xs
xsm
sm
md
lg

แนวรบที่กำลังเปลี่ยนแปลง

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

ผู้นำ 3 ประเทศ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน แห่งตุรกี  และประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี แห่งอิหร่าน พบปะพูดคุยเรื่องกระบวนการสันติภาพในซีเรีย ที่กรุงอังการา เมื่อช่วงวันจันทร์ (16 ก.ย.) ที่ผ่านมา
ต้องเรียกว่า...เบาลงไปเยอะ หลังจากผู้นำอเมริกา ได้ออกมาลดโทนเสียง ลดความดุ ความกระเหี้ยนกระหือรือ ต่อการ “ชี้นิ้ว” ไปยังอิหร่าน ว่าเป็น “ผู้ร้าย” หรือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ “บอมม์ม์ม์” คลังน้ำมันซาอุฯ เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ตามคำพูดที่สรุปเอาไว้ประมาณว่า “ดูเหมือนว่า...อิหร่านนั่นแหละที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการโจมตีซาอุฯ แต่ทั้งนั้น ทั้งนี้...ผมก็ไม่ต้องการที่จะทำสงคราม...”

ด้วยเหตุนี้...ราคาน้ำมันในตลาดซื้อ-ขายล่วงหน้า ไม่ว่า “Brent” หรือ “WTI” ที่เคยพุ่งพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปถึงเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อช่วงวันจันทร์ (16 ก.ย.) ที่ผ่านมา มาถึงช่วงวันอังคารก็เริ่มม้วนต้วนลงมา ลดลงไป 1.72 เปอร์เซ็นต์ และ 1.5 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ เพราะอย่างที่ศาสตราจารย์ด้านการเงินและการวิจัยธุรกิจ ชาวมาเลเซีย “Dr.Nafis Alam” แห่งศูนย์ “Cambridge Center for Alternative Finance” ท่านให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวเอาไว้นั่นแหละว่า “ปัญหา” หรือ “ความเสี่ยง” ของราคาน้ำมันช่วงนี้ มันคงไม่ได้อยู่ที่จำนวนและปริมาณของน้ำมันซาอุฯ ที่ขาดหายไปจากตลาด ไม่ว่าจะ 5 เปอร์เซ็นต์หรือกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เพราะผลผลิตหรืออุปทานน้ำมันระยะนี้ มันออกจะเหลือกิน เหลือใช้อยู่พอสมควร แต่น่าจะอยู่ที่ “การเมือง” ระดับโลกนั่นเอง ว่าประเทศมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรซาอุฯ จะเอายังไงกับอิหร่านกันต่อไป...

ดังนั้น...ในเมื่อ “ทรัมป์บ้า” ไม่ได้หนักไปทาง “บ้าสงคราม” แค่ “บ้า...ก็...บ้าวะ” ไปตามสภาพ หรือตามพื้นฐานแห่งความเป็นนักธุรกิจ นักเก็งกำไรมาตั้งแต่อดีต โลกทั้งโลกก็น่าจะพอหายใจ หายคอได้คล่องๆ ไปอีกสักพัก แต่ก็นั่นแหละ...การที่ผู้นำอเมริกาไม่ได้คิดจะเป็น “เหยี่ยว” แต่พยายามแปลงกายไปเป็น “พิราบ” มาแล้ว หลายครั้ง หลายหน ย่อมน่าจะมีส่วนทำให้สัมพันธภาพระหว่างอเมริกากับพันธมิตรในตะวันออกกลาง อย่างซาอุฯ ที่พยายามยุแยงตะแคงรั่ว หรือพยายามยืมมือ ยืมตีน กองทัพอเมริกาไปเล่นงานใครต่อใคร ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ไม่มากก็น้อย...

เพราะการที่กองทัพอเมริกัน ต้องหนียะย่าย พ่ายจะแจ ถอยออกมาจากซีเรีย ระหว่างที่พันธมิตรอย่างซาอุฯ ทั้งลงเงิน ลงแรง เพื่อหวังจะโค่นล้มรัฐบาล “อัล-อัสซาด” ให้จงได้ เพียงเท่านี้...ก็ทำให้การคบหาอเมริกาเป็นมิตร ก็ทำท่าว่าชักจะไม่คุ้มค่า คุ้มราคา มากมายสักเท่าไหร่ ขณะที่มหาอำนาจคู่แข่งอย่างรัสเซีย นับวันจะโตวัน-โตคืน ไม่เพียงแต่จะกลายมาเป็นผู้สร้าง “สันติภาพ” ให้กลับคืนมาสู่ประเทศซีเรีย ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผลเท่านั้น ยังสามารถจูงมือตุรกี ที่เคยสมคบคิดร่วมโค่นรัฐบาล “อัล-อัสซาด” กับซาอุฯ อเมริกา และพันธมิตรตะวันตก ให้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขับเคลื่อนกระบวนสันติภาพในซีเรีย ร่วมกับรัสเซียและอิหร่านได้อย่างน่าทึ่ง น่าตื่นตะลึงเอามากๆ ภาพของผู้นำ 3 ประเทศ ประธานาธิบดี “ปูติน” แห่งรัสเซีย “โรฮานี” แห่งอิหร่าน และ “เออร์โดกัน” แห่งตุรกี ที่จับมือถือแขนในระหว่างพบปะพูดคุยเรื่องกระบวนการสันติภาพในซีเรีย ที่กรุงอังการา เมื่อช่วงวันจันทร์ (16 ก.ย.) ที่ผ่านมา ต้องถือเป็นภาพที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะอย่างน้อย...ต้องผ่านอุปสรรค ความยากลำบาก อันเนื่องมาจาก “ความไม่ลงตัว” ระหว่างการเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายของ “ผู้ก่อการร้าย” ในซีเรีย ที่จังหวัด “Idlib” ที่สามารถก่อให้เกิดความกระทบ กระทั่งของแต่ละฝ่ายได้ไม่ยากส์ส์ส์...

แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยการเดินหมาก เดิมเกม ชนิดแชมป์หมากรุกระดับโลกยังต้องขอดูตัวของผู้นำรัสเซีย ไม่เพียงแต่ทำให้ฉากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แบบพลิกหลังตีนเป็นหน้ามือ บทบาท อิทธิพลของรัสเซีย ที่มุ่งอาศัย “สันติภาพ” เป็นตัวตั้ง ไม่ได้อาศัย “สงคราม” เป็นพื้นฐาน หรือไม่ได้คิดเป็น “เหยี่ยว” แบบอเมริกา แต่พยายามรับบทเป็น “พิราบ” ล้วนๆ ชักเริ่มเป็นอะไรที่คุ้มค่า คุ้มราคา สำหรับผู้ที่คิดจะคบหาเป็นพันธมิตรยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น...ระหว่างกำหนดการเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรซาอุฯ อย่างเป็นทางการของผู้นำรัสเซีย ในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึง เพื่อพูดคุยเจรจาปัญหาแนวรบในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ “สงครามเยเมน” จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจ และน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง...

ยิ่งเมื่อประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ท่านได้ “ปล่อยมุก” เอาไว้ก่อนล่วงหน้าว่า ขณะร่วมแถลงข่าวกับผู้นำอิหร่านและผู้นำตุรกี ถึงกรณีการ “บอมม์ม์ม์” คลังน้ำมันซาอุฯ เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา ประมาณว่า... “รัฐบาลซาอุฯ น่าที่จะต้องตัดสินใจอย่างชาญฉลาด เหมือนอย่างที่รัฐบาลอิหร่านได้ตัดสินใจสั่งซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 หรือรัฐบาลตุรกีตัดสินใจสั่งซื้อระบบ S-400 จากรัสเซีย เพราะระบบอาวุธชนิดนี้ สามารถป้องกันสิ่งสาธารณูปโภคทุกชนิดในซาอุฯ จากการโจมตีทางอากาศทุกรูปแบบ ไม่ว่าชนิดใดๆ ก็ตาม...” แถมยังไปยกเอาถ้อยคำในคัมภีร์ “อัลกุรอ่าน” ว่าด้วยความเป็นพี่-เป็นน้อง เป็นภารดรภาพของบรรดาชาวมุสลิมทั้งหลาย มาอ้างเอาไว้เสร็จสรรพอีกต่างหาก...

คือแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ “มุก” แต่คงต้องเก็บเอามาคิดแบบ 2 ชั้น 3 ชั้น เป็นอย่างน้อย...โดยเฉพาะสำหรับผู้อำนาจบารมีในรัฐบาลซาอุฯ ซึ่งก็เคยสนใจคิดสั่งซื้อ “S-400” จากรัสเซีย อย่างเป็นจริง-เป็นจังอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ช่วงหลังๆ อาจต้องซาๆ ลงไป เพราะคุณพ่ออเมริกาท่านขู่ว่าพร้อมจะ “แซงชั่น” ประเทศใดๆ ก็ตาม ที่คิดสั่งซื้ออาวุธชนิดนี้จากรัสเซีย แต่ไม่ว่าจะซื้อ-ไม่ซื้อ การหาทาง “ยุติสงครามเยเมน” อันเป็นสงครามที่ทำให้ซาอุฯ ต้อง “ติดหล่ม” อยู่นานถึง 4 ปี 5 ปี แถมมองไม่เห็นหนทางที่จะเอาชนะได้เลยแม้แต่น้อย การหันไปเป็นมิตรกับ “พิราบ” ก็น่าจะอบอุ่นยิ่งกว่าการคบหากับ “เหยี่ยว” หรือแม้แต่ “อีแร้ง” ที่ออกจะ “ปากเสีย” ชอบพูดจา ว่ากล่าว ให้ซาอุฯ ต้องเจ็บกระดองใจอยู่หลายเรื่อง หลายราว...

แม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “นายไมค์ ปอมเปโอ” จะบินด่วนไปยังซาอุฯเพื่อสร้างความอุ่นใจ มั่นใจ หลังเกิดเหตุการณ์บอมม์คลังน้ำมันคราวนี้หรือแม้ว่ารองประธานาธิบดี “ไมค์ เพนซ์” จะพยายามเพิ่มโทนเสียให้ดุๆ เข้าไว้ ด้วยคำพูดที่ว่า “อย่างที่ท่านประธานาธิบดีพูดไว้แล้วว่า เราไม่ต้องการทำสงครามกับใคร แต่อเมริกาก็พร้อมเสมอ เราล็อกเป้าและบรรจุกระสุน พร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของเราและพันธมิตรทั้งหลายในภูมิภาค โดยถ้าหากอิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้จริงๆ แล้วล่ะก็ นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย...สำหรับการสร้างอันตรายแห่งการปลุกปั่นของสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้” แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อบรรดา “เหยี่ยว” ทั้งหลาย ได้แต่ต้องเกาะคอน เกาะแข้ง เกาะขา “อีแร้ง” อย่างมิอาจปฏิเสธได้ การคบหาเป็นพันธมิตรกับอเมริกา ก็อาจไม่คุ้มค่า คุ้มราคาสำหรับซาอุฯ ขึ้นมาวันหนึ่ง-วันใดก็ไม่แน่ โดยถ้าหากเมื่อไหร่ที่ประเทศอภิมหาเศรษฐีน้ำมันและเจ้าพ่อ “เปโตรดอลลาร์” รายนี้ เกิดคิดเปลี่ยนข้าง เปลี่ยนฝ่ายขึ้นมาจริงๆ อันนั้นนั่นแหละ...ที่ต้องถือเป็นจุดเริ่มต้นของ “อวสานอเมริกา” หรือ “อวสานเงินดอลลาร์” ได้แบบฉับพลัน-ทันที...
กำลังโหลดความคิดเห็น