xs
xsm
sm
md
lg

เส้นทางราบรื่น ระวังลื่นหกล้ม!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"โสภณ องค์การณ์"

ถึงเวลาที่ รัฐบาลท่านลุงป็อปปูลาร์ห้าวเป้ง ต้องเริ่มปฏิบัติตามคำหาเสียงด้วยนโยบายประชานิยมถมไม่เต็มสารพัด มีเสนาบดีบางรายอ้อมแอ้มเชิงออกตัวว่าต้องค่อยคิดค่อยทำค่อยไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ งบประมาณ และจัดลำดับความเร่งด่วน

มีเสนาบดีเครื่องร้อน ออกตัวแรง ด้วยนโยบายดูแล้วโดนใจชาวบ้าน จัดการปัญหาคาซากเรื้อรัง ดูแล้วคึกคักฮึกเหิม เหมือนกับว่ากว่า 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมาจากรัฐประหารทำงานไม่ได้เรื่อง ต้องให้นักเลือกตั้งมืออาชีพบรรเทาทุกข์ชาวบ้าน

แน่นอน เริ่มมีแพลมๆ โครงการจัดซื้อจัดจ้าง อ้างความจำเป็นอีกนั่นแหละ ของมันต้องซื้อต้องมี จะต้องผูกพันก่อหนี้อีกกี่ปีเป็นอีกเรื่อง ป่านนั้นจะมีใครรับหน้าที่เสนาบดีแทนก็ไม่รู้ ถ้าคณะนี้ไม่ได้อยู่ยาว 4-8 ปีตามความฝันหวานกลางแดด

คำพูดสะท้านปฐพีหลุดออกจากปากท่านลุงป็อปปูลาร์ “จะต้องไม่มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด” ฟังดูท่าทางขึงขังสมกับสภาพชายชาติทหารเกษียณอายุซะนี่กระไร เสนาบดีคนอื่นได้ยินแล้วสะท้านใจบ้างหรือไม่ เพราะต้องระวังถ้าจะเริ่มคิดไม่ซื่อ

คำพูดเป็นเรื่องง่าย ปฏิบัติได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่อง เมื่อยังไม่มีการโกงเกิดขึ้น ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับท่านผู้มีอำนาจทั้งหลาย เพราะป่านนี้ยังไม่มีใครประกาศตนชัดเจนว่า “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญภาษาโลกสวย

ดังนั้น ลุงห้าวเป้งต้องระวังหนัก คำประกาศถือว่าเป็นพันธะสัญญาประชาคม จะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ต้องย้อนไปถึงปีแรกของการรัฐประหาร “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” จากนั้นเพลงดังก็หายไปจากภารกิจเป่าหูคนบ้องตื้น

ถ้าจะให้ขึงขัง อุดช่องว่างรูโหว่หมาลอดได้ มาเป็น “จะต้องไม่มีทุจริต คอร์รัปชั่น คอมมิสชั่น เด็ดขาด” ให้ครอบคลุมทุกมิติ ที่ผ่านมา “คอมมิชชัน” ไม่ถูกรวมว่าเป็นการคอร์รัปชั่น แต่เป็นธรรมเนียมการตอบแทนเมื่อมีธุรกรรมซื้อขาย

ถ้าไม่คิดเบียดบังส่วนคอมมิชชัน ผู้จัดซื้อจัดจ้างเห็นแก่ผลประโยชน์ของรัฐและบ้านเมืองต้องเปลี่ยน “คอมมิชชัน” เป็นส่วนลด หรือเป็นคูปองสำหรับซื้ออะไหล่ ส่วนประกอบ หรือค่าบริการ ไม่ใช่รับเป็นเงินสดเข้ากระเป๋า ทั้งที่ไม่ใช่เงินของตัวเอง

เหมือนอย่างซื้อเรือดำน้ำ มีข่าวว่านายพลจีนคนรับผิดชอบการขายโดนประหาร โดนขังคุกเพราะข้อหาทุจริต แต่ฟากฝั่งคนซื้อยังวางมาด ยิ้มแย้มอิ่มเอิบ หรือกรณีไม้แหย่แย้ คนขายติดคุกจนออกไปแล้ว คนซื้อยังเดินส่ายพุงกางโชว์มาด

ดังนั้น คำประกาศของลุงห้าวเป้งต้องไม่เป็นเหมือนผายลมสุนัขยามบ่าย!

เมื่อพูดถึงเรื่องการทุจริตในภาครัฐ มักจะมีกองเชียร์หรือ “ติ่ง” ลุงมาแย้งว่ามีหลักฐานก็เอาไปยื่นให้ ป.ป.ช. ได้เลย การพูดอย่างนี้สะท้อนให้เห็นความไร้เดียงสาบ้องตื้นมาก เพราะองค์กรอิสระหลวมในบ้านนี้เมืองนี้ไม่เหลือความน่าเชื่อถือแล้ว

เรามีคนที่เรียนกฎหมายมา แต่ไม่มีนักกฎหมายซึ่งมีคุณธรรม มีจิตสำนึกด้านการรักษาความเที่ยงธรรมของระบบ เพื่อทำให้ฐานของประเทศแข็งแกร่ง มีมาตรฐานประชาชนยอมรับ เป็นที่พึ่งของผู้ได้รับความเดือดร้อนจากผู้กระทำผิดกฎหมาย

รัฐบาลลุงห้าวเป้งยังแสดงให้เห็นภาวะ “ไฟแรง” ด้วยการฟื้นฟู “รัฐมนตรีเศรษฐกิจ” เพื่อมารับผิดชอบงานต่างๆ ด้านเศรษฐกิจ จะเป็นหนังหน้าไฟหรือแพะรับบาปสำหรับความล้มเหลว หรือรับรองความเป็นหัวหน้ารัฐมนตรีเศรษฐกิจของลุง

ประเด็นท้าทายจิตวิญญาณความรับผิดชอบด้านคุณธรรมและมโนธรรมของคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจก็คือ “มีความจำเป็นอย่างแรงกล้าหรือไม่ที่กองสลากจะต้องออกหวยนักษัตรเพื่อดูดเงินจากคนจนไร้ที่พึ่ง ต้องเสี่ยงโชค เพื่อเสริมรายได้ของรัฐ”

ความจำเป็นมีแน่ เพราะมีโครงการประชานิยมถมไม่เต็มใช้เงินสารพัด มีงบประมาณน้อยกว่าความต้องการจะใช้หลายเท่า ยิ่งมีเสียงร่ำลือเรื่อง “ถังแตก” เงินคงคลังมีปัญหา ก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าการหารายได้ง่ายๆ คือเอาเงินจากชาวบ้าน

อะไรจะง่ายกว่าให้ชาวบ้านมีทางเลือกเสี่ยงโชคแบบใหม่ เช่นหวยนักษัตร? เป็นช่องทางดูดเงินจากภูมิภาคเข้ารัฐ เหมือนธุรกิจห้างยักษ์ ห้างสะดวกซื้อในระบบโมเดิร์นเทรด ซึ่งได้สร้างความวอดวายสิ้นสลายของร้านโชวห่วยในชุมชนทั่วประเทศ

เมื่อไม่อยากกู้สร้างหนี้สินเพิ่ม หรือกู้แล้วยังไม่พอค่าใช้จ่าย ต้องหาช่องทางหาเงิน และการเสี่ยงโชคให้ชาวบ้านหมกมุ่นกับโอกาสจะได้รางวัลก็เป็นทางเลือก ดีกว่าอยู่แบบไม่มีเงินใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจบางระดับที่อยู่ในสภาพตายซากขณะนี้

ตัวลุงป็อปปูลาร์เองก็รับงานเยอะทั้งตำรวจ ทหาร และงานความมั่นคงอื่นๆ ต่อให้เป็นทศกัณฑ์ 10 หน้า นารายณ์ 4 กร ก็ยังถือว่าน้อยไปสำหรับภาระหนักหนาสาหัส อยู่ในสภาวะเศรษฐกิจซบเซา ปัญหาหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนมหาศาล

เอาเพียงแค่ไม่ให้มีข้อครหาเรื่องมีนอกมีใน การทุจริตในโครงการต่างๆ ในกลุ่มเสนาบดีและเครือข่าย ก็ยังยาก คำประกาศ “ต้องไม่มีทุจริตเด็ดขาด” ทำให้ลุงป็อปปูลาร์ต้องพิสูจน์ให้ดูเป็นจริงดังว่า และถ้ามีเรื่องโกงกินฉาวโฉ่จะจัดการอย่างไร

และถ้าเป็นตัวเป้งๆ คนสำคัญของพรรคในแกนนำรัฐบาล จะทำอย่างไร?

รัฐบาลมักพูดว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” แล้วไง? เจ้าหน้าที่มีส่วนได้ส่วนเสียผลประโยชน์ยอมปล่อยให้พวก “อยู่นอกกฎหมาย” ลอยนวล มีชีวิตสุขสบาย

ที่ผ่านมากว่า 5 ปี มีอำนาจตุงเป้า ยังเอาไม่อยู่ มีข้อครหาเรื่องการทุจริตบานเบอะ ยิ่งมาใช้ชีวิตร่วมกันนักเลือกตั้งที่ตัวเองทำรัฐประหารไล่ออกไป แต่อยู่แบบต้องพึ่งแรงหาม เสียงโวตในสภา จะให้เชื่อได้อย่างไรว่าจะกล้าเล่นงานพวกจ้องโกงกิน

ยุคที่มี “นักร้อง” และโซเชียลมีเดียขยันขันแข็ง ข่าวลวง ข่าวปลอม ลุงต้องพึ่งบริการของสื่อที่ได้รับลาภลอยจากความล้มเหลวในธุรกิจทีวีดิจิตอลเป็นปากเสียงแทนให้อย่างเต็มใจ ถือว่ามีโชคช่วย บุญเก่าหนุนค้ำจุน แต่จะต้องระวังบุญหมด

เรื่องที่ค้างคาอยู่อาจแผลงฤทธิ์ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ แม้แต่วิษณุยังเสียว!

กำลังโหลดความคิดเห็น