“บิ๊กเหลี่ยม” กลับมาหวังสอย“บิ๊กตู่”!(ตอนสิบสอง) กีฬามี “แพ้-ชนะ” การเมือง “ต้องชนะ” เท่านั้น!

“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

เครือข่าย “ผี-โม่แป้ง” ของ “โทนี่” ในคลับเห่า ระบุเรื่อ ง“ตู่-มันจบแล้วนาย”!!!


ย้อนไปก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ซิงเกิ้ลคอมมานด์ “นายกฯ บิ๊กตู่” คนนี้ ต้องรับผิดรับชอบชนิดเต็มร้อยทุกมิติ กับการบัญชาการชาติไทยใหญ่อุดม ในฐานะ “หัวหน้าคณะรัฐประหารตู่” กับ “นายกฯ เผด็จการตู่” มีกฎหมายมาตรา 44 ในกำมือ โดย “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ นานกว่า 5 ปี

นั่งเก้าอี้นายกฯ นานขนาดนั้น หาก “นายกฯ บิ๊กตู่” รักชาติรักประชาชนจริง ก็ต้องทำตามคำพูด “แก้ต้นเหตุปัญหาต่างๆ” ให้ชาติกับประชาชนได้ไม่น้อยเลย..จริงไหม?

โดยเฉพาะต้นเหตุปัญหา “สามเรื่องหลัก” ซึ่งก่อเกิดความเลวร้ายให้ชาติกับประชาชน ที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” รู้ดีอยู่แก่ใจ ถึงได้ประกาศเป็นสัญญาประชาคมขณะทำรัฐประหาร และได้เป็นรัฐบาลเผด็จการทหาร..เสียง “บิ๊กตู่” ยังก้องในหูประชาชนว่า..

“บิ๊กตู่” จะปราบปรามการคอร์รัปชั่นโกงชาติ.. แต่ “เขา” ไม่ได้ทำอย่างจริงจังเลย!

“บิ๊กตู่” จะลดความเหลื่อมล้ำหลายมิติ ให้ชาติกับประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอ้างจะลดช่องว่างความ “รวย” กับ “จน” ให้เร็วที่สุด ทว่า..“นายกฯ บิ๊กตู่” ไม่เคยทำจริงจังเลย แถมนโยบายเศรษฐกิจกลับสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยให้เพิ่มมากขึ้นเสียฉิบ!

ยุครัฐบาล “นายกฯ บิ๊กตู่”ไ ด้ขยายช่องว่าง “รวย-จน” ให้เพิ่มทวียิ่งขึ้น โดย “เขา” ทำให้ “คนรวยรวยยิ่งขึ้น-คนจนจนลงทุกวัน” จนระดับความเหลื่อมล้ำของชาติไทย พุ่งติดอันดับหนึ่งในอาเซียน และพุ่งพรวดขึ้นติดอันดับต้นๆของโลกไปแล้ว

ที่สำคัญ..“นายกฯ บิ๊กตู่” ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า “เขา” จะปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน ก่อนจะจัดให้มีการเลือกตั้ง ทว่า..ด้วยความกระสันอยากสืบทอดอำนาจ ทำให้ “พวกเขา” ทำทุกวิถีทางให้ได้เปรียบคู่แข่ง โดย “เขา” ไม่ปฏิรูปชาติในภาคส่วนใดๆ และเพราะโลภใน“อำนาจรัฐ” จึงไม่ได้ปฏิรูปการเมืองแม้แต่น้อย..

เรียกว่า..รัฐบาลเผด็จการทหารยุค “นายกฯ รัฐประหารตู่” ผ่านการครองอำนาจในฐานะผู้นำเผด็จการนานกว่า 5 ปี และวันนี้ยังนั่งเก้าอี้นายกฯ เป็น “นายกฯ เลือกตั้งตู่” มาแล้ว 2 ปีกว่า รวมเบ็ดเสร็จ 7 ปีกว่า ที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” ได้บริหารชาติต่อเนื่องยาวนาน..

“นายกฯ บิ๊กตู่” ของทั้ง 2 รัฐบาล ไม่ได้ปราบการคอร์รัปชั่นโกงชาติจริงจังเลย! ไม่ได้ลดความเหลื่อมล้ำต่างๆให้ชาติจริงจัง! อีกทั้งไม่ได้ปฏิรูปชาติประเด็นสำคัญๆแม้แต่น้อย ฯลฯ

ฉะนั้น..ตลอดเวลาบริหารชาติ 7 ปีกว่า “นายกฯ บิ๊กตู่” จึงมีเพียงแค่ผลงานทั่วไป ตามระบบราชการเท่านั้น.. ราวกับเป็น “ปลัดประเทศ” อย่างนั้นแหละ!..เฮ้อ!

ซ้ำร้าย..“นายกฯ เลือกตั้งบิ๊กตู่” กับพลพรรค ยังบริหารเศรษฐกิจชาติบกพร่องผิดพลาดมากมาย ในหลายเรื่องที่สำคัญๆ จนทำให้เศรษฐกิจไทยตกต่ำอย่างหนัก เหตุจากความเหลื่อมล้ำ ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่”ได้ก่อให้เกิดมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้าวิกฤต “โควิด-19” ระบาดทั่วไทยและทั่วโลก

เมื่อ “โควิด-19” ระบาดครั้งแรกในไทย ห้วงนั้นยังมิได้มีการใช้ “วัคซีน” อย่างกว้างขวาง ประชาชนได้ปฏิบัติตามความต้องการของ “หมอ” กับรัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่ให้คนไทยทั้งชาติต้องร่วมมือร่วมใจ ยอมรับกับสภาพ“เจ็บแล้วต้องจบ” โดยทั้ง“หมอ”กับรัฐบาล“บิ๊กตู่” ได้ประกาศใช้มาตรการเข้มงวดกวดขัน ประชาชนต้องใส่หน้ากากอนามัย ต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอลบ่อยๆ ต้องเว้นระยะห่าง ฯลฯ กระทั่งถึงขั้นมีการปิดบ้านปิดเมือง ซึ่งทำให้ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นคนส่วนใหญ่ในชาติ ไม่อาจทำมาหากินได้ตามปกติ ฯลฯ

ครั้งนั้นชาวไทยติดเชื้อโควิดน้อยมาก จนรัฐบาล “บิ๊กตู่” กับบรรดา “หมอๆ” ทั้งในกับนอก “กระทรวงสาธารณสุข” รวมทั้ง “บุคคลากรทางการแพทย์” อีกมากมายทั่วไทย ล้วนหน้าชื่นตาบานมีความสุขเป็นทิวแถว เพราะไทยได้รับการยกย่องชมเชยจากชาติต่างๆ ว่าเป็นชาติหนึ่งในโลกที่ยับยั้งต่อต้านโควิดระบาดได้เป็นอย่างดี

ทว่า..เมื่อโควิด “กลายพันธุ์” ได้ระบาดกระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว สภาพโควิดระบาดในไทย ก็พลิกจาก“หน้ามือเป็นหลังมือ”ฉับพลัน สถานการณ์ต่างกันราวฟ้ากับเหว โดยซิงเกิ้ลคอมมานด์ “นายกฯ บิ๊กตู่” คนเดิม ได้บริหารจัดการชาติผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เชื้อโควิดระบาดกว้างขวางเป็นไฟลามทุ่ง

สาเหตุจากการรับสินบนเถื่อนของ “กลไกรัฐ” บางส่วน จึงเกิดการกระจายเชื้อโรคต้นเหตุจากแรงงานเถื่อน บ่อนเถื่อน และผับไฮโซ

ตามด้วยนโยบายที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” ยึดหลักเศรษฐกิจนำ ปล่อยให้โควิดระบาดไปทั่วไทยอย่างเสรี จากเทศกาลเที่ยวสงกรานต์ เมษายน 2564 ฯลฯ

มีผลให้ชาวไทยทั่วประเทศติดเชื้อโควิดกันมากมาย จนรัฐบาล “บิ๊กตู่” ต้องหวนกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง ด้วยการย้ำเน้นให้ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอลเป็นประจำ ยังต้องเว้นระยะห่างกันอยู่เสมอ ฯลฯ

กระทั่งถึงขั้นต้องปิดบ้านปิดเมืองอีกครา ห้ามรับประทานอาหารในร้าน ผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ล้วนไม่สามารถทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ จนต้องตกอยู่ในสภาพ “หาเช้าไม่พอกินค่ำ”

นับเป็นการทำร้ายคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของชาติ ให้ตกอยู่ในสภาพต้องดิ้นรนยากลำบากอย่างหนัก เพื่อเอาชีวิตรอดกันไปแบบวันต่อวัน

ประชาชนอีกมิใช่น้อย ต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างต่อเนื่อง จากสภาพสาธารณสุขไทย ที่ขาดแคลนทั้ง “เตียง” กับ “สถานพยาบาล” และขาด “อุปกรณ์ทางการแพทย์” ที่สำคัญ

“แพทย์-พยาบาล-บุคคลากรทางการแพทย์” ล้วนต้องเหน็ดเหนื่อยกับภาระหนักหน่วงเกินกำลัง กับการรักษาประชาชนที่ล้มป่วยจากโรคระบาด

วิกฤตการณ์ดังกล่าวข้างต้นทั้งหมด ล้วนเกิดจากการบริหารจัดการผิดพลาดของ “นายกฯ บิ๊กตู่”.. ที่มีความล่าช้าหลายด้านในการต้านโควิดระบาดใหญ่ครั้งที่ 3 ทั้งเรื่องวัคซีนมีไม่เพียงพอกับไม่หลากหลาย ด้วยไทยมีเพียงวัคซีน “ซิโนแวค” ของจีน กับ “แอสตร้าเซนเนก้า” ของอังกฤษ อีกทั้งซิโนแวคยังถูกผู้ไม่ประสงค์ดี โจมตีให้ร้ายว่า “ไร้ประสิทธิภาพ” ที่จะต้าน “โควิดกลายพันธุ์” เสียอีก!

หนำซ้ำ..การตรวจผลติดเชื้อโควิดของรัฐ ก็ช้าไม่ทันกับสถานการณ์.. เพราะรัฐเพิ่งอนุมัติให้ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยชุด“แรพพิทเทส”ได้

รวมทั้ง “นายกฯ บิ๊กตู่” ยังตาสว่างช้ามากๆ เพราะเพิ่งยอมให้ผู้คนใช้สมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” เป็นยาเบื้องต้น รักษาอาการเริ่มแรกของโควิดเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เรียกว่า..ซิงเกิ้ลคอมมานด์“นายกฯ บิ๊กตู่” ทำอะไรก็อืดอาดเชื่องช้าไม่ทันสถานการณ์การระบาด ที่คร่าชีวิตผู้คนไปทั่วอย่างรวดเร็วมิได้หยุด จนผู้คนต้อง “ตายคาบ้าน” กับ “ตายคาถนน” เป็นข่าวประจานไปทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ
นั่นทำให้ความเชื่อถือในตัว“นายกฯบิ๊กตู่” ที่น้อยอยู่แล้วยิ่งลดน้อยถอยลงไปอีก
“โทนี่เหลี่ยมจัด”กับพลพรรค ได้ทีขี่แพะไล่.. จึงเร่งโหมกระแสการขับไล่“นายกฯ บิ๊กตู่”ในสภาฯ ประสานกับ“ม็อบล้มเจ้า”นอกสภาฯ ที่เคลื่อนไหวกันหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่า“นายกฯบิ๊กตู่” คงทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
“โทนี่” ที่หนีคุกไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน กำลังฮึกเหิม ขยันใช้เวที“คลับเห่า” โผล่หน้าหอนเห่าเล่าเรื่องโกหกผสมจริงบ่อยขึ้น เพราะมั่นใจว่า “ตนเห่าบ่อย-ตู่จะใจฝ่อ” อีกทั้งหวังให้กองเชียร์หลงเล่ห์กลเชื่อว่า อีกไม่นาน“ตู่จะลาออก” หรือ “ตู่จะถูกปลดออก” อ้อ..หรือไม่ “ตู่จะยุบสภา”..!

“โทนี่”โกงชาติกับล้มเจ้า ยังเชื่ออีกว่า เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเครือข่ายของ “โทนี่” จะต้องชนะพรรคหนุน “บิ๊กตู่” อย่างท่วมท้นแน่นอน โดย “โทนี่”ได้ประกาศปาวๆ ในคลับเห่าว่า หาก “ส.ส.” เสียงข้างมากในสภา ถ้า “บิ๊กตู่” ยังดื้อรั้นดันทุรังจะเป็นนายกฯซ้ำซากอีกล่ะก็ พวก “ส.ว.250 เสียง” จะกล้ายกมือหนุน “บิ๊กตู่” ที่ผลงานไม่เอาอ่าว ให้เป็น “นายกฯ” ซ้ำซากจำเจหรือ?

ฮ่าฮ่าฮ่า!..เฮ้ย..“โทนี่เหลี่ยมจัด” รู้ใช่ไหมว่า..แข่งขันกีฬา “แพ้ชนะ” กันได้เสมอ แต่แข่งการเมืองแย่งอำนาจรัฐนั้น..“แพ้ไม่ได้นะโว้ยเฮ้ย”!!!