วานนี้ (24 ก.ย.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ที่ประชุมกกต.ได้มีการพิจารณาสำนวน ตรวจสอบกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องว่า ให้พรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมเงิน 191 ล้านบาท เพื่อดำเนินกิจการพรรค อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมืองแล้ว โดยให้สำนักงานฯ นำเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง คือนำไปเข้าคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งก่อน เพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน และมีความเห็นที่จะเสนอ กกต.พิจารณาโดยเร็ว อีกครั้ง
ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิภา (ส.ว.) ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าว ถึงข้อสงสัยกรณี นายธนาธร ให้พรรคกู้ยืมเงิน จะเข้าข่ายขัด มาตรา 62 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่ห้ามพรรคการเมืองมีรายได้จากการกู้ยืมเงินหรือไม่ ว่า เงินกู้ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ไม่ถือเป็นรายได้ของพรรค หากนำไปใช้จ่าย ถือว่าผิด เพราะมาตรา 62 ระบุไว้ชัดเจนว่า รายได้พรรคการเมือง มาจากอะไรได้บ้าง ซึ่งไม่มีเรื่องเงินกู้รวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ รายได้หลักพรรคการเมืองส่วนใหญ่มาจากการจัดกิจการระดมทุนของพรรคการเมือง และเงินบริจาค ที่ระบุชัดเจนเช่นกันว่า ให้บริจาคได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อป้องกันการครอบงำพรรค จึงไม่แน่ใจว่าเป็นการหลีกเลี่ยงไปใช้ช่องทางให้พรรคการเมืองกู้เงิน เพื่อเลี่ยงการบริจาคให้พรรคได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือไม่ เพราะพรรคการเมืองไม่ใช่บริษัทประกอบธุรกิจแสวงหากำไร การไปกู้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในพรรค อาจไม่สามารถหารายได้มาจ่ายคืนได้ เพราะไม่ได้ดำเนินกิจการหารายได้ จึงเป็นปัญหาน่าคิดว่า จะเอาเงินจากไหนไปใช้คืนเจ้าของเงิน จึงวกกลับไปเรื่องที่ว่า พรรคการเมือง จะตกอยู่ภายใต้การครอบงำของเจ้าของเงิน หรือไม่
อย่างไรก็ตาม กรณีการกู้ยืมเงินนี้ อาจไม่ใช่การหาทางเลี่ยงเรื่องการบริจาคเงินให้พรรคก็ได้ เพราะไม่ได้ทำแบบหลบซ่อน ปิดบัง ทั้งโฆษกพรรค หัวหน้าพรรค พูดตรงกันว่าพรรคกู้ยืมเงินจากหัวหน้าพรรค บวกกับหลักฐานที่ นายธนาธร แจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นสัญญากู้ยืมเงินต่อพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท มองว่า อาจเป็นเจตนาที่ต้องการให้เห็นถึงรายได้ของพรรค แต่มันขัดข้อกฎหมาย จึงถือว่าผิด
เมื่อถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หาก พ.ร.บ,พรรคการเมืองไม่ได้เขียนเรื่องเงินกู้ไว้อย่างชัดเจน แล้วเป็นผลร้าย อาจต้องยกประโยชน์ให้จำเลย พล.อ.สมเจตน์ ตอบว่า เรื่องนี้หลักฐานชัดเจนว่า พรรคการเมืองไปกู้เงิน ขัดต่อรธน. เพราะทั้งหัวหน้าพรรค โฆษกพรรค และหลักฐานการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ออกมาตรงกันว่า มีการกู้เงินจริง แต่ตามกฎหมายระบุให้พรรคการเมืองมีรายได้จากเงินบริจาค การระดมทุน ไม่สามารถมาจากการกู้ยืมเงินได้
ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิภา (ส.ว.) ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าว ถึงข้อสงสัยกรณี นายธนาธร ให้พรรคกู้ยืมเงิน จะเข้าข่ายขัด มาตรา 62 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่ห้ามพรรคการเมืองมีรายได้จากการกู้ยืมเงินหรือไม่ ว่า เงินกู้ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ไม่ถือเป็นรายได้ของพรรค หากนำไปใช้จ่าย ถือว่าผิด เพราะมาตรา 62 ระบุไว้ชัดเจนว่า รายได้พรรคการเมือง มาจากอะไรได้บ้าง ซึ่งไม่มีเรื่องเงินกู้รวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ รายได้หลักพรรคการเมืองส่วนใหญ่มาจากการจัดกิจการระดมทุนของพรรคการเมือง และเงินบริจาค ที่ระบุชัดเจนเช่นกันว่า ให้บริจาคได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อป้องกันการครอบงำพรรค จึงไม่แน่ใจว่าเป็นการหลีกเลี่ยงไปใช้ช่องทางให้พรรคการเมืองกู้เงิน เพื่อเลี่ยงการบริจาคให้พรรคได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือไม่ เพราะพรรคการเมืองไม่ใช่บริษัทประกอบธุรกิจแสวงหากำไร การไปกู้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในพรรค อาจไม่สามารถหารายได้มาจ่ายคืนได้ เพราะไม่ได้ดำเนินกิจการหารายได้ จึงเป็นปัญหาน่าคิดว่า จะเอาเงินจากไหนไปใช้คืนเจ้าของเงิน จึงวกกลับไปเรื่องที่ว่า พรรคการเมือง จะตกอยู่ภายใต้การครอบงำของเจ้าของเงิน หรือไม่
อย่างไรก็ตาม กรณีการกู้ยืมเงินนี้ อาจไม่ใช่การหาทางเลี่ยงเรื่องการบริจาคเงินให้พรรคก็ได้ เพราะไม่ได้ทำแบบหลบซ่อน ปิดบัง ทั้งโฆษกพรรค หัวหน้าพรรค พูดตรงกันว่าพรรคกู้ยืมเงินจากหัวหน้าพรรค บวกกับหลักฐานที่ นายธนาธร แจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นสัญญากู้ยืมเงินต่อพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท มองว่า อาจเป็นเจตนาที่ต้องการให้เห็นถึงรายได้ของพรรค แต่มันขัดข้อกฎหมาย จึงถือว่าผิด
เมื่อถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หาก พ.ร.บ,พรรคการเมืองไม่ได้เขียนเรื่องเงินกู้ไว้อย่างชัดเจน แล้วเป็นผลร้าย อาจต้องยกประโยชน์ให้จำเลย พล.อ.สมเจตน์ ตอบว่า เรื่องนี้หลักฐานชัดเจนว่า พรรคการเมืองไปกู้เงิน ขัดต่อรธน. เพราะทั้งหัวหน้าพรรค โฆษกพรรค และหลักฐานการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ออกมาตรงกันว่า มีการกู้เงินจริง แต่ตามกฎหมายระบุให้พรรคการเมืองมีรายได้จากเงินบริจาค การระดมทุน ไม่สามารถมาจากการกู้ยืมเงินได้