"สมคิด" กำชับผู้เกี่ยวข้องประเมินผล "ชิม ช้อป ใช้" ก่อนเดินหน้าเฟส 2 ที่ต้องลงถึง ศก.ฐานราก-ครอบคลุม ศก.ชุมชนมากที่สุด ฝากการบ้าน “ภาคท่องเที่ยว” ผลักดันเศรษฐกิจไตรมาส 4 เหตุส่งออกยังไม่เอื้อ “อุตตม” รับลูกลั่นเฟส 2 ต้องเข้าถึงร้านค้า 1 แสนรายของ “ออมสิน - ธ.ก.ส.” ขณะที่ “พิพัฒน์” จับ “ชิมช้อปใช้” เชื่อม 2 โปรเจ็คต์ท่องเที่ยวท้ายปี
วานนี้ (3 ต.ค.) ที่กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของปี 2562 ร่วมกับ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นายยุทธศักดิ์ สุภกร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน, นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.) และนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
ภายหลังการประชุม นายสมคิดเปิดเผยว่า ได้คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของปี 62 น่าจะมีความคล้ายคลึงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่รัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจช่วงไตรมาส 4 เป็นไตรมาสแห่งการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ในช่วงเวลานี้จึงต้องการให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยวเพื่อใช้เป็นหลักยึดเศรษฐกิจท่ามกลางปัญหาภาคการส่งออกที่ไม่ค่อยดี และภาคการเมืองก็ยังมีปัญหาค่อนข้างยุ่งยากจากการโจมตีกันไปมา ทั้งนี้ได้ให้แนวทางในการแผนสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการจัดงานประชุมสัมมนาที่กำหนดการจัดงานในช่วงปลายปี 62 และต้นปี 63 ให้มาเป็นปี 62 ทั้งหมด โดยควรไปจัดในแหล่งท่องเที่ยว หากทำได้จริงก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ระบบการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น
ในส่วนของมาตรการชิมช้อปใช้นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ แม้จะมีข้อบกพร่องบ้าง ซึ่งได้สั่งการให้ประเมินผลดี รวมทั้งแก้ไขจุดอ่อนเพื่อเสริมความเข้มแข็งของโครงการไปแล้ว และยังได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องกลับไปพิจารณาล่วงหน้าถึงการขยายผลมาตราการในเฟส 2 เพื่อให้ถึงฐานรากได้อย่างกว้างขวาง และมีความครอบคลุมเศรษฐกิจชุมชนให้ได้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และให้มีความต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4 ด้วย จึงต้องให้ความสำคัญกับร้านค้าชุมชนและร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว และต้องการให้การดำเนินโครงการนี้เป็นเหมือนกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย
“ยกตัวอย่างกรณีของ ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส.ได้เสนอว่า ต้องครอบคลุมร้านค้าชุมชน และร้านค้าขนาดเล็ก ที่เป็นลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร ซึ่งมีทั้งสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวนับเป็นแสนรายทั่วประเทศ ให้สามารถเข้ามาอยู่ในเครือข่ายนี้ได้ รวมทั้งให้มาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 สามารถเชื่อมโยงกับมาตรการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทยของ ททท. ได้ด้วย” นายสมคิด ระบุ
ด้าน นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลัง จะเร่งพิจารณาขยายโครงการชิมช้อปใช้ เฟส 2 นอกจากจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้นแล้ว ยังจะเปิดโอกาสให้ร้านค้าชุมชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย โดยเฉพาะเครือข่ายร้านค้าชุมชนที่เป็นลูกค้า ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส. กว่า 1 แสนรายด้วย
ขณะที่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้จัดโครงการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทย กับเที่ยววันธรรมดาราคาช็อคโลก เพื่อเสริมมาตรการชิมช้อปใช้ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยในวันที่ 11 เดือน 11 (พ.ย.) จะเริ่มดำเนินการออกแพ็กเกจจำนวน 2 หมื่นแพ็กเกจ และในวันที่ 12 เดือน 12 (ธ.ค.) จะออกเพิ่มอีก 2 แพ็กเกจ สำหรับในส่วนของโครงการเที่ยววันธรรมดาราคาช็อคโลกนั้น ททท. กำลังประสานงานกับผู้ประกอบการศูนย์การค้าถึงการให้ส่วนลดพิเศษตามโครงการดังกล่าวนี้
วานนี้ (3 ต.ค.) ที่กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของปี 2562 ร่วมกับ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นายยุทธศักดิ์ สุภกร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน, นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.) และนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
ภายหลังการประชุม นายสมคิดเปิดเผยว่า ได้คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของปี 62 น่าจะมีความคล้ายคลึงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่รัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจช่วงไตรมาส 4 เป็นไตรมาสแห่งการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ในช่วงเวลานี้จึงต้องการให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยวเพื่อใช้เป็นหลักยึดเศรษฐกิจท่ามกลางปัญหาภาคการส่งออกที่ไม่ค่อยดี และภาคการเมืองก็ยังมีปัญหาค่อนข้างยุ่งยากจากการโจมตีกันไปมา ทั้งนี้ได้ให้แนวทางในการแผนสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการจัดงานประชุมสัมมนาที่กำหนดการจัดงานในช่วงปลายปี 62 และต้นปี 63 ให้มาเป็นปี 62 ทั้งหมด โดยควรไปจัดในแหล่งท่องเที่ยว หากทำได้จริงก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ระบบการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น
ในส่วนของมาตรการชิมช้อปใช้นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ แม้จะมีข้อบกพร่องบ้าง ซึ่งได้สั่งการให้ประเมินผลดี รวมทั้งแก้ไขจุดอ่อนเพื่อเสริมความเข้มแข็งของโครงการไปแล้ว และยังได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องกลับไปพิจารณาล่วงหน้าถึงการขยายผลมาตราการในเฟส 2 เพื่อให้ถึงฐานรากได้อย่างกว้างขวาง และมีความครอบคลุมเศรษฐกิจชุมชนให้ได้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และให้มีความต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4 ด้วย จึงต้องให้ความสำคัญกับร้านค้าชุมชนและร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว และต้องการให้การดำเนินโครงการนี้เป็นเหมือนกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย
“ยกตัวอย่างกรณีของ ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส.ได้เสนอว่า ต้องครอบคลุมร้านค้าชุมชน และร้านค้าขนาดเล็ก ที่เป็นลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร ซึ่งมีทั้งสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวนับเป็นแสนรายทั่วประเทศ ให้สามารถเข้ามาอยู่ในเครือข่ายนี้ได้ รวมทั้งให้มาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 สามารถเชื่อมโยงกับมาตรการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทยของ ททท. ได้ด้วย” นายสมคิด ระบุ
ด้าน นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลัง จะเร่งพิจารณาขยายโครงการชิมช้อปใช้ เฟส 2 นอกจากจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้นแล้ว ยังจะเปิดโอกาสให้ร้านค้าชุมชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย โดยเฉพาะเครือข่ายร้านค้าชุมชนที่เป็นลูกค้า ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส. กว่า 1 แสนรายด้วย
ขณะที่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้จัดโครงการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทย กับเที่ยววันธรรมดาราคาช็อคโลก เพื่อเสริมมาตรการชิมช้อปใช้ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยในวันที่ 11 เดือน 11 (พ.ย.) จะเริ่มดำเนินการออกแพ็กเกจจำนวน 2 หมื่นแพ็กเกจ และในวันที่ 12 เดือน 12 (ธ.ค.) จะออกเพิ่มอีก 2 แพ็กเกจ สำหรับในส่วนของโครงการเที่ยววันธรรมดาราคาช็อคโลกนั้น ททท. กำลังประสานงานกับผู้ประกอบการศูนย์การค้าถึงการให้ส่วนลดพิเศษตามโครงการดังกล่าวนี้