย่างไม่ค่อยพอใจ
“อยากรู้จังเลย ใครที่ทำให้เทิดยิ้มแบบนี้ได้”
เทิดไม่ตอบ ชวนคุยเรื่องอื่น
“แพรวมาหาผมรึเปล่า”
“แพรวมาหาเทิดค่ะ แล้วเทิดละคะมาที่นี่ มาหาใคร”
แพรวนภาเดินเข้ามาจ้องหน้าเทิดใกล้ๆ เหมือนคาดคั้นเอาคำตอบ
“ผมก็มาหาคุณนันท์นะสิ”
เทิดหลบสายตาวูบ
“เทิดโกหกไม่เก่งเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“แพรวมีอะไรรึเปล่า”
“แพรวไม่มีอะไร ก็คงมาหาเทิดไม่ได้สินะคะ แต่ก่อนเทิดต้องคอยวิ่งตามแพรว แต่เดี๋ยวนี้แพรวต้องคอยวิ่งตามเทิด เหนื่อยเหมือนกันนะคะ”
แพรวนภามองหน้าเทิดแล้วยิ้มเศร้า ๆ
“เทิดยังเห็นแพรวอยู่ในสายตาบ้างมั้ยคะ”
“มันเป็นแค่อดีตที่ผ่านไปแล้ว แพรวอย่าพูดถึงมันเลย”
“แพรวมันก็เป็นแค่อดีต แล้วคนปัจจุบันของเทิดคือใครกันคะ”
เทิดมองหน้าแพรวนภานิ่งๆ แล้วเบือนหน้าหนีโดยไม่ตอบ
แพรวนภาโกรธ ตระหนักชักแล้วว่าเทิดมีน้ำผึ้งอยู่ในใจ เดินหุนหันออกไป
ฟ้าใสนั่งกินกาแฟ เล่นมือถือยู่ ภูฤทธิ์นั่งจ้อง หาเรื่องชวนคุย
“คุณฟ้าก็ติดโซเชียลเหมือนกันนะครับเนี่ย”
ฟ้าใสเหลือบมองหน้าภูฤทธิ์
“ค่ะ”
ฟ้าใสหันไปก้มหน้าเล่นมือถือต่อ
“คุณฟ้าโกรธอะไรผมรึเปล่าครับ”
ฟ้าใสพูดไปเล่นมือถือไป
“ทำไมฟ้าต้องโกรธคุณภูด้วย” เธอเงยหน้ามองภูฤทธิ์ “หรือว่าคุณภูทำอะไรให้ฟ้าโกรธ”
“ไม่มีนี่ครับ”
“ถ้าไม่มีแล้วจะสนใจฟ้าทำไมคะ คุณภูไปหายัยผึ้งเถอะค่ะ”
ภูฤทธิ์ตอบพาซื่อ “ผมก็อยากไปอยู่หรอกครับ แต่คุณผึ้งบอกว่าวันนี้งานยุ่ง”
“ก็เลยมาหาฟ้าสินะ”
ฟ้าใสโกรธ ดูดกาแฟจนหมดแก้ว แล้วก้มหน้าเล่นมือถือต่อ ภูฤทธิ์งง แต่ก็อยากง้อฟ้าใสต่อ
“กาแฟคุณฟ้าหมดแล้ว ผมสั่งเพิ่มให้นะครับ”
ฟ้าใสเสียงแข็งใส่ “ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณ”
ภูฤทธิ์จ๋อยสนิท ที่โดนดุ
แพรวนภาพกความหงุดหงิดพาตัวเองเข้ามาหยุดยืนที่หน้าห้องที่ระลึกถึงน้องสาว แปลกใจที่เห็นประตูห้องเปิดอยู่ จึงแอบมองเข้าไป พบว่าด้านในห้อง ชมพู่กับพรกำลังช่วยกันทำความสะอาด
ชมพู่ทำงานไปร้องเพลงลูกทุ่งอย่างมีความสุข จนถูกพรดุ
“เลิกร้องแล้วตั้งใจทำงานหน่อยนังชมพู่ เดี๋ยวต้องไปทำอย่างอื่นต่ออีก”
“แหมป้า ก็ร้องไปทำงานไปแบบนี้มันไม่เหนื่อยนี่นา”
“เออไม่เหนื่อย แต่ระวังเด้งไปมา เดี๋ยวได้ทำของหล่น นายเล่นงานแกตายแน่”
แพรวนภามองสำรวจในห้อง เห็นของใช้พริมหลายอย่าง รวมทั้งรูปถ่ายของพริมถูกจัดอย่างเป็นระเบียบไว้ในห้อง แพรวนภาเห็นแล้วถึงกับอึ้งนิ่งงันไป ก่อนจะนึกอะไรออก
“ดูสิเทิด ว่าคุณจะรักมันเท่าที่รักพริมมั้ย”
แพรวนภาปรายตามองไปกุญแจห้องที่วางอยู่ แล้วยิ้มร้ายออกมา
ฟ้าใสเดินออกมาหน้าร้าน ภูฤทธิ์ตามมาอย่างเร็ว
“คุณฟ้าจะกลับแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ”
“ตอนนี้ที่ไร่ผมมีกุหลาบล็อตใหม่ออกดอกสวย ดอกใหญ่มากเลยครับ คุณฟ้าแวะไปดูได้นะครับ เผื่อสนใจ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีงานอะไรที่ต้องใช้ดอกไม้”
ฟ้าใสแข็งใจเดินหนีออกไป ภูฤทธิ์มองตามรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าผมทำอะไรให้คุณฟ้าโกรธ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ฟ้าใสหยุดเดิน ถอนหายใจ สงสารภูฤทธิ์
“ยกโทษให้ผมนะครับ จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอม ขอแค่คุณฟ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม”
ฟ้าใสหันมาหาภูฤทธิ์
“ฟ้าไม่ได้โกรธอะไรคุณภูหรอกค่ะ ฟ้าแค่ไม่อยากไปทำให้คุณภูรู้สึกอึดอัด”
ภูฤทธิ์เดินเข้ามาใกล้ๆ
“ไม่เลยครับ ผมอยู่กับคุณฟ้าไม่เคยอึดอัด สบายใจซะด้วยซ้ำ พอคุณฟ้าเงียบไปเป็นวันแบบนี้ ผมรู้สึกไม่สบายใจเลย”
ฟ้าใสค่อยๆ ยิ้มให้ภูฤทธิ์
“คุณภูมายังไงคะ แขนเจ็บแบบนี้”
“ผมให้พีทมาส่งครับ เดี๋ยวรอเขามารับตอน 4 โมงครับ”
“งั้นเดี๋ยวฟ้าไปส่งให้ค่ะ”
ภูฤทธิ์ยิ้มกว้างดีใจมองหน้าฟ้าใส
“ขอบคุณครับ”
ฟ้าใสรู้สึกเศร้าที่ตัวเองใจอ่อนอีกแล้ว
ทางด้านน้ำผึ้งแวะมาหาผัน สองคนคุยกันเรื่องพริมอยู่บริเวณสวนบ้าน
“ผึ้งอยากรู้เรื่องคุณพริมไปทำไม” ผันถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ผึ้งเห็นคุณนันท์คิดถึงแม่แล้วรู้สึกสงสาร เลยอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณพริมกันแน่ เผื่อผึ้งจะปลอบอะไรคุณนันท์ได้บ้าง”
“วันนั้น...”
สีหน้าผันมีวี่แววรำลึกจดจำเหตุการณ์ได้แม่น
ผันเล่าเหตุการณ์ตอนพริมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเทิดตามมาเห็นรถระเบิดต่อหน้าต่อตาพอดี
ผันบอกว่า “การตายของคุณพริม คุณเทิดคิดว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ”
“แต่คิดว่าคุณภูเป็นคนฆ่าคุณพริมสินะ”
ผันพยักหน้ารับ สองคนคุยกันต่อ
ระหว่างนี้ แพรวนภากับเมญ่าเดินมาจากมุมหนึ่ง ได้ยินที่ผันเล่าต่อพอดี
“ตำรวจสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่มันก็มีหลายอย่างที่ทำให้คุณเทิดสงสัยว่าคุณพริมเสียชีวิตเพราะโดนวางระเบิด น้าเองก็ไม่อยากพูดมาก เรื่องมันผ่านไปแล้ว”
“จ้ะ...สงสารก็แต่คุณนันท์ เธอเห็นของของแม่แล้วเศร้าตลอดเลย”
“คุณเทิดก็เลยสั่งให้คนเอาของ ของคุณพริมทุกอย่างไปเก็บไว้ในซีเคร็ทรูมไง รวมทั้งข่าวการตายของคุณพริมด้วย เพราะกลัวคุณนันท์เห็น”
“คุณพริมคงใจดีมากใช่ไหมจ๊ะ ฉันเห็นใครๆ ก็ยังพูดถึงเธออยู่”
“ใจดีทั้งคุณพริมกับคุณเทิดนะแหละ”
น้ำผึ้งไม่อยากเชื่อ “คุณเทิดเนี่ยนะ”
แพรวนภากับเมญ่าแอบฟังอย่างตั้งใจ
“ใช่ ที่จริงคุณเทิดเป็นคนใจดี แต่หลังจากการตายของคุณพริม คุณเทิดก็เอาแต่โทษตัวเอง เพราะรถที่คุณพริมประสบอุบัติเหตุ เป็นรถของคุณเทิด คุณเทิดเลยคิดว่าอาจจะเป็นการฆ่าผิดตัว”
น้ำผึ้งฟังแล้วคิดตาม
“ฝากผึ้งดูแลคุณนันท์ด้วยนะ งั้นน้าไปทำงานก่อนละ”
น้ำผึ้งพยักหน้ารับ ผันเดินออกไปทางแพรวนภากับเมญ่าแอบอยู่ สองคนรีบหลบจนผันเดินผ่านไป
“ฉันนึกอะไรออกแล้ว ว่าจะจัดการนังน้ำผึ้งยังไง”
แพรวนภายิ้มชั่วสะใจ มองไปยังน้ำผึ้งนัยน์ตาวาวโรจน์
ฟ้าใสขับรถมาจอดที่หน้าออฟฟิศภูฤทธิ์ ทั้งสองลงจากรถมาคุยกัน
“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”
ฟ้าใสเยื้อนยิ้ม พยักหน้าให้
“คุณฟ้าเข้าไปข้างในก่อนมั้ยครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฟ้ากลับนะคะ”
ฟ้าใสจะเดินกลับไปขึ้นรถ ถูกภูฤทธิ์จับแขนไว้โดยเร็ว พีทเก็บดอกไม้เสร็จเดินมาหยุดยืนมองสองคนยิ้มๆ โดยที่ภูฤทธิ์กับฟ้าใสไม่เห็น
ฟ้าใสมองแขนที่ภูฤทธิ์จับ ก่อนจะ ค่อยๆ ดึงแขนออก
“ขอโทษครับ”
“อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะคะ”
“นี่ยังไม่หายโกรธผมเหรอครับ”
“ฟ้าไม่โกรธคุณภูแล้วละคะ แต่ว่าคุณภูอย่าทำให้ฟ้าลำบากใจเลย”
ภูฤทธิ์งง “คุณฟ้าลำบากใจเรื่องอะไรครับ”
“ช่างเถอะค่ะ ฟ้าไปนะคะ”
ฟ้าใสเดินไปขึ้นรถ แต่ยังไม่ทันปิดประตู ภูฤทธิ์ก็พูดตามหลังมาว่า
“ช่างไม่ได้หรอกครับ ผมแคร์ความรู้สึกของคุณฟ้านะครับ”
“แคร์ในฐานะอะไรคะ”
ภูฤทธิ์อึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนตอบไปว่า “ก็คุณฟ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมไงครับ”
ฟ้าใสปิดประตูรถแล้วขับออกไปเลย ภูฤทธิ์มองตามเศร้าๆ
พีทยังคงยืนมองอยู่ที่เดิม บ่นงึมงำขำๆ
“นายนะนาย ผู้หญิงมีใจให้ยังไม่รู้อีก เก่งแต่เรื่องงานจริงๆ นายเรา”
พีทเดินออกไป ทิ้งภูฤทธิ์ยืนมองตามรถฟ้าใสสีหน้าเศร้าอยู่ลำพัง
แพรวนภายืนรออยู่ จนเมญ่าเดินเข้ามา
“เรียบร้อยค่ะคุณแพรว คุณนันท์นอนหลับปุ๋ยอยู่ในห้องค่ะ”
แพรวนภาส่งกุญแจให้เมญ่า “งั้นเอากุญแจนี่ไปเปิดห้องซีเคร็ทรูม”
“คุณแพรวมีกุญแจได้ยังไงคะ” เมญ่าแปลกใจนิดๆ
“ฉันอยากได้อะไรฉันต้องได้ ไม่เห็นจะยาก”
“คุณแพรวเก่งจังค่ะ”
แพรวนภายิ้มร้าย ก่อนหยิบมือถือขึ้นมากดโทร.หาน้ำผึ้ง เมญ่าเดินไปเปิดประตูห้อง
“ครูน้ำผึ้งเหรอ ดูแลคุณนันท์ยังไงทำไมปล่อยให้คุณนันท์เข้าห้องซีเคร็ตรูม ระวังเหอะ ถ้าเทิดรู้เข้าจะเป็นเรื่อง แค่นี้นะฉันยุ่งอยู่ เธอไปดูคุณนันท์ด้วยละกัน”
แพรวนภายิ้มร้ายกาจออกมา ขณะมองไปยังห้องซีเคร็ตรูม พลางพยักหน้าให้เมญ่า
ฟากน้ำผึ้งวางสายแล้ววิ่งไปที่ห้องซีเคร็ตรูมโดยไว
“คุณนันท์”
น้ำผึ้งวิ่งมาที่หน้าห้องซีเคร็ทรูมด้วยความเป็นห่วงนันท์
แพรวนภากับเมญ่าซุ่มดูอยู่เห็นน้ำผึ้งก็พากันยิ้มสาสมใจ มองจนน้ำผึ้งเดินเข้าไปในห้องซีเคร็ตรูมของพริม
“นังครูเนี่ยหน้าโง่จริงๆ เลยนะคะ แค่นี้ก็เชื่อแล้ว”
“ทีนี้ก็เหลือแค่อีกคนมาถึง”
“คุณแพรวเรียกคุณเทิดมาแล้วเหรอคะ”
แพรวนภายักคิ้วให้เมญ่า
น้ำผึ้ง มองหาคุณนันท์ แต่ไม่เจอ
“โล่งไปที นึกว่าคุณนันท์อยู่ในนี้”
น้ำผึ้งมองจนทั่ว มั่นใจว่านันท์ไม่ได้อยู่ที่ห้องนี้ จึงจะเดินออกไป แต่สายตาไปสะดุดกับของหลายอย่างในห้อง รวมทั้งกองหนังสือพิมพ์เก่าที่วางกองอยู่
น้ำผึ้งหยิบมาดู เห็นเป็นพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการตายของพริม
“เมียเจ้าของไร่องุ่นดัง รถระเบิดตายคาที”
น้ำผึ้งหยิบมาอ่านอย่างสนใจ
“ข่าวคุณพริม”
เสียงเทิดดังขึ้น “น้ำผึ้ง”
น้ำผึ้งตกใจรีบซ่อนหนังสือพิมพ์ไว้ข้างหลังด้วยมือข้างหนึ่ง
“คุณเทิด”
เทิดเดินหน้าตาดุดันเข้ามากระชากแขนน้ำผึ้งอย่างแรง
“ใครให้เธอเข้ามาในห้องนี้”
“เอ่อคือ ฉันคิดว่าคุณนันท์เข้ามาในห้องนี้ค่ะ”
“คุณนันท์จะเข้ามาห้องนี้ได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้”
เทิดสะบัดร่างน้ำผึ้งอย่างแรง
แพรวนภากับเมญ่ารอจังหวะอยู่ ทำทีเป็นเพิ่งเดินผ่านมาเห็น
“มีอะไรกันคะเทิด”
“อ้าวคุณครู เข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง”
“ก็คุณแพรวบอกว่าเห็นคุณนันท์เข้ามาในนี้”
เทิดหันมามองแพรวนภาเป็นเชิงถาม อีกฝ่ายตอบอย่างเร็ว
“อ๋อใช่ค่ะ ฉันเห็นนันท์เดินมาทางนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าให้ครูเข้ามาค้นในห้องนี้นี่คะ”
เทิดสั่งน้ำผึ้งเสียงเข้ม “ออกไป แล้วก็ห้ามเข้ามายุ่งในห้องนี้เด็ดขาด”
แพรวนภาแทบกระอัก มองเมญ่าเป็นเชิงถามว่าทำไมนังครูน้ำผึ้งมันโดนแค่นี้
“โชคดีนะที่เธอเป็นคนโปรด จะเข้านอกออกในห้องไหนก็ได้ ไม่มีใครว่าอะไรเธอ ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนไล่ออกไปแล้ว”
เทิดรำคาญ “ไม่มีใครเป็นคนโปรดทั้งนั้นแหละ”
“แน่ใจเหรอคะเทิด” แพรวนภามองจ้องหน้าน้ำผึ้ง “ครูคงคิดว่าห้องนี้เป็นแค่ห้องคนตาย จะสำคัญอะไรเท่าคนอยู่ ใช่มั้ยคะครู”
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ”
เทิดมองหน้าน้ำผึ้ง โกรธมาก
“น้ำผึ้ง โทษฐานที่เธอเข้ามาในห้องนี้ ฉันขอสั่งให้เธอ ไม่ให้เธอออกไปนอกไร่เด็ดขาดเป็นเวลา 1 เดือน”
น้ำผึ้งตกใจ “คุณเทิด”
“ออกไปก่อนที่ฉันจะลงโทษเธอมากกว่านี้ แล้วไปตามป้าพรกับชมพู่มาด้วย”
น้ำผึ้งเดินถือหนังสือพิมพ์ออกไปด้วย แพรวนภาเดินไปพร้อมกับเมญ่า เทิดมองไปรอบๆ ห้องรู้สึกผิดต่อพริมเหลือเกินที่ถูกคนมาบุกรุกล่วงเกิน
ตกกลางคืน น้ำผึ้งมายืนรอพรกับชมพู่อยู่ด้วยท่าทีร้อนใจ จนเห็นสองคนเดินหน้าเซ็งๆ เข้ามาหา
“ป้าพร ชมพูเป็นไงบ้างจ้ะ”
“ไม่เป็นอะไรหรอกครู ไม่ต้องห่วง นายก็แค่ตำหนิว่าทำไมลืมเปิดประตูทิ้งไว้”
“ฉันขอโทษนะจ๊ะ ที่ทำให้สองคนเดือนร้อน”
“ไม่เป็นไรหรอกครู นายไม่ได้ว่าอะไรมากแค่ถาม”
ชมพู่ทำหน้าสงสัย
“ฉันสงสัยจริงๆ ห้องนั้นเปิดได้ยังไง”
“นั่นสิ จำได้วันนี้พอทำความสะอาดเสร็จก็ปิดไปแล้ว ทำไมมันเปิดได้”
“หรือว่า ผะ ผะ ผะ”
ชมพูกำลังจะพูดคำว่า ผี ถูกพรปิดปากหมับ
“พอเลยนังชมพู ไร้สาระ”
น้ำผึ้งนิ่งคิด สงสัยว่าจะเป็นฝีมือแพรวนภา
แพรวนภาเดินหงุดหงิดเข้ามาในห้อง
“ขนาดเราใส่ร้ายมันเรื่องเข้าห้องต้องห้าม คุณเทิดก็ยังไม่ลงโทษมัน แถมยังสั่งห้ามมันออกนอกบ้านด้วย เหมือนอยากให้มันอยู่ใกล้ตลอดเวลา ว่ามั้ยคะคุณแพรว”
แพรวนภาฟังแล้วยิ่งรู้สึกโมโห
“ยังไงฉันก็จะไม่ยอมแพ้มันหรอก”
“สงสัยจริงๆ ทำไมคุณเทิดถึงหลงมันนัก สงสัยมันดูเป็นผู้หญิงใสๆ ใครๆ ก็เลยชอบ”
“หมายความว่าไง”
“ก็ผู้ชายชอบผู้หญิงแอ๊บค่ะ ดูนังน้ำผึ้งสิคะ แอ๊บแบ๊ว สวยใส ไร้พิษภัยคุณเทิด คุณภู แล้วไหนจะยังคุณทรงยศ หลงมันกันเป็นแถว”
แพรวนภาโกรธจัด ปัดข้าวของบนโต๊ะตรงหน้าร่วงกระจาย
“คอยดูว่าถ้านังน้ำผึ้งมันไม่ใสแล้วเทิดจะว่ายังไง”
แพรวนภากำมือแน่น โกรธเกลียดน้ำผึ้งถึงขีดสุด
เช้าวันนี้ ทรงยศจิบกาแฟอ่านข่าวจากมือถืออยู่ในโถงบ้าน สักครู่พูนจึงเดินมาหา
“นายครับมีคนมาหาครับ”
ทรงยศเงยหน้าจากมือถือมองพูนสีหน้าฉงน
“ใคร”
แขกไม่ได้เชิญคือแพรวนภา ที่เวลานี้ยืนคุยอยู่กับทรงยศตรงโต๊ะสนามหน้าบ้าน เมญ่ากับพูนยืนอยู่ห่างออกไป
“คุณเนี่ยนะจะช่วยผมเรื่องน้ำผึ้ง”
“ใช่”
ทรงยศมองแพรวนภาด้วยสายตาเจ้าชู้
“ที่มาร่วมกับผม คงเพราะไอ้เทิดมันหลงนังน้ำผึ้งหัวปักหัวปำแล้วสินะ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ ฉันขอแค่ให้คุณจัดการนังน้ำผึ้ง ส่วนเรื่องเทิดเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ได้ครับ คุณแพรวว่าไงก็ว่าตามนั้น”
ทรงยศยื่นมือออกไป แพรวนภายื่นมือมาจับตอบ
“แล้วคุณแพรวมีแผนรึยังครับ”
แพรวนภามองหน้าทรงยศยิ้มชั่วไปให้
น้ำผึ้งมายืนชะเง้อชะแง้อยู่ที่ริมรั้วติดกับไร่ของภูฤทธิ์ ผันกับเทิดเดินมาเจอ เทิดมองน้ำผึ้งด้วยหางตา แต่น้ำผึ้งไม่สน
“มายืนทำอะไรตรงนี้น้ำผึ้ง” ผันเป็นฝ่ายถาม
“รอคุณภูจ้ะน้า”
เทิดได้ยินชื่อภูฤทธิ์ก็ของขึ้น พาลใส่ทันที
“ไร่ฉันไม่ใช่ที่พลอดรักของใครนะ”
น้ำผึ้งฉุนกึก มองหน้าเอาเรื่องเทิด
“ฉันไม่ได้มาพลอดรักค่ะ ฉันมาคุยธุระ ตอนแรกตั้งใจจะออกไปข้างนอก แต่พอดีโดนสั่งกักบริเวณ”
ผันยิ้มขัน ที่น้ำผึ้งกล้าย้อนแย้ง ยั่วโมโหเทิด
“นี่เธอว่าฉันผิดเหรอ”
“ฉันผิดเองค่ะ”
“รู้ตัวก็ดี”
“ผิดที่ทนอยู่บ้านหลังนี้กับเจ้านายไม่มีเหตุผล”
เทิดโมโหที่โดนด่า
“นี่เธอ”
เทิดจะชี้หน้าด่าน้ำผึ้ง น้ำผึ้งเดินหนีไปอีกทาง และมองไปเห็นภูฤทธิ์เดินมาหา เทิดมองไปเห็นก็ไม่พอใจ หันมาเหน็บแนมเอากับผัน
“ดูคนของแกสิผัน”
“อย่าโมโหเลยครับนาย ไปครับลูกค้ารออยู่”
“แต่ยัยครูนี่กำลังจะพาผู้ชายเข้านอกออกในไร่ฉันเป็นว่าเล่นนะ” เทิดบ่นบ้าไม่เลิก
“ไม่ได้เข้าหรอกครับ เค้าแค่คุยกันที่ข้างไร่ หรือนายจะยอมให้เค้าไปคุยกันที่ไร่คุณภูฤทธิ์จะได้ไม่มาวุ่นวายในไร่เรา ผมจะได้ไปบอกให้”
ผันมองเทิดยิ้มๆ หยั่งเชิง
“ไม่ต้อง! ไปได้แล้ว”
ผันยิ้มขัน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถให้เทิด
น้ำผึ้งหันมามองค้อนลมแล้ง ทำหน้ากวนๆ ไล่หลังเทิดไป
อ่านต่อหน้า 4
มนต์รักอสูร ตอนที่ 23 (ต่อ)
ทางด้านนันท์เวลานี้ อยู่กับหอม แพรวนภา และ เมญ่า
“อานตี้จะพานันท์ไปเที่ยวจริงเหรอครับ”
“จริงสิลูก ก็วันนี้คุณพ่อออกไปคุยงานกับลูกค้า อานตี้จะพาคุณนันท์ไปซื้อของเล่นดีมั้ย”
“ดีครับ งั้นไปกันเลยมั้ยครับ”
แพรวนภาพยักหน้าให้
“ผมไปด้วยนะครับ ผมจะไปดูแลคุณนันท์” หอมเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้อง”
แพรวนภาขึ้นเสียงใส่ แถมยังมองมาตาเขียวปั้ด หอมเลยต้องนิ่งไป
เวลาผ่านไป สามคนอยู่ในห้องอาหารของโรงแรมหรูประจำจังหวัด
ข้อความว่า “รถฉันเสียมารับคุณนันท์ที่โรงแรมด้วย” ถูกส่งไปยังมือถือน้ำผึ้ง
แพรวภานั่งมองจอมือถือ ก่อนจะยิ้มร้ายออกมา แล้วหันไปมองนันท์ที่กินเค้กอย่างเอร็ดอร่อยอยู่
“คุณนันท์ อานตี้จะเอารถไปซ่อมหน่อยนะลูก คุณนันท์โทร.บอกครูน้ำผึ้งให้มารับที่ห้อง 1234 นะ”
“นันท์ไปซ่อมรถกับอานตี้ได้ครับ” นันท์ว่า
“ไม่ได้หรอกลูก จะค่ำแล้วอันตราย”
“แล้วทำไมรถอานตี้เสีย ก็ยังขับดีๆ อยู่เลย”
แพรวนภาเริ่มหงุดหงิด
“อานตี้ให้โทร.ก็โทร.สิ”
นันท์รับโทรศัพท์มาคุยกับน้ำผึ้ง แพรวนภากับเมญ่ายิ้มสมใจให้กัน
ขณะที่หอมกำลังเช็ดรถมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างตึกใหญ่ น้ำผึ้งเดินคุยโทรศัพท์เข้ามาหา
“ค่ะคุณนันท์เดี๋ยวครูไปเดี๋ยวนี้แหละ”
น้ำผึ้งวางสาย เดินตรงมาหาหอม
“หอม ครูขอยืมรถหน่อยสิ”
“ได้สิครับ ครูจะไปไหนครับ”
“ไปรับคุณนันท์”
หอมแปลกใจ “อ้าวก็คุณนันท์ไปกับคุณแพรวไม่ใช่เหรอ”
“คุณแพรวรถเสีย เอารถไปซ่อม”
หอมทำหน้างง ๆ
“แล้วทำไมคุณแพรวไม่พาคุณนันท์ไปด้วย”
“ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ หอมโทร.ไปถามคุณแพรวเองมั้ย”
หอมสะดุ้ง “อุ๊ย! ไม่สงสัยก็ได้ครับ ให้ผมไปรับให้มั้ยครับ เดี๋ยวครูออกนอกไร่ไปนายรู้ก็โดนดุอีก”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันจะทำอะไรก็โดนดุหมดน่ะแหละ ฉันไปเองดีกว่ารับปากคุณนันท์ไว้แล้ว”
“งั้นเชิญครับ”
หอมส่งกุญแจให้น้ำผึ้ง
“ขับรถดี ๆ นะครับ”
หอมมองตามน้ำผึ้งงงๆ เรื่องแพรว
แพรวนภาเดินออกมาหน้าโรงแรมกับนันท์และเมญ่า
“ให้นันท์ไปรอครูที่ไหนครับอานตี้”
เมญ่ายิ้มรีบเสนอหน้าตอบแทนแพรวนภา
“ไม่ต้องแล้วค่ะ พอดีให้ช่างมาซ่อมรถแล้ว”
“อ้าวเหรอครับ”
แพรวนภาหันไปเห็นรถเทิดขับเข้ามา รีบหันหลังบังตัวนันท์เอาไว้ จนรถเทิดขับผ่านไป
“เมญ่าไปเร็ว”
“นันท์ขอโทร.บอกครูหน่อยครับ”
แพรวนภาดุ “ไม่ต้อง อานตี้โทร.บอกแล้ว กลับกันเถอะลูกเดี๋ยวค่ำ”
นันท์ขึ้นรถ แพรวนภากดส่งไลน์หาทรงยศว่า
“ทุกอย่างเรียบร้อย อย่าทำให้ฉันผิดหวังละ”
ทรงยศตอบมาว่า “แน่นอน”
แพรวนภายิ้มสมใจ ก่อนจะหันไปมอง เทิด ผัน และลูกค้าชื่ออำนาจเดินเข้าไปในโรงแรม
“สงสัยวันนี้จะเป็นวันของฉันแล้ว นังน้ำผึ้ง”
แพรวนภาขึ้นรถไปด้วยสีหน้าเริงร่า ที่แผนร้ายของเธอจะสัมฤทธิ์ผลในไม่กี่อึดใจนี้
อีกฟาก ทรงยศเดินไปขึ้นรถกับพูน ฟ้าใสออกกำลังกายอยู่หน้าบ้านหันมาเห็นก็ทักถาม
“ที่ยศจะออกไปไหนคะ”
“พี่ก็ต้องไปหาความสุขใส่ตัวบ้างสิ”
“หาสุขใส่ตัว แต่อย่าไปเอาทุกข์ให้คนอื่นก็แล้วกัน”
ทรงยศไม่พอใจ
“ยัยฟ้า แกนี่ยังงัยกัน พี่ทำอะไรก็ผิดไปหมด”
“ฟ้าก็พูดเผื่อไว้ เผื่อพี่คิดจะทำอะไรผิด จะได้เปลี่ยนใจ”
“ฉันทำทุกอย่างบนความถูกต้อง ของที่มันเป็นของฉันก็ต้องเป็นของฉัน เข้าใจมั้ย”
ฟ้าใสมองทรงยศไม่ค่อยชอบที่พี่พูดแบบนี้
“ไปพูน”
ทรงยศเงินหงุดหงิดออกไปกับพูน ฟ้าใสมองตามรู้สึกสังหรณ์ใจโดยประหลาด
ฝ่ายน้ำผึ้งขับรถมาตามถนนท่ามกลางแสงอัสดงอันสวยของพระอาทิตย์ยามโพล้เพล้ โดยไม่รู้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับตัวเอง
ค่ำมากแล้ว เทิดกับผันพยุงอำนาจออกมาจากในโรงแรม อำนาจอยู่ในสภาพเมามายไร้สติ
“ขอบคุณมากนะคุณเทิด ดูแลผมดีจริงๆ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่สั่งไวน์จากไร่คุณ”
“ครับผม ขอบคุณคุณอำนาจเช่นกันครับ”
“ส่งผมตรงนี้แหละ เดี๋ยวผมให้คนขับรถมารับ”
“งั้นเดี๋ยวผมโทรให้ครับ”
ผันหันไปอีกทีอำนาจหลับสนิท คอพับคออ่อน
เทิดกับผันพยุงอำนาจไปใส่หลังรถไว้ เทิดบอกกับผันว่า
“ผันไปส่งคุณอำนาจก็แล้วกัน”
“แล้วนายละครับ หรือเดี๋ยวผมค่อยวนมารับ”
“กว่าจะส่งคุณอำนาจเสร็จ ยุงกัดฉันตายพอดี เดี๋ยวฉันให้ไอ้หอมมารับ”
“งั้นก็ได้ครับ”
ผันพยักหน้ารับ แล้วขึ้นรถขับออกไป เทิดมองตาม สายตาดันไปแลเห็นน้ำผึ้งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอด เทิดรีบฉากหลบ
“น้ำผึ้ง”
น้ำผึ้งจอดรถมอเตอร์ไซค์ ถอดหมวกกันน็อค หันมามองทางเทิดที่เทิดหลบอยู่ แล้วเดินเข้าไปในโรงแรม
“นี่เธอกล้าขัดค่ำสั่งฉันออกมานอกไร่เหรอ” เทิดเคืองขุ่นไม่พอใจ “หรือเธอนัดไอ้ภูไว้”
น้ำผึ้งเดินเข้าลิฟต์ไป โดยไม่รู้ว่าเทิดเดินตาม น้ำผึ้งขึ้นลิฟต์ไป เทิดยืนมองจนพบว่าว่าลิฟต์ไปจอดชั้นที่ 12
“เธอทำได้ขนาดนี้เลยเหรอน้ำผึ้ง”
เทิดโกรธขึ้ง ทำท่าจะเดินออกไป
“เรื่องของเธอก็แล้วกัน”
สุดท้ายเทิดวิ่งย้อนมากดลิฟต์อีกตัวอย่างรีบร้อน
น้ำผึ้งเคาะประตูห้อง 1234
“คุณนันท์คะ คุณนันท์ครูมาแล้วค่ะ”
น้ำผึ้งยืนรอ ประตูห้องเปิดออก น้ำผึ้งเดินเข้าไปเลย
ลิฟต์จอดที่ชั้น 12 เปิดออก เทิดพรวดออกมามองเห็นหลังน้ำผึ้งไว ๆ
เมื่อน้ำผึ้งเข้ามาในห้อง ประตูก็ถูกปิดลง น้ำผึ้งหันมามองเห็นเป็นทรงยศก็ตกใจ
“คุณทรงยศ”
ทรงยศยิ้มหื่นให้ น้ำผึ้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร วิ่งไปที่ประตู แต่ถูกทรงยศผลักออกไป
“จะไปไหนละ อยู่มีความสุขด้วยกันก่อนสิ”
ทรงยศวิ่งไปจับแขนน้ำผึ้งไว้ น้ำผึ้งวิ่งหนีไม่ทัน
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
เทิดยืนอยู่หน้าห้อง1234 เบื้องแรกจะเคาะประตู แต่แล้วเกิดเปลี่ยนใจลดมือลง เทิดยืนเครียด พยายามดึงสติว่าจะเอายังไงดี ลึกๆ ระแวงว่าน้ำผึ้งจะมาหาภูฤทธิ์
“ถ้าเธอร่าน ขนาดนี้ก็เรื่องของเธอก็แล้วกัน”
เทิดทั้งโกรธ และผิดหวังในตัวน้ำผึ้ง เดินกลับไปที่ลิฟต์
ฝ่ายทรงยศลากร่างน้ำผึ้งไปเหวี่ยงลงบนเตียงนอนอย่างแรง น้ำผึ้งสู้สุดชีวิตถีบถองทรงยศจนกระเด็นแล้วจะวิ่งหนี ทรงยศดึงขาไว้ได้น้ำผึ้งล้มลงอีก
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย ช่วยด้วย...”
น้ำผึ้งพยายามร้องให้คนช่วย ทรงยศทำท่าหื่นใส่
“จะดื้อทำไม ยอมเป็นเมียฉันมีแต่สบาย กับสบาย”
ทรงยศดึงร่างน้ำผึ้งขึ้นมา ครูสาวขัดขืนเต็มแรงเกิด ถุยน้ำลายใส่หน้าทรงยศ
“ถุย ไอ้เลว”
ทรงยศยกมือปาดเช็ดน้ำลายออกด้วยความโกรธ
“ฤทธิ์เยอะนักนะ”
ทรงยศชกท้องเต็มแรง น้ำผึ้งเจ็บจุกไปหมดไม่มีแรงขัดขืน ปล่อยให้ทรงยศอุ้มขึ้นเตียง ครูสาวพยายามดิ้นหนีเท่าที่ยังพอมีแรง ทรงยศค่อยๆ ปลดกระดุมน้ำผึ้ง
“เธอนี่มันน่าโดนจริงๆ น้ำผึ้ง”
ทรงยศโน้มหน้าลงจูบน้ำผึ้ง จู่ๆ มีเสียงถีบประตูดังปัง! ประตูกระเด็นปิดออก เผยให้เห็นร่างเทิดยืนจังก้าอยู่
“คุณเทิด ช่วยฉัน”
เทิดไม่ฟังอะไร เข้าไปลากคอทรงยศแล้วต่อยเอา ๆ
“ไอ้สารเลว”
ทรงยศตั้งสติได้ ผลักเทิดเซลงไปกองที่พื้น ทรงยศรีบตามไปต่อยเอาคืนเทิด
เทิดถีบยอดอกไปเต็มแรงจนเทิดลงไปนอนกองกับพื้น เทิดรีบกระโดดขึ้นคร่อมแล้วต่อยไม่นับ
ทรงยศพยายามดิ้นสู้ จนได้เป็นฝ่ายขึ้นคร่อมและต่อยเอาคืนเทิดไม่เลี้ยง
เทิดฮึดสู้ต่อยทรงยศลงไปกองเป็นซากอยู่กับพื้น เทิดจะลุกไปซ้ำ น้ำผึ้งดึงไว้
“ปล่อยฉัน”
“พอเถอะค่ะคุณเทิด เดี๋ยวเค้าตาย”
เทิดโกรธสุดขีด หันมาตวาดใส่น้ำผึ้ง
“กลัวผู้ชายของเธอตายรึไง เช้าคน! กลางคืนคน!”
น้ำผึ้งโกรธสุดขีดตบหน้าเทิด แล้วเดินหุนหันออกไป
เทิดชี้หน้าทรงยศ “อย่ายุ่งกับคนของฉันอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ฉันก็ไม่ได้อยากยุ่ง แต่นังน้ำผึ้งมันมาขัดดอกให้ฉันเอง”
ทรงยศไม่วายปากดี เทิดเดินไปเตะเสยอีกเปรี้ยง แล้วเดินจากไป ทรงยศเงยหน้าขึ้นมาในสภาพเลือดกบปาก
“มึงอย่าคิดว่ากูจะให้มึงทำกูฝ่ายเดียวไอ้เทิด”
เทิดวิ่งตามน้ำผึ้งมายังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ น้ำผึ้งร้องไห้เทิดดึงไว้
“ปล่อยฉัน”
“ทำไมฉันจับนิดจับหน่อยหวงตัว ต้องจ่ายเท่าไหร่เธอถึงจะยอมขึ้นห้องกับฉัน”
น้ำผึ้งตบหน้าฉาดใหญ่ เทิดบันดาลโทสะจูบน้ำผึ้งอย่างรุนแรง
“ชอบแบบนี้ใช่มั้ย”
“คนเลว”
น้ำผึ้งตบอีก เทิดจูบอีก
“ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะเลวขนาดนี้”
“ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเธอจะร่านขนาดนี้ ถ้าอยากมากก็บอกฉันสิ”
“ต่ำ”
น้ำผึ้งง้างมือจะตบ เทิดจับไว้
“ถ้าตบฉันอีก ฉันจะลากเธอขึ้นห้องเดี๋ยวนี้”
น้ำผึ้งเอามือลง จะหนีไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ เทิดแย่งกุญแจมา จ้องหน้าน้ำผึ้ง
“นี่มันรถของไร่ฉัน”
น้ำผึ้งโมโห “งั้นฉันเดินกลับก็ได้”
“เธอก็เป็นคนที่ไร่ฉัน ขึ้นรถ”
น้ำผึ้งมองอย่างจงชังในความบ้าอำนาจของเทิด
น้ำผึ้งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เทิดออกไป พูนจอดรถซุ่มอยู่กับลูกน้องมองตาม พลางคุยโทรศัพท์รายงานทรงยศ
“เจอมันแล้วครับนาย ครับ”
พูนวางสาย พยักหน้าให้ลูกน้องขับรถตามรถเทิดไป
ถนนแสนสวยสายหนึ่ง ยามกลางคืน ไฟสองข้างทางสว่างไสว เทิดขับรถเร็วจนน้ำผึ้งต้องจับที่จับข้างหลังไว้ตัวเกร็ง เทิดรู้ยิ้มเจ้าเล่ห์ แกล้งขับรถฉวัดเฉวียนไปมา
“ขับดีๆ หน่อยสิคะ”
เทิดไม่ฟังแกล้งน้ำผึ้งอีก
“ทางมันไม่ดี จับเอวฉันไว้สิ”
น้ำผึ้งไม่เชื่อ เทิดหันไปจับมือน้ำผึ้งมากอดเอวตัวเอง
“ดื้อด้าน”
น้ำผึ้งจะดึงมือออก แต่ถูกเทิดจับไว้
“บางทีฉันก็คิดว่าคุณควรจะไปรับยาจากหมอ ฉันว่าคุณอาจจะป่วย”
“ฉันสบายดี”
“สบายทางกาย แต่อาจจะป่วยทางจิต”
“นั่งเงียบๆ ไป อย่าอ้าปากเยอะ เดี๋ยวแมงเข้าปาก
น้ำผึ้งมองค้อนปะหลับปะเหลือก เทิดยิ้มชื่นใจ
สองคนซ้อนมอเตอร์ไซค์กันมาอย่างมีความสุข จนกระทั่งพูนกับลูกน้องบิดรถตามขึ้นมาเทียบรถเทิด เทิดเอะใจหันไปมอง
“ตายซะเถอะมึง”
พูนชักปืนขึ้นมาเล็งใส่เทิดกะจ่อยิง ไวเท่าความคิด เทิดตัดสินใจหักรถลงข้างทาง กระสุนปืนจึงเฉี่ยวโดนแขนเทิด น้ำผึ้งร้องกรี๊ด รถมอเตอร์ไซค์เสียหลักไถลลงไหล่ทาง ร่างของน้ำผึ้งกับเทิดกลิ้งตกเขาไปโดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
ลูกน้องจอดรถ พูนรีบลงมาดูผลงาน มองตามร่างสองคนไปด้วยความสะใจ
อ่านต่อตอนที่ 24