มนต์รักอสูร ตอนที่ 20
หลายวันมานี้ คนในบ้าน รวมทั้งคนงานไร่เทิด ถูกเกณฑ์มาช่วยคนงานของฟ้าใส เพื่อเตรียมสถานที่จัดงานแต่งงาน ตามคอนเซ็ปต์ที่ฟ้าใสตกลงร่วมกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ฟ้าใสคุมงานมาดเข้ม
ทุกอย่างเร่งรีบวุ่นวายไปหมด พื้นที่อันสวยงามในไร่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละนิดๆ คนงานยกของลงมาตกแต่ง ตามจุดที่ฟ้าใสออกแบบ ฟ้าใสยืนยิ้มร่าคุมงานไปเม้าท์มอยไปกับน้ำผึ้งที่มาช่วย
“โชคดีนะที่คุณคริสเป็นลูกชายลูกค้าคุณโทมัส ลูกค้ารายใหญ่ของคุณเทิด”
“นั่นสิ ฉันก็สงสัยอยู่ว่าทำไมคุณเทิดยอมให้จัดงาน”
“แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณแก ที่ช่วยฉันนะ”
น้ำผึ้งพยักหน้ารับ สองสาวยิ้มให้กัน
วันถัดมา คนงานเร่งจัดเตรียมสถานที่อย่างแข็งขัน ทั้งภายในและโลเกชั่นภายนอก ภูฤทธิ์กับพีทคุมคนงานขนดอกไม้มาส่งด้วยตัวเอง ขณะคนงานขนดอกไม้ลงมาให้นักจัดดอกไม้ ภูฤทธิ์มายืนคุยกับฟ้าใส และ น้ำผึ้ง ขณะภูฤทธิ์คุยกับน้ำผึ้ง เทิดที่มาดูแลเรื่องสถานที่มองตาคว่ำไม่พอใจ
นันท์สนุกกับงานนี้ ที่ได้ช่วยพีทจัดดอกไม้ มาร์คมาดูแลเรื่องเครื่องดื่ม เสิร์ฟกาแฟให้พีท และน้ำให้นันท์ สองเกย์บ้านไร่ยิ้มมุ้งมิ้งให้กัน
ฟ้าใสยกลังของ ภูฤทธิ์ช่วยบังเอิญจับไปโดนมือฟ้าใส สาวเจ้ายิ้มเขินอาย
เวลาผ่านไป สถานที่ถูกจัดแต่งเรียบร้อยสวยงามตามท้องเรื่องที่ฟ้าใสและบ่าวสาวต้องการ
ถึงวันแต่งงาน ไร่เทิดถูกประดับตกแต่งเพื่องานแต่งจนออกมาสวยงาม เทิดในชุดหล่อเหลาเดินมาเคาะประตูห้องเรียกแพรวนภา เมญ่าโผล่หน้าดำๆ มาเปิดประตูยิ้มให้
“พร้อมหรือยัง”
“พร้อมแล้วค่ะคุณเทิด”
เมญ่าผายมือไปข้างในห้อง เทิดมองตามไป เห็นแพรวนภาค่อยๆ หันหน้ามา แต่งตัวสวยฉ่ำหัวจรดเท้า
“ไปกันรึยังแพรว”
“ไปค่ะ”
แพรวนภาเดินออกมาจากห้อง ส่งมือให้เทิดจับ สองคนเดินเคียงคู่กันออกไป
เวลาเดียวกันนี้ ตรงทางเดินหน้าห้องแต่งตัวเจ้าสาว ฟ้าใสคุยกับลูกน้องทีมงานแบ็คสเตจอยู่ ด้วยหน้าตาอันเคร่งเครียด
“พี่ฟ้าครับ รถเพื่อนเจ้าสาวที่ขับมาจากกรุงเทพฯ รถเสียกลางทางน่าจะมาไม่ทันครับ”
“แล้วเพื่อนเจ้าสาวคนอื่นๆ ล่ะ”
“เค้ามารถคันเดียวกันครับ”
“งั้นส่งรถไปรับ”
“ไปรับยังไงก็มาไม่ทันครับ จะได้เวลาอยู่แล้ว”
“งั้นฟ้าขอไปคุยกับคุณเจี๊ยบก่อน”
ฟ้าใสเดินเครียดออกไป
บริเวณสถานที่จัดงานแต่งตามประเพณีคริสต์ เก้าอี้สำหรับแขกถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบ มีแท่นพิธีซุ้มดอกไม้สวยงาม หอม อ้อย ผัน และ แซม อยู่ในงานแล้ว
เทิดกับแพรวนภาเดินเข้ามาตรงแถวหน้า ทุกคนที่ยืนอยู่ รวมทั้งภูฤทธิ์ที่ยืนคุยอยู่กับคนรู้จักต่างหันไปมองเป็นตาเดียว เทิดเดินตรงมาหาโทมัส
“อ้าวคุณเทิด”
สองคนจับมือทักทายกัน ภูฤทธิ์ยืนดูอยู่ห่างๆ
“ยินดีด้วยนะครับคุณโทมัส”
“ผมก็ต้องขอบคุณคุณเทิดมาก ที่อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดงานแต่ง ลูกชายผมเค้าชอบที่นี่จริงๆ ตอนแรกนึกว่าคุณจะไม่อนุญาตซะแล้ว”
“คุณโทมัสช่วยผมตั้งเยอะ ทำไมแค่นี้ผมจะไม่ช่วยละครับ” โทมัสมองไปยังแพรวนภา เทิดแนะนำ “นี่แพรว เป็นพี่สาวภรรยาผมครับ”
แพรวนภายิ้มให้โทมัส สองคนจับมือทักทายกัน
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ตามสบายนะครับคุณเทิดคุณแพรว”
เทิดพยักหน้ารับ แพรวนภาหันไปยิ้มทักภูฤทธิ์
“สวัสดีค่ะคุณภู”
“สวัสดีครับ วันนี้คุณแพรวแต่งตัวสวยมากเลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ทีมงาน 1 ประกาศขึ้นว่า “เชิญทุกคนนั่งประจำที่เลยนะครับ ได้เวลาแล้ว”
เทิดพยักหน้า แพรวนภาทำท่าจะควงแขนเทิดเดินไป แต่เทิดเบี่ยงแขนออกเป็นผายมือให้โทมัสเดินนำ แพรวนภาเลยเก้อรีบปรับสีหน้าเป็นยิ้มบางๆ
ทุกคนเดินมานั่งประจำที่เรียบร้อย ด้านหน้าสุดเป็นแท่นพิธี มีบาทหลวง เจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าบ่าวยืนรออยู่แล้ว เทิดไปนั่งแถวหน้า ติดริมทางเดิน ไม่ห่างโทมัสนัก
พิธีกรถือไมค์เข้ามาพูดทางด้านข้าง
“สวัสดีสักขีพยานผู้มีเกียรติทุกท่านค่ะ ดิฉันมุกกี้ รับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานมงคลวันนี้นะคะ และก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยแล้ว ขอเชิญทุกท่านลุกขึ้นต้อนรับเจ้าสาวของพวกเราค่ะ”
พลันที่ดนตรีบรรเลงเพลง Wedding March ดังแว่วหวานขับคลอเสริมบรรยากาศในงานดังขึ้น เทิด และ แขกทุกคนยืนขึ้น หันไปทางขบวนเจ้าสาว
ทุกคนมองเห็น เด็กหญิง 2 คนโปรยดอกไม้มาตามทางเดิน เด็กหญิงอีกคนถือกล่องแหวนแต่งงานเดินนำ ในกลีบดอกไม้ที่โปรยสาย น้ำผึ้งในชุดเพื่อนเจ้าสาวชายผ้ายาว ถือดอกไม้ในมือ เทิดอึ้งตะลึงแลความงาม
“น้ำผึ้ง”
น้ำผึ้งนำขบวนเข้ามา เจ้าสาวควงแขนพ่อเดินตาม เทิดจดสายตามองตามน้ำผึ้งจนตาค้าง เมื่อน้ำผึ้งเดินมาถึงตรงที่เทิดนั่ง ก็เกิดสะดุดชายกระโปรงจนเซ
“ว้าย”
เทิดรับตัวน้ำผึ้งไว้ทัน สองคนสบตากันลึกซึ้ง เทิดพยุงให้น้ำผึ้งยืนดี ๆ แต่ปากเสียตามเคย
“ระวังหน่อย เดี๋ยวก็ได้ทำงานเค้าพังหรอก”
น้ำผึ้งรีบเดินต่อ เทิดมองตาม แพรวนภามองเห็นท่าทีเทิดก็โมโหจนชักทนไม่ไหว
“เทิดคะ นั่งลงได้แล้วค่ะ พิธีการจะเริ่มแล้ว”
เทิดได้สติ นั่งลงพร้อมแขกร่วมงาน
พ่อเจ้าสาวกับน้ำผึ้งยืนด้านหลังเจ้าสาว เจ้าสาวเจ้าบ่าวยืนจับมือกันตรงกลางแท่นพิธี ต่อหน้าบาทหลวง
“ขอให้พวกเธอทั้งสองประกาศความยินยอมของพวกเธอต่อหน้าพระองค์และศาสนิกชนของพระองค์”
“ผม คริสโตเฟอร์ ฟูกัล ขอรับ คุณสุดารัตน์ จงเลิศวิเศษพงศ์ เป็นภรรยา ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามป่วยไข้และสบายดี ผมจะรักและให้เกียรติคุณตลอดชั่วชีวิตของผม”
“ดิฉัน สุดารัตน์ จงเลิศวิเศษพงศ์ ขอรับ คุณคริสโตเฟอร์ ฟูกัล เป็นสามี ดิฉันสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามป่วยไข้และสบายดี ดิฉันจะรักและให้เกียรติคุณตลอดชั่วชีวิตของดิฉันค่ะ”
น้ำผึ้งมองซึ้งจนน้ำตาคลอ เทิดมองน้ำผึ้งแววตาลึกซึ้ง แพรวนภาจับสังเกตมองสองคนไปมา
“ขอพระเจ้าเสกแหวน สองวงนี้ ซึ่งท่านทั้งสองจะสวมให้แก่กันและกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์ที่มีต่อกัน”
เจ้าบ่าวเจ้าสาวรับแหวนมาสวมให้กันและกัน เจ้าบ่าวจุมพิตมือเจ้าสาว ทุกคนปรบมือยินดี
น้ำผึ้งหันไปมองเทิด เห็นเทิดยิ้มยินดีกับบ่าวสาว น้ำผึ้งก็ยิ้มตาม เทิดหันไปมองน้ำผึ้งพอดี สองคนยิ้มให้กัน ภูฤทธิ์หันไปมองน้ำผึ้ง แต่น้ำผึ้งไม่ได้มองที่เขาเลย
“ช่วงพิธีการก็เสร็จสิ้นโดยราบรื่นนะคะ ต่อจากนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเราสาวโสดรอคอย” พิธีกรมองไปยังภูฤทธิ์แว่บหนึ่ง “ขอเชิญเจ้าสาวตรงบันไดเลยค่ะ”
สาวๆ กรูกันมารอรับดอกไม้จากเจ้าสาว
อ่านต่อหน้า 2
มนต์รักอสูร ตอนที่ 20 (ต่อ)
เจ้าสาวถือดอกไม้ยืนตรงบันไดที่สูง ฟ้าใสเป็นพิธีกร ด้านล่างมีสาวๆ ยืนรอรับอยู่ เมญ่าระริกระรี้อยากได้ดอกไม้
“ขอเชิญสาวๆ ยืนด้านล่างนี้เลยค่ะ หากใครได้ดอกไม้เจ้าสาว ว่ากันว่า จะได้แต่งงานเป็นคนต่อไปเลยนะคะ”
หอมกัดเมญ่าว่า “นังคองโก เค้าบอกว่าเชิญสาว ๆ แกมายืนทำอะไร”
“ฉันก็สาว”
“อ้อจริงด้วย เพราะแกมี เนื้อ นม” หอมมองเหล่เป้าเมญ่า “แล้วก็ไข่”
“ไอ้หอม ไอ้บ้า ไปไกลๆ เลยนะ”
น้ำผึ้งไม่เข้าร่วมวง ยืนอยู่ห่างๆ จนเทิดเดินมาใกล้ๆ เปิดปากแขวะตามประสา
“ทำไมมายืนอยู่นี่ล่ะ รึว่า...ไม่โสดแล้ว”
“วันนี้เป็นวันดี ไม่แขวะฉันสักวันได้มั้ยคะ”
“ไปเอาชุดใครมาใส่ ไม่เห็นเข้ากับเธอเลย”
“ค่ะฉันใส่อะไรก็ไม่สวยสักชุดหรอกค่ะ”
น้ำผึ้งโมโหหันหน้าหนี เทิดเสียใจที่ปากเสีย กำลังจะเอื้อมมือไปจับน้ำผึ้ง แต่ฟ้าใสเดินมาขัดก่อน
“น้ำผึ้ง ไปยืนรอดอกไม้สิ จะได้ดูมีคนเยอะๆ”
น้ำผึ้งพยักหน้าแล้วเดินไปกับฟ้าใส เทิดโมโหตัวเอง
“โธ่เอ๊ย! เทิด”
แพรวนภายืนมองอยู่มุมหนึ่ง เดินปรี่เข้ามาหาเทิด
“ครูพอแต่งตัวขึ้นก็สวยนะคะเทิดว่ามั้ย”
“ไม่รู้สิ แพรวไม่ไปรับดอกไม้กับเค้าเหรอ”
“ไม่ละค่ะ”
เสียงฟ้าใสร้องดังขึ้น “ตอนนี้เจ้าสาวจะโยนดอกไม้แล้วนะคะ หนึ่ง สองสาม”
เมญ่าตั้งท่าเตรียมกระโดดสูง เอาเป็นเอาตายมาก แต่ดูน่าขัน เทิดมองน้ำผึ้งกับสาวๆ วี้ดว้ายแย่งกันรับดอกไม้ น้ำผึ้งดูมีความสุข สุดท้ายเมญ่าได้ช่อดอกไม้ไป กะเทยยักษ์ร้องกรี๊ด
“คุณแพรวคะ เมญ่าได้ดอกไม้ค่ะ เมญ่าจะได้เป็นเจ้าสาวแล้ว”
แพรวนภาเดินหนีเพราะกำลังหงุดหงิดเทิดอยู่ แพรวมองเทิดที่มองน้ำผึ้งจนไม่วางตา เมญ่าดีใจวิ่งโร่ตามแพรวนภาไป ทุกคนมองขำเมญ่า
เวลาเคลื่อนคล้อยจากเช้าเป็นคืนค่ำ แขกเริ่มทยอยมาถึงบริเวณงานเลี้ยงฉลอง ทั้งเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาววัยเดียวกัน และแขกผู้ใหญ่ บ่าวสาวคอยยิ้มแย้มยกมือไหว้ต้อนรับแขก ถ่ายรูปร่วมกันไม่รู้เหนื่อย
ผัน อ้อย หอม และ แซม พากันเดินจกกินอาหารบุฟเฟ่ต์ในงาน เทิดในชุดสูทดูหล่อเหลาเดินยิ้มทักทายเจ้าบ่าวเจ้าสาว ไล่ๆ กันนั้น แพรวนภากับเมญ่าเดินมาหยุดหน้างาน มองหาเทิดจนเจอ
เทิดกับแพรวนภาถ่ายรูปร่วมกับบ่าวสาว เมญ่ายกมือถือถ่ายรูปรัวๆ จากนั้นเทิดกับแพรวนภาเดินไปคุยกับโทมัส ลูกค้าคนสำคัญของเทิด
ทรงยศเดินเข้ามาในงานแต่งพร้อมกับพูน โดยพูนยื่นซองให้เจ้าภาพที่ยืนต้อนรับอยู่ น้ำผึ้งมาช่วยฟ้าใสแจกของชำร่วย เธอยื่นของให้ทรงยศ แต่อีกฝ่ายจับมือยึดไว้ จนน้ำผึ้งชักมือออกมา ทรงยศยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินเข้างานไปกับลูกน้องคู่ใจ
“ครูน้ำผึ้งนี่นับวันยิ่งสวยเซ็กซี่ขึ้น ฉันว่าถึงเวลาที่ฉันต้องทำอะไรกับหนี้ของพ่อแม่มันที่ติดฉันแล้วละ”
“นายก็รู้ว่ามันคงไม่มีปัญญาคืน”
“ไม่ได้เงินคืน ก็ต้องได้อย่างอื่นมา แกไปทำงานของแกได้แล้วไป”
“ครับ”
พูนเดินออกไป ทรงยศมองไปยังแพรวนภาที่ยืนจิบไวน์อยู่ ก็ยิ้มพึงใจออกมา
เวลาผ่านไป ท่ามกลางเสียงเพลงจังหวะคึกคักชวนขยับ ฟ้าใสยืนยิ้มชื่นมองดูบ่าวสาว และบรรดาแขกที่ออกไปเต้นรำกันในฟลอร์ น้ำผึ้งเดินเข้ามาหาฟ้าใส
“ไปเต้นรำกันมั้ยน้องสาว”
ฟ้าใสหันมาหาตีแขนเพื่อนเผียะ “ไอ้บ้า ไปเต้นเถอะ ฉันทำงานอยู่”
“ที่ไม่เต้นกับฉัน รอใครมาขอเต้นด้วยรึเปล่าจ๊ะ”
“ฉันไม่ได้ฮอตเหมือนแกนะ วันนี้ขอบคุณแกมากช่วยฉันตั้งหลายอย่าง”
“ไม่เป็นไรมีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน”
ไม่ทันขาดคำ ภูฤทธิ์ก็เดินหล่อตรงมาหาทั้งสองสาว โค้งให้อย่างสุภาพ
“ให้เกียรติเต้นรำกับผมนะครับ”
ฟ้าใสเขิน คิดว่าภูฤทธิ์ขอเธอเต้นรำ แต่ภูฤทธิ์กลับยื่นมือไปหาน้ำผึ้ง ฟ้าใสยิ้มเก้อ น้ำผึ้งลังเล ฟ้าใสรีบปรับสีหน้าดันน้ำผึ้งให้ออกไปเต้นกับภูฤทธิ์
“ไปซี่”
สองคนเดินเคียงกันออกไป ฟ้าใสมองตามหน้าเศร้า เทิดเห็นน้ำผึ้งเดินไปที่ฟลอร์กับภูฤทธิ์ ก็ไม่พอใจ
เมญ่ายืนดูแลแพรวนภาอยู่ในงาน ยิ้มปลื้มที่นายสาวมีผู้ชายมาขอเต้นรำไม่ขาด แต่ทุกคนถูกแพรวนภาส่ายหน้าปฏิเสธหน้าม้านกลับไป ทรงยศแอบมองแพรวนภาอยู่มุมหนึ่งด้วยสายตาชื่นชม
“คุณแพรวนี่ฮอตเหมือนเดิม แล้วทำไมคุณแพรวไม่ไปเต้นรำละคะ” เมญ่ากระเซ้า
“ฉันจะเต้นกับเทิด”
“ไปชวนคุณเทิดเลยสิคะ”
แพรวนภามองดุเมญ่า
“เทิดต่างหากที่ต้องมาชวนฉัน”
เสียงทรงยศดังขึ้น “ให้เกียรติเต้นรำกับผมได้มั้ยครับ”
แพรวนภาเหลียวไปทางเสียง เห็นทรงยศเดินมากับพูนก็มองนิ่งๆ
“คุณทรงยศ”
ทรงยศยื่นแขนให้แพรวนภาควง พาไปที่ฟลอร์เต้นรำ
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ว่าง”
แพรวนภาปฏิเสธแล้วเดินไปหาเทิด ทรงยศไม่พอใจที่โดนหยามเกียรติ
“สักวันเถอะนังแพรว” ทรงยศเดินคุมแค้นไปทางอื่น
เทิดเห็นน้ำผึ้งเดินไปกับภูฤทธิ์ ก็ออกอาการโกรธ หันมาหาแพรว
“แพรว ไปเต้นรำกัน”
แพรวนภาหันไปยิ้มให้เมญ่า ก่อนตอบรับเทิด
“ได้สิคะ”
แพรวนภาเดินควงแขนออกไปยังฟลอร์
อ่านต่อหน้า 3
มนต์รักอสูร ตอนที่ 20 (ต่อ)
ทางฝ่ายพีทมาชวนมาร์คออกไปเต้นรำด้วยกัน
“เต้นรำกันมั้ยครับ”
“ผมว่า คุณพีทชวนสาวๆ คนอื่นเต้นดีกว่าครับ”
“ผมไม่อยากเต้นกับสาวๆ นี่ ผมอยากเต้นกับคุณมาร์ค... ได้มั้ยครับ”
“แต่ว่า...ผมเต้นไม่เป็น”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมก็เต้นไม่เป็นเหมือนกัน...แค่ระวังว่าอย่าเหยียบเท้าผมก็พอ”
พีทยิ้มกว้าง มาร์คยิ้มตอบ สองคนออกไปเต้นรำกัน
ภูฤทธิ์กับน้ำผึ้งเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เทิดเต้นคู่กับแพรวนภาที่อิงหน้ามาซบไหล่เทิดตลอดเวลาเทิดกับน้ำผึ้งลอบมองกันและกัน เทิดหน้าตึงดูออกว่าไม่พอใจภูฤทธิ์ ฟ้าใสเต้นรำกับทรงยศอยู่ข้าง ๆ
พอถึงจังหวะเปลี่ยนคู่เต้น ทรงยศขอเต้นกับแพรวนภา ส่วนฟ้าใสเต้นกับภูฤทธิ์ เทิดรีบไปขอเต้นคู่กับน้ำผึ้ง
“ฉันขอตัวนะคะ”
เทิดดึงน้ำผึ้งกลับมา “เต้นด้วยกันก่อนสิ หรือว่ารังเกียจฉัน”
“เปล่าค่ะ”
น้ำผึ้งเต้นรำกับเทิด เทิดมองเคลิ้มในความสวยของน้ำผึ้ง ฟ้าใสเอาแต่เขินอายเหยียบเท้าภูฤทธิ์อยู่นั่น แต่ภูฤทธิ์ยิ้มๆ ไม่ถือสา แพรวนภาเต้นรำกับทรงยศอย่างจำใจ
“ผมนี่โชคดีจริงๆ นะครับได้เต้นรำกับสาวสวยอย่างคุณแพรว”
แพรวนภาเบือนหน้าหนีไม่สนใจ
“คุณเป็นแฟนเก่าของไอ้เทิด แถมยังเป็นพี่เมียของไอ้เทิดด้วย ไอ้เทิดนี่มันพระยาเทครัวจริงๆ”
แพรวนภาไม่พอใจ “พูดอะไรของคุณ ฉันขอตัวค่ะ”
ทรงยศดึงมือเธอไว้
“นี่ก็คงตั้งใจมารื้อฟื้นความหลังกับไอ้เทิดสินะ”
“ปล่อยฉัน”
ทรงยศยิ้มหยัน ก่อนจะยอมปล่อยแขนแพรวนภา ให้เธอเดินออกจากฟลอร์เต้นรำด้วยท่าทางหงุดหงิดสุดขีด
จู่ๆ เสียงเพลงก็หยุดลง ทุกคนในงานงงๆ น้ำผึ้งดึงมือออกจากเทิด
“และในค่ำคืนนี้ เจ้าสาวก็ยังเตรียมเซอร์ไพร์สเล็กๆ ให้เจ้าบ่าวด้วยโรแมนติกสุด ๆ จะเป็นอะไรไปชมกันเลยครับ”
เจ้าบ่าวเหลียวมองหาเจ้าสาวไม่เจอ
โดยบนเวทีทีมงานแบ็คสเตจนำเก้าอี้พร้อมกับกีต้าร์มาวาง สักครู่นักร้องก้าวออกมา ตามมาด้วยเจ้าสาวที่มาคว้ากีตาร์ขึ้นมาดีด เป็นเพลงจะหวังสนุกๆ น่ารัก ทุกคนพากันออกไปเต้นตามตรงฟลอร์ ฟ้าใสเดินมาดึงน้ำผึ้งออกไปเต้น เทิดเดินเลี่ยงออกมาเพราะไม่ถนัด แพรวนภาเห็นทรงยศยังเอาแต่จ้องมายังตัวเองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์อยู่ จึงรีบเดินมาหาเทิด
“ไม่ไปสนุกกับเค้าเหรอแพรว” เทิดทักถาม
“ไม่ดีกว่าค่ะ แพรวไม่ชอบ”
น้ำผึ้งกับฟ้าใสสนุกอยู่ที่หน้าเวที ภูฤทธิ์มาร่วมแจมด้วย น้ำผึ้งหันมาสบตากับเทิดแว่บหนึ่ง ทุกอย่างตกอยู่ในสายตาแพรวนภาที่มองสองคนอยู่ก่อนแล้ว
เทิดจดสายตามองในความน่ารักสดใสของน้ำผึ้ง จนเผลอยิ้มออกมา แต่แล้วก็รีบเก๊กขรึมเหมือนเดิม
ผัน แซม และ อ้อย ยืนมองอยู่รอบนอกของฟลอร์ จนกระทั่งผันเอ่ยขึ้น
“อ้อยเดี๋ยวพ่อจะกลับแล้วนะ”
“พ่อกลับไปก่อนเลย”
“ฉันไปด้วย ง่วงแล้ว” แซมว่า
“แกละอ้อย”
“เดี๋ยวอีกสักพักนะพ่อ รอพาคุณนันท์ไปเข้านอนด้วย”
ทุกคนมองไป เห็นนันท์เล่นกับเพื่อนเด็กอยู่มุมหนึ่ง ผันพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับแซม อ้อยมองตาม รอจนพ่อลับตาไปแล้วจึงหันมาชวนหอม
“พี่หอม ไปกัน”
หอมกับอ้อยกระโจนเข้าไปในฟลอร์ สองคนเต้นเก้ๆ กังๆ ในตอนแรก แต่ยิ่งเต้นก็ยิ่งสนุก โดยเฉพาะอ้อยส่ายหัวมันส์เต็มที่ อ้อยกับหอมขยับไปเต้นกับน้ำผึ้ง ฟ้าใสเลยแยกไปเต้นคู่กับภูฤทธิ์ อ้อย หอม กับน้ำผึ้ง เต้นเหยียบเท้ากันไปมา
ระหว่างนี้แพรวนภายืนคุยอยู่กับแขกในอีกมุมของงาน
เทิดมองไปในฟลอร์เห็นอ้อยเต้นกับน้ำผึ้งก็เดินไปหา หอมกับอ้อยรู้แกวนาย เลยพากันถอยห่างออกจากน้ำผึ้งโดยอัตโนมัติ
“มาฉันสอนให้ อ้อยไปเต้นกับหอม”
เทิดจับมือน้ำผึ้งแล้วกระชับตัวเธอเข้ามาใกล้ อ้อยกับหอมลองทำตามไปด้วย เมญ่าเห็นเข้า ก็รีบเดินตูดบิดไปรายงานแพรวนภาทันควัน
“เรื่องนี้ต้องขยาย”
อ้อยเต้นกับหอม น้ำผึ้งเต้นคู่กับเทิดดูสวยงามสมกันมากๆ
เมื่อแพรวนภาเดินมากับเมญ่า มองไปเห็นเทิดกับน้ำผึ้งเต้นคู่กันอยู่ในฟลอร์ก็ไม่พอใจ เดินเข้าไปหาสองคนฉีกยิ้มหวาน
“เทิดคะ”
น้ำผึ้งเห็นแพรวรีบชักมือเธอออกจากการกุมของเทิด
“คุณโทมัสถามหาค่ะ เห็นบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย”
เทิดมองหน้าน้ำผึ้งเป็นเชิงบอกแล้วเดินออกไป แพรวนภามองหน้าน้ำผึ้งนัยน์ตาวาวไม่พอใจชัดแจ้ง ก่อนจะเดินตามเทิดไป น้ำผึ้งมองตามสองคน
อีกฟากพูนงัดหน้าต่างบ้านปีนเข้ามาในห้องทำงานเทิด ค้นหาอะไรบางอย่าง
ขณะเดียวกัน ผันเดินคุยโทรศัพท์มาตามทางหน้าห้องทำงานเทิด
“ครับคุณเมธี ไวน์ที่คุณเมธีสั่งน่าจะส่งได้ภายในวีคหน้านะครับ แต่เดี๋ยวผมเช็คให้อีกทีครับแล้วจะรีบโทร.ไป”
ผันเดินมาหยุดที่หน้าห้องทำงานเทิด
ส่วนในห้องพูนเปิดลิ้นชักจนเจอซองโฉนดที่ดิน มันรีบหยิบออกมาดู พอเห็นเป็นโฉนดที่ต้องการก็ยิ้มพอใจ
ผันไขกุญแจห้องเสียงดังแกร็ก!
พูนได้ยินรีบวางโฉนดไว้ที่เดิม แล้วกระโจนหนีไปที่หน้าต่างโดยเร็ว ผันมองเห็นหลังไวๆ ก็ตะโกนออกไป
“เฮ้ย! หยุดนะ”
ผันวิ่งไปชะโงกมองที่หน้าต่าง เห็นพูนวิ่งหายไปในความมืดแล้ว
ผันรีบหันมาตรวจตราทุกอย่างในห้อง
อ่านต่อหน้า 4
มนต์รักอสูร ตอนที่ 20 (ต่อ)
ฝ่ายแพรวนภาเดินหงุดหงิดออกมาหน้างาน ท่าทางหัวเสียไม่น้อย ทรงยศเดินตามมา พูดออกมาลอยๆ
“ไอ้เทิดมันคงไม่มีสายตามองคนอื่นแล้วละครับผมว่า”
“คุณอีกแล้วเหรอ”
แพรวนภายิ่งหงุดหงิดจะเดินหนี ทรงยศพูดไล่หลังไปว่า
“แทนที่จะเดินหนีผม ผมว่าเรามาร่วมมือกันไม่ดีกว่าเหรอ”
แพรวนภานิ่งคิด แล้วหันกลับมาหาเขา
“คุณคิดจะทำอะไร”
“ผมรู้ว่าคุณอยากได้ของเก่าของคุณคืน ผมจะช่วยคุณเอง”
แพรวนภาคิดตาม
“ทำไมต้องมาช่วยฉัน”
“คุณต้องการคุณเทิด ส่วนผมก็อยากได้ครูน้ำผึ้ง ผลประโยชน์ต่างลงตัว วิน วิน ทั้งคู่”
ทรงยศกับแพรวนภามองหน้ากัน แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน
ขณะที่นันท์เล่นอยู่กับเพื่อนๆ พูนเดินลิ่วๆ หนีมาไม่ทันดูทางเลยนันท์ที่วิ่งมาจนเด็กชายล้มลง
“เฮ้ย! ไอ้หนูเดินให้ระวังหน่อยสิ”
นันท์ล้มกองอยู่ที่พื้น เงยหน้ามองเห็นเป็นพูน ก็ขวัญผวา ตกใจสุดขีดจนกระทั่งเยี่ยวราด
“ฮือๆๆ”
พูนเห็นเป็นนันท์ก็ตกใจ รีบเดินจ้ำหนีไป เป็นเวลาเดียวกับที่น้ำผึ้ง อ้อย หอม เดินคุยกันออกมาหานันท์พอดี
“วันหลังครูสอนอ้อยทำพิธีกรบ้างนะคะ เผื่ออนาคตอ้อยอยากไปเป็นพริตตี้”
หอมหมั่นไส้เบะปากให้ น้ำผึ้งมองเห็นนันท์นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ก็แปลกใจ
“คุณนันท์ เป็นอะไรน่ะ”
น้ำผึ้งมองตามสายตานันท์เห็นพูนเดินก้มหน้าหนีไป แต่น้ำผึ้งเป็นห่วงนันท์จึงรีบวิ่งมาดูอาการ
หอมจับตัวนันท์ลุกขึ้น พอปัดเนื้อตัวให้จึงพบว่ากางเกงนันท์เปียก
“คุณนันท์ฉี่แตก”
“ฉี่แตกได้ยังไงคะคุณนันท์”
หอมกับอ้อยหัวเราะขำ นันท์เอ็ดเอา “เงียบเลยนะ พานันท์กลับบ้านเดี๋ยวนี้”
“โอ๋ๆ มาพี่อ้อยพากลับห้องนะคะคุณนันท์”
นันท์เดินนำออกไป อ้อยกับหอมรีบตาม
น้ำผึ้งเหลียวมองไปทางที่พูนเดินออกไปอีกครั้ง ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
หลังงานเลี้ยง เทิด ผัน พร และ แซม พากันเดินตรวจดูร่องรอยรอบๆ ห้องทำงาน สักพักเทิดจึงเอ่ยขึ้นมาว่า
“มีแค่นาฬิกาฉันที่หายไป”
“ดีนะ ที่ผันเข้ามาเห็นซะก่อน” พรบอก
“มันคงอาศัยจังหวะที่คนไม่อยู่บ้าน เข้ามาขโมยของ” เทิดตั้งสมมุติฐาน
“งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งความนะครับ” แซมอาสา
เทิดยกมือห้าม “ไม่ต้อง ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต”
“ผมว่าโจรน่าจะเป็นคนใน เพราะมันรู้ทางหนีทีไล่อย่างดี” ผันแสดงความเห็น
เทิดครุ่นคิดตาม
“ฝากทุกคนเป็นหูเป็นตาให้ฉันด้วย แล้วก็อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะฉันไม่อยากให้ใครแตกตื่น จนไอ้โจรนั่นไหวตัวทัน”
เทิดมองไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและใคร่ครวญ
ฟากน้ำผึ้งนอนไม่หลับ ออกมายืนใช้ความคิดที่ริมสระน้ำบ้านพัก จังหวะหนึ่งครูสาวแหงนหน้ามองดาวบนท้องฟ้า หวนคิดถึงช่วงเวลาแสนโรแมนติกกับเทิดเป็นฉากๆ
ทั้งตอนเทิดรับตัวเธอไว้ในงานแต่ง แล้วมองสบตากันลึกซึ้ง ไหนจะตอนเทิดกับเธอเต้นรำกัน แล้วมองตากันหวานฉ่ำ
นึกขึ้นมาแล้วน้ำผึ้งก็ออกอาการเขินนิดๆ พอรู้ตัวก็รีบเปลี่ยนโหมดอารมณ์
“คงไม่มีอะไรหรอก คนป่าเถื่อนอย่างนายนั่น จะมาคิดอะไรกับเรา” ครูสาวรำพึงกับตัวเองเบาๆ
“ใครกัน คนป่าเถื่อนที่เธอว่าน่ะ”
น้ำผึ้งสะดุ้งตกใจกับเสียงคุ้นหูดังกล่าว เธอเหลียวขวับมามอง เจอเทิดเดินมา
“เปล่าค่ะ” น้ำผึ้งรีบเปลี่ยนเรื่อง “ดึกมากแล้วทำไมคุณเทิดยังไม่นอนคะ”
“แล้วเธอล่ะ มัวแต่คิดถึงใครอยู่ถึงนอนไม่หลับ” เทิดย้อนจ้องตาครูของลูกชายเขม็ง
“เปล่าค่ะ”
เทิดยิ้มในสีหน้า พลางยื่นผ้าห่มที่ถือมาส่งให้ น้ำผึ้งมองฉงน เทิดเลยกระทุ้งผ้าห่มใส่ตัวน้ำผึ้ง
“คืนนี้มันหนาว ฉันกลัวเธอจะแข็งตายกลายเป็นผีเฝ้าไร่ฉันซะก่อน”
น้ำผึ้งเซ็งที่เทิดไม่เคยพูดคำหวาน หรือพูดดีๆ เอาเลย
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หอมเตรียมผ้าห่มเพิ่มให้แล้ว”
“ใครบอกว่าฉันห่วงเธอ ฉันก็แค่ห่วงคุณนันท์ กลัวจะไม่มีใครมาช่วยดูแลต่างหาก”
น้ำผึ้งรับผ้าห่มมาท่าทีงอนๆ หันตัวจะเดินกลับเข้าบ้านพักไป
เทิดตัดสินใจดึงน้ำผึ้งให้หันกลับมาหาจนร่างน้ำผึ้งเซเข้าไปแนบอกเขา เทิดโอบกอดเธอไว้
“นี่เธอจะไม่พูดขอบคุณฉันซักคำรึไง”
“แล้วคุณเทิดละคะ จะพูดดีกับฉันซักคำไม่ได้รึไง”
เทิดกับน้ำผึ้งมองสบตากันลึกซึ้ง เทิดหยิบผ้าห่มจากมือของน้ำผึ้งมาสะบัดเบาๆ แล้วคลุมไหลให้น้ำผึ้งโอบกอดเธอจากด้านหลัง แล้วพูดถามที่ริมหูเธอเบาๆ
“อุ่นขึ้นมั้ย”
น้ำผึ้งเขินเล็กๆ ก่อนจะตอบว่า
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“ดึกมากแล้ว ไปนอนเถอะ อย่ามายืนตากน้ำค้างเลย...อีกอย่างแถวนี้น่ะ ผีดุ”
“ว้าย”
น้ำผึ้งกำลังซึ้งๆ ตกใจผวากลัวไปซบอกเทิดอีก เทิดยิ้มมุมปาก โอบน้ำผึ้งไว้เบาๆ น้ำผึ้งรู้สึกตัวเงยหน้ามองเทิด แล้วรีบผละออกมา สีหน้ากึ่งอายกึ่งงอน รีบเดินกลับเข้าบ้านไป
พอน้ำผึ้งพ้นสายตาไป เทิดจึงยิ้มกว้างออกมาเต็มที่
บ้านเทิดทั้งหลังสวยงามในแสงและเสียงยามค่ำคืน แพรวนภาทิ้งกระเป๋าถือลงบนเตียงนอนอย่างอารมณ์เสีย หน้าตาบูดบึ้งหงุดหงิดเต็มที่ เมญ่าเดินตามเข้ามา
แพรวนภาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอย่างขุ่นมัว เมญ่าพยายามปลอบ
“หรือว่าจริง ๆ เราอาจจะคิดมากกันไปเองคะ คุณเทิดอาจจะแค่เห็นยัยครูนั่นแต่งตัวสวยเลยมอง ไม่ได้คิดอะไร”
“ฉันดูดีกว่านังครูนั่น เทิดยังไม่เห็นมองแบบนั้นเลย สายตาที่เทิดมองมัน เหมือนสายตาที่มองฉันตอนที่เราสองคนรักกัน” แพรวนภามั่นใจ
“ถ้าคนอื่นรู้ว่าคุณเทิดจะปฏิเสธคนสวยพราวเสน่ห์อย่างคุณแพรว แล้วไปคว้านังครูบ้านนอกสุดเชยนั่นมาทำเมียแทน คุณแพรวจะเอาหน้าไปที่ไว้ที่ไหนคะเนี่ย...” กะเทยผิวหมึกร่างบึกบึนเผลอหลุดปาก
แพรวนภาหันขวับมามองตาเขียว เมญ่าเงียบกริบ
“คนอย่างแพรวก็ไม่มีทางยอมแพ้ นังครูบ้านนอกแน่ๆ”
ใบหน้าสวยของแพรวนภาดุดัน นัยน์ตาแข็งกร้าวเปล่งประกายวาววับ ไม่มีวันยอมแพ้น้ำผึ้งเด็ดขาด
อ่านต่อตอนที่ 21