xs
xsm
sm
md
lg

รื้อโควตาครม.ใหม่ “สามมิตร”ทวงคมนาคม-เกษตรฯ โยน“บิ๊กตู่”ชี้ขาด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ประยุทธ์" ขอบคุณทุกคนหลังได้รับโหวตเป็นนายกฯ อีกสมัย ย้ำทุกอย่างเหมือนเดิม “วิษณุ” กางไทม์ไลน์ได้รัฐบาลชุดใหม่ "สิริพงศ์" รับทำใจลำบากแหกมติพรรค ปัดอคติ “บิ๊กตู่” แค่ทำตามสัญญา ปชช. "เสี่ยหนู" เชื่อไม่กระทบโควตา รมต. ด้าน ปชป.ฮึ่มอย่าพลิ้ว มั่นใจ "เฉลิมชัย” ได้ รมว.แน่ “สามมิตร” ฮึดทวง “รมว.เกษตรฯ-รมว.คมนาคม” ห่วงนโยบายสะดุด "สมศักดิ์" ปล่อยให้ผู้ใหญ่จัดสรรตำแหน่ง ส่วนจะได้คุมเกษตรฯหรือไม่แล้วแต่ผู้บริหาร "พุทธิพงษ์" รับโควตา รมต.ยังไม่นิ่ง รอแต่ละพรรคส่งรายชื่อให้ "ประยุทธ์" เคาะขั้นสุดท้าย

ภายหลังจากที่ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเสียงข้างมาก 500 เสียงต่อ 244 เสียง ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา

วานนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงงดให้สัมภาษณ์ แต่ในระหว่างเดินจากตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อไปร่วมประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียน 2562 ที่ตึกภักดีบดินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ได้หยุดยิ้ม และไหว้ทักทายสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า "ขอบคุณทุกคน และระบุว่าจะต้องเข้าไปประชุมเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน และ “ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมนั่นแหละ” พร้อมมอบหมายให้ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจกเอกสารเผยแพร่แก่สื่อมวลชน โดยระบุว่าทุกอย่างที่พูดอยู่ในเอกสาร

“ประยุทธ์” ขอบคุณสมาชิกรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารดังกล่าวมีใจความสำคัญว่า "ขอบคุณประชาชนสำหรับการเลือกตั้ง ขอบคุณสมาชิกรัฐสภา ทั้งฝ่ายสนับสนุนและไม่สนับสนุน สำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วยความเรียบร้อย และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างดีที่สุด"

นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่าในระหว่างประชุม พล.อ.ประยุททธ์เปิดเผยว่า นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดี ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน รวมทั้งการได้รับคะแนนเสียงจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาให้เป็นนายกฯอีกสมัย ซึ่งตนได้กล่าวขอบคุณ และรับปากสิ่งที่เคยรับปากและพูดคุยกันในการประชุมอาเซียนครั้งที่แล้ว ก็จะพยายามขับเคลื่อนต่อไปในการประชุมอาเซียนครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมโยง และดิจิทัล

ให้ รบ.ชุดเดิมดูอาเซียนซัมมิท

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เปิดเผยถึงกรอบเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า ประธานรัฐสภาจะนำรายชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อรอการโปรดเกล้าฯ จากนั้นนายกฯต้องดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งต้องมีการหารือกับพรรคการเมืองต่างๆ ถึงโควตารัฐมนตรี ก่อนส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม โดยทั่วไปกระบวนการไม่ควรใช้ระยะเวลานาน เพราะต้องยกร่างแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาผู้แทนราษฏรภายใน 15 วัน หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว โดยในระหว่างนี้นายกฯสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมเตรียมการยกร่างนโยบายรัฐบาลและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ เพราะมีอำนาจเต็มแล้ว แต่ควรรอให้มีการโปรดเกล้าฯก่อน

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำหน้าที่ของรัฐบาลปัจจุบันยังต้องเดินหน้าต่อ เพราะมีงานสำคัญคือการประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ ซึ่งถือว่ามีอำนาจเต็มในการเจรจาระหว่างประเทศ และเมื่อเป็นนายกฯคนเดียวกันยิ่งมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่หากเป็นรัฐบาลชุดใหม่ที่ยังไม่ได้แถลงนโยบายเข้าไปทำหน้าที่อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ เนื่องจากเป็นการเจรจาระดับนโยบายและทวิภาคีระหว่างประเทศหลายกรณี ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนและแถลงนโยบายเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ก็สามารถทำหน้าที่ได้ หรือหากขั้นตอนยังไม่แล้วเสร็จ แต่เห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็สามารถทำได้เช่นกัน หากเห็นว่าไม่เร่งด่วนก็ต้องให้รัฐบาลชุดเดิมทำหน้าที่จะเหมาะสมกว่า

“สิริพงศ์” เปิดใจไม่โหวตให้ “บิ๊กตู่”

ที่หอประชุมทีโอที แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการงดออกเสียงโหวตพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ได้ไปขอโทษผู้ใหญ่ในพรรคที่ทำแบบนั้น ซึ่งได้ชี้แจงไปว่าได้รับปากกับประชาชนในพื้นที่ ว่าจะเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯเพียงคนเดียว ผิดจากนี้เป็นใครตนก็เลือกไม่ได้ เมื่อสัญญาแล้วก็ต้องทำตามสัญญาให้บรรลุผล

เมื่อถามว่าจะสามารถทำงานร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ได้หรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เชื่อว่าไม่มีปัญหา สิ่งที่ตนทำไปไม่ได้เกิดจากความรัก หรือความเกลียดในตัวท่าน แต่ตนทำไปเพราะตนสัญญากับประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของส.ส. ทำอันไหนถูกตนก็ทำ ยืนยันว่าตนเป็นคนรักษาคำพูด ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนการทำงานภายในพรรคหลังจากนี้ก็คงคิดหนัก แต่เมื่อทำไปแล้วสิ่งที่ทำได้อย่างเดียว คือการยืดอก และรอรับผลที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ที่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นงูเห่าของพรรค นายสิริพงศ์ กล่าวว่า แล้วแต่คนจะคิด เพราะเรารู้ว่าทำเพราะอะไร ทำเพื่ออะไร และทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และตนไม่มีความจำเป็นต้องไปรับเงินใคร และหากการงดออกเสียงของตนกระทบกับการเจรจาร่วมรัฐบาล ตนก็ต้องกราบขออภัย

“เสี่ยหนู” เชื่อไม่กระทบโควตา

ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ควบคุมหรือบีบบังคับการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ทุกอย่างเราทำได้เพียงการขอความร่วมมือส่วนการตัดสินใจเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ละคน ซึ่งเราต้องเคารพบางคนบอกให้หัวหน้าพรรคไปขับออกจากพรรคตนยืนยันว่า ทำไม่ได้เพราะเป็นการใช้เอกสิทธิ์ส่วนตัวที่ทำได้อย่างถูกต้อง

เมื่อถามว่าจะมีบทลงโทษนายสิริพงษ์หรือไม่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่าคงไม่มีถือว่าดีที่เรามีส.ส.ที่เป็นตัวของตัวเองเบื้องต้นได้พูดคุยกับนายสิริพงษ์แล้วซึ่งเขาได้ขอโทษแล้วตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นปัญหากับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่าคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะถือเป็นเรื่องเล็กและไม่กระทบกับพรรคภูมิใจไทย ในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะล้มดีล ในการจัดสรรตำแหน่งต่างๆทั้งหมดรวมถึงกระทรวงคมนาคมที่พรรคภูมิใจไทย ต้องการเข้าไปทำงานด้วยนายอนุทินหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ดีจะได้ขอเพิ่ม”

ปชป.ประสานเสียงห้ามพลิ้ว

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค กล่าวว่า สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐได้ตกลงไว้กับพรรคประชาธิปัตย์ มีการเจรจาเป็นที่ยุติและลงตัวแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น หากยังไม่มีข้อยุติ ก็เชื่อว่า เป็นเรื่องภายในของทางพรรคพลังประชารัฐเอง

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังมีความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ มีกระแสข่าวเรียกคืนกระทรวงเกรดเอที่ตกลงไปแล้วก่อนโหวตนายกฯ ต้องถามไปยังพรรคพลังประชารัฐว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าจริงจะไม่เป็นธรรมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นที่โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนถือคติว่า อ้อยเข้าปากช้าง ผีถึงป่าช้าแล้วยังไงไม่ฝังก็เผา อยากให้แกนนำพรรคพลังประชารัฐทบทวนเรื่องนี้ ให้ข้อตกลงเป็นข้อตกลง สัญญาเป็นสัญญา หากมีการบิดพลิ้ว บิดเบือน เปลี่ยนแปลง ยึดคืน เชื่อว่าในประชาธิปัตย์ ตนคนหนึ่งที่จะไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้

ด้าน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส. ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ อย่างแน่นอน เพื่อแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตามแนวทางที่พรรคได้เคยประกาศนโยบายไว้กับประชาชน ขณะที่โควตารัฐมนตรีอีก 1 ตำแหน่งของ นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ต้องรอการพิจารณาจากการประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง

“สามมิตร” ทวงเกษตรฯ-คมนาคม

อีกด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. และนายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกแถลงการณ์ว่า ภายในพรรคมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับกระแสข่าวแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายที่พวกเราได้หาเสียงไว้กับประชาชนทั่วประเทศ จึงฝากให้ผู้ใหญ่ในพรรครักษาสิทธิ์ในฐานะแกนหลักของรัฐบาลต้องได้ดูแลกระทรวงสำคัญต่างๆ เพื่อสานงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งขับเคลื่อนงานนโยบายที่หาเสียงไว้ โดยเฉพาะด้านคมนาคมขนส่งและด้านเกษตรกรรม

ส่วน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ว่าอาจยกเลิกข้อตกลงเดิมในการจัดสรรโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ไม่ทราบข่าว ตอนนี้เพิ่งเริ่ม การจัดสรรโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคพิจารณา ส่วนตนได้แสดงเจตจำนงในเรื่องที่ไปทำงานและหาเสียงเอาไว้ เราไม่ได้รู้สึกว่า จะต้องเป็นตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ หรือติดใจอะไร ต้องให้พรรคดำเนินการไปตามกระบวนการ

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมา พรรค พปชร.หาเสียงเกี่ยวกับเรื่องของเกษตรกรฯ จำเป็นหรือไม่ที่ตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ จะต้องมาอยู่กับพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พยายามทำความเข้าใจ และไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาอะไร แต่ถ้าเราไม่ได้ทำตรงนี้ ก็อาจเป็นความเสียหายในภาพรวม แต่ส่วนตัวของตนคงไม่มีอะไร เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะให้ใครไปทำหน้าที่

“พุทธิพงษ์” รับเก้าอี้ ครม.ไม่นิ่ง

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามกระบวนการตามที่ได้วางไว้ ในขณะนี้ทุกพรรคได้วางตัวบุคคลที่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว และจะส่งรายชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีพิจารณาดูอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สามารถทำได้ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล

“โควตารัฐมนตรีของแต่ละพรรค ยังคงเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้บ้าง และไม่ยืนยันว่าจะเป็นในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือไม่ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงก็จะต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องของการสรรหาตัวบุคคล ความเหมาะสมของเนื้องาน และนโยบายของรัฐบาล” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

สอดคล้องกับรายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจะใช้เวลาอีก 2-3 วัน ในการเจรจาจัดสรรโควตาตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง เนื่องจากขณะนี้ การเจรจาในรายละเอียดดังกล่าวยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจสำคัญ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำรัฐบาลต้องการเข้าไปกำกับดูแลเอง.
กำลังโหลดความคิดเห็น