xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงป้อม”ปรับโหมด “ผู้จัดการรัฐบาล”ตัวจริง!!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**ในที่สุด “ลุงป้อม”หรือ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ก็ได้จังหวะที่ต้อง“กระโดด”ลงมากำกับดูแลภายในพรรคพลังประชารัฐแบบเต็มตัวแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ถูกมองจากคนที่เฝ้าติดตามสังเกตการณ์การเมืองมานานว่า ที่ผ่านมาเขามีบทบาท“อยู่หลังฉาก”มาตลอด ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เรื่อยมา
การที่มีการยืนยันแน่ชัดว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ โดยจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในการประชุมกรรมการบริหารพรรคในคราวต่อไป ที่คาดว่าจะมีขึ้นในราวปลายเดือนนี้ ซึ่งตำแหน่งดังกล่าว แม้ว่าดูแล้วเหมือนกับเป็น“ตำแหน่งลอย” เนื่องจากไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค หรือผู้บริหารพรรค แต่ความหมายก็คือ สงวนเอาไว้สำหรับ “ผู้มีบารมี”ที่เหนือกว่า และสมาชิกพรรคให้การยอมรับ
จะว่าไปแล้วมีการมองกันว่า การก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐที่ผ่านมาจะมีหลายองค์ประกอบ แต่นาทีนี้จะโฟกัสไปที่คนที่มีบทบาทสำคัญไม่น้อยก็คือ “ลุงป้อม”นี่แหละ ที่มีคอนเนกชันกับ “กลุ่มทุนใหญ่”อย่างแนบแน่น จนสามารถสะสมกระสุนดินดำ บวกกับอำนาจรัฐ จนทำให้พรรคการเมืองเกิดใหม่เพียงไม่กี่เดือนในตอนนั้น สามารถเบียดจนพรรคการเมืองในสังกัด “เครือข่ายทักษิณ ชินวัตร”ต้องวืดจากการเป็นรัฐบาลอีกรอบ และถือเป็นครั้งแรก ที่พรรคการเมืองของพวกเขาไม่ได้เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
หากพิจารณาจากบทบาทใหม่ล่าสุดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ต้องลงมารับตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ มันก็ไม่ต่างจากการ“เปลี่ยนบทบาท”ใหม่ จากเดิมก่อนหน้านี้ที่มักเคลื่อนไหวอยู่หลังฉาก แต่คราวนี้ถึงเวลาที่ต้อง “ออกหน้า”แบบเต็มตัวแล้ว จะเป็นเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ ที่ยัง มี“อำนาจพิเศษ”คอยค้ำอยู่ แต่เมื่อเข้าสู่สถานการณ์ใหม่ ที่ต้องใช้กลไกพรรคการเมือง กลไก ส.ส. เป็นตัวขับเคลื่อนรัฐบาล มันก็ถึงเวลาที่ต้องกระโดดลงมา
อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากภารกิจที่มีการระบุออกมาว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะทำหน้าที่ด้านยุทธศาสตร์ มีความเชื่อมโยงกับส.ส.ของพรรคและพื้นที่ มีการรับฟังปัญหา และประมวลเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาจะเกิดปัญหามาตลอด เนื่องจากมีหลายกลุ่มก๊วนการเมืองเข้ามาร่วม
**ดังนั้นการที่ “ลุงป้อม”ลงมาเต็มตัวก็เพื่อกำจัดจุดอ่อนดังกล่าวให้หมดไป
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงแล้ว ถือว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นรัฐบาลผสมเกือบยี่สิบพรรค มีเสียงปริ่มน้ำ มีเสียงสนับสนุนเกินมามากกว่าพรรคฝ่ายค้านเพียงแค่ 2-3 เสียงเท่านั้น ทำให้มีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา มีโอกาสล้มคว่ำได้ทุกเมื่อ ดังนั้น นี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ "ลุงป้อม" ต้องลงมาเต็มตัวแบบนี้
เพราะงานควบคุม ส.ส. และนักการเมืองไม่ให้แตกแถว มันก็ต้องใช้คนที่มีบารมีระดับ “พี่ใหญ่”นี่แหละ ประกอบกับในรัฐบาลปัจจุบัน “บิ๊กป้อม”ก็ลดบทบาทลงมาเหลือแค่ตำแหน่งรองนายกฯ เพียงตำแหน่งเดียว ทำให้มีเวลาในการทำงานการเมือง เพื่อสนับสนุน “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างเต็มกำลัง ซึ่งเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่มีผลต่ออนาคตของรัฐบาลผสมเสียงปริ่มน้ำแบบนี้
นอกเหนือจากการทำหน้าที่เป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรคพลังประชารัฐแล้ว อีกบทบาทหนึ่งที่มีความเชื่อมโยงสอดคล้องเห็นภาพชัดก็คือ ได้ทำหน้าที่ในฐานะ “ผู้จัดการรัฐบาล”ได้อย่างเต็มตัว จากเดิมที่เคยประสานกันผ่านตัวแทนหรือ “นายหน้า”ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ”เพื่อป้องกันปัญหาว่า“ครอบงำพรรค”แต่เมื่อทุกอย่างดำเนินมาแบบเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่การสมัครเป็นสมาชิกพรรค มาจนถึงการรั้งตำแหน่งดังกล่าวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 20 สิงหาคม ที่มีการประชุมพรรค
และแน่นอนว่า การที่ “พี่ใหญ่” ลงมาบัญชาการเต็มตัวแบบนี้ มันก็ย่อมมีเป้าหมายข้างหน้าชัดเจนว่าต้อง“เดินยาว”และที่สำคัญมันก็ย่อมได้รับไฟเขียวจาก“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเต็มตัว ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นาน ก็จะลงมาเหมือนกัน เพียงแต่กำลังรอจังหวะเหมาะสมเท่านั้น
**เพราะเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป บทบาทก็ต้องเปลี่ยนตาม โดยเฉพาะศึกใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า นั่นคือ การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา มันถึงต้องเตรียมพร้อมกันแต่เนิ่นๆ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น