ผู้จัดการรายวัน360 - สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือศาลปกครอง นำเรื่องรื้อคดีจ่ายค่าโง่ “โฮปเวลล์” เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ใหม่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว ย้ำยิ่งช้า ยิ่งเสียหาย ดอกเบี้ยยิ่งเพิ่ม ระบุท้ายสุด หากให้ รฟท.จ่าย ก็ไม่เป็นธรรม เหตุเป็นโครงการรัฐบาล ต้องมาร่วมรับผิดชอบด้วย
วานนี้ (22 มิ.ย.) ที่ศาลปกครอง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพฯ เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ขอให้เสนอคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่เกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ ประเทศไทย จำกัด ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้พิจารณาคดีนี้ด้วยความรอบคอบ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 5/2564 ลงวันที่ 17 มี.ค.2564 ว่ามติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2555 ลงวันที่ 27 พ.ย.2556 เรื่องเกี่ยวกับระยะเวลา และการนับอายุความการฟ้องคดีที่ศาลปกครองนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการวินิจฉัยคดีจ่ายค่าเสียหายโฮปเวลล์ขัดรัฐธรรมนูญ
นายสาวิทย์กล่าวว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ากระบวนการพิจารณาคดีของศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัท โฮปเวลล์ แต่ก็ยังมีข้อถกเถียง ข้อกฎหมาย ที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ชัดเจน และยังมีความพยายามที่จะให้มีการจ่ายเงินให้กับบริษัท โฮปเวลล์ ทั้งที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร จึงอยากให้ศาลปกครองได้ยกคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เพราะก่อนหน้านี้ ทั้ง รฟท. และกระทรวงคมนาคม ได้มีการยื่นขอรื้อคดีใหม่แล้ว
ทั้งนี้ สหภาพฯ เห็นว่า หากยังไม่มีความชัดเจน มูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากอัตราดอกเบี้ย ซึ่งประเมินตอนนี้น่าจะมียอดรวมเกือบ 3 หมื่นล้าน โดยเงินจำนวนนี้ รฟท. ไม่มีจ่าย ก็ต้องเอาเงินภาษีมาจ่าย และข้อเท็จจริงของโครงการ เกิดขึ้นจากนโยบายรัฐบาล ถ้าหากต้องแพ้คดี จะให้ รฟท. ชำระฝ่ายเดียว ก็ไม่เป็นธรรมกับ รฟท. รัฐบาลแต่ละยุค ควรต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
นอกจากนี้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว น่าจะเป็นแนวทางให้ส่วนต่าง ๆ ที่มีหน้าที่ เดินไปในทางที่เป็นการรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง เช่นเดียวกับคดีค่าโง่บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่สุดท้ายรัฐบาลไม่ต้องมีการจ่ายให้กับเอกชน
วานนี้ (22 มิ.ย.) ที่ศาลปกครอง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพฯ เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ขอให้เสนอคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่เกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ ประเทศไทย จำกัด ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้พิจารณาคดีนี้ด้วยความรอบคอบ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 5/2564 ลงวันที่ 17 มี.ค.2564 ว่ามติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2555 ลงวันที่ 27 พ.ย.2556 เรื่องเกี่ยวกับระยะเวลา และการนับอายุความการฟ้องคดีที่ศาลปกครองนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการวินิจฉัยคดีจ่ายค่าเสียหายโฮปเวลล์ขัดรัฐธรรมนูญ
นายสาวิทย์กล่าวว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ากระบวนการพิจารณาคดีของศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัท โฮปเวลล์ แต่ก็ยังมีข้อถกเถียง ข้อกฎหมาย ที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ชัดเจน และยังมีความพยายามที่จะให้มีการจ่ายเงินให้กับบริษัท โฮปเวลล์ ทั้งที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร จึงอยากให้ศาลปกครองได้ยกคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เพราะก่อนหน้านี้ ทั้ง รฟท. และกระทรวงคมนาคม ได้มีการยื่นขอรื้อคดีใหม่แล้ว
ทั้งนี้ สหภาพฯ เห็นว่า หากยังไม่มีความชัดเจน มูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากอัตราดอกเบี้ย ซึ่งประเมินตอนนี้น่าจะมียอดรวมเกือบ 3 หมื่นล้าน โดยเงินจำนวนนี้ รฟท. ไม่มีจ่าย ก็ต้องเอาเงินภาษีมาจ่าย และข้อเท็จจริงของโครงการ เกิดขึ้นจากนโยบายรัฐบาล ถ้าหากต้องแพ้คดี จะให้ รฟท. ชำระฝ่ายเดียว ก็ไม่เป็นธรรมกับ รฟท. รัฐบาลแต่ละยุค ควรต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
นอกจากนี้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว น่าจะเป็นแนวทางให้ส่วนต่าง ๆ ที่มีหน้าที่ เดินไปในทางที่เป็นการรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง เช่นเดียวกับคดีค่าโง่บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่สุดท้ายรัฐบาลไม่ต้องมีการจ่ายให้กับเอกชน