xs
xsm
sm
md
lg

หรือนี่จะเป็น- เทียนอันเหมิน-ที่สอง?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร

นางแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง



แค่ 22 ปีที่ฮ่องกงกลับสู่อ้อมอกแม่ ก็เกิดเหตุเดินขบวนใหญ่ถึงขั้นจลาจลในวาระครบรอบ 22 ปีหลังการส่งมอบฮ่องกงคืนสู่มาตุภูมิแผ่นดินใหญ่จีน

ชาวฮ่องกงถึง 2 ล้านคน (ประมาณ 20% จากประชากร 7 ล้าน 5 แสนคน)-ออกมาต่อต้านทางการฮ่องกงที่มีท่านประธาน (Chief-Executive) แคร์รี แลม พร้อมรัฐบาลของเธอ ได้พยายามผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งผู้ชุมนุมประท้วงมองว่าเป็นการคืบคลานเข้ามาก้าวก่ายระบบการบริหารของฮ่องกง ซึ่งจีนโดยท่านเติ้ง เสี่ยวผิง ได้ลงนาม (ในปี 1984) เมื่อ 15 ปีก่อนอังกฤษส่งมอบคืนฮ่องกงให้แก่จีน อันเป็นคำประกาศที่ลงนามร่วมโดยอดีตนายกฯ แทตเชอร์ ของอังกฤษ ที่จีนสัญญาจะให้ฮ่องกง-หลังการส่งมอบ-จะมีระบอบการปกครองเป็นแบบทุนนิยมเสรีประชาธิปไตย--ต่อไปอีก 50 ปีจนถึงปี ค.ศ. 2047 ตามนวัตกรรมที่ท่านเติ้งได้คิดค้นหาทางออกให้กับฮ่องกง, มาเก๊า และไต้หวัน (ซึ่งเป็นดินแดนของจีนมาช้านานเป็นพันๆ ปี) คือ หนึ่งประเทศ-สองระบบ (One Country-Two Systems)

เหตุการณ์ประท้วงใหญ่ครั้งนี้ที่ฮ่องกง เริ่มอุ่นเครื่องจากการชุมนุมใหญ่ครบรอบการปราบปรามโหดของจีนต่อการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อ 4 มิถุนายน 1989 ซึ่งปีนี้ครบรอบ 30 ปี; แล้วตามมาด้วยการออกมาของชุมนุมชาวฮ่องกงที่นำโดยนักกฎหมายของฮ่องกงเพื่อต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งร่างกฎหมายนี้ได้ผ่านวาระหนึ่งไปอย่างง่ายดาย (สภา LegCo หรือสภานิติบัญญัติ มี ส.ส.ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายสนับสนุนปักกิ่ง)
ผู้ชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกง
เมื่อท่านประธานแคร์รี แลม ใช้ความแข็งกร้าวเข้าสู้กับฝูงชนที่ต่อต้านร่างกฎหมายนี้ (เพราะเธอมั่นใจว่า กฎหมายจะผ่านวาระ 2 และ 3 ในสภาได้ง่ายๆ) ก็ยิ่งทำให้ฝ่ายประชาชนออกมาเต็มถนนถึง 2 ล้านคนเมื่อกลางเดือนมิถุนายน แล้วเจอตำรวจเตรียมการขั้นปราบจลาจลด้วยลูกปืนยาง, แก๊สน้ำตา, สเปรย์พริกไทย-ก็เกิดการปะทะกับผู้ประท้วงที่มาชุมนุมอย่างสงบ

ในที่สุด ท่านประธานแคร์รี แลม ยอมถอย โดยระงับ (ชั่วคราว-Suspended) ร่างกฎหมายนี้ตลอดอายุของสภานี้ (ซึ่งจะหมดวาระในปีหน้า)

แต่ผู้ชุมนุมไม่พอใจ ต้องการให้รัฐบาลปล่อยเพื่อนผู้ชุมนุมที่ถูกจับอยู่หลายคน ด้วยข้อหาก่อการจลาจล และให้ถอนข้อหาก่อการจลาจลด้วย; ตลอดจนกดดันให้เธอต้องรับผิดชอบต่อการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจด้วยการให้เธอลาออก (เคยมีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2003-หลังส่งมอบได้แค่ 5 ปี ที่รัฐบาลฮ่องกงภายใต้นายตุง ฉีหวา ได้พยายามผลักดันกฎหมายความมั่นคงที่จะลิดรอนสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของชาวฮ่องกงที่เรียกกันว่า มาตรา 23-แล้วในที่สุดรัฐบาลตุง ฉีหวา ก็ยอมถอนร่างกฎหมายนั้นออกมา คือ ยอมถอยให้กับผู้ชุมนุม-แล้วในปีถัดไป ทางการจีนที่ปักกิ่งก็กดดันจนตุง ฉีหวา ได้ลาออกก่อนหมดวาระ)

การชุมนุมประท้วงครั้งนี้ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวและวัยรุ่น ที่เกิดหลังจากการส่งมอบ-นายโจชัว หว่อง-นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยนั้น เกิดในปีส่งมอบพอดี ตอนนี้เขาอายุ 22 ปี; ซึ่งคนรุ่นหลังส่งมอบนี้ เติบโตมาในบรรยากาศที่มีสภา LegCo ที่มาจากการเลือกตั้ง และระบบทุนนิยมเสรีที่มีการแสดงความคิดเห็น และการชุมนุมประท้วงซึ่งสามารถทำได้ (ตามกฎหมายความมั่นคงและสิทธิในการแสดงออกที่ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนการประท้วง) ขณะที่ชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่ไม่มีเสรีภาพเท่ากับที่ฮ่องกง

แกนนำคนหนุ่มสาวและปัญญาชนระดับนำ รวมทั้งดาราดังๆ ของฮ่องกงหลายคนได้รับการอุ้มชูและสนับสนุนจากประเทศอเมริกา และอังกฤษอย่างออกหน้าออกตา รวมทั้งนายจอร์จ โซรอส (ที่ตั้งกองทนุส่งเสริมประชาธิปไตยในกลุ่มเยาวชนในประเทศต่างๆ) โดยมีการสนับสนุนให้ทุนแก่คนหนุ่มสาวไปดูงานหรือศึกษาในประเทศตะวันตก เพื่อบ่มเพาะความบ้าประชาธิปไตยที่ต้องมาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งระบบเศรษฐกิจแบบ “เสรี” (ที่ไม่เสรีจริง-มีแต่ผูกขาด-ที่วัดความสำเร็จกันด้วยตัวเงิน แต่ทิ้งคนส่วนใหญ่ให้เป็นแค่ลูกหาบที่ถูกหลอกให้รับใช้คนส่วนน้อยให้มั่งคั่งโตวันโตคืน)

จริงๆ แล้ว-เป็นความสำเร็จของอดีตนักล่าเมืองขึ้นเจ้าอาณานิคม British Empire (จักรวรรดิบริติช) ที่เป็นผู้ครอบครองอาณานิคมทั่วโลกทุกทวีปชนิดไม่มีอาทิตย์ตกดินในจักรวรรดิของเขา

ก่อนส่งมอบฮ่องกงคืนมาตุภูมิจีนเพียงไม่กี่ปี คือ ปี 1992 ผู้ว่าคริส แพททั่น (ผู้ว่าคนสุดท้ายจากอังกฤษ ส่งมาปกครองฮ่องกง) ได้วางยาประชาธิปไตยไว้ที่ฮ่องกง โดยปฏิรูปกฎหมายสูงสุดของฮ่องกงเพื่อให้เลือก ส.ส.เข้าสภา LegCo ทั้งๆ ที่กฎหมายสูงสุดของฮ่องกงก็เพิ่งคลอดออกมาในปี 1990 คือ 2 ปีก่อนเขามาปกครองฮ่องกง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้หลักประกันการปกครองแบบประชาธิปไตย ภายใต้ 1 ประเทศ-2 ระบบของจีน

ซึ่งก่อนหน้ากฎหมายจะคลอดสูงสุด (Basic Law) นี้ ฮ่องกงไม่เคยมีการเลือกตั้งผู้แทน มีแต่ตัวแทนจากอังกฤษที่ส่งมาปกครองในส่วนงานกรมกองต่างๆ

ฮ่องกงเคยเป็นชุมทางของเหล่าเจ้าพ่อฮ่องกง มีทั้งค้ายาเสพติด, อาชญากรรมแบบที่เราดูในหนังจากฮ่องกงในอดีต-ฆ่ากันบนท้องถนนมากมายภายใต้การปกครองของอังกฤษถึงเกือบ 150 ปี (อังกฤษยึดหมู่บ้านท่าเรือฮ่องกงนี้หลังจีนแพ้อังกฤษในสงครามฝิ่น-ที่อังกฤษยัดเยียดให้ชาวจีนต้องซื้อฝิ่นเป็นสินค้ามอมเมาชาวจีน-โดยยึดได้ในปี 1842; ต่อมาในปี 1898 ได้เปลี่ยนเป็นสัญญาเช่า 99 ปี-และฮ่องกงถูกญี่ปุ่นยึดครองช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งหลังสงครามโลก-สหรัฐฯ ต้องการตอบแทนกองทัพจีนที่ช่วยพันธมิตรในการขับไล่ญี่ปุ่นออกจากฮ่องกง-สหรัฐฯ ต้องการให้นายกฯ เชอร์ชิล ของอังกฤษยอมคืนฮ่องกงกลับสู่จีน แต่เชอร์ชิลไม่ยอม)

จนปี 1974 (ก่อนส่งมอบ 23 ปี) ท่านผู้ว่าจากอังกฤษ ทนเห็นฮ่องกงมีแต่อาชญากรรมทั้งเกาะไม่ไหว จึงแต่งตั้งคณะกรรมการปราบคอร์รัปชัน (ICAC-Independent Commission Against Corruption) เพื่อจัดการกับตำรวจชั่วของฮ่องกง ที่รับสินบนจากเหล่าวายร้ายเจ้าพ่อทั้งหลาย-และเวลาผ่านไป 20 ปี-ฮ่องกงก็กลายเป็นดินแดนที่มีการคอร์รัปชัน (โกงชาติรับใต้โต๊ะ) น้อยที่สุดในโลกขณะนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ปีก่อนส่งมอบ

ล่าสุด การชุมนุมต่อต้านจีนเกิดในวันครบรอบ 22 ปีการส่งมอบ คราวนี้ผู้ชุมนุม (ส่วนใหญ่หนุ่มสาว) ถึงกับบุกทำลายประตูสภา LegCo และเข้าไปฉีดสเปรย์เขียนข้อความด่าทอรัฐบาลของฮ่องกง และแผ่นดินใหญ่ เกิดปะทะรุนแรงกับตำรวจในคืนต่อระหว่าง 30 มิถุนายนกับ 1 กรกฎาคมพอดี ซึ่งตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาจนสลายบางส่วนของการชุมนุม

ภาพที่ผู้ประท้วงบุกสภานั้น ดูคล้ายๆ พวกเสื้อแดงได้บุกทำลายการประชุมอาเซียนที่พัทยาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

คราวนี้ ประธานาธิบดีสี คงไม่ยอมปล่อยให้เหตุการณ์ที่เคยเกิดเมื่อปี 2003 กับนายตุง ฉีหวา แน่นอน เพราะมันจะเป็นเยี่ยงอย่างระบาดเข้าสู่การประท้วงในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ด้วย

ยิ่งขณะนี้จีนมีความยิ่งใหญ่กว่าเมื่อปี 2003 และอยู่ในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังสกัดความเติบใหญ่ของจีนในทุกๆ แนวรบ

จึงน่าติดตามว่า ปักกิ่งจะจัดการกับความบ้าเสรีประชาธิปไตยของฮ่องกงอย่างไรในช่วงนับแต่นี้ ท่ามกลางการแทรกแซงจากสหรัฐฯ และอังกฤษที่ให้ท้ายกับกลุ่มผู้ชุมนุมในทุกๆ รูปแบบ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น