xs
xsm
sm
md
lg

“ชัยวัฒน์”ซัดคนฆ่า“บิลลี่”สุดชั่ว เคาะเยียวยาครอบครัว1.2แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายกฯ กำชับ “ดีเอสไอ” เร่งสางคดี"บิลลี่" สั่งหาตัวคนผิดให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ยธ.ได้ข้อสรุปเยียวยาครอบครัวเบื้องต้น 1.2 แสนบาท รอเคาะ 12 ก.ย.นี้ ดีเอสไอ ลงพื้นที่แก่งกระจาน รุดเยี่ยมมึนอ ภรรยา "บิลลี่" ยันทำคดีตรงไปตรงมา พร้อมขอให้ครอบครัวเข้าอยู่ในโครงการคุ้มครองพยานทั้งหมด ก่อนตรวจจุดพบกระดูก สั่งเช็คแฟลชไดร์ฟดูหน้าคนตัดไม้เป็น จนท.หรือไม่

วานนี้ (5 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย เสียชีวิตด้วยการถูกฆาตกรรม หลังหายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 ว่า ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างรัดกุมและหาตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเรื่องนี้ไปแล้วและระบุว่าจะมีความชัดเจนภายใน 3 เดือน

“ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ทำผิดกฎหมายไม่ได้ทั้งสิ้น ผมคงจะไปช่วยใครไม่ได้ เพราะกฎหมายว่าอย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการสอบสวนและวัตถุพยาน ซึ่งศาลก็ตัดสินไปตามนั้น” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวนายพอละจี หรือ บิลลี่ ว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะมีการประชุมเรื่องเงินค่าตอบแทนความเสียหายในคดีอาญาของคนที่สูญหายในวันที่ 12 ก.ย.นี้ ซึ่งเงินชดเชยเรื่องเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาท ส่วนการอุปการะเลี้ยงดูบุคคลที่เกี่ยวข้องประมาณ 40,000 บาท รวมประมาณ 120,000 บาท ส่วนเงินทำศพและค่าใช้จ่ายอื่นใด ต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว ส่วนเงินค่าชดเชยกรณีล่าช้าต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง

วันเดียวกัน ที่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ได้เดินทางเข้าพบ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ที่บ้านพักเพื่อให้กำลังใจและแจ้งผลคืบหน้าในการสอบสวนพิสูจน์หลักฐานคดีฆาตกรรมนายพอละจี หรือบิลลี่ ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.พิณนภา

โดย น.ส.พิณนภา กล่าวทั้งน้ำตานองหน้า ว่า โดยส่วนตัวมั่นใจในการทำงานของดีเอสไอ แต่ยังกังวลและเกรงกลัวผู้มีอิทธิพลที่เหนือกว่าจะเข้ามาแทรกแซงทำให้ดีเอสไอทำงานไม่สะดวก

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอทำงานอย่างตรงไปตรงมา ก่อนที่จะรับเป็นคดีพิเศษในชั้นสืบสวนก็มีข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว ระหว่างนี้มีคณะทำงานลงพื้นพื้นที่โดยตลอด ในขณะนี้ดีเอสไอยังไม่ขอเปิดเผยว่าได้พิกัดข้อมูลจุดทิ้งถังและเศษชิ้นส่วนกระดูกจากแหล่งใด บอกได้เพียงว่าดีเอสไอลงพื้นที่สืบสวนมานานหลายปี โดยมีแหล่งข่าวที่ให้เบาะแสข้อมูลร่วมกับการสอบสวนจากหลักพฤติกรรมศาสตร์ และเรื่องภูมิศาสตร์อาชญากรรมมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ ส่วนประเด็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขอให้มั่นใจในการทำงานของดีเอสไอ ซึ่งพยานปากสำคัญและครอบครัวของบิลลี่ได้เข้าโครงการคุ้มครองพยานทั้งหมดแล้ว และขอยืนยันว่าจะเร่งสอบสวนเพื่อปิดสำนวนคดีให้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพที่ปรากฏในแฟลชไดร์ทของบิลลี่ซึ่งเป็นภาพขณะที่กลุ่มอิทธิพลเข้าลักลอบตัดไม้ เป็นสาเหตุให้บิลลี่ถูกฆาตกรรมหรือไม่ พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ภาพดังกล่าวตนได้เห็นแล้ว และเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีของดีเอสไอ เรื่องนี้ รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ มีความเป็นห่วงมาก ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแล แต่หากมีเรื่องเดือดร้องอะไรเป็นพิเศษสามารถแจ้งมายังดีเอสไอได้ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการให้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.กรวัชร์ได้ขอพื้นที่ให้ทีมสอบสวนได้พูดคุยกับน.ส.มึนอเป็นการส่วนตัว โดยให้ผู้สื่อข่าวออกไปรอที่สภ.ย่อยบ้านป่าเด็ง ก่อนจะนำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบบริเวณสะพานแขวนใกล้เขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งเป็นจุดที่ค้นพบกระดูกของบิลลี่ และเข้าพูดคุยกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถึงการร่วมมือทำงานในพื้นที่ของอุทยานฯ

อีกด้าน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 9 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผ่านช่องทางยูทูบ เป็นคลิปคำต่อต่อ มีความยาวประมาณ 2 นาที โดยระบุว่า “มีคนเห็นบิลลี่ หลังจากที่ผมปล่อยตัวไปซื้อของอยู่ที่ชะอำ โดยมีคนยืนยันอย่างชัดเจน อยากรู้ว่าความเป็นธรรมอยู่ตรงไหน วันนั้นผมมีฤทธิ์ทำขนาดนั้นหรือไม่ แล้วทำไมไม่เจอรถมอเตอร์ไซค์ และถ้าผมมีเวลาขนาดนั้น ทำไมไม่แยกชิ้นส่วนเอาไปทิ้งคนละที่ รวมถึงมอเตอร์ไซค์ พูดได้เลยว่าคนที่เอาคนยัดถังแล้วเผานั้นชั่วสุดๆแล้ว มีเหล็กเสียบด้วย ไอ้คนสร้างสถานการณ์…….กว่านี้”
กำลังโหลดความคิดเห็น