เรือเหล็ก“ประยุทธ์”ไม่แข็ง แต่ฝ่ายค้านติดหล่มล้มรัฐบาล

สมการการเมือง

ในจังหวะที่ “เรือเหล็ก”เจอหินโสโครก ทั้งที่เพิ่งออกจากท่า ดูน่าจะไปไม่ไหว หลัง 7 พรรคฝ่ายค้าน กัดไม่ปล่อย ปมถวายสัตย์ปฏิญาณ ยืดเยื้อกันมาได้เป็นเดือน ๆ

ทำนองว่า ไม่มีคำตอบก็ไม่จบ แม้ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พยายามจะหาทางสยบ ด้วยวิธีการต่างๆโดยเฉพาะห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ว่าตราบใดที่คลุมเครือ ฝ่ายค้านยังมีอะไรให้เล่นต่อ
ตามคิวที่ล็อกเป้าตั้งใจถล่มยับ ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ต้องลงมติ มาตรา 152 ที่ยังไม่รู้ “บิ๊กตู่”จะไป หรือไม่ไป จะตอบเองหรือไม่ตอบเอง ตั้งป้อมกะให้เสียศูนย์ กระทุ้งหางเสือเรือ

ขณะที่รัฐบาล พยายามแก้เกม ผุดไอเดียประชุมลับ เพราะเข้าเกณฑ์ที่จะขอมติสภาได้ ตามที่เนื้อเรื่องมันมีบางช่วงบางตอนที่ละเอียดอ่อน กระทบความมั่นคง ไม่อาจสุ่มเสี่ยงเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนได้ ซึ่งจะกลายเป็นเกิดอีกประเด็นเข้าไปอีก

ดูไม่ออกว่ารัฐบาลจะให้เป็นการประชุมลับ หรือเปล่า คนนอกไม่เกี่ยว เพื่อป้องกันเรื่องที่จะคุมกันไม่อยู่ จนมีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนได้

แต่ถึงจะเอาตัวรอด เปิดประชุมแบบลับๆ แต่ประเมินได้ว่า ฝ่ายค้านไม่ยอมจบอยู่ดี เวทีนี้แค่ต้องการจะหาคำมามัดคอ “บิ๊กตู่”ให้ไปไม่เป็น เพราะถ้าตอบได้ ชี้แจงได้ คงไม่กลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปาก ลากกันมาจนฝ่ายค้านต้องยอมเสียโควตา ขอเปิดอภิปรายทั่วไปตาม มาตรา 152 ที่สมัยประชุมหนึ่งทำได้ครั้งเดียว

แต่ตั้งใจจะล่อกันให้งอมพระราม ลดความชอบธรรมรัฐบาลเรือเหล็ก แล้วเอามาขยายต่อให้เป็นเรื่องเป็นราวกันไม่รู้จบ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมา

เพราะแม้รู้ทั้งรู้ว่า เมื่อเรื่องไปถึงชั้นศาลรัฐธรรมนูญ โอกาสที่ “บิ๊กตู่”จะรอดมีสูงเหมือนกัน แต่จำเป็นต้องลากกันให้ขึ้นเป็นคดีความ วัดดวงเพื่อฟลุ๊คเข้าทาง เขย่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และเสถียรภาพรัฐบาลได้

ไม่ว่า“บิ๊กตู่”หรือคนในคณะรัฐมนตรี จะชี้แจงสภาอย่างไร แต่ทางเดียวที่จะทำให้สิ้นเรื่องสิ้นราวได้ นาทีนี้ต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญทางเดียว

แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ดูจะหวั่นใจอะไร ในอารมณ์ที่อ่านนัยน์ตา ถอดรหัสท่าที “บิ๊กตู่”ดูสดชื่นขึ้นเยอะ นับตั้งแต่เสร็จพิธี เมื่อวันอังคารที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา

แม้ต้องเผชิญสถานการณ์อื่นๆอีกรอบด้าน โดยเฉพาะประเด็นข้าวยากหมากแพง ฉุดจีดีพีไม่ขึ้น เพราะโดนผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างชาติมหาอำนาจ “สหรัฐอเมริกา”กับ “จีน”ไหนจะมาเจอพิษฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลจนเกิดภัยแล้ง

แต่ไม่อาจทำให้ “เรือเหล็ก”โคลงเคลงสักเท่าไหร่ เรื่องของเรื่องเพราะคลื่นใต้น้ำจากฝ่ายค้านที่พยายามซัด ก็ไม่ได้แข็ง ไม่ได้ใหญ่กว่าที่ประเมิน

ในสถานการณ์ที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ แต่พรรคฝ่ายค้านกลับมะรุมมะตุ้มอยู่กับแคมเปญแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับโจมตีเรื่องปมถวายสัตย์ปฏิญาณ จ้องล้มรัฐบาลไม่ดูว่า ชาวบ้านชาวช่อง จะอดตายกันแล้ว
กลับกัน เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่ถูกมองว่าอ่อนหัดเรื่องฝีมือเศรษฐกิจ ขลุกอยู่แต่การลงพื้นที่ และคิดมาตรการช่วยเหลือประชาชน ให้เอาตัวรอดจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา หนักไปทางระส่ำระส่าย

ส.ส. และรัฐมนตรี ฝ่ายรัฐบาล แข่งกันลงพื้นที่รายวัน เพื่อปั่นเรตติ้ง กับอีกทางหนึ่งก็ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจแทบจะทุกสัปดาห์ คลอดมาตรการจับต้องได้ไปเป็นยาเร็ว-ยาแรง ช่วยพี่น้องประชาชน

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเอย ที่ช่วยทั้งผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย ไหนจะเติมเงินกระตุ้นการท่องเที่ยว หรือที่เข้าใจว่า เงินให้ฟรี ฝ่ายค้านยังเอาไปเล่นการเมืองว่า รัฐบาลผลาญเงินไม่ดูตาม้าตาเรือ คนต่อแถวกดบัตรไปซื้อเหล้า ซื้อเบียร์ ไม่ถูกวัตถุประสงค์

แต่เสียงอย่างว่า ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียวที่แหกปากแหกคอ เพราะไปวัดกระแสการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเที่ยวนี้ ชาวบ้านชาวช่องชอบอกชอบใจ เนื่องจากสตุ้งสตางค์เป็นของหายากในสถานการณ์ปัจจุบัน
เหมือนไปต่ออายุคนยากคนจนได้อีกเฮือก จากที่จะไม่มีกินอยู่แล้ว แม้ไม่เยอะ แต่สำหรับผู้มีรายได้น้อย เงินก้อนนี้ช่วยได้เยอะ

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่กลางๆ ไม่มีใครออกมาด่า เพราะเข้าใจว่า ในจังหวะแบบนี้ขืนรัฐบาลรอนโยบายระยะยาว ประชาชนอดตายกันก่อนแน่ แถมสภาวะเศรษฐกิจโลกไม่เอื้อให้นโยบายใดๆ จะผลิดอกออกผลในเวลารวดเร็ว
รัฐบาลเองก็ได้ที ในห้วงที่นโยบายต่างๆ ยังขับเคลื่อนอะไรไม่ได้มาก เพราะเพิ่งจะเริ่มทำงานกันได้ไม่เท่าไหร่ ฉวยจังหวะปั่นแต้มจากของเก่าที่ประชาชนจับต้องได้ แถมเสียงก่นด่ายังน้อยด้วย

แม้ดูเหมือนรัฐบาล“บ้อท่า”หานโยบายใหม่ๆไม่ได้ แต่ฝ่ายค้านยุคนี้ไม่ว่าจะของเก่าอย่างพรรคเพื่อไทย พี่ใหญ่ในสนาม หรือพรรคอนาคตใหม่ ที่โฆษณาเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ทำงานต่ำกว่าความคาดหวัง วันๆเอาแต่ติดหล่มการเมือง จ้องจะแก้รัฐธรรมนูญ กับล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง ไม่เกี่ยวกับประชาชน

พรรคเพื่อไทยเอง พอตัวเก๋าอดเข้าสภา บรรดาหมากเบี้ยแทบจะทำอะไรไม่เป็น เอาแต่ตีหัวม้า ด่าแม่เจ๊ก ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หนำซ้ำยังไม่ค่อยจะลงพื้นที่สร้างคะแนน

พรรคอนาคตใหม่ ยิ่งแล้วใหญ่ ความคาดหวังของเด็กไทย หวังจะเห็นการเมืองแบบใหม่ ทำเพื่อประเทศชาติ สุดท้ายจมไปกับการเมืองรุ่นเก่าเรียบร้อย วันๆเอาแต่หาเรื่องจ้องล้มรัฐบาล

เอาเป็นว่า ฝ่ายค้านเที่ยวนี้ไม่แข็งพอ แถมยังไม่คิดจะหาหนทางสร้างคะแนนแข่งกับรัฐบาล ขนาดรัฐบาลชุดนี้มีจุดอ่อนมากมาย ยังทำอะไรไม่ได้

ดูท่าถ้ารัฐบาลผ่านพ้นปมถวายสัตย์ปฏิญาณไปได้ เรือเหล็กน่าจะแล่นฉิวสบาย ฝ่ายค้านน่าจะเป็นแค่คลื่นเล็กๆ ธรรมดา ที่เซาะฝั่ง แต่ล่มเรือไม่ได้ ยกเว้นรัฐบาลจะพลาดท่าเอง โดยเฉพาะเรื่องทุจริต คอร์รัปชัน ที่ต้องยอมรับว่า ยังไม่ทันไร กระทรวงนั้น กระทรวงนี้ เริ่มมีกลิ่นตุๆ ข่าวแปลกๆ เรื่องฝ่ายการเมืองจะถอนทุนคืน

ซึ่งถ้าอุดรูตรงนี้อยู่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกประกาศสำคัญ ที่คนนินทาหมาดูถูกว่า เป็นสหพรรค ไม่มีความกลมเกลียว แต่เอาเข้าจริงกลับเป็นผลดีเฉยๆ

อย่างที่เห็น พรรคใหญ่ๆ อย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย แข่งกันลงพื้นที่ แย่งกันขายนโยบายเอาใจประชาชนกันรายวัน ส.ส.แต่ละพรรคลงพื้นที่กันอย่างกับช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

แข่งกันเข้มข้นแค่ไหน ไม่มีใครว่า เพราะสุดท้ายแล้วผลดีตกอยู่ที่ประชาชนล้วนๆ ปล่อยให้ฝ่ายค้านติดหล่มเรื่องล้มรัฐบาลไปวันๆ