ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ทันทีที่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยสอง เรื่องคาราคาซังที่ค้างคา ได้รับการสางโดยฉับพลัน
ตามคิวที่ก่อนหน้านี้ดีลไม่ลงล็อก ผู้มากบารมีนอกพรรคไป โอเค เซย์เยส กับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย จนเสียกระทรวงเกรด เอ โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจไป ไม่เหลืออะไรให้คนในพรรคพลังประชารัฐ แรงกระเพื่อมสั่นคลอนจนเกิดปรากฏการณ์ “แย่งชามข้าว”
พรรคพลังประชารัฐ ต้องการดึงกระทรวงสำคัญกลับ ทางหนึ่ง“เฮียกวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กุนซือฝ่ายเศรษฐกิจไม่สบอารมณ์ เพราะผู้มากบารมีดันยกกระทรวงเศรษฐกิจอันเป็นยุทธศาสตร์ไปให้ แต่ละแห่งมูลค่าไม่รู้กี่ล้านบาท ผนวกกับ"กลุ่มสามมิตร"ไม่พอใจที่ไปยกแหล่งต่อยอด อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ จนตีรวนกันไปทั้งพรรค
แต่พลัน“บิ๊กตู่”เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยสอง แบบถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ต้องกลัวข้อหาคนนอกครอบงำพรรค มีสิทธิ์นั่งเจรจาด้วยตัวเองได้ รีบไปแกะแหที่พัลวันทันควัน
ในเมื่อตกปากรับคำพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยไว้ ก็ต้องให้ไปตามสัญญา ไม่ให้เสียคน ยกรมว.พาณิชย์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ่วงด้วยอีก 4 ตำแหน่ง รมช.ไปให้พรรคประชาธิปัตย์ จะจัดสรรกันอย่างไร เป็นเรื่องภายในพรรค ที่แต่ละขั้วต้องไปฟาดฟันแย่งชิงกันเอาเอง ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะถือว่าได้ทำตามสัจจะ ที่ผู้มากบารมีไปยกให้ไว้ในดีลแรก สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เป็นอันจบ เรียบร้อยแค่ไปหาตัวรัฐมนตรีมานั่งเป็นพอ
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ออกอาการไม่พอใจเหมือนกันกับข่าวว่า กลุ่มก๊วนภายในพรรคพลังประชารัฐ บางกลุ่ม โดยเฉพาะก๊วน 4 กุมาร ของ “เฮียกวง”ต้องการดึงกระทรวงคมนาคม กลับมา เพื่อต่อยอดโปรเจกต์หลายแสนล้านบาท โดยเอากระทรวงพลังงาน ไปล่อ
ถึงขนาด“เสี่ยหนู”เปิดศึกซึ่งหน้า โพสต์เฟซบุ๊กประหนึ่งว่า คำพูดลูกผู้ชายต้องเชื่อถือได้ กระทรวงไม่ใช่ของจะเอามาแลกกัน จนโฆษกกลุ่มสามมิตร“ธนกร วังบุญคงชนะ” สวนแบบไม่เกรงใจกัน กระทรวงไม่ใช่บริษัทที่ใครจะตั้งใจมาหาผลประโยชน์
ซดกันเดือด ถึงขั้น“เสี่ยหนู”ไม่กั๊ก เปิดดีลแรกให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทย ต้องได้กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พ่วงด้วยอีก 4 รมช.ตามข้อตกลงแรก เปิดกันให้เห็นๆไปเลยว่า มันจบแล้วครับนาย
ซึ่งก็ได้ผล ทันทีที่ “บิ๊กตู่”มีอำนาจเต็มในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ยอมจัดการเซ็นรับรองสัญญาใจให้อีกคำรบ ให้ “เสี่ยหนู”นั่ง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ไปต่อยอดนโยบายกัญชาเสรีตามประสงค์ ให้ “เสี่ยโอ๋”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค น้องชาย“เนวิน ชิดชอบ”ไปนั่ง รมว.คมนาคม ที่พรรคใฝ่ฝันมากกว่ากระทรวงใด
รวมถึงให้ “พิพัฒน์ รัชกิจปราการ”เจ้าของปั๊มน้ำมัน “PT”สามีนางนาที รัชกิจปราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ไปนั่งรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่ 4 รมช.กระทรวงเกรดเอ ก็เอาไปแบ่งปันกัน ซึ่งตามโผ“ชาดา ไทยเศรษฐ์” รับสัมปทาน 1 เก้าอี้ อยู่ที่ว่า เคาะสุดท้ายจะได้ รมช.มหาดไทย หรือ รมช.เกษตรและสหกรณ์
ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคนี้นิ่งมาแต่ไหนแต่ไร อย่างที่รู้กันว่า อยู่ในคาถา“บิ๊กทหาร” ในปัจจุบัน โควตาเป็นแบบเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง “เดอะท็อป”วราวุธ ศิลปอาชา สานเจตนารมณ์เตี่ยสำเร็จ ได้นั่งเก้าอี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทดแทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ตัวเองจองทุกรัฐบาลไปได้ เพราะถือว่า ขอบเขตงานกว้างและคล้ายกัน
อีกตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตกเป็นของ “ประภัตร โพธสุธน”อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ยอมลดเกรดตัวเองลงมา อย่างน้อยได้คุมกระทรวงถนัด ไม่จัดว่า เสียหายเท่าไหร่
ด้านพรรคชาติพัฒนาของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”หนนี้ต้องทำใจ ไม่ได้กระทรวงที่หมายปอง ทั้ง รมว.พลังงาน หรือ รมว.อุตสาหกรรม เพราะทำยอดส.ส.ได้แค่ 3 ที่นั่ง ซึ่งแกนนำรัฐบาล จะไม่ให้เลยก็ได้ แต่ด้วยใจที่มีให้กันมานาน คว้า รมช.อุตสาหกรรม ไปปลอบใจ ที่มีแนวโน้มจะส่งพวกแถวบี ในพรรคมานั่งบริหาร
ฝั่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยของ “ลุงกำนัน”สุเทพ เทือกสุบรรณ แม้จะได้ ส.ส.แค่ 5 ที่นั่ง แต่เป็นแบ็กอัพหนุนหลังกันมาตลอด ไม่ว่ากระแสยี้จะเป็นอย่างไร น่าจะถูกเกลี่ยเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ ที่หนนี้ไม่มีใครพิศวาสให้ไปครอง เรียกว่า สมน้ำสมเนื้อกับปริมาณ
ในพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่าปัญหาหนัก “เฮียกวง”ไม่แฮปปี้ ที่ถูกดึงกระทรวงเศรษฐกิจไปหมด เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ขาลอย สุดท้ายผนึกกับกลุ่มสามมิตร แก้เกมพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ไม่ส่งคนไปเป็น รมช. สักคน ในกระทรวงที่สองพรรคดูแล แบบว่าถ้าผลงานไม่ดี ก็ไม่ใช่ภาพรวมของรัฐบาล แต่เป็นฝีมือของสองพรรคนี้
“เฮียกวง”เล่นใช้ทุนเดิมที่เหลืออย่างกระทรวงการคลัง ให้ “อุตตม สาวนายน”หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั่ง รมว.คลัง คุมการเงิน แล้วดึงคนของกลุ่มสามมิตร อย่าง“อนุชา นาคาศัย”และ“สันติ พร้อมพัฒน์”มาเป็น รมช.คลัง
ส่วน“สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์”เลขาธิการพรรค ลดเกรดจากเดิมมาหน่อย ไปนั่งบริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ดัน“สุวิทย์ เมษินทรีย์” นั่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ขณะที่อีก 1 กุมาร สุดท้ายเป็นผู้โชคร้าย แห้วตำแหน่งเสนาบดี เพราะโควตาเต็ม
“บิ๊กตู่”เองก็ยอม “เฮียกวง”ในฐานะที่เสียกระทรวงเศรษฐกิจไปเยอะ ยอมดึง รมว.พลังงานจาก“ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ”มาให้ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ”แกนนำกลุ่มสามมิตร แล้วยัด รมว.ศึกษาธิการไปให้ “ณัฏฐพล”เป็นการปลอบใจ แม้เจ้าตัวจะไม่อยากได้ก็ตาม เพราะกำขี้ดีกว่ากำตด
กระทรวงเกรดบี ก็จัดสรรให้คนในพรรค แบบทั่วถึง “อิทธิพล คุณปลื้ม”น้องชายสนธยา คุณปลื้ม ที่แม้รอบนี้สอบตก แต่ถือว่าใจมาก่อน ยอมพักงานพรรคพลังชล มาอยู่ด้วย ตอบแทนในตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ส่วน “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์”ที่ฝันอยากจะนั่งรัฐมนตรีว่าการ แต่เก้าอี้ไม่พอ ด้วยความสนิทสนมและทำงานกันมาก่อน “บิ๊กตู่”ดึง มาเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยกให้เป็นโควตาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องไปจัดสรรเด็กของตัวเองมา ส่วนกระทรวงแรงงาน ตกเป็นของกลุ่มชลบุรี ซึ่งไม่ได้ขึ้นตรงกับสาย“สนธยา คุณปลื้ม”
ด้านพี่ใหญ่ พี่รองของ“บิ๊กตู่”อยู่กันครบตามคาด “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั่งแช่ที่ รมว.มหาดไทย เช่นเดียวกับ “เฮียกวง”และ “เนติบริกร”วิษณุ เครืองาม ต้องช่วยกันทำงานต่อในฐานะรองนายกรัฐมนตรี
ถึงนาทีนี้ทุกอย่างลงล็อก “บิ๊กตู่”จัดทัพเสร็จเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกไม่กี่อึดใจได้รัฐบาลใหม่บริหารประเทศแล้ว