xs
xsm
sm
md
lg

25พ.ย.วันชี้ชะตา“โอ๊ค” คดีฟอกเงิน จะหนี !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ถือว่าแทบจะได้เวลาปิดการพิจารณาคดีฟอกเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "พานทองแท้" หรือ โอ๊ค ชินวัตร อายุ 40 ปี บุตรชายคนโตของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2558 โดยอัยการได้ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา จากกรณีที่ พานทองแท้ รับโอนเงินเป็นเช็กจำนวน 10 ล้านบาท จาก "รัชฎา กฤษดาธานนท์" เข้าบัญชี ซึ่งมีการกล่าวหาว่า เงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำทุจริตจากการปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยกับเอกชน กลุ่มกฤษดามหานคร
โดยคดีนี้ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาถึงที่สุด จำคุกอดีตผู้บริหารของกลุ่มกฤษดามหานคร คนละ 12 ปี เช่น วิชัย กฤษดาธานนท์ และรัชฎา กฤษดาธานนท์ พร้อมกับพวก อย่างไรก็ดีสำหรับ วิชัย และ รัชฎา ยังถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฟอกเงิน จากการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบเช่นเดียวกันด้วย
โดยเมื่อ วันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยเพียงปากเดียว และถือเป็นนัดสุดท้าย โดยเขาอ้างว่าเงินจำนวน 10 ล้านบาทดังกล่าว เป็นการโอนเงินเพื่อร่วมกันทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรูจากต่างประเทศ โดยศาลได้ซักถามเกี่ยวกับ ธุรกิจของครอบครัวจำเลย และเกี่ยวโยงไปถึงบุคคลใกล้ชิดในครอบครัว เช่น ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมไปถึงรายได้ของจำเลย เป็นต้น
**หลังจากนั้นศาลเห็นว่าได้ไต่สวนพยานครบถ้วนเพียงพอที่จะวินิจฉัยคดีได้แล้ว จึงนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ ตามกำหนดเดิมคือ วันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น.โดยให้คู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงปิดคดีภายใน 30 วัน
เมื่อเป็นแบบนี้ในความหมายมันก็ไม่ต่างจากการ “นับถอยหลัง”สำหรับ พานทองแท้ ชินวัตร เพราะเมื่อมีการกำหนดวัน และเวลาสำหรับการ “พิพากษา”ออกมาแล้ว ทุกอย่างก็ต้องถือว่าลุ้นระทึก เพราะงานนี้มีทางเลือกอยู่สองทางคือ “คุกหรือไม่คุก”เท่านั้น
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาตามรูปการแล้วก็ต้องบอกว่า น่าหวาดเสียวยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบทางด้านคดี รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องที่ถูกฟ้องในคดีที่เชื่อมโยงกัน เช่น คดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ที่ “โดน” กันระนาว ถูกจำคุกกันคนละหลายปี
แม้ว่าในกรณีของ พานทองแท้ ชินวัตร ที่ถูกฟ้องในคดีร่วมกันฟอกเงินครั้งนี้ อาจเป็นการแยกย่อยต่อเนื่องกันออกมา แต่เมื่อเชื่อมโยงกัน ตัวจำเลยก็สัมพันธ์กับคดีก่อนหน้านี้ ก็ต้องบอกว่า เป็นใครก็ต้องเสียว เพราะในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดหลังจากที่เขาได้ให้การต่อศาลออกมาแล้วยังยอมรับว่า “รู้สึกตื่นเต้น”ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะไม่ว่าใครเมื่อตกอยู่ ในสภาพแบบเดียวกันก็คงมีความรู้สึกไม่ได้แตกต่างกันนัก หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป
**อย่างไรก็ดี สำหรับ พานทองแท้ ชินวัตร นาทีนี้ย่อมต้องมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า นั่นคือจะถูกตั้งคำถามและถูกจับตามองว่า เขา“จะหนี”หรือไม่ หรือจะซ้ำรอยเดียวกันหรือไม่กับ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นบิดาที่หนีคดีก่อนวันพิพากษาให้จำคุก 2 ปีในคดีจัดซื้อที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษก และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาของเขาที่หนีคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว มาจนถึงบัดนี้
แม้ว่าในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด พานทองแท้ ชินวัตร จะยืนยันว่า “เดินทางไปฟังคำพิพากษา”ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมาทั้งบิดา และอาของเขา ก็เคยยืนยันแบบนี้มาแล้วทั้งสิ้น ที่ย้ำว่าจะสู้ตามกระบวนการยุติธรรมไม่หนีไปไหน ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งจากแรงกดดันจับจ้องจากสังคม มันก็ทำให้เขาต้องเคลื่อนไหวลำบากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เหมือนกับการตามประกบเขาทุกฝีก้าว
** และแม้ว่านาทีนี้ยังไม่รู้ว่าคดีจะออกหัว หรือออกก้อย ยังไม่แน่ว่าจะออกมาทางลบหรือไม่ แต่สำหรับ พานทองแท้ ชินวัตร ย่อมต้องเครียดหนักเป็นธรรมดา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของเขา บิดาของเขา ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยรับรู้จากคำพูดที่ออกมาว่า จะไม่ยอมให้คนในตระชินวัตร ติดคุกแม้แต่คนเดียวนั้นจะต้องลุ้นหนักแค่ไหน เพราะมาถึงขั้น นี้แล้วมันเหมือนกับว่า “เหนือการควบคุม”แล้ว ทำได้อย่างเดียวก็คือต้องปล่อยไปตามยถากรรม หรือทุกอย่างเป็นไปตามกรรมเท่านั้น !!
กำลังโหลดความคิดเห็น