นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กรรมการปฏิรูปหลายคณะลาออก จนงานปฏิรูปสะดุดว่า ต้องแต่งตั้งเพิ่ม เพราะการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตั้งแต่แรก ทั้ง 11 คณะ แต่ละคณะ ก็ไม่ได้ตั้งครบ 15 คน ดังนั้นการแต่งตั้งเพิ่มเติมครั้งนี้ จะแต่งตั้งไม่ครบทุกคณะ เพราะบทบาทหน้าที่ลดลง เนื่องจากพ้นช่วงการร่างแผนปฏิรูปแล้ว หลังจากนี้ ก็จะมีหน้าที่แค่ติดตามการปฏิรูปร่วมไปกับส.ส. และ ส.ว. โดยเฉพาะส.ว.ที่มีหน้าที่โดยตรง ส่วนที่มีการกังวลว่าส.ว.จะเข้ามามีบทบาทในการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปนั้น ยืนยันว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ในการพิจารณากฎหมายปฏิรูปก็ยังต้องพิจารณาร่วมกับ ส.ส. อยู่ดี เช่นเดียวกับการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การออกกฎหมายปฏิรูปเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งกฎหมายฉบับใด จะเป็นกฎหมายปฏิรูปนั้น ครม. จะเป็นผู้ระบุมา แต่หากไม่ได้ระบุมา และทางสภาฯ เห็นเองก็สามารถยกขึ้นมาเป็นประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูปได้ หลังจากนั้นก็ส่งเข้าต่อคณะกรรมการร่วมพิจารณา แต่ไม่ได้หมายความว่า กฎหมายทุกฉบับจะต้องเป็นกฎหมายปฏิรูป อย่างกฎหมายงบประมาณ ก็ไม่สามารถเป็นกฎหมายปฏิรูป แต่กฎหมายปฏิรูป ต้องสอดคล้องกับแผนที่ได้ระบุไว้
ดังนั้น ขึ้นอยู่กับว่า เป็นการปฏิรูปเรื่องอะไร และไม่ต้องกังวลว่าส.ว. จะมีอำนาจมากกว่าส.ส. เพราะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 กำหนดว่า ส.ส. และ ส.ว. เป็นผู้แทนปวงชนเหมือนกัน
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณี นางนาที รัชกิจประการ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่อยู่ระหว่างศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะพิจารณาไต่สวนพิจารณา ในวันที่ 9 ก.ค. นี้ กรณีป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เรื่องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งส.ส.สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าตามหลักการ กรณีนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว หากศาลฯ มีคำวินิจฉัยว่ามีความผิด บุคคลที่ถูกร้อง ก็จะสิ้นสภาพการเป็นส.ส.ไป ส่วนกรณีนี้จะส่งผลกระทบต่อ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ผู้เป็นสามี ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในโควตาของพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่เกี่ยว เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หากพิจารณาถึงความเหมาะสม ต้องพิจารณาอีกครั้ง
ดังนั้น ขึ้นอยู่กับว่า เป็นการปฏิรูปเรื่องอะไร และไม่ต้องกังวลว่าส.ว. จะมีอำนาจมากกว่าส.ส. เพราะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 กำหนดว่า ส.ส. และ ส.ว. เป็นผู้แทนปวงชนเหมือนกัน
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณี นางนาที รัชกิจประการ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่อยู่ระหว่างศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะพิจารณาไต่สวนพิจารณา ในวันที่ 9 ก.ค. นี้ กรณีป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เรื่องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งส.ส.สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าตามหลักการ กรณีนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว หากศาลฯ มีคำวินิจฉัยว่ามีความผิด บุคคลที่ถูกร้อง ก็จะสิ้นสภาพการเป็นส.ส.ไป ส่วนกรณีนี้จะส่งผลกระทบต่อ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ผู้เป็นสามี ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในโควตาของพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่เกี่ยว เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หากพิจารณาถึงความเหมาะสม ต้องพิจารณาอีกครั้ง