xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวดี‘วัคซีนโควิด’ใช้ได้ปีหน้า...หลังเตรียมเริ่มทดลองในลิง-พบผู้ป่วยใหม่เพิ่มอีก2ราย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360 - คาดว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19“ชนิด mRNA” จะมีใช้ปีหน้า ผลงานวิจัยศูนย์วัคซีน จุฬาฯร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลังประสบความสำเร็จในหนูทดลองแล้ว เตรียมทดสอบในลิงในสัปดาห์หน้า “สุวิทย์ เมษินทรีย์” เผยนายกฯ สั่งให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกผู้จัดการรายวัน360 - คาดว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19“ชนิด mRNA” จะมีใช้ปีหน้า ผลงานวิจัยศูนย์วัคซีน จุฬาฯร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลังประสบความสำเร็จในหนูทดลองแล้ว เตรียมทดสอบในลิงในสัปดาห์หน้า “สุวิทย์ เมษินทรีย์” เผยนายกฯ สั่งให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่มีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย เตรียมการผลิตวัคซีนชุดแรกกับรง.ผลิตในสหรัฐฯและแคนาดาแล้ว ศบค.แถลงไทยพบผู้ป่วย 2 ราย จากนราธิวาส ย้ำห้ามร้านเสริมสวยย้อม-ดัดผม ฝ่าฝืนปิดร้านทันที แนะผับ บาร์ หานวัตกรรม-ดีไซน์ร้าน รองรับหลังคลายล็อก

วานนี้ (19 พ.ค.) ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า มีข่าวดีสำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด –19 ล่าสุดงานวิจัย “วัคซีนชนิด mRNA” ที่ศูนย์วัคซีนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ อว.มอบให้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รับผิดชอบ ประสบความสำเร็จในระดับดี หลังทดสอบในหนูทดลองแล้ว โดยผลการคัดกรองเบื้องต้นที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ พบว่า ให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า Neutralizing antibody ในระดับที่สูงถึง 1: 3000 ทั้งนี้ กำลังเตรียมจะทดสอบในลิงในประเทศไทยสัปดาห์หน้าต่อไป ขณะที่ปัจจุบัน มีวัคซีนต้นแบบที่เข้าทดสอบในสัตว์ทดลองมากกว่า 150 ชนิดและอย่างน้อยมี 10 ชนิดที่เริ่มทำการทดสอบในอาสาสมัครแล้วอย่างน้อย 5 ประเทศ คือ จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน และแคนาดา

ขณะเดียวกัน ได้ประสานเตรียมการผลิตวัคซีนชุดแรกกับโรงงานผลิตในประเทศสหรัฐฯและแคนาดา เพื่อนำมาใช้ทดสอบในคนตามขั้นตอนมาตรฐานสากล รวมทั้งได้ประสานกับบริษัท Bionet Asia ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของไทย เตรียมการในการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากโรงงานผลิตวัคซีนต้นแบบ ซึ่งเชื่อว่าจะสำเร็จจนถึงขั้นสุดท้าย คือ ประเทศไทย สามารถผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยี mRNA ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่มากที่สุดในประเทศไทย และนำมาใช้ช่วยคนไทยในการป้องกันโควิด – 19 ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน ให้ประเทศไทยดำเนินการเรื่องวัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อมีวัคซีนโรคโควิด-19 ใช้แล้ว ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่มีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย

วานนี้ (19พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,033 ราย หายป่วยสะสม 2,857 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 56 ราย อยู่ระหว่างรักษา 120 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย มาจาก จ.นราธิวาส เชื่อมโยงกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จากการสอบประวัติอาศัยอยู่ในบ้านกันแค่ 2 คน ไม่มีผู้สัมผัสใกล้ชิดรายอื่น

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 จนถึงวันที่ 18 พ.ค. จำนวน 3,031 ราย มาจากการขอเข้าไปตรวจเอง 1,585 ราย หรือ 52 % รองลงมาคือ ติดตามผู้สัมผัส 1,186 ราย หรือ 39 % จะเห็นว่าหลังจากเราปรับเกณฑ์การเข้าตรวจเชื้อให้ง่ายขึ้น ทำให้มีผู้เดินทางมาตรวจมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 4,891,330 เสียชีวิต 320,134 ราย ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยตกค้างกลับประเทศในวันที่ 19 พ.ค. จะมีคนไทยกลับจากเนเธอร์แลนด์ 34 ราย ฝรั่งเศส 40 ราย ญี่ปุ่น 61 ราย จีน 33 ราย สหรัฐอเมริกา 216 ราย และวันที่ 20 พ.ค. รัสเซีย 78 ราย อาร์เจนติน่า อุรุกวัย บราซิล ซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษา 58 ราย อินเดีย 219 ราย และชิลี 7 ราย

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีร้านเสริมสวยเริ่มให้บริการ ดัด ย้อม ซึ่งนอกเหนือไปจากตัด สระ ไดร์ ที่ ศบค.อนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า อนุญาตให้เฉพาะตัด สระ ไดร์ ส่วนการดัดและย้อม ต้องใช้เวลาทำมากกว่า 2 ชม. จึงยังไม่ได้รับอนุญาต ส่วนธุรกิจสถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการระบาดสูง จึงจัดไว้ให้อยู่ในกิจการ/กิจกรรม หลังๆ ที่จะเปิด ๆ ที่มีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย เตรียมการผลิตวัคซีนชุดแรกกับรง.ผลิตในสหรัฐฯและแคนาดาแล้ว ศบค.แถลงไทยพบผู้ป่วย 2 ราย จากนราธิวาส ย้ำห้ามร้านเสริมสวยย้อม-ดัดผม ฝ่าฝืนปิดร้านทันที แนะผับ บาร์ หานวัตกรรม-ดีไซน์ร้าน รองรับหลังคลายล็อก

วานนี้ (19 พ.ค.) ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า มีข่าวดีสำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด –19 ล่าสุดงานวิจัย “วัคซีนชนิด mRNA” ที่ศูนย์วัคซีนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ อว.มอบให้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รับผิดชอบ ประสบความสำเร็จในระดับดี หลังทดสอบในหนูทดลองแล้ว โดยผลการคัดกรองเบื้องต้นที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ พบว่า ให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า Neutralizing antibody ในระดับที่สูงถึง 1: 3000 ทั้งนี้ กำลังเตรียมจะทดสอบในลิงในประเทศไทยสัปดาห์หน้าต่อไป ขณะที่ปัจจุบัน มีวัคซีนต้นแบบที่เข้าทดสอบในสัตว์ทดลองมากกว่า 150 ชนิดและอย่างน้อยมี 10 ชนิดที่เริ่มทำการทดสอบในอาสาสมัครแล้วอย่างน้อย 5 ประเทศ คือ จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน และแคนาดา

ขณะเดียวกัน ได้ประสานเตรียมการผลิตวัคซีนชุดแรกกับโรงงานผลิตในประเทศสหรัฐฯและแคนาดา เพื่อนำมาใช้ทดสอบในคนตามขั้นตอนมาตรฐานสากล รวมทั้งได้ประสานกับบริษัท Bionet Asia ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของไทย เตรียมการในการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากโรงงานผลิตวัคซีนต้นแบบ ซึ่งเชื่อว่าจะสำเร็จจนถึงขั้นสุดท้าย คือ ประเทศไทย สามารถผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยี mRNA ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่มากที่สุดในประเทศไทย และนำมาใช้ช่วยคนไทยในการป้องกันโควิด – 19 ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน ให้ประเทศไทยดำเนินการเรื่องวัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อมีวัคซีนโรคโควิด-19 ใช้แล้ว ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่มีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย

วานนี้ (19พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,033 ราย หายป่วยสะสม 2,857 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 56 ราย อยู่ระหว่างรักษา 120 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย มาจาก จ.นราธิวาส เชื่อมโยงกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จากการสอบประวัติอาศัยอยู่ในบ้านกันแค่ 2 คน ไม่มีผู้สัมผัสใกล้ชิดรายอื่น

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 จนถึงวันที่ 18 พ.ค. จำนวน 3,031 ราย มาจากการขอเข้าไปตรวจเอง 1,585 ราย หรือ 52 % รองลงมาคือ ติดตามผู้สัมผัส 1,186 ราย หรือ 39 % จะเห็นว่าหลังจากเราปรับเกณฑ์การเข้าตรวจเชื้อให้ง่ายขึ้น ทำให้มีผู้เดินทางมาตรวจมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 4,891,330 เสียชีวิต 320,134 ราย ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยตกค้างกลับประเทศในวันที่ 19 พ.ค. จะมีคนไทยกลับจากเนเธอร์แลนด์ 34 ราย ฝรั่งเศส 40 ราย ญี่ปุ่น 61 ราย จีน 33 ราย สหรัฐอเมริกา 216 ราย และวันที่ 20 พ.ค. รัสเซีย 78 ราย อาร์เจนติน่า อุรุกวัย บราซิล ซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษา 58 ราย อินเดีย 219 ราย และชิลี 7 ราย

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีร้านเสริมสวยเริ่มให้บริการ ดัด ย้อม ซึ่งนอกเหนือไปจากตัด สระ ไดร์ ที่ ศบค.อนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า อนุญาตให้เฉพาะตัด สระ ไดร์ ส่วนการดัดและย้อม ต้องใช้เวลาทำมากกว่า 2 ชม. จึงยังไม่ได้รับอนุญาต ส่วนธุรกิจสถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการระบาดสูง จึงจัดไว้ให้อยู่ในกิจการ/กิจกรรม หลังๆ ที่จะเปิด


กำลังโหลดความคิดเห็น