xs
xsm
sm
md
lg

กลับมา “เปิดเล้าไก่” กันดูอีกสักเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณสวนหย่อมหน้าศูนย์ราชการ อาคาร B
เปิดฉากสัปดาห์นี้...สงสัยคงต้องกลับมา “เปิดเล้าไก่” สำรวจตรวจสอบความเป็นไปในบ้านเมืองของหมู่เฮาซะหน่อย เพราะการที่โลกแทบจะทั้งโลก หรือการที่ประเทศอาเซียน 10 ประเทศ รวมทั้งประเทศคู่เจรจาอีกกว่า 30 ประเทศ ต่างร่อนมาพบปะพูดคุย รวมหัว รวมตัวกันอยู่ที่กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ฯ ตามวาระการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ไปจนถึงวันที่ 3 ส.ค.นี้ มีทั้งคุณพ่ออเมริกา คุณน้ารัสเซีย คุณพี่จีน คุณปู่อินตะระเดียไปจนถึงคุณพี่ญี่ปุ่น ยุ่นปี่ ฯลฯ มากันครบหมด ก็คงไม่ต้องไปเสียเวลาร่อนไปโน่น ร่อนไปนี่ กันสักเท่าไหร่นัก...

และก็แน่นอนนั่นแหละว่า...บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศเกือบ 40-50 ประเทศ ที่เข้ามาสุมหัวรวมตัวกันอยู่ ณ กรุงเทพมหานครยังไงๆ...ก็คงพอได้ยินเสียง หรือได้ยินข่าวคราวการบึ้มม์ม์ม์โน่น บึ้มม์ม์ม์นี่ รวดเดียวพร้อมกันถึง 3 จุดซ้อนๆ กลางเมืองหลวงของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา ส่วนเมื่อได้ยินแล้วจะคิดเห็นเป็นประการใด จะเกิดอาการตื่นตระหนก อกสั่นขวัญสยองไปด้วยหรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...คงต้องไปสอบถามบรรดาตัวแทน ผู้แทนของประเทศต่างๆ กันเอาเองก็แล้วกัน แต่ที่แน่ๆ...คงไม่น่าถึงขั้นหยิบมาเป็นเงื่อนไข เหตุปัจจัยในการกล่าวหา ด่าทอกันไป-กันมา เยาะเย้ย เสียดสี เหน็บแนมเหมือนอย่างบรรดา “ฝ่ายต่างๆ” ในบ้านเรา ที่แม้จะเป็นคนไทยไปด้วยกันทั้งสิ้น แต่ยังคงสนุกสนานเมามันซ์ซ์ซ์อยู่กับการแบ่งกลุ่ม แบ่งฝ่าย แบ่งพวก เป็นพวกมึง พวกกู พวกมัน พวกเรา มาตั้งแต่ยุค“ทศวรรษแห่งความมืดมน” โน่นเลย และก็ยังไม่คิดจะแล้วเสร็จจนตราบเท่าทุกวันนี้...

อันนี้นี่แหละ...ที่มันออกจะน่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเอามากๆ ทั้งๆ ที่โดยแนวโน้ม หรือโดย “น้ำหนัก” ของเหตุผลและผล ในการลอบวางระเบิดคราวนี้ มันน่าจะมีส่วนเอียงๆ ไปในแนวที่เกี่ยวโยง เกี่ยวพันกับฉากสถานการณ์ในแถบ 3 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทยอยู่พอสมควรเหมือนกัน อันเป็นฉากสถานการณ์ที่นับวัน ดูจะไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐาน “ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ” หรือแม้แต่ภายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทยมากมายสักเท่าไหร่ แต่เริ่มจะส่อเค้า ส่อแววให้เห็นถึงความเกี่ยวพันกับ “ความขัดแย้งทางการเมืองภายนอกประเทศ” ชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หรือความขัดแย้งทางการเมืองระดับโลกที่มีการนำเอา “การก่อการร้าย” มาใช้เป็นองค์ประกอบ หรือเป็น “เครื่องมือ” ในแต่ละภูมิภาค อย่างเป็นเรื่อง เป็นราว เป็นระบบและเป็นกิจการ มาอย่างต่อเนื่องยาวนานพอสมควร...

การผลุบๆ โผล่ๆ ของ “รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์” (Islamic State of Iraq and Levant) หรือที่เรียกกันย่อๆว่า “ไอซิล” (Isil) “ไอซิส” (Isis) ไปจนถึง “ดาเอช” (Daesh) กันเลยนั้น ณ บริเวณรอยแยก รอยต่อระหว่างประเทศอิรัก ซีเรีย ในช่วงอดีตเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดปัญหากันในระดับภูมิภาค หรือในระดับโลกเอาเลยก็ว่าได้ ว่าไปแล้ว...แทบไม่ได้มีอะไรผิดแผกแตกต่างไปจากความฝัน ความทะเยอทะยานของบรรดาพวก “มุสลิมสุดโต่ง” บางกลุ่ม บางราย ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่หวังจะผลุบๆ โผล่ๆ สิ่งเรียกว่า “Islam Supper State” ขึ้นมาครอบคลุมบางส่วน บางพื้นที่ของประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงอินโดนีเซียโน่นเลย โดยเฉพาะลักษณะของพฤติกรรมและการแสดงออก ที่เน้นความโหด ความเหี้ยม ไม่ต่างไปจากกันเอาเลยแม้แต่น้อย หรือโดยไม่ได้สนใจอารมณ์ ความรู้สึกของบรรดา “มุสลิมท้องถิ่น” พร้อมที่จะฆ่า ประหัตประหาร พร้อมที่จะก่อการร้าย ทำร้าย ทำลาย ใครต่อใครก็ตาม แม้แต่บรรดา “ชาวมุสลิม” ด้วยกันเอง อันมีส่วนไม่มากก็น้อย...ที่ทำให้ “ปัญหาชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้” ของประเทศไทย ทวีความสลับซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงจังหวะที่ผู้คนแทบทั้งโลก ได้มารวมตัวกันที่ประเทศไทย ในวาระการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนระหว่างนี้นี่เองเหตุการณ์การบึ้มโน่น บึ้มนี่ที่เกิดขึ้น ณ ใจกลางเมืองหลวงของประเทศ ย่อมถือเป็นประโยชน์ไม่ว่าส่วนหนึ่ง ส่วนใด ต่อบรรดา “นักก่อการร้าย” ในแนวนี้ไม่มากก็น้อย หรือไม่ว่าบรรดาพวก “มุสลิมสุดโต่ง” เหล่านี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ เพียงใด ซึ่งนั่น...คงต้องปล่อยให้บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ไปว่ากันตามกระบวนการสืบสวน สอบสวน เอาเองก็แล้วกัน แต่ที่มันน่าอ่อนเปลี้ยละเหี่ยใจ ก็คือทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไผเป็นไผ หรือใครกันแน่!!! ที่เป็น “มือระเบิด” บรรดาผู้ที่ยังคงแบ่งพรรค แบ่งพวก ยังพร้อมที่จะแยกตัว แยกข้างออกเป็นฝ่ายต่าง ต่างหันมา “ใส่กันเอง” ชนิดเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก เละเป็นเต้าหู้ตกโต๊ะกันไปซะแร้นน์น์น์...

การกล่าวหาว่า “เผด็จการ” คือผู้สร้างสถานการณ์ขึ้นมาเอง กล่าวหาว่าพวก “ประชาธิปไตยทุนสามานย์” ยังคงเป็น “เชื้อชั่วที่ไม่เคยตาย” ไปจนถึงการหยิบเอามาเยาะเย้ย เสียดสี เหน็บแนมระหว่างบรรดา “นักการเมือง” ในแต่ละฝ่าย ฯลฯ ชนิดเลอะเทะ เละเทอะ เลอะเทอะไปทั่วทั้ง “โลกเสมือนจริง” (โซเชียล มีเดีย) และ “โลกแห่งความเป็นจริง” จึงออกจะเป็นอะไรที่น่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเอามากๆ เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้ต้นเหตุ สาเหตุแห่งความขัดแย้ง อันนำมาซึ่งฉากสถานการณ์ที่ว่านี้ เกิดความคลี่คลายลงไปตามกระบวนการของมันเอง แต่ยังกลับกลายเป็นตัวเพิ่มต้นเหตุ สาเหตุแห่งความขัดแย้ง อันอาจนำไปสู่ฉากสถานการณ์ที่น่าเกลียด น่ากลัว น่าทุเรศเวทนา ในอนาคตเบื้องหน้า ให้ยิ่งมีความเป็นไปได้ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ “อันตัวข้าพเจ้าเอง” (ทับทิม พญาไท) เลยหนีไม่พ้นต้องหาทาง “เปิดเล้าไก่” หันไปร่อนไป-ร่อนมา อยู่นอกบ้าน นอกประเทศ หวิดจะนอกโลก นอกจักรวาลเอาเลยด้วยซ้ำ เพราะออกจะเป็นอะไรที่สุดแสนจะเบื่อ สุดแสนจะเอียนเต็มทีแม้ว่ามันจะยังคงเป็นสิ่งที่สร้างความสนุกสนานเมามันซ์ซ์ซ์ ให้กับบรรดาผู้ที่ชอบแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย ผู้ที่พร้อมไล่บด ไล่บี้ ไล่กัดระหว่างกันและกัน ชนิด “แค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่อง” กันและกันมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่โดย “เหตุปัจจัยพื้นฐาน” อันส่งผลให้บางประเทศ อย่างเช่นประเทศซีเรีย เป็นต้น ต้องเกิดอาการบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องอพยพหลบภัยกันนับสิบๆ ล้าน ต้องตายกันไปเป็นล้านๆ มันก็จากเหตุปัจจัยอันเดียวกันนั่นแหละ กับสิ่งที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน เมามันซ์ซ์ซ์ต่อบรรดาผู้ที่พยายามแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย อยู่ในบ้านเราจนทุกวันนี้...

ด้วยเหตุนี้...ก็เอาเป็นว่า หลังจากได้ “เปิดเล้าไก่” กันไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว สำหรับวันพรุ่งนี้คงได้เวลาร่อนไป-ร่อนมา ร่อนกลับไปนอกโลก นอกประเทศ อีกเช่นเคย ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้น ก็คงต้องแล้วว่าอยากจะ “ตามไปดู” กันมั่งหรือไม่ หรือถ้าหากไม่สมอารมณ์ต่อข้อเขียน ต่อสำบัดสำนวน ก็หันไปดูอย่างอื่นเอาเองก็แล้วกัน...


กำลังโหลดความคิดเห็น