**เห็นความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร และญาติพี่น้องผ่านทางโลกโซเชียลในช่วงวันสองวันนี้ ทำให้มีข้อสังเกตตามมาหลายอย่าง โดยเฉพาะหากเชื่อมโยงในทางการเมืองที่กำลังจะเกิดเหตุการณ์สำคัญมาประจวบเหมาะกันพอดี
แน่นอนว่า ในวันที่ 26 กรกฎาคมปีนี้ สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร จะมีอายุครบ 70 ปี ถือว่าเข้าสู่วัยสูงอายุแล้ว ทำให้หลายคนจับตามอง เขาจะประกาศวางมือ เลิกยุ่งเกี่ยวการเมืองในประเทศไทย หรือไม่ เหมือนกับที่ อดีตลูกน้องบางคนอย่าง "เสี่ยเพ้ง" พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่เป็นนักการเมืองคนใกล้ชิด ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ได้ประกาศอำลาอย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยอ้างว่าอายุมาก
อย่างไรก็ดี ยังมีหลายคนว่า คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร คงไม่ประกาศวางมือหรือประกาศให้ผูกมัดตัวเอง อย่างมากก็เพียงแค่ "นิ่งเงียบ"รอจังหวะ รอโอกาสเท่านั้น เหมือนกับในช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากการเลือกตั้งที่รับรู้แล้วว่า พรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้ไม่สามารถกุมอำนาจรัฐได้ในรอบเกือบยี่สิบปี แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีคนมั่นใจว่า เขาก็คงไม่มีทางประกาศวางมือเป็นอันขาด ในทางตรงกันข้าม ยิ่งต้องหาทางกลับมา"ทวงคืน" ให้ได้
เพราะอีกด้านหนึ่ง เวลานี้ทั้งตัว ทักษิณ ชินวัตร เอง มีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว รวมไปถึงคนในครอบครัวที่โดนคดีทุจริต คดีอาญา ต้องหลบหนี และยังมีบางคนที่กำลังเสี่ยงคุกตามมาอีก มันก็ยิ่งไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ ซึ่งแนวทางที่เป็นไปได้ก็คือ น่าเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ หรือยุทธวิธีในการต่อสู้มากกว่า
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดในช่วงเวลานี้ จากภาพที่ปรากฏเผยแพร่ในโลกโซเชียล ในกลุ่มคนที่นิยมชมชอบพวกเขาทำให้ได้เห็นว่ากำลัง "รวมทีม" กันอย่างพร้อมหน้า นอกเหนือจาก ทักษิณ แล้วยังมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, เยาวภา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และลูกๆ หลานๆ อยู่กันอย่างพร้อมหน้าโดยทั้งหมดปรากฏตัวพร้อมกันที่ฮ่องกง
หากพิจารณาตามเหตุผลที่ ทักษิณ ชินวัตร เคยประกาศผ่านทางสื่ออนไลน์ก่อนหน้านี้ ในทำนองไม่สะดวกที่จะรับแขกบุคคลภายนอกในช่วงครบรอบวันเกิดปีนี้ โดยครั้งนั้น อ้างว่าบ้านพักที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คับแคบไม่สะดวกอีกทั้งอากาศที่นั่นร้อนจัดไม่อาจจัดกลางแจ้งภายนอกได้ ทำให้คาดกันว่าเขาน่าจะไปที่อังกฤษ สมทบกับน้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นั่น แต่ล่าสุดทั้ง ทักษิณ และคนในครอบครัวและญาติใกล้ชิด ก็ไปโผล่ที่ฮ่องกงพร้อมกัน
**ที่น่าจับตาก็คือ การปรากฏตัวของคนในครอบครัวนี้ พร้อมกันที่ฮ่องกง ทำให้ถูกเชื่อมโยงในทางการเมืองในไทยได้ไม่ยาก เพราะแม้ว่าจะเป็นช่วงรวมญาติ ก่อนถึงวันเกิดครบรอบ 70 ปี ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ก็ตาม แต่ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน คือวันที่ 25 กรกฎาคม ก็เป็นวันที่รัฐบาลใหม่ของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกำหนดแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน ต่างมีความเคลื่อนไหวเตรียมอภิปรายซักฟอกกันอย่างเต็มที่ จนถูกดักคอว่า ไม่ใช่วาระญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ประกอบกับฮ่องกง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้เป็นที่จับตามองว่านอกเหนือจากบรรยดาคนในครอบครัวใกล้ชิดแล้วยังมี คนสำคัญจากพรรคเพื่อไทยไปพบเขาด้วยหรือไม่ หลังจากมีข่าวลือว่า สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ได้ไปพบกับ ทักษิณ มาแล้ว แม้จะมีการปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่ก็ไม่ใช่ออกมาจากปากของเขา เป็นเพียงการปฏิเสธจากเพจ มักรายงานความเคลื่อนไหวของคนในครอบครัวนี้เท่านั้น ซึ่งอีกด้านหนึ่งอาจเป็นการปฏิเสธเพื่อเลี่ยงข้อกฎหมายพรรคการเมือง ที่มีโทษรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค ก็ได้
อย่างไรก็ดี ในความเป็นไปได้ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกทาง แต่เมื่อได้เห็นความคลื่อนไหวที่ฮ่องกงในทุกครั้งในช่วงที่ผ่านมามักจะเชื่อมโยงในทางการเมืองในไทย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันที่วันเวลามาประจวบเหมาะกันพอดี เหมือนกับว่า "รอจัดเต็ม" รัฐบาล "ลุงตู่" กันตั้งแต่ต้นมือ แบบไม่ให้ตั้งหลักหายใจหายคอกันเลยหรือเปล่า !!
แน่นอนว่า ในวันที่ 26 กรกฎาคมปีนี้ สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร จะมีอายุครบ 70 ปี ถือว่าเข้าสู่วัยสูงอายุแล้ว ทำให้หลายคนจับตามอง เขาจะประกาศวางมือ เลิกยุ่งเกี่ยวการเมืองในประเทศไทย หรือไม่ เหมือนกับที่ อดีตลูกน้องบางคนอย่าง "เสี่ยเพ้ง" พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่เป็นนักการเมืองคนใกล้ชิด ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ได้ประกาศอำลาอย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยอ้างว่าอายุมาก
อย่างไรก็ดี ยังมีหลายคนว่า คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร คงไม่ประกาศวางมือหรือประกาศให้ผูกมัดตัวเอง อย่างมากก็เพียงแค่ "นิ่งเงียบ"รอจังหวะ รอโอกาสเท่านั้น เหมือนกับในช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากการเลือกตั้งที่รับรู้แล้วว่า พรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้ไม่สามารถกุมอำนาจรัฐได้ในรอบเกือบยี่สิบปี แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีคนมั่นใจว่า เขาก็คงไม่มีทางประกาศวางมือเป็นอันขาด ในทางตรงกันข้าม ยิ่งต้องหาทางกลับมา"ทวงคืน" ให้ได้
เพราะอีกด้านหนึ่ง เวลานี้ทั้งตัว ทักษิณ ชินวัตร เอง มีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว รวมไปถึงคนในครอบครัวที่โดนคดีทุจริต คดีอาญา ต้องหลบหนี และยังมีบางคนที่กำลังเสี่ยงคุกตามมาอีก มันก็ยิ่งไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ ซึ่งแนวทางที่เป็นไปได้ก็คือ น่าเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ หรือยุทธวิธีในการต่อสู้มากกว่า
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดในช่วงเวลานี้ จากภาพที่ปรากฏเผยแพร่ในโลกโซเชียล ในกลุ่มคนที่นิยมชมชอบพวกเขาทำให้ได้เห็นว่ากำลัง "รวมทีม" กันอย่างพร้อมหน้า นอกเหนือจาก ทักษิณ แล้วยังมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, เยาวภา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และลูกๆ หลานๆ อยู่กันอย่างพร้อมหน้าโดยทั้งหมดปรากฏตัวพร้อมกันที่ฮ่องกง
หากพิจารณาตามเหตุผลที่ ทักษิณ ชินวัตร เคยประกาศผ่านทางสื่ออนไลน์ก่อนหน้านี้ ในทำนองไม่สะดวกที่จะรับแขกบุคคลภายนอกในช่วงครบรอบวันเกิดปีนี้ โดยครั้งนั้น อ้างว่าบ้านพักที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คับแคบไม่สะดวกอีกทั้งอากาศที่นั่นร้อนจัดไม่อาจจัดกลางแจ้งภายนอกได้ ทำให้คาดกันว่าเขาน่าจะไปที่อังกฤษ สมทบกับน้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นั่น แต่ล่าสุดทั้ง ทักษิณ และคนในครอบครัวและญาติใกล้ชิด ก็ไปโผล่ที่ฮ่องกงพร้อมกัน
**ที่น่าจับตาก็คือ การปรากฏตัวของคนในครอบครัวนี้ พร้อมกันที่ฮ่องกง ทำให้ถูกเชื่อมโยงในทางการเมืองในไทยได้ไม่ยาก เพราะแม้ว่าจะเป็นช่วงรวมญาติ ก่อนถึงวันเกิดครบรอบ 70 ปี ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ก็ตาม แต่ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน คือวันที่ 25 กรกฎาคม ก็เป็นวันที่รัฐบาลใหม่ของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกำหนดแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน ต่างมีความเคลื่อนไหวเตรียมอภิปรายซักฟอกกันอย่างเต็มที่ จนถูกดักคอว่า ไม่ใช่วาระญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ประกอบกับฮ่องกง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้เป็นที่จับตามองว่านอกเหนือจากบรรยดาคนในครอบครัวใกล้ชิดแล้วยังมี คนสำคัญจากพรรคเพื่อไทยไปพบเขาด้วยหรือไม่ หลังจากมีข่าวลือว่า สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ได้ไปพบกับ ทักษิณ มาแล้ว แม้จะมีการปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่ก็ไม่ใช่ออกมาจากปากของเขา เป็นเพียงการปฏิเสธจากเพจ มักรายงานความเคลื่อนไหวของคนในครอบครัวนี้เท่านั้น ซึ่งอีกด้านหนึ่งอาจเป็นการปฏิเสธเพื่อเลี่ยงข้อกฎหมายพรรคการเมือง ที่มีโทษรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค ก็ได้
อย่างไรก็ดี ในความเป็นไปได้ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกทาง แต่เมื่อได้เห็นความคลื่อนไหวที่ฮ่องกงในทุกครั้งในช่วงที่ผ่านมามักจะเชื่อมโยงในทางการเมืองในไทย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันที่วันเวลามาประจวบเหมาะกันพอดี เหมือนกับว่า "รอจัดเต็ม" รัฐบาล "ลุงตู่" กันตั้งแต่ต้นมือ แบบไม่ให้ตั้งหลักหายใจหายคอกันเลยหรือเปล่า !!