xs
xsm
sm
md
lg

"ธนาธร"ยังทำหน้าที่ส.ส.ไม่ได้ สัญญาณไม่เป็นบวก !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**ต้องบอกว่าเป็นข่าวร้ายอีกครั้งสำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเสียงข้างมาก ยกคำร้องที่ขอให้ศาลพิจารณายกเลิกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือมีคำสั่งโดยเร่งด่วน โดยที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า “ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์อันเป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เดิม” จึงให้ยกคำร้อง
ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีการอภิปราย เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยว่าจะมีการไต่สวนพยานบุคคล โดยจะมีหมายเรียกพยานบุคคลใด และพยานเอกสารฉบับใดบ้าง โดยจะมีการอภิปรายต่อในวันพุธที่ 11 กันยายน
คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยุติการปฏิบัติหน้า ส.ส.เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยเป็นผลมาจากการที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีถือหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด อันเป็นธุรกิจสื่อสารมวลชน
**แน่นอนว่าหากพิจารณาจากภายนอกก็ทำให้พอมองเห็นว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พยายามหาช่องทางกฎหมาย หรือเพื่อ “หยั่งเชิง”ดูว่าจะเกิดผลเปลี่ยนแปลงตามมาหรือไม่ แต่เมื่อศาลฯยกคำร้องในเรื่องการขอให้ยกเลิกคำสั่งยุติการทำหน้าที่ส.ส. เป็นการชั่วคราว มันก็เหมือนกับว่า “ความหวัง”พังครืนลงในพริบตาหรือเปล่า
ที่ผ่านมากรณีการถือหุ้นสื่อของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับกรณีของส.ส.ทั้งพรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล รวมไปถึงส.ว.ที่ถูกร้องเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในเวลานี้จำนวนนับร้อยราย แต่ไม่ถูกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนถูกนำไปเปรียบเทียบ วิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงการบิดเบือนเพื่อหวังผลทางการเมืองบางอย่าง
แต่หากโฟกัสแยกมาพิจารณาเฉพาะกรณีของ ธนาธร ที่เพิ่งถูกศาลฯ ยกคำร้องแบบนี้ ย่อมไม่ใช่สัญญาณในทางบวกกับเขาแน่นอน โดยเฉพาะในกรณีเฉพาะหน้าที่ย่อมส่งผลในความรู้สึกในทางการเมือง รวมไปถึงการแสดงบทบาททางการเมืองที่หวังจะได้โชว์ในสภาฯ ก็ต้องลุ้นกันแบบระทึกอยู่ต่อไป
**ที่สำคัญก็คือ พวกเขาคงลุ้นว่าจะได้ร่วมอภิปรายในญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตาม มาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ ที่ล่าสุดมีการกำหนดร่วมกันว่าจะเปิดให้การอภิปรายในวันที่ 18 กันยายน ซึ่ง ธนาธร คงหวังจะได้แสดงบทบาทในฐานะ ส.ส. แต่ก็ยังไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้
แต่ขณะเดียวกัน เมื่อวกกกลับมาพิจารณาจากประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องในคำสั่งที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เป็นการชั่วคราวตามคำสั่งเดิม แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจก้าวล่วงในคำวินิจฉัยของศาลฯว่าผลจะออกมาแบบไหน อีกทั้งยังเป็นเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่สำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รับรองว่าน่าจะรับรู้ถึงสัญญาณบางอย่างที่สื่อออกมาให้เห็นบ้างแล้ว นับตั้งแต่ที่มีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว จนกว่ามีคำวินิจฉัยออกมา
แน่นอนว่า สำหรับตัวเขาแล้ว แม้ว่ายังมีอีกหลายคดีที่เป็นชนักปักหลัง เหมือนกับว่าทำอะไรได้ไม่ถนัด ต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายคดีที่ถูกร้องล้วนเป็นเรื่องใหญ่ มีผลต่ออนาคตทางการเมือง ที่ก่อนหน้านี้เริ่มเดินไปได้สวยแล้ว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากจำนวนส.ส.จากผลการเลือกตั้งในครั้งแรกที่ได้มาถึง 81 คน ที่หลายคนก็คาดไม่ถึง แม้ว่าจะเป็นผลพวงมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่พวกเขาพยายามแสสดงออกให้เห็นว่ารังเกียจก็ตาม
ซึ่งจะว่าไปแล้ว สำหรับคดีถือหุ้นสื่ออาจถือว่าเป็น “ด่านแรก”ที่ต้องเผชิญ หรืออาจจะต้องเรียกว่า “วัดดวง”ก่อนก็ได้ เพราะหากด่านแรกผ่านไปได้ แม้จะยังต้องลุ้นในด่านสอง สามตามมาอีก แต่อย่างน้อยก็ต้องภาวนาให้ด่านแรกผ่านไปให้ได้ก่อน เพราะการได้เป็น ส.ส.ย่อมได้แสดงบทบาทในทางสาธารณะได้อย่างเต็มที่ แต่ขณะเดียวกันหากผลออกมาในทางตรงกันข้าม นั่นก็ย่อมหมายความว่า “จบเห่” แม้ก่อนหน้านี้จะพยายามย้ำมาตลอดว่า แม้จะไม่ได้เป็น ส.ส.ก็จะเคลื่อนไหวข้างนอกต่อไปก็ตาม ซึ่งอาจเป็นคำพูดแบบปลอบใจตัวเองก็เป็นได้ หรือแบบ “ปากกล้าขาสั่น”เพราะใครก็รู้ดีว่า แต่ละคดีนั้นมันส่งผลกระทบรุนแรงทั้งตัวเขาและพรรคอนาคตใหม่ เพราะมันพ่วงคดีอาญาตามมาด้วย
**เหมือนกับคดีถือหุ้นสื่อที่เริ่มหนาวมาตั้งแต่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ยื่นคำร้อต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยมาก่อนหน้านี้แล้ว และต่อมาถูกศาลฯสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว และล่าสุดตามมาด้วยการยกคำร้องคำสั่งดังกล่าว มันก็เหมือนเป็นสัญญาณที่หนาวเหน็บ ที่ไม่ว่ามองในมุมไหนมันไม่เป็นบวกเอาเสียเลย !!





กำลังโหลดความคิดเห็น