xs
xsm
sm
md
lg

‘ลุงตู่’ จะอยู่ยาวหรืออยู่ยาก…

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โสภณ องค์การณ์"

ช่วงนี้สภาวะดินฟ้าอากาศแปรปรวนฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลอยู่ดีๆ ก็ลงมา 2-3วัน เหมือนเป็นสัญญาณบางอย่างตามโหราจารย์ทั้งหลายที่ทำนายว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์บ้านเมืองในเร็ววันนี้


สภาพที่เป็นอยู่ก็เป็นเค้าลางให้เห็นเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะเรื่องทั้งหลายที่ดูไม่ดีดันประเดประดังเข้ามาช่วงนี้ เป็นมรสุมการเมืองรุมเร้ารัฐบาลเป็ดง่อยและผู้นำที่ดูอีบัดอีโรย อ่อนล้าออกอาการจะไปมิไปแหล่ ทำเอาคอการเมืองซี้ดซ้าดไปตามๆ กัน

ทำให้คนเริ่มมองว่าจากสภาพของ “ลุงตู่อยู่ยาว” น่าจะเป็น “ลุงตู่อยู่ยาก” เสียแล้วกระมัง อะไรที่ไม่เคยเกิดก็มาเกิดช่วงนี้ ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง

อย่างเช่นกรณีพรรคร่วมรัฐบาลภูมิใจไทยเกิดอาการแข็งเมือง 7 รัฐมนตรีโดดร่มไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ผ่านมาถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองน้ำเน่ายุคใหม่

ถือว่าเป็นการกินดีหมีสวมหัวใจเสือหักดิบหักหน้าหักเหลี่ยม ลูบคมหัวหน้ารัฐบาล เหมือนซ้ำเติมอาการเป็ดง่อยเพราะอยู่ไปแต่ละวัน เจอแต่สภาล่มหลายครั้งเหมือนกับเป็นตัวเร่งว่าถึงเวลาที่ลุงผู้นำห้าวเป้งจะต้องเลือกว่าจะเอาอย่างไรและต้องเปลี่ยนใจ

จากคำประกาศก่อนหน้านี้ที่ว่าไม่ปรับคณะรัฐมนตรี ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก จะอยู่ต่อไปจนครบวาระนั้นดูสภาพแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเปรียบเหมือนคนลอยคออยู่กลางทะเลก็เริ่มเห็นอาการน้ำเข้าจมูกขณะที่อ่อนแรงเต็มที

อีกไม่กี่วันก็จะถึงการอภิปรายทั่วไปซึ่งลุงห้าวเป้งจะเป็นเป้าหลักของการโจมตีอย่างหนัก ถือว่าเป็นการชิมลางก่อนงานใหญ่ นั่นคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนพฤษภาคม แต่ก็เกิดคำถามอีกนั่นแหละว่าลุงห้าวเป้งจะอยู่รอดถึงวันนั้นหรือไม่

ผลของการที่ผู้กองแยกตัวไปตั้งพรรคใหม่และกลายหอกข้างแคร่เป็นเสียงอยู่กับฝ่ายค้านในสภา ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนว่าคำมั่นก่อนหน้านี้ที่ว่าจะสนับสนุนรัฐบาลนั้นคงจะไม่เป็นจริงเสียแล้ว ซ้ำยังมีพรรคแกนนำบางส่วนเริ่มแสดงอาการไม่อยู่ร่วมด้วยชัดเจน

นี่เป็นรสชาติที่ขมขื่นสำหรับผู้นำที่ลอยตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง ไม่คบหาใคร ชุบมือเปิบตีกินมาตลอดกว่า 7 ปี คราวนี้คงเข้ากับคำประกาศที่ว่าอยู่ยิ่งสูงยิ่งโดดเดี่ยวยิ่งหนาว ไร้เพื่อน บริวารที่มีอยู่ก็ไว้ใจไม่ได้

ทั้งพี่ที่รักเคยพึ่งพาอาศัยก็เหมือนกับเป็นแก้วที่แตกร้าวยากที่จะประสาน นับวันยิ่งห่างเหินแม้ปากจะบอกว่ายังรักกันเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม แต่จะหาคนเชื่อนั้นยากแล้ว

จากคำถามที่ต้องตอบกรณีการคืนสัมปทานเมืองแร่ทองคำ โดยไม่อธิบายต่อประชาชน ความขัดแย้งกรณีสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียวและสีส้ม เป็นความขัดแย้งทั้งระหว่างรัฐบาลกับประชาชนและพรรคร่วมด้วยกันเอง ยิ่งมีปัญหาน้ำมันแพงราคาขยับขึ้นต่อเนื่องก็ยิ่งไม่ได้รับความเห็นใจจากประชาชนที่คนส่วนมากอยู่ในสภาพที่รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง

ลุงห้าวเป้งประกาศว่าไม่มีปัญหาหรือมีคำอ้างอื่นใด แต่ดูแล้วหาคนเชื่อยาก อยู่ไปแต่ละวันก็เหมือนเป็นการซื้อเวลาด้วยความหวังที่ว่าจะอยู่รอดถึงวันแห่งเกียรติยศ นั่นคือการได้เป็นประธานที่ประชุมเอเปกในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

วาสนาที่เคยมี ส่งเสริมให้อยู่มา 7 ปีกว่าจะยังเหลืออยู่ให้ลุงห้าวเป้ง ได้รอดถึงวันนั้นหรือไม่

ความมั่นใจก่อนหน้านี้มีมากถึงขนาดมีบริวารใกล้ชิดไปตั้งพรรคการเมืองเผื่อไว้ว่าพรรคที่เคยสนับสนุนจะไม่ส่งชื่อเป็นคู่ชิงตำแหน่งนายก เริ่มต้องตอบคำถามตัวเองว่ายังจะหวังอีกหรือไม่

การตั้งพรรคสำรองไว้เท่ากับว่ายังมีความหวังว่าจะได้อยู่อีกหนึ่งสมัยและผ่านรอดไปได้ในประเด็นกฎหมายว่าตัวผู้นำนั้นอยู่ครบวาระ 4 ปีหรือไม่ หรือเป็นเพียงการแสดงออกให้เห็นว่ายังมีความมั่นใจเหลืออยู่ โดยไม่หลอกตัวเอง

หลังจากเผชิญความท้าทายอำนาจหลายครั้ง ภาษากายของลุงห้าวเป้งเริ่มแสดงให้เห็นถึงสภาพความอิดโรย ถุงน้ำใต้ตาเริ่มหย่อนอย่างเห็นชัด ราศีโหงวเฮ้ง แววตาเริ่มไม่ส่งประกายของผู้มีอำนาจวาสนาเต็มที่ แม้จะยังเสียงแข็ง พลังของน้ำเสียงก็ไม่ได้กร้าวแกร่ง เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา

การต่อปากต่อคำช่วงตอบคำถามของผู้สื่อข่าวถูกมองว่าเป็นเพียงลีลาเพื่อกลบเกลื่อนอาการของความไม่มั่นคงในสถานภาพของตัวเองเท่านั้น เหมือนคนที่ยังทำเป็นใจดีสู้เสือ ไม่ยอมออกอาการให้เห็นความปั่นป่วนในใจ

ยังมีใครสนับสนุนลุงผู้นำห้าวเป้งอีกหรือไม่ เท่าที่เห็นก็มีสื่อโทรทัศน์บางช่อง สื่อสิ่งพิมพ์บางสำนักที่ยังเชียร์อย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่มองอารมณ์ของสังคมและสภาพแวดล้อมของประชาชนว่ามีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากแค่ไหน
ที่เหลือสำหรับกองเชียร์ก็คือบรรดาติ่งทั้งหลายที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจหรือทิ้งลุงห้าวเป้ง มองว่าอย่างไรก็ยังดีกว่าคนอื่นและเมื่อเชื่อมั่นในตัวบุคคลระดับนี้แล้วก็จะต้องยืนหยัดเชื่อต่อไป

ถ้าจะยังมีพรรคพวกที่เหลือก็คงจะเป็นเพียงรัฐมนตรีในโควตาที่ตัวเองแต่งตั้งเข้าไป พวกนี้คงจะต้องเกาะอยู่กับลุงห้าวเป้งจนวาระสุดท้ายของรัฐบาล ซึ่งยังไม่มีใครกำหนดได้ว่าเป็นเมื่อไหร่แม้แต่ตัวลุงผู้นำเอง

สถานการณ์ที่ยิ่งไม่เป็นใจอีกอย่างก็คือการระบาดของ โควิด-19 ซึ่งยังแรง มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ไม่กี่วันที่ผ่านมา ตัวเลขการติดเชื้อสูงกว่า 13,000 และรวมตัวเลขเอทีเคแล้วก็เกือบถึง 20,000 ราย

ดังนั้นโอกาสที่จะฟื้นตัวด้วยรายได้ของรัฐบาลนั้นยังไม่ชัด นอกจากเงินรายได้จากภาษีน้ำมันซึ่งยังเก็บจนประชาชนเดือดร้อนกันทั้งแผ่นดินและจะถูกซ้ำเติมด้วยราคาสินค้าเพิ่มขึ้นนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อซึ่งอาจจะยากกว่าการควบคุม

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหา ยังไม่นับเรื่องที่ค้างคาเกี่ยวกับกฎหมายและองค์กรของรัฐที่ตรวจสอบผลงานของผู้นำรัฐบาลซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนคดีที่คาดว่าจะมีหลังจากวันพ้นจากอำนาจแล้ว

อย่างนี้เรียกว่าอยู่ไปแบบวันต่อวันหรือนับวันอยู่หรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น