xs
xsm
sm
md
lg

ถ้า “ม็อบเด็กเจ๊ง” แล้ว “บิ๊กตู่อยู่ต่อ”.. ชาติได้อะไร?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”


“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนได้”

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วันที่ 11 ธันวาคม 2512
ประชาชนไทยควรได้ “คนดีบริหารชาติ”มานานแล้ว ตามพระราชดำรัส “ในหลวงรัชกาลที่ 9” แต่การเมืองที่มิใช่ประชาธิปไตยแท้จริง ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมานาน 80 กว่าปี ทำให้ชาติไทยได้ “นักการเมืองเลว” เป็นส่วนใหญ่ ทั้งมาจากการเลือกตั้งสกปรกและรัฐประหาร เข้ามายึดอำนาจรัฐ เพื่อคอร์รัปชั่นกอบโกยผลประโยชน์ชาติ ให้กับตนและพวกอย่างไม่รู้จักพอมาโดยตลอด
เริ่มจาก “คณะราษฎร” นำประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบชาติตะวันตก มาใช้ทั้งดุ้น โดยชาติกับประชาชนยังไม่พร้อมในหลากมิติ จึงมีการโกงทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และโกงชาติกับประชาชนกันอย่างมากมาย ทั้งยังมีการหักหลังแย่งชิงอำนาจกันเองอุตลุดไปหมดอีกด้วย
ชาติไทยยุค “คณะราษฎร 2475” จึงก่อเกิดทั้งรัฐบาลประชาธิปไตยกำมะลอ และรัฐบาลเผด็จการรัฐประหาร มี “จอมพล ป.พิบูลสงคราม” เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วง พศ. 2481-2487 และ 2491-2500 เป็นเวลา 14 ปี 11 เดือน ถือเป็นนายกฯเผด็จการทหาร ที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุด
“ปรีดี พนมยงค์”หนึ่งในบุคคลสำคัญของ“คณะราษฎร” ได้ให้สัมภาษณ์“เอเชียวีค” ในวันที่ 28 ธันวาคม 2523 ถึงห้วงหนึ่งแห่งชีวิตว่า
“ในปี ค.ศ.1925 เมื่อเราเริ่มจัดตั้งกลุ่มแกนของพรรคอภิวัฒน์ในปารีส ข้าพเจ้ามีอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น หนุ่มมาก หนุ่มทีเดียว ขาดความจัดเจน แม้ข้าพเจ้าได้รับปริญญาแล้ว และได้คะแนนสูงสุด แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าทางทฤษฎี ข้าพเจ้าไม่มีความจัดเจน และโดยปราศจากความจัดเจน บางครั้งข้าพเจ้าประยุกต์ทฤษฎีอย่างนักตำรา ข้าพเจ้าไม่ได้นำความเป็นจริง ในประเทศของข้าพเจ้ามาคำนึงด้วย ข้าพเจ้าติดต่อกับประชาชนไม่พอ ความรู้ทั้งหมดของข้าพเจ้าเป็นความรู้ตามหนังสือ ข้าพเจ้าไม่ได้เอาสาระสำคัญของมนุษย์ มาคำนึงด้วยให้มากเท่าที่ข้าพเจ้าควรจะมี ในปี ค.ศ.1932 ข้าพเจ้าอายุ 32 ปี พวกเราได้ทำการอภิวัฒน์ แต่ข้าพเจ้าก็ขาดความจัดเจน และครั้นข้าพเจ้ามีความจัดเจนมากขึ้น ข้าพเจ้าก็ไม่มีอำนาจ”

“ปรีดี พนมยงค์” ที่เป็นมันสมองคนสำคัญที่สุดของ “คณะราษฎร” ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “เขา ”ยังไม่ “จัดเจน” หรือ “ด้อยประสบการณ์” จึงทำให้ชาติได้ประชาธิปไตยจอมปลอม ที่ไม่เหมาะสมสอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะทำให้ชาติและประชาชนไทย ได้ “นักการเมือง”ไร้คุณภาพด้อยคุณธรรมนั่นเอง

ด้วย “นักการเมืองเลว” ก่อเกิดการโกงเลือกตั้ง เกิดการกระทำที่โกงชาติมาตลอด เกิดการรัฐประหารสลับกันยึดอำนาจรัฐ เกิด “วงจรอุบาทว์” แบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง” จนการเมือง “ถอยหลังลงคลอง” ครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่ยุค 2475 ต่อเนื่องมาจนถึงยุค 2563 เรียกว่า..การเมืองไทยย่ำแย่มานานถึง 88 ปี!
ชาติไทยทุกวันนี้ยังคงโชคร้าย! ด้วย “บิ๊กตู่” ทำรัฐประหาร 2557 โค่นล้มรัฐบาลโกงชาติเครือข่ายของ “บิ๊กเหลี่ยม” แต่ไม่ได้ “ทำตามคำพูด” ที่ประกาศว่า จะแก้ต้นเหตุปัญหาอันชั่วร้ายในเรื่องสำคัญๆให้ชาติและประชาชน ให้สำเร็จในยุครัฐบาลรัฐประหาร จนกาลเวลาผ่านพ้นไปเกือบ 7 ปี..
วันนี้ “นายกฯ บิ๊กตู่” ยังคงทำผิดคำพูด แถมทำตัว “เป็นทองไม่รู้ร้อน” ยังคงไม่ปราบปรามการโกงชาติจริงจัง! ยังคงไม่ลดความเหลื่อมล้ำให้ชาติจริงจัง! ยังคงไม่ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้งอีกด้วย ฯลฯ
“บิ๊กตู่” จึงเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้เครือข่ายทางการเมืองของ “บิ๊กเหลี่ยม” ยังคงผงาดอยู่ในชาติไทย จนถึงกับได้ “ส.ส.เขต”มากกว่าพรรคที่หนุน “บิ๊กตู่” ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แถมยังทำให้พรรคใหม่ของ “บิ๊กทอน” ได้ สส.เข้าสภาถึง 80 คนอีกด้วย ผลงาน“บิ๊กตู่” ในเรื่องนี้จึง-สอบตก!
เมื่อ “บิ๊กเหลี่ยม-บิ๊กทอน” จับมือกัน แถมมี “ชาติตะวันตกบางชาติ” แอบหนุนหลัง จึงเกิดการเคลื่อนไหวทั้งบนถนน ประสานกับในสภา โดยมี “นักวิชาการบางกลุ่ม” ในไทย อีกทั้ง “นักวิชาการรุ่นหนีคุก” ในต่างแดน อ้อ..รวมถึง “นักวิชาการวัยดึกบางคน” คอยเป็น“อีแอบ” ให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนบ้าง ให้ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลเท็จบ้าง ฯลฯ

เรียกว่า..แผนเลวร้ายทางการเมืองครั้งนี้ “กลุ่มอีแอบการเมือง ”ดังกล่าว ใช้วิธีหลอกให้“ แกนนำเยาวชนกลุ่มหนึ่ง” ที่ฉลาดน้อย แต่กล้าเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” และกล้าทำผิดกฎหมาย ถูกอุปโลกน์ให้ขึ้นมาเป็น “พระเอก-นางเอก”ในเกมนอกสภา ถนัดบท “กล้า-บ้าอุตลุด-ลุยทะลุฟ้า-ตามใจฉัน”

กลุ่มเยาวชนที่ถูกเชิดให้ขึ้นมา เป็น “พระเอก-นางเอก” กำมะลอ เป็น “กลุ่มแกนนำ” การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ มีหน้าที่สร้างเรื่องให้ร้ายป้ายสี โกหกลวงหลอกเยาวชนที่บริสุทธิ์ใจ และซื่อจนไม่รู้ทันในเล่ห์ร้ายของ “แกนนำม็อบกลุ่มนี้” อีกทั้งมี “กลุ่มอีแอบ” คอยยุยงให้ท้าย ผลักดันให้เคลื่อนไหวยื่นข้อเรียกร้องว่า

หนึ่ง-บิ๊กตู่ต้องออกไป! สอง-ต้องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ! ตามด้วยเป้าลวง “ต้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” โดยได้ปกปิดเป้าหมายแท้จริง ที่ “กลุ่มอีแอบ” กับ “กลุ่มแกนนำม็อบ” ต้องการ นั่นคือ “โค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์” ลงให้ได้นั่นเอง

แต่แล้ววันหนึ่ง “ความลับ” ก็แตกดังโพละ โดย “อานนท์ นำภา” หนึ่งในแกนนำเปิดเผยว่า ข้อหนึ่งกับข้อสองจะยกเลิกก็ได้นะ แต่ข้อสาม-“ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” นั้น จะต้องทำและต้องทำให้เป็นงานหลักเสียด้วยสิ
แถม “อานนท์ นำภา”ยังเผยต่ออีกว่า “เขา” ต้องการจะเปลี่ยน “ราชอาณาจักร” เป็น “สาธารณรัฐ”!

แหม..“อานนท์” น่าจะบอกด้วยว่า..ใครจะเป็น“ประธานาธิบดี”.. “เหลี่ยม”หรือ “ทอน”?!

แต่ล่าสุด หนึ่งในแกนนำการเคลื่อนไหว ที่ป่วนชาติบ้านเมืองในนาม “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” ยังทำเรื่องให้ “กลุ่มอีแอบ” และ“แกนนำม็อบบางคน” โดยเฉพาะ“กวิ้น” ถึงกับต้องประกาศตัดขาดความคิดของกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” ที่ได้เปลี่ยนแนวทางแก้ปัญหาของชาติไทย จากการเมืองประชาธิปไตยแบบตะวันตก กลับหันมาชูแนวทางของการเมืองลัทธิ “คอมมิวนิสต์” แทนเฉยเลย..(ขำว่ะ)!
ม็อบ “ร้อยชื่อ” มีแนวคิดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่อยู่กับร่องกับรอย จนได้เป็น“ม็อบเด็กเลี้ยงแกะ” ที่ยังคงเคลื่อนไหวป่วนเมืองสะเปะสะปะ ทำลายความชอบธรรมของตัวเอง จนอยู่ในสภาพม็อบหดเล็กลงเรื่อยๆ อีกทั้งกลุ่มแกนนำม็อบก็ถูกเปิดโปงมากขึ้นๆ ว่าไร้ความรู้ทางการเมืองเท่าที่ควร แถมยังถูกแฉโพยถึงการเป็นเครื่องมือให้ “กลุ่มอีแอบ” ซึ่งถูกสื่อมวลชนเผยถึงความเลวร้าย ครั้งแล้วครั้งเล่าจนล่อนจ้อน ฯลฯ
นั่นทำให้คนไทยทั้งชาติ ได้รับรู้ถึงความจริงอันชั่วร้ายว่า “ม็อบร้อยชื่อ” ที่ ก่อความวุ่นวายปั่นป่วน แถมใช้ถ้อยคำถ่อยสถุล จาบจ้วงหยามหมิ่นพระเกียรติ “สถาบันพระมหากษัตริย์” นับแต่ช่วงปี 2563 และยังประกาศจะยังคงทำชั่วเบิ้มๆต่อไปในปี 2564 อีกด้วย

เรียกว่า..เป้าหมายจริงๆ ของ“กลุ่มอีแอบ” ได้ร่วมกับ“กลุ่มแกนนำม็อบหลายคน” นั้น ต้องการจะโค่นล้ม “สถาบันพระมหากษัตริย์” ที่ประชาชนส่วนใหญ่เคารพรักเทิดทูนยิ่งชีวิต หวังให้สูญหายไปจากผืนแผ่นดินไทยอย่างถาวร เฮ้อ..ช่างอุบาทว์ชาติชั่วจริงๆ!!!

ต้องถือว่า “บิ๊กตู่”โชคดีสุดๆ ท่ามกลางสถานการณ์ “พรรคฝ่ายค้าน” แตกกันยับเยิน! แถม “กลุ่มอีแอบ” กับ “แกนนำม็อบหลายคน” กลายเป็นผู้ทำร้ายทำลายความน่าเชื่อถือของ “ม็อบ” ทำให้ผู้มาชุมนุมลดลงเรื่อยๆ เพราะ “แกนนำม็อบ” ไร้เดียงสาทางการเมือง จนทำ “ปืนลั่น” ซ้ำๆ ซากๆ ใส่ “ผู้คนในม็อบ” จน “ม็อบทำท่าจะตายก่อนวัยอันควร” เสียแล้ว!

ถามได้..ถ้า “ม็อบเด็กเลวเจ๊ง” ชาติได้อะไร? แหม..ก็ได้ “บิ๊กตู่อยู่ต่อ” กับได้ “นายกฯ ไม่ทำตามคำพูด” ต่อไปน่ะสิ(วะ)


กำลังโหลดความคิดเห็น