xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯปลื้มพรรคร่วมรัฐบาลชนะเลือกตั้ง “บิ๊กป้อม”คึกขอส่งผู้สมัครยึดส.ส.ขอนแก่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“บิ๊กตู่” ยินดี “เผดิมชัย” ชนะเลือกตั้งเขต 5 นครปฐม ชี้เป็นความต้องการของ ปชช.ตามกระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ปัดวิจารณ์ผู้แพ้ "ประวิตร" ยินดีอีกคน ยัน พปชร.พร้อมส่งคนชิงเก้าอี้ ส.ส.ขอนแก่น ขยายพื้นที่อีสานเพิ่ม “สนธิรัตน์" ชี้ ปชช.เชื่อมั่นรัฐบาล หนุนแก้ปากท้อง “ธนาธร” รับผิดหวังหลังแพ้ที่สามพราน เพ้อหนักดาบต้องไม่มีสนิม 2.8 หมื่นเสียงเป็นเหล็กเนื้อดี โวย อนค.ได้ ส.ส.น้อยกว่าจำนวนพึงมี วอนนัก ก.ม.มหาชนช่วยส่อง รธน. "เทพไท" จี้ กกต.ประกาศจำนวน ส.ส.ใหม่ ไขข้อข้องใจ

จากกรณีที่ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา ชนะการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตเลือกตั้งที่ 5 จ.นครปฐม โดยมีคะแนนมากกว่าผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ เจ้าของที่นั่งเดิม จากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น

วานนี้ (24 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับนายเผดิมชัยว่า ในฐานะนายกฯและหัวหน้ารัฐบาล ได้ทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ก็ต้องแสดงความยินดีกับพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ถือเป็นความไว้วางใจของประชาชนในพื้นที่ตามกระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ส่วนจะสะท้อนความนิยมของรัฐบาลหรือไม่ คงเอาแค่การเลือกตั้งครั้งนี้ครั้งเดียวมาเป็นเกณฑ์ตัดสินไม่ได้ รัฐบาลก็มีหน้าที่ของรัฐบาล ต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จะสะท้อนกระแสของพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ตนไม่ขอไปก้าวล่วงพรรคใดทั้งสิ้น

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมที่มีการมองว่าอาจเป็นเพราะผลงานของรัฐบาลว่า ก็แล้วแต่จะคิด ถ้าคิดว่าดีก็ดี แต่ถ้าคิดว่าไม่ดีก็ไม่ดี แล้วแต่พื้นที่ มองว่าทุกพรรคการเมืองก็ร่วมมือกันทำงาน และมีความตั้งใจทำงานให้กับประชาชน รัฐบาลก็พยายามทำงานให้กับประชาชน

เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของ จ.ขอนแก่น หากมีการตัดสินให้มีการเลือกตั้งใหม่ พรรคพลังประชารัฐ จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวตอบทันทีว่า “ลงสิ พลังประชารัฐอยากได้ที่นั่งทางภาคอีสานเพิ่ม”

ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายเผดิมชัยที่ทำการบ้านลงพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้ยังสะท้อนว่า ประชาชนให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินหน้าผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง ประชาชนจึงเลือกพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น

อีกด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยถึงผลเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จ.นครปฐมว่า ขอยอมรับความพ่ายแพ้และรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดา ต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคชาติไทยพัฒนาที่ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนสาเหตุที่แพ้เลือกตั้ง อยู่ระหว่างรอทีมงานทำคำชี้แจงเพื่อนำไปปรับปรุงพรรคเข้มแข็งต่อไป แต่ไม่ได้ตกใจกับผลที่เกิดขึ้น เพราะพรรคก่อตั้งเพื่อต่อสู้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นผลการเลือกตั้งที่นครปฐม หรือกรณี ส.ส.หลายคนที่ไม่ทำตามมติพรรคนั้น พรรคยังคงเดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อไปอย่างมั่นคง

“กาลเวลาเปรียบเสมือนไฟ การจะต่อสู้กับเผด็จการและอำนาจที่ไม่เป็นธรรมได้ ดาบต้องไม่มีสนิม เมื่อผ่านกาลเวลา ไฟเหล่านี้จะเอาสนิมออกจากดาบเอง ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า 28,000 กว่าเสียงที่นครปฐมเป็นเหล็กเนื้อดี เช่นเดียวกับ ส.ส.ของพรรคอีก 70 คน ดังนั้นกาลเวลาจะทำให้เรากล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่มีความกังวลใจอะไร ล้มเพื่อลุก ต่อให้พวกเราจะถูกซื้อทั้งหมดจนเหลือแค่ธนาธรกับปิยบุตร (แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่) เราก็จะลุกขึ้นมาและทำงานทางการเมืองต่อไป เพื่อให้ได้สังคมอย่างที่ใฝ่ฝัน" นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุการเลือกตั้งซ่อมนครปฐมในครั้งนี้จะไม่นำคะแนนที่ได้ไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งแทน ส.ส.ที่ลาออก ไม่ใช่เกิดกรณีทุจริตการเลือกตั้งว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 191 (3) ระบุว่า ให้นำจำนวน ส.ส.ที่พรรคพึงมีพึงได้ ลบด้วยสมาชิก ส.ส.ที่พรรคนั้นได้ในแบบแบ่งเขต ที่เหลือเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่การเลือกตั้งที่ จ.นครปฐม ไม่ได้นำคะแนนจากการเลือกตั้งซ่อมในนครปฐมมารวม เพราะไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อมที่เกิดจากการทุจริต ดังนั้นจึงใช้กระดานเดิมในการคำนวณ ส.ส.พึงมีของพรรคอนาคตใหม่ยังมี 81 คน แต่ ส.ส.ปัจจุบันมีเพียง 80 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (3) จึงอยากฝากนักกฎหมายมหาชนทั่วประเทศช่วยไตร่ตรองดูว่า ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับต่อไปของพรรคอนาคตใหม่จะได้เป็น ส.ส.หรือไม่ เพราะขณะนี้บางพรรคมี ส.ส.มากกว่าจำนวน ส.ส.พึงมี

สอดคล้องกับ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องคิดคำนวนและประกาศจำนวนที่นั่ง ส.ส.ของแต่ละพรรคกันใหม่ เพราะพรรคอนาคตใหม่ที่มีจำนวน ส.ส.พึงมี 81 คน แต่ ส.ส.เขตหายไป 1 คน แต่พรรคชาติไทยพัฒนาได้ ส.ส.เขตเพิ่มมา 1 คน ทำให้ ส.ส.รวม 11 คน เกินจำนวนพึงมีที่มีอยู่ 10 คน จะต้องลดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อลงหรือไม่ นับว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่งของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น