xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่”...ทำเป็นไหม?-กล้าทำไหม?-ทำได้ไหม?

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย


วันนี้ต้องขอพูดถึงประธานาธิบดี “มังกรสี จิ้นผิง” ผู้นำชาติจีนหนึ่งในชาติมหาอำนาจโลก ซึ่งกำลังเดินหน้าเป็นชาติอันดับหนึ่งทางเศรษฐกิจของโลก จน “อินทรีโดนัลด์ ทรัมป์” ถือจีนเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของมะกัน ซึ่งทั้งคู่กำลังทำศึก “สงครามการค้า” จนเศรษฐกิจทั่วโลกปั่นป่วนวุ่นวายอยู่ในเวลานี้..

ผู้นำชาติจีน สี จิ้นผิง มักมีคำพูดคมคายทรงพลังเสมอ ที่สำคัญ สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่โลกให้ความเชื่อถือ เพราะนอกจากจะมีศาสตร์และศิลป์การพูดดีมีสาระแล้ว สี จิ้นผิง ยังบริหารชาติเก่งอีกด้วย ต่างจาก “ผู้นำชาติบางคน” ที่ “พูดแล้วไม่ทำ” หรือ “ท่าดีทีเหลว” (ว่ะ)

ขอยกบางถ้อยคำ สี จิ้นผิง ที่พูดแล้ว “ชวนคิด-ชวนถก-ชวนลุย” ในคราครั้งขึ้นรับตำแหน่งเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ซึ่งโดนใจชาวจีนทั้งชาติเข้าอย่างจัง นั่นคือ

“ร่วมจิตร่วมใจกับประชาชน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ร่วมแรงสามัคคีกับประชาชน คำนึงแต่ส่วนรวมและประเทศชาติทุกเช้าค่ำ”

ภารกิจที่ สี จิ้นผิง มอบหมายให้สมาชิกพรรคทุกระดับทำความดีต่อชาติบ้านเมือง มิใช่การพูดลอยๆ ไร้ความหมายอย่าง “ผู้นำชาติบางคน” นะว้อยเพราะรัฐจีนที่ สี จิ้นผิง เป็นผู้นำได้พักงาน-ปลด-ลงโทษ ฯลฯ สมาชิกพรรคใหญ่น้อยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลงโทษ “ประหารชีวิต” สมาชิกพรรคที่โกงเงินชาติให้ชาวจีนและชาวโลกประจักษ์มาแล้ว

ส่วนรัฐไทยภายใต้การนำของ “บิ๊กตู่” ผู้มีอำนาจล้นฟ้า จากที่ผ่านมา 5 ปีจวบจนเป็น “รัฐบาลเป็ดง่อย” ในปัจจุบัน ยังมีการคอร์รัปชันโกงชาติทั้งเรื่องเก่าใหม่เต็มไปหมด ทั้งนี้เพราะ “บิ๊กตู่” ปล่อยให้คนโกงชาติ ยังลอยนวลเย้ยกฎหมายทั้งอยู่ในชาติและหนีไปทำร้ายชาติไทยอยู่ต่างแดนโน่น...

แหม...ก็ขนาด “ใครบางคน” ข้างตัว “บิ๊กตู่” นั่นแหละ มีเรื่องไม่ชอบมาพากลในเรื่องเงินของชาติปรากฏอยู่เสมอ จนประชาชนไม่ไว้วางใจ แต่จนนาทีนี้ “ใครบางคน” ก็ยังมีอำนาจเป็นใหญ่อยู่เล้ย...เฮ้อ!

ทำให้นึกถึงคำพูดอดีตผู้นำจีนผู้ล่วงลับอย่าง เติ้ง เสี่ยวผิง ที่เคยย้ำว่า อย่าเอาผลประโยชน์ของชาติไปตอบแทนบุญคุณส่วนตัว แต่คำพูด เติ้งเสี่ยวผิง ดูจะไม่ขลังสำหรับ “บิ๊กตู่” ผู้นำชาติไทย...เวรกรรม...

สี จิ้นผิง เคยปราศรัยในที่ประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติห้วงเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 2,565 ปี ของปรมาจารย์ขงจื่อ อันเป็น “เสียงจากประเทศจีน” ที่ประกาศจะสืบสานและสร้างสรรค์วัฒนธรรมดั้งเดิมอันดีงาม ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวจีนกับชาวโลกเป็นอย่างดีโดย สี จิ้นผิง ได้เดินหน้าทำงานนี้อย่างจริงจัง ตราบจนวันนี้ “ตามคำพูด” ที่ได้ “ประกาศเจตนารมณ์” ไว้ดังนี้...

“ไม่ลืมประวัติศาสตร์จึงจะบุกเบิกอนาคต รู้จักสืบทอดจึงจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้มีเพียงการยึดมั่นประวัติศาสตร์เพื่อมุ่งอนาคต สืบสานรากเหง้าวัฒนธรรมของชนชาติเพื่อบุกเบิกเส้นทางข้างหน้า เราจึงจะทำการในวันนี้ให้ดีได้”

แต่กว่า 5 ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ “บิ๊กตู่” ยังไร้ทั้งปัญญากับความสามารถ ที่จะจัดการหรือลงโทษ “นักการเมือง-ข้าราชการ-นักธุรกิจสามานย์” บางกลุ่ม ที่ยังตั้งหน้าตั้งตาปลุกปั่นหลอกลวงให้ประชาชนบางส่วนที่ไม่รู้เท่าทันหลงเชื่อไปกับ “ข้อมูลผิด” ทั้งลับและเปิดเผย ที่ทำลายรากเหง้าบรรพบุรุษของชาติไทยจนบั่นทอนความมั่นคงต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฯลฯ

ทำให้การเมืองแบบ “ตู่ๆ” ยัง “ไม่ชนะ” การเมืองแบบ “เหลี่ยมๆ” แถมยังมี “พรรคอนาคอนด้า” โผล่มาอีกหนึ่งตัวเพราะกลุ่มคนที่ต้องการจะโค่นล้มการเมืองแบบรัฐไทยปัจจุบัน มุ่งหน้าจะสร้างรัฐไทยใหม่แบบชาติตะวันตกบางชาติ จึงยังคงมีอิทธิพลต่อประชาชนบางส่วนทั้งทางการเมือง-ทางเศรษฐกิจ-ทางสังคม ฯลฯ อยู่ในขณะนี้ไงล่ะ

ทั้งนี้ด้วย “บิ๊กตู่” ไร้ผลงานแก้ต้นเหตุปัญหาหลักๆ ให้ชาติ จึงไม่อาจเอาชนะใจประชาชนส่วนใหญ่ได้ เพราะไม่ได้ปราบปรามการคอร์รัปชันโกงชาติจริงจัง! ไม่อาจแก้ต้นเหตุปัญหาความเหลื่อมล้ำ “รวยกระจุก จนกระจาย” ได้เลย! ไม่ได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนก่อนเลือกตั้ง ฯลฯ นั่นเป็นเรื่องที่ “บิ๊กตู่” ทำไม่สำเร็จทั้งสิ้น!

ตรงข้ามกับ สี จิ้นผิง ที่ยึดหลักบริหารชาติด้วยการผสมผสานแนวทางดีๆ ทั้งของโบราณและสมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืนยึดหลักการ “คิดดี-พูดดี-ทำดี” และ “พูดแล้วทำ” ดังนี้

“คำนึงถึงผลประโยชน์และความเป็นความตายของประเทศชาติ จักหลีกเลี่ยงเอาตัวรอดยามภัยมา เพียงเพื่อความสุขส่วนตนได้อย่างไร” รวมทั้งยังยึดหลัก “มั่งมีศักดิ์ศรีมิหวั่นไหว ยากจนข้นแค้นมิสั่นคลอน ถูกคุกคามบังคับมิสยบ”

ผู้นำจีน สี จิ้นผิง ในวันนี้จึงมั่นคงต่อการบริหารชาติ ด้วยหลัก “ทุกข์กังวลก่อนผู้ใดในใต้ฟ้า สุขหรรษาหลังประชาสุขเกษม” และ “พยายามถึงที่สุด จะยอมหยุดเมื่อชีวาเราหาไม่” ไงล่ะ

ตำแหน่งกับอำนาจเป็นเรื่อง “ชั่วคราว” นะ “บิ๊กตู่” ผลงานแก้ปัญหาทั่วไปให้ชาติเป็นเรื่อง “ธรรมดาสามัญ” ใครได้เป็น “นายกฯ” มีอำนาจแบบ “บิ๊กตู่”-ก็ทำได้ไม่ยาก!

แต่การเป็น “วีรบุรุษชาติ” ที่ประชาชนรักสรรเสริญ ต้องกล้ารู้-กล้าพูด-กล้าทำ ฯลฯ ต้องกล้า “แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ให้ชาติ” ด้วยใจอันห้าวหาญ!

วันเวลาของ “บิ๊กตู่” ได้ผ่านพ้นไปเรื่อยๆ ด้วยผลงานที่ไม่คุ้มค่าต่อชาติและประชาชนเท่าที่ควร!

งานนี้จึงต้องถาม “บิ๊กตู่” ตรงไปตรงมาว่า...

“บิ๊กตู่” ทำเป็นไหม?-กล้าทำไหม?-ทำได้ไหม?

ถ้าทำไม่ได้ก็ถอยออกไปดีกว่า...อย่าทำให้ชาติและประชาชนต้องเสียเวลาอีกเลย!
กำลังโหลดความคิดเห็น