วานนี้ (24 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 นัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆ ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน และโฆษกกรรมาธิการ รวมทั้งวางกรอบการทำงาน โดยที่ประชุมมีมติเลือก นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธานกรรมาธิการ และรองประธาน มีทั้งสิ้น 19 คน อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองประธาน คนที่ 1, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รองประธาน คนที่ 2, นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นรองประธาน คนที่ 3, นายวราเทพ รัตนากร รองประธาน คนที่ 4 และ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ รองประธานคนที่ 5 เป็นต้น
** ตั้ง 13 เลขาฯ 14 โฆษก - “ธนาธร” ที่ปรึกษา
ส่วนตำแหน่งเลขานุการฯ มีทั้งสิ้น 13 คน อาทิ นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ, นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น ขณะที่ตำแหน่งโฆษกฯ มี 14 คน อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายศรัณวุฒิ ศรัณเกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย, นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย และ นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธาน กมธ. ส่วน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมทีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว และมีประเด็นเรื่องคุณสมบัติการเป็น กมธ. ได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา กมธ.
ทั้งนี้ ที่ประชุมกรรมาธิการได้กำหนดวันแปรญัตติ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 28 ต.ค.-13 ธ.ค.62 ซึ่งจะมีการประชุมวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ โดยในวันจันทร์ และวันอังคาร จะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 13.00-22.00 น. ส่วนวันพุธ และวันพฤหัสบดี จะเริ่มเวลา 09.00-18.00 น. ขณะที่วันศุกร์ จะเริ่มประชุมเวลา 09.00-17.00 น.
**ผอ.สำนักงบฯถอนตัวเลขาฯทำเอาวุ่น
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากการเลือกตำแหน่งประธานเสร็จแล้ว ได้มีการพิจารณาตำแหน่งเลขานุการกรรมาธิการ โดยนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กรรมาธิการ ได้เสนอชื่อ นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผอ.สำนักงบประมาณ เป็นเลขานุการ แต่นายเดชา ได้ขอถอนตัว โดยไม่บอกเหตุผล แต่จะเป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณอย่างเดียว ทำให้ฝ่ายรัฐบาล เสนอชื่อ นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพียงชื่อเดียว จึงถูกโต้แย้งว่า ที่ผ่านมาตำแหน่งเลขานุการฯ เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ หากให้ฝ่ายการเมืองมายุ่งเกี่ยว อาจทำให้ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยเรื่องห้ามไม่ให้ ส.ส.มีส่วนในการใช้งงบประมาณรายจ่าย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมหรือไม่
ขณะที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้มีตำแหน่งเลขานุการเท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องมีตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการอีก และต้องมีฝ่ายค้านด้วย ที่ประชุมจึงมีการเสนอชื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย รวม 3 คน แต่ที่ประชุมยังถกเถียงกัน ทำให้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ พยายามไกล่เกลี่ยให้มีตัวแทนจากทุกพรรค เป็นเลขานุการ แต่หากมีเอกสารอะไร ก็จะให้นายสันติ เป็นคนเซ็นชื่อเพียงคนเดียว โดยใช้เวลาถกเถียงในประเด็นนี้กันนานถึง 1.30 ชม. ก่อนมีข้อยุติ โดยไม่มีเหตุผลประกอบ
** “ธนาธร” พร้อมออกหากขาดคุณสมบัติ
ด้าน นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมถึงกรณีคุณสมบัติการร่วมเป็น กมธ.วิสามัญร่วมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯว่า รายชื่อของตนมาในสัดส่วนของบุคคลภายนอกของพรรคอนาคตใหม่ ได้รับการเสนอชื่อและรับรองจากที่ประชุมสภาฯแล้ว หากใครสงสัยก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนมีข้อโต้แย้งว่าตนยังมีสถานะเป็น ส.ส.ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แล้วจะสามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนนอกได้อย่างไร ตนมองว่าในอดีตเคยมีคนถูกตัดสิทธิ์แล้วเข้าไปเป็น กมธ.มาก่อน คนที่คิดว่าตนยังมีปัญหาก็ให้ยื่นเรื่องมาที่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ หากผลตัดสินออกมาอย่างไร ตนก็ว่าอย่างนั้น เช่นเดียวกับกรณีที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากผลออกมาเป็นลบ ก็คงก็ไม่มีอะไร เพียงแค่เดินออกมาก็จบ ไม่ได้ซีเรียสอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเห็นว่าการตั้งนายธนาธร เข้ามาเป็น กมธ. เพื่อวางยาให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯเป็นโมฆะหรือไม่ นายธนาธร กล่าวพร้อมหัวเราะว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เพิ่งตั้งขึ้นมา ประสบการณ์การทำงานในสภาฯ หรือประสบการณ์ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มีน้อย จึงมีความตั้งใจที่อยากจะส่งเสริมตนให้ได้มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานด้านงบประมาณมากขึ้น เพื่อเรียนรู้ในกระบวนการต่างๆเผื่อวันหน้าจะได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล และเข้าใจเกี่ยวกับกลไกด้านงบประมาณ
** “วิษณุ” แย้มเป็นได้-แต่ไม่ฟันธง
วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคุณสมบัติของ นายธนาธร ทีเป็น กมธ.วิสามัญว่า กมธ.วิสามัญ เป็นได้ทั้งบุคคลภายนอกและ ส.ส. เช่น นายวราเทพ รัตนากร กมธ.วิสามัญ ในโควตาคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่สภาฯ จะแต่งตั้งมอบหมาย สภาฯ ต้องไปว่ากันเอง ทั้งนี้ ประธานสภาฯ จะต้องชี้ขาด หากชี้ขาดไปแล้วไม่เป็นที่ยุติ จะไปกระบวนการอื่น ก็สุดแล้วแต่ แม้ทุกเรื่องจะไปจบที่ศาลรธน. เพราะไม่สามารถจบในขั้นต้นได้ ในอดีตเคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว ที่มีผู้ถูกสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ แล้วมาเป็นกมธ.วิสามัญ ที่ตนอธิบายคือหลักการ ซึ่งคนนอก หรือคนใน ในกมธ.วิสามัญไม่มีอะไรแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องเบี้ยประชุม สิทธิการโหวตในกมธ.วิสามัญ ก็เท่ากัน แต่ เมื่อเข้าสู่วาระ 2 และ วาระ 3 ในสภาฯ กมธ.วิสามัญไม่สามารถโหวตได้ ไม่ว่าจะเป็นส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส.ก็ตาม
** “สิระ” ยื่นประธานสภาฯ-ศาล รธน.
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภาฯ รวมทั้งยื่นต่อ กมธ.งบประมาณ โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยและตรวจสอบว่า นายธนาธร มีคุณสมบัติเป็น กมธ.วิสามัญ ได้หรือไม่ จากนั้นได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความเรื่องนี้ด้วย
อีกด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาฯ แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้เรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มาชี้แจงในวันที่ 30 พ.ย. เพื่อมาให้ข้อมูลเรื่องถวายสัตย์ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ นอกจากนั้น เห็นว่าคณะรัฐมนตรีไม่มีอำนาจส่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ให้สภาฯพิจารณาได้ เพราะยังไม่มีการวินิจฉัยว่ารัฐมนตรีถวายสัตย์ครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 หรือไม่ ซึ่งตนได้ทักท้วงต่อประธานที่ประชุมแล้วว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย.
** ตั้ง 13 เลขาฯ 14 โฆษก - “ธนาธร” ที่ปรึกษา
ส่วนตำแหน่งเลขานุการฯ มีทั้งสิ้น 13 คน อาทิ นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ, นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น ขณะที่ตำแหน่งโฆษกฯ มี 14 คน อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายศรัณวุฒิ ศรัณเกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย, นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย และ นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธาน กมธ. ส่วน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมทีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว และมีประเด็นเรื่องคุณสมบัติการเป็น กมธ. ได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา กมธ.
ทั้งนี้ ที่ประชุมกรรมาธิการได้กำหนดวันแปรญัตติ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 28 ต.ค.-13 ธ.ค.62 ซึ่งจะมีการประชุมวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ โดยในวันจันทร์ และวันอังคาร จะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 13.00-22.00 น. ส่วนวันพุธ และวันพฤหัสบดี จะเริ่มเวลา 09.00-18.00 น. ขณะที่วันศุกร์ จะเริ่มประชุมเวลา 09.00-17.00 น.
**ผอ.สำนักงบฯถอนตัวเลขาฯทำเอาวุ่น
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากการเลือกตำแหน่งประธานเสร็จแล้ว ได้มีการพิจารณาตำแหน่งเลขานุการกรรมาธิการ โดยนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กรรมาธิการ ได้เสนอชื่อ นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผอ.สำนักงบประมาณ เป็นเลขานุการ แต่นายเดชา ได้ขอถอนตัว โดยไม่บอกเหตุผล แต่จะเป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณอย่างเดียว ทำให้ฝ่ายรัฐบาล เสนอชื่อ นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพียงชื่อเดียว จึงถูกโต้แย้งว่า ที่ผ่านมาตำแหน่งเลขานุการฯ เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ หากให้ฝ่ายการเมืองมายุ่งเกี่ยว อาจทำให้ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยเรื่องห้ามไม่ให้ ส.ส.มีส่วนในการใช้งงบประมาณรายจ่าย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมหรือไม่
ขณะที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้มีตำแหน่งเลขานุการเท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องมีตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการอีก และต้องมีฝ่ายค้านด้วย ที่ประชุมจึงมีการเสนอชื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย รวม 3 คน แต่ที่ประชุมยังถกเถียงกัน ทำให้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ พยายามไกล่เกลี่ยให้มีตัวแทนจากทุกพรรค เป็นเลขานุการ แต่หากมีเอกสารอะไร ก็จะให้นายสันติ เป็นคนเซ็นชื่อเพียงคนเดียว โดยใช้เวลาถกเถียงในประเด็นนี้กันนานถึง 1.30 ชม. ก่อนมีข้อยุติ โดยไม่มีเหตุผลประกอบ
** “ธนาธร” พร้อมออกหากขาดคุณสมบัติ
ด้าน นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมถึงกรณีคุณสมบัติการร่วมเป็น กมธ.วิสามัญร่วมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯว่า รายชื่อของตนมาในสัดส่วนของบุคคลภายนอกของพรรคอนาคตใหม่ ได้รับการเสนอชื่อและรับรองจากที่ประชุมสภาฯแล้ว หากใครสงสัยก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนมีข้อโต้แย้งว่าตนยังมีสถานะเป็น ส.ส.ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แล้วจะสามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนนอกได้อย่างไร ตนมองว่าในอดีตเคยมีคนถูกตัดสิทธิ์แล้วเข้าไปเป็น กมธ.มาก่อน คนที่คิดว่าตนยังมีปัญหาก็ให้ยื่นเรื่องมาที่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ หากผลตัดสินออกมาอย่างไร ตนก็ว่าอย่างนั้น เช่นเดียวกับกรณีที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากผลออกมาเป็นลบ ก็คงก็ไม่มีอะไร เพียงแค่เดินออกมาก็จบ ไม่ได้ซีเรียสอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเห็นว่าการตั้งนายธนาธร เข้ามาเป็น กมธ. เพื่อวางยาให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯเป็นโมฆะหรือไม่ นายธนาธร กล่าวพร้อมหัวเราะว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เพิ่งตั้งขึ้นมา ประสบการณ์การทำงานในสภาฯ หรือประสบการณ์ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มีน้อย จึงมีความตั้งใจที่อยากจะส่งเสริมตนให้ได้มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานด้านงบประมาณมากขึ้น เพื่อเรียนรู้ในกระบวนการต่างๆเผื่อวันหน้าจะได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล และเข้าใจเกี่ยวกับกลไกด้านงบประมาณ
** “วิษณุ” แย้มเป็นได้-แต่ไม่ฟันธง
วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคุณสมบัติของ นายธนาธร ทีเป็น กมธ.วิสามัญว่า กมธ.วิสามัญ เป็นได้ทั้งบุคคลภายนอกและ ส.ส. เช่น นายวราเทพ รัตนากร กมธ.วิสามัญ ในโควตาคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่สภาฯ จะแต่งตั้งมอบหมาย สภาฯ ต้องไปว่ากันเอง ทั้งนี้ ประธานสภาฯ จะต้องชี้ขาด หากชี้ขาดไปแล้วไม่เป็นที่ยุติ จะไปกระบวนการอื่น ก็สุดแล้วแต่ แม้ทุกเรื่องจะไปจบที่ศาลรธน. เพราะไม่สามารถจบในขั้นต้นได้ ในอดีตเคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว ที่มีผู้ถูกสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ แล้วมาเป็นกมธ.วิสามัญ ที่ตนอธิบายคือหลักการ ซึ่งคนนอก หรือคนใน ในกมธ.วิสามัญไม่มีอะไรแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องเบี้ยประชุม สิทธิการโหวตในกมธ.วิสามัญ ก็เท่ากัน แต่ เมื่อเข้าสู่วาระ 2 และ วาระ 3 ในสภาฯ กมธ.วิสามัญไม่สามารถโหวตได้ ไม่ว่าจะเป็นส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส.ก็ตาม
** “สิระ” ยื่นประธานสภาฯ-ศาล รธน.
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภาฯ รวมทั้งยื่นต่อ กมธ.งบประมาณ โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยและตรวจสอบว่า นายธนาธร มีคุณสมบัติเป็น กมธ.วิสามัญ ได้หรือไม่ จากนั้นได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความเรื่องนี้ด้วย
อีกด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาฯ แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้เรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มาชี้แจงในวันที่ 30 พ.ย. เพื่อมาให้ข้อมูลเรื่องถวายสัตย์ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ นอกจากนั้น เห็นว่าคณะรัฐมนตรีไม่มีอำนาจส่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ให้สภาฯพิจารณาได้ เพราะยังไม่มีการวินิจฉัยว่ารัฐมนตรีถวายสัตย์ครบถ้วนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 หรือไม่ ซึ่งตนได้ทักท้วงต่อประธานที่ประชุมแล้วว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย.