ผู้จัดการรายวัน360 - ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.16 แสนล้านบาท ดันจีดีพีเพิ่ม 0.5-0.6% เน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวแจกเงินให้ 10 ล้านคน ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าถึง เม.ย. 63 "บิ๊กตู่" ขออย่าเรียกมาตรการกระตุ้นศก.ว่าเป็นการ "แจกเงิน" แจงยิบศก.โลกผันผวน หลายประเทศกระทบมีกองทุนช่วย แต่ไทยต้องพึ่งตัวเอง
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่คลังเสนอวงเงิน 3.16 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพิ่ม 0.5-0.6% ซึ่งมาตรการกระตุ้นมีความจำเป็น เพราะเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัวมาก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบ่งเป็น 3 ส่วน ตามที่ ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบก่อนหน้านี้ 1. มาตรการแจกเงินเพิ่มให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการ 14.5 ล้านคน เดือนละ 500 บาท จำนวน 2 เดือน เริ่มจ่ายเงินเดือน ส.ค. และ ก.ย. นี้ โดยคนที่ถือบัตรและสูงอายุจะได้เพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท ขณะที่คนที่มีบุตรจะได้เพิ่มอีกเดือนละ 300 บาท
2. มาตรการกระตุ้นใช้จ่ายท่องเที่ยว แจกเงินผ่านแอปคนละ 1,000 บาท ให้กับผู้มาลงทะเบียนจำนวน 10 ล้านคน ใครมาลงก่อนได้ก่อน นำไปใช้จ่ายท่องเที่ยว กินร้านอาหาร ร้านค้าท้องถิ่น และโรงแรมที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ ยกเว้นจังหวัดที่ตัวเองอยู่เท่านั้น มีเวลา 3 เดือน เริ่มเดือน ก.ย.-พ.ย. 2562
สำหรับผู้ที่ได้สิทธิเงินท่องเที่ยว 1,000 บาท เติมเงินผ่านแอปเพื่อใช้จ่ายท่องเที่ยวได้อีกไม่เกิน 3 หมื่นบาท โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินคืนให้ 15% หรือ สูงสุด 4,500 บาท
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศยังขยายเวลาฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 18 ประเทศ ที่ได้รับการยกเว้นอยู่แล้วถึงเดือน ต.ค. นี้ ไปจนถึงเดือนเดือน เม.ย. 2563
"มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หากนับรวมเงินที่แจก และเงินที่จะให้คืนหากใช้เต็มวงเงิน 3 หมื่นบาท จะได้เงินจากรัฐรวมกันถึง 5,500 บาท ซึ่งในส่วนของเงินที่เติมให้ 1,000 บาทแรก ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกระตุ้นการท่องเที่ยวรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท กำลังพิจารณาให้จ่ายค่าน้ำมันรถยนต์ได้ด้วย " นายอุตตม กล่าว
มาตรการส่วนที่ 3 ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และการปล่อยสินเชื่อของธนาคารัฐ ทั้ง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วงเงินรวม 2 แสนล้านบาท เริ่มดำเนินการได้ทันที
นายอุตตม กล่าวว่า คลังจะประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มข้น โดยในสัปดาห์หน้าจะให้ธนาคารกรุงไทย สาธิตการใช้แอปที่จะมาลงทะเบียนและรับเงินท่องเที่ยว 1,000 บาท เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจมากที่สุด
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 3 ชุด จะเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 62 ได้ 0.5% และเมื่อรวมกับตัวเลขที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 3 %แล้ว จะทำให้ปี 62 เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ถึง 3.5%
***"บิ๊กตู่" ขออย่าเรียกเป็นการ "แจกเงิน"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงิน 1,000 บาท ที่มีเสียงวิจารณ์ว่าแก้ปัญหาไม่ตรงจุดว่า ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงใช้คำว่า แจกเงิน แต่เป็นมาตรการทางการเงิน การคลัง ของกระทรวงการคลังที่ออกมา แต่หลายคนไปบอกว่าใช้ 3 แสนล้านบาท จริงๆ แล้วใช้เงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้นเอง ส่วนที่เหลือเป็นมาตรการทางภาษี การลดภาษี ชะลอการชำระหนี้ต่างๆ ถ้าคิดรวมเหล่านี้ด้วย ก็เป็นมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท ก็ใช่
“เศรษฐกิจของเรากำลังมีปัญหา เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆรอบบ้านที่เศรษฐกิจตก มันเป็นมาตรการทางการเงินสมัยใหม่ ได้แก่ การใช้เงินกองทุน หรือการจัดตั้งกองทุนใหม่ นี่คือหลักการทางเศรษฐศาสตร์ ที่แก้ปัญหาของทั้งโลกที่ทำแบบนี้อยู่”
ส่วนบางประเทศที่เศรษฐกิจดี อย่างญี่ปุ่น เขาก็ตกลงมา เกาหลีใต้ก็ตกลง แต่เศรษฐกิจเขาขึ้นมาเพราะมีการขึ้นภาษี อย่างประเทศในกลุ่มยูโร และสหภาพยุโรป เขาก็มีกองทุนสนับสนุนเข้ามาช่วย แต่เราไม่มีอะไร มีแต่เงินของเราเอง นี่คือปัญหาที่เราต้องหารายได้เข้าประเทศ ส่วนอย่างอื่นเราก็ยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ การท่องเที่ยวก็มีส่วนสำคัญ แต่เราก็ต้องการนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ แต่มาตรการต่างๆ ก็ออกมาได้แค่นี้ เรามีความผันผวนทั้งเศรษฐกิจของโลก ความผันผวนตลาดเงินลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ ฉะนั้นทุกคนต้องมีข้อมูลระมัดระวังให้ได้มากที่สุด
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่คลังเสนอวงเงิน 3.16 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพิ่ม 0.5-0.6% ซึ่งมาตรการกระตุ้นมีความจำเป็น เพราะเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัวมาก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบ่งเป็น 3 ส่วน ตามที่ ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบก่อนหน้านี้ 1. มาตรการแจกเงินเพิ่มให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการ 14.5 ล้านคน เดือนละ 500 บาท จำนวน 2 เดือน เริ่มจ่ายเงินเดือน ส.ค. และ ก.ย. นี้ โดยคนที่ถือบัตรและสูงอายุจะได้เพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท ขณะที่คนที่มีบุตรจะได้เพิ่มอีกเดือนละ 300 บาท
2. มาตรการกระตุ้นใช้จ่ายท่องเที่ยว แจกเงินผ่านแอปคนละ 1,000 บาท ให้กับผู้มาลงทะเบียนจำนวน 10 ล้านคน ใครมาลงก่อนได้ก่อน นำไปใช้จ่ายท่องเที่ยว กินร้านอาหาร ร้านค้าท้องถิ่น และโรงแรมที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ ยกเว้นจังหวัดที่ตัวเองอยู่เท่านั้น มีเวลา 3 เดือน เริ่มเดือน ก.ย.-พ.ย. 2562
สำหรับผู้ที่ได้สิทธิเงินท่องเที่ยว 1,000 บาท เติมเงินผ่านแอปเพื่อใช้จ่ายท่องเที่ยวได้อีกไม่เกิน 3 หมื่นบาท โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินคืนให้ 15% หรือ สูงสุด 4,500 บาท
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศยังขยายเวลาฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 18 ประเทศ ที่ได้รับการยกเว้นอยู่แล้วถึงเดือน ต.ค. นี้ ไปจนถึงเดือนเดือน เม.ย. 2563
"มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หากนับรวมเงินที่แจก และเงินที่จะให้คืนหากใช้เต็มวงเงิน 3 หมื่นบาท จะได้เงินจากรัฐรวมกันถึง 5,500 บาท ซึ่งในส่วนของเงินที่เติมให้ 1,000 บาทแรก ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกระตุ้นการท่องเที่ยวรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท กำลังพิจารณาให้จ่ายค่าน้ำมันรถยนต์ได้ด้วย " นายอุตตม กล่าว
มาตรการส่วนที่ 3 ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และการปล่อยสินเชื่อของธนาคารัฐ ทั้ง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วงเงินรวม 2 แสนล้านบาท เริ่มดำเนินการได้ทันที
นายอุตตม กล่าวว่า คลังจะประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มข้น โดยในสัปดาห์หน้าจะให้ธนาคารกรุงไทย สาธิตการใช้แอปที่จะมาลงทะเบียนและรับเงินท่องเที่ยว 1,000 บาท เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจมากที่สุด
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 3 ชุด จะเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 62 ได้ 0.5% และเมื่อรวมกับตัวเลขที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 3 %แล้ว จะทำให้ปี 62 เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ถึง 3.5%
***"บิ๊กตู่" ขออย่าเรียกเป็นการ "แจกเงิน"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงิน 1,000 บาท ที่มีเสียงวิจารณ์ว่าแก้ปัญหาไม่ตรงจุดว่า ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงใช้คำว่า แจกเงิน แต่เป็นมาตรการทางการเงิน การคลัง ของกระทรวงการคลังที่ออกมา แต่หลายคนไปบอกว่าใช้ 3 แสนล้านบาท จริงๆ แล้วใช้เงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้นเอง ส่วนที่เหลือเป็นมาตรการทางภาษี การลดภาษี ชะลอการชำระหนี้ต่างๆ ถ้าคิดรวมเหล่านี้ด้วย ก็เป็นมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท ก็ใช่
“เศรษฐกิจของเรากำลังมีปัญหา เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆรอบบ้านที่เศรษฐกิจตก มันเป็นมาตรการทางการเงินสมัยใหม่ ได้แก่ การใช้เงินกองทุน หรือการจัดตั้งกองทุนใหม่ นี่คือหลักการทางเศรษฐศาสตร์ ที่แก้ปัญหาของทั้งโลกที่ทำแบบนี้อยู่”
ส่วนบางประเทศที่เศรษฐกิจดี อย่างญี่ปุ่น เขาก็ตกลงมา เกาหลีใต้ก็ตกลง แต่เศรษฐกิจเขาขึ้นมาเพราะมีการขึ้นภาษี อย่างประเทศในกลุ่มยูโร และสหภาพยุโรป เขาก็มีกองทุนสนับสนุนเข้ามาช่วย แต่เราไม่มีอะไร มีแต่เงินของเราเอง นี่คือปัญหาที่เราต้องหารายได้เข้าประเทศ ส่วนอย่างอื่นเราก็ยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ การท่องเที่ยวก็มีส่วนสำคัญ แต่เราก็ต้องการนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ แต่มาตรการต่างๆ ก็ออกมาได้แค่นี้ เรามีความผันผวนทั้งเศรษฐกิจของโลก ความผันผวนตลาดเงินลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ ฉะนั้นทุกคนต้องมีข้อมูลระมัดระวังให้ได้มากที่สุด