ผู้จัดการรายวัน360-พนักงานช่อง 3 ร้องสื่อ ถูกผู้บริหารใหม่รื้อและล้างบางครั้งใหญ่ ทำให้ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ด้าน "อริยะ"ยันไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ได้ทำเต็มที่แล้ว ระบุพนักงานจะได้รับชดเชยดีกว่ากฎหมายแรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ก.ค.) พนักงานช่อง 3 ที่ถูกเลิกจ้างส่วนหนึ่งจากจำนวนเกือบ 200 ราย ได้เข้ามาร้องเรียนผ่าน "ผู้จัดการรายวัน360" ถึงความผิดปกติของการปลดพนักงานของช่อง 3 โดยให้ข้อมูลว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่อง 3 ได้มีการทยอยเรียกพนักงานของฝ่ายข่าวต่างๆ รวมทั้งแผนกต่างๆ เข้าห้องมาพูดคุย โดยแบ่งเป็นวันๆ ละ 2 เวลา เช้า บ่าย ตลอดทั้งสัปดาห์ ภายใต้ฝ่ายบุคคลชุดใหม่ที่มาจาก LINE โดยไม่มีผู้บริหารฝ่ายข่าวเดิมเข้าร่วม และปล่อยให้ลูกน้องเผชิญชะตากรรมกันตามลำพัง
ทั้งนี้ พนักงานที่มีรายชื่อถูกปลดพยายามสอบถามถึงหลักเกณฑ์ในการปลด แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าทำไมถึงโดนปลด ทำไมบางคนไม่โดนเลิกจ้าง ซึ่งฝ่ายบุคคลบอกแต่เพียงว่ารายชื่อพวกนี้มีการพิจารณากันก่อนที่ผู้บริหารชุดใหม่จะเข้ามา และยืนยันที่จะให้ออก โดยแนบซองขาวให้ และนัดหมายให้มาเซ็นลาออก โดยพบว่าบางแผนกเอาคนออกเยอะมาก แต่บางแผนกอยู่ครบ หรือเอาออกน้อยมาก หรือบางรายมีผลงานดี ก็โดนให้ออก ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า บางรายถึงขั้นร้องไห้เสียใจ พร้อมกับระบุว่า สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเป็นธรรม ไม่มีการเอาพวกพ้องจริงหรือไม่ และคณะกรรมการพิจารณามีใครบ้าง เป็นผู้บริหารชุดเก่าหรือชุดใหม่ ถ้าเป็นชุดใหม่ เวลาเพียงน้อยนิดสามารถตัดสินใจได้ว่าใครควรอยู่ควรไป ถูกต้องหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ ได้ส่งสารถึงพนักงานทุกคน โดยเฉพาะประเด็นการปลดพนักงานว่าเขาและทีมผู้บริหารได้พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้ผลกระทบต่อพนักงานมีน้อยที่สุด แต่ก็ยังเกิดผลกระทบจากการที่ต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน เนื่องมาจากการยุติการออกอากาศของช่อง 13 และช่อง 28 โดยการเลิกจ้างเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย แต่เป็นความจำเป็น หลังจากที่เรามีจำนวนช่องที่น้อยลง แต่ได้จัดให้มีค่าชดเชยสำหรับพนักงานในกรณีที่ต้องถูกเลิกจ้างให้มากที่สุดเท่าที่จะจัดสรรได้ และค่าชดเชยที่พนักงานจะได้รับจะดีกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้อย่างแน่นอน
สำหรับพนักงานที่ยังคงทำงานต่อไป ผมขอขอบคุณและอยากบอกว่านี่เป็นการเริ่มต้นทำงานในวิถีใหม่ การทำงานในยุคที่ทีวีจะมีความยากมากขึ้นไปเรื่อยๆ พวกเราจำเป็นต้องใช้ความรู้และความสามารถเพื่อผู้ชมของเราทั้งทางโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์ โดยความสำเร็จของพวกเราจะมาจากพื้นฐานความเข้าใจอย่างแท้จริงต่อความต้องการของผู้ชมในปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ก.ค.) พนักงานช่อง 3 ที่ถูกเลิกจ้างส่วนหนึ่งจากจำนวนเกือบ 200 ราย ได้เข้ามาร้องเรียนผ่าน "ผู้จัดการรายวัน360" ถึงความผิดปกติของการปลดพนักงานของช่อง 3 โดยให้ข้อมูลว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่อง 3 ได้มีการทยอยเรียกพนักงานของฝ่ายข่าวต่างๆ รวมทั้งแผนกต่างๆ เข้าห้องมาพูดคุย โดยแบ่งเป็นวันๆ ละ 2 เวลา เช้า บ่าย ตลอดทั้งสัปดาห์ ภายใต้ฝ่ายบุคคลชุดใหม่ที่มาจาก LINE โดยไม่มีผู้บริหารฝ่ายข่าวเดิมเข้าร่วม และปล่อยให้ลูกน้องเผชิญชะตากรรมกันตามลำพัง
ทั้งนี้ พนักงานที่มีรายชื่อถูกปลดพยายามสอบถามถึงหลักเกณฑ์ในการปลด แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าทำไมถึงโดนปลด ทำไมบางคนไม่โดนเลิกจ้าง ซึ่งฝ่ายบุคคลบอกแต่เพียงว่ารายชื่อพวกนี้มีการพิจารณากันก่อนที่ผู้บริหารชุดใหม่จะเข้ามา และยืนยันที่จะให้ออก โดยแนบซองขาวให้ และนัดหมายให้มาเซ็นลาออก โดยพบว่าบางแผนกเอาคนออกเยอะมาก แต่บางแผนกอยู่ครบ หรือเอาออกน้อยมาก หรือบางรายมีผลงานดี ก็โดนให้ออก ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า บางรายถึงขั้นร้องไห้เสียใจ พร้อมกับระบุว่า สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเป็นธรรม ไม่มีการเอาพวกพ้องจริงหรือไม่ และคณะกรรมการพิจารณามีใครบ้าง เป็นผู้บริหารชุดเก่าหรือชุดใหม่ ถ้าเป็นชุดใหม่ เวลาเพียงน้อยนิดสามารถตัดสินใจได้ว่าใครควรอยู่ควรไป ถูกต้องหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ ได้ส่งสารถึงพนักงานทุกคน โดยเฉพาะประเด็นการปลดพนักงานว่าเขาและทีมผู้บริหารได้พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้ผลกระทบต่อพนักงานมีน้อยที่สุด แต่ก็ยังเกิดผลกระทบจากการที่ต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน เนื่องมาจากการยุติการออกอากาศของช่อง 13 และช่อง 28 โดยการเลิกจ้างเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย แต่เป็นความจำเป็น หลังจากที่เรามีจำนวนช่องที่น้อยลง แต่ได้จัดให้มีค่าชดเชยสำหรับพนักงานในกรณีที่ต้องถูกเลิกจ้างให้มากที่สุดเท่าที่จะจัดสรรได้ และค่าชดเชยที่พนักงานจะได้รับจะดีกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้อย่างแน่นอน
สำหรับพนักงานที่ยังคงทำงานต่อไป ผมขอขอบคุณและอยากบอกว่านี่เป็นการเริ่มต้นทำงานในวิถีใหม่ การทำงานในยุคที่ทีวีจะมีความยากมากขึ้นไปเรื่อยๆ พวกเราจำเป็นต้องใช้ความรู้และความสามารถเพื่อผู้ชมของเราทั้งทางโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์ โดยความสำเร็จของพวกเราจะมาจากพื้นฐานความเข้าใจอย่างแท้จริงต่อความต้องการของผู้ชมในปัจจุบัน