xs
xsm
sm
md
lg

29 ชีวิตดับใน ‘สังคมนิยมปืน’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์

กราดยิงที่ร้านวอลมาร์ท เมืองเอลปาโซ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
ในสังคมนิยมการมีอาวุธปืน ซื้อหาได้โดยง่าย แม้กระทั่งอาวุธสงครามร้ายแรงดังเช่นสหรัฐอเมริกา ความเสี่ยงโดยการถูกฆ่าตาย หรือบาดเจ็บ ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทะเลาะวิวาท เกิดขึ้นได้ง่าย ตายครั้งละหลายคน จนเป็นเหมือนสังคมที่ป่วยหนัก

ใช้อาวุธปืนร้ายแรงยิงอย่างบ้าระห่ำ ไม่เลือกเป้า ไม่จำเป็นต้องมีเหตุ ตายแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับโอกาสและระยะเวลาเหนี่ยวไก และจำนวนปืนและกระสุนที่พกพาไปก่อเหตุร้าย เกิดเหตุซ้ำรอยหลายครั้ง และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายถ้ายังซื้อปืนได้ง่าย

ล่าสุด มีการสังหารหมู่ใน 2 เมือง ห่างกัน 1.500 ไมล์ เหตุเกิดต่างกันเพียง 13 ชั่วโมง มีคนเสียชีวิตรวม 29 ราย บาดเจ็บทั้งหนักเบากว่า 50 ราย คนก่อเหตุเพียง 2 คน ยอมให้จับกุม 1 ราย ตายในการปะทะ 1 ราย ทำเอาคนอเมริกันช็อกทั้งประเทศ

“อีกแล้วหรือ” “แล้วจะทำอย่างไรกันต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้ซ้ำซาก” เป็นคำถาม แต่ยังไม่มีคำตอบ และมีเสียงเรียกร้องอีกครั้งให้ภาครัฐออกกฎเข้มในการซื้อและครอบครองอาวุธปืน ทั้งปืนไรเฟิลอัตโนมัติร้ายแรงที่ใช้ในสงคราม

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำทำเนียบขาว พูดได้แต่เพียงว่า อาจถึงเวลาที่ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อจำกัดการครอบครองอาวุธปืนร้ายแรง และป้องกันเหตุร้าย แต่การพูดนั้นง่าย แต่ทำยาก เพราะกลุ่มบริษัทผู้ผลิตอาวุธปืนเป็นกลุ่มผลประโยชน์มหาศาล

หลังจากมีเหตุร้ายไล่ยิงในที่ชุมชน ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสหรัฐฯ ก็จะมีกระแสให้ควบคุมอาวุธร้ายแรง และการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ที่ผ่านมาไม่เคยได้ผลสำเร็จ แม้เคยมีนักเรียนชุมนุมเดินขบวนทั่วประเทศ แต่สู้พลังของพวกบริษัทผลิตปืนไม่ได้

สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ เป็นกลุ่มพลังซึ่งมีล็อบบี้ยิสต์แข็งแกร่งในสภาคองเกรส เป็นผู้บริจาครายใหญ่ให้นักการเมืองเพื่อหาเสียงช่วงเลือกตั้ง เป็นกลุ่มอนุรักษนิยม ขาประจำของพรรครีพับลิกัน สมาชิกเป็นบริษัทผลิตอาวุธปืนรายใหญ่

นักการเมืองอเมริกัน โดยเฉพาะพรรครีพับลิกัน ไม่กล้าประกาศว่าจะเสนอกฎหมายควบคุมการใช้อาวุธปืน เพราะต้องแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องยาก เมื่อกฎหมายระบุไว้นานแล้วเป็นสิทธิพลเมืองที่สามารถครอบครองอาวุธปืนได้

ดังนั้นกลุ่มผู้ผลิตผู้ค้ามีความแข็งแกร่ง ผ่านกระแสต่อต้านการมีอาวุธปืนทุกสมัย เมื่อกฎหมายให้อำนาจประชาชนมีอาวุธไว้ในครอบครองได้ค่อนข้างง่าย แม้จะไม่ง่ายเหมือนยุคก่อนซึ่งคนเดินเข้าร้านขายปืน โชว์ใบขับขี่ก็ซื้อปืนมาพกได้แล้ว

ปัจจุบันยังมีการสอบประวัติผู้ขอซื้อ และจำกัดประเภทอาวุธ และจำนวนระดับหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ใครก็มีอาวุธสงครามไว้ในบ้าน ไม่หลายประเภทก็ได้ เพราะถือว่าเป็นสิทธิและความจำเป็นในการมีอาวุธปืนเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน

ครั้งนี้สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ คงต้องออกแรงหนักเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่ม ถ้ากฎหมายถูกแก้ไข มีการคุมเข้ม ก็หมายถึงตัวเลขการขายน้อยลง และมีข้ออ้างเสมอว่าปืนฆ่าใครไม่ได้ ถ้าไม่มีคนใช้และเหนี่ยวไกยิง โดยมีคนเป็นเป้า

เหตุร้ายเช้าวันเสาร์เกิดในเมืองเอลปาโซ ในรัฐเทกซัส ในอดีตเป็นเมืองคาวบอยพกปืน ครั้งนี้มือปืนเป็นหนุ่มวัย 21 ปี ใช้ปืนไรเฟิลไล่ยิงคนในห้างวอลมาร์ทในศูนย์การค้า ยิงไม่เลือก ทำให้เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บ 26 ราย มือปืนถูกจับได้

มือสังหาร แพททริค ครูเซียส เป็นชายผิวขาว อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ใกล้เมืองดัลลัส ยอมให้จับกุมตัว เอกสารที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นแนวคิดชาตินิยมและเหยียดผิว ต่อต้านยิว ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและเข้าข่ายก่อการร้าย

เป็นการสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเทกซัส ชาวเมืองทำใจไม่ได้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุของการฆ่าเป็นเพราะความเกลียดชังผู้อพยพ ผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งมาจากอเมริกาใต้ ก่อนลงมือได้แพร่ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย

เมื่อมีผู้ต้องหา คดีก็ไม่ซับซ้อน ขึ้นอยู่กับคำให้การรับสารภาพและโทษที่จะต้องไปว่ากันในศาล เจ้าหน้าที่พยายามสืบดูว่าเป็นฝีมือของคนเดียวหรือมากกว่า

ขณะที่กลิ่นควันปืนยังไม่จางในเอลปาโซ ก็มีเหตุร้ายที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ เมื่อมือปืนใช้ปืนยาวบุกไล่ยิงคนอีกเช่นกันในขณะที่เดินทางไปบาร์เหล้า “เน็ต เป็ปเปอร์ส” มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย บาดเจ็บด้วยกระสุนอีก 27 ราย

มือปืนถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากได้รับแจ้งเหตุ แต่ยังไม่ระบุว่าสาเหตุเกิดเพราะอะไร ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีน้องสาวของมือปืนรวมอยู่ด้วย มือสังหารชื่อ คอนเนอร์ เบตต์ ได้สั่งซื้อปืนยาวพร้อมกระสุนผ่านระบบออนไลน์

ร้านปืนอยู่ในรัฐเทกซัส แต่ส่งปืนไปในร้านเครือข่ายในโอไฮโอ สั่งพร้อมกระปุกกระสุน 2 อันบรรจุได้รวม 100 นัด และมีแมกกาซีนสำรองอีก แต่ยังไม่ได้ยิงนานก็ถูกเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้นสังหารเสียก่อน ทำให้ไม่รู้ว่ามีเหตุจูงใจอย่างไร

ช่วงวันที่ 30 เดือนที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุร้ายเมื่อพนักงานร้านวอลมาร์ทในรัฐมิสซิสซิปปีใช้ปืนยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 ราย และยิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 ราย เกิดจากความไม่พอใจ ในร้านมีพนักงานอยู่ 60 คน ถูกจับกุมไว้ในข้อหาฆ่าคนตาย

ก่อนหน้านั้น 1 วัน ขณะที่ประชาชนกำลังฉลองเทศกาลในเมืองกิลรอย การ์ลิคในรัฐแคลิฟอร์เนีย หนุ่มวัย 19 ปีถืออาวุธปืนไรเฟิล แต่งชุดพร้อมรบ ยิงกราดทำให้มีคนเสียชีวิต เป็นเด็ก 2 ราย และชายวัย 25 ปี มีผู้บาดเจ็บ 16 ราย มือปืนก็เสียชีวิต

เหตุร้ายจากการกราดยิงด้วยอาวุธปืนร้ายแรงเกิดขึ้น 4 แห่งในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ และคงจะไม่เป็นครั้งสุดท้าย อยู่ที่ว่าครั้งต่อไปจะเกิดที่ไหน มีเหยื่อกี่รายเท่านั้น เพราะทางการไม่สามารถป้องกันได้ล่วงหน้า ไม่มีสัญญาณเตือนอะไรทั้งนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น