xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ ยังเล่นแรงกับจีน อิหร่าน

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา
ชาวโลกต้องถามผู้นำรัฐบาลสหรัฐฯ เสียงดังๆ แล้วว่ามีสิทธิอำนาจอะไร สหประชาชาติรับรองอย่างไร ถึงได้ส่งกองกำลังทั้งบก เรือ อากาศ ตระเวนไปอวดแสนยานุภาพทุกพื้นที่ และข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธถล่มประเทศอะไรก็ตามที่คุกคามเป็นภัยต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

ล่าสุดทรัมป์ได้ทวิตเตอร์ขู่อิหร่านว่าถ้าขู่คุกคามสหรัฐฯ อีก อิหร่านจะไม่เหลือ “อย่างเป็นทางการ” หมายความว่าจะลบอิหร่านไม่ให้อยู่บนแผนที่โลก ว่างั้นเถอะ

ก็ต้องมองว่าสหรัฐฯ ถือสิทธิอะไรส่งกองทัพเรือ ฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตี และกองกำลังภาคพื้นดิน ไปป้วนเปี้ยนในพื้นที่ใกล้อิหร่าน ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากสหรัฐอเมริกาหลายพันไมล์ และเป็นมหาอาณาจักรเปอร์เซีย อยู่ในพื้นที่นั้น เคยยิ่งใหญ่มาเป็นพันๆ ปี

อิหร่านอยู่รอดมาได้จนทุกวันนี้ แม้สหรัฐฯ จะให้มาตรการและนโยบายคว่ำบาตร ปิดเส้นทางการค้า ธุรกรรมด้านการเงินของอิหร่านนานกว่า 30 ปี และยังบีบบังคับชาติอื่นๆ ไม่ให้ค้าขายกับอิหร่าน ไม่อย่างนั้นจะค้าขายกับสหรัฐฯ ไม่ได้ จะโดนเหมือนอิหร่าน

อิหร่านเป็นดินแดนสมบูรณ์ด้วยความเป็นอาณาจักร มีศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม ก่อนฝรั่งผิวขาวจะอพยพไปจากยุโรปไปไล่ฆ่าอินเดียนแดง ยึดพื้นที่ เปิดทางให้คนจากทั่วโลกเข้าไปอยู่ในดินแดนอเมริกา เป็นชาติมหาอำนาจกร่างคับโลกทุกวันนี้

ความกร่างของโดนัลด์ ทรัมป์ จะเกิดจากปมอะไรก็แล้วแต่ กำลังสร้างปัญหาให้กับชาวอเมริกันและชาวโลก รวมทั้งภาคธุรกิจในประเทศไทยเช่นกัน ไม่มีชาติไหนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีทำสงครามการค้ารุนแรงโดยเฉพาะกับจีน

อาศัยว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศมีตลาดผู้บริโภคมีกำลังซื้อใหญ่ที่สุด ทุกประเทศอยากขายสินค้าให้ประเทศร่ำรวย ทั้งที่ในความเป็นจริง สหรัฐฯ เป็นประเทศมีหนี้สินมากที่สุด ไม่มีวันจะใช้หนี้ได้หมด เว้นแต่จะเร่งพิมพ์แบงก์ดอลลาร์ออกมาจนกลายเป็นแบงก์กงเต๊ก

การที่ทรัมป์ขู่อิหร่าน ทำให้นักวิเคราะห์ นักการเมืองอเมริกันประเมินว่าทรัมป์จะเอาจริงหรือไม่ มิตต์ รอมนีย์ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า “ไม่มีวันที่จะเกิดขึ้น” เพราะอิหร่านไม่ใช่อิรัก ทุกวันนี้ยังแก้ปัญหาอิรักไม่จบ จะคิดเล่นงานอิหร่าน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชนะได้

ถ้ารบกันแล้ว อิหร่านตามลำพังไม่มีทางชนะสหรัฐฯ ในสงครามที่ต้องใช้อาวุธทุกรูปแบบ แต่ว่าอิหร่านไม่ใช่ไส้ตะเกียงขาดน้ำมัน มีพวกและเพื่อนระดับมหามิตรเช่นกัน เช่น รัสเซีย จีน ตุรกี เกาหลีเหนือ ล้วนเป็นไม้เบื่อไม้เมา ได้รับผลกระทบจากสหรัฐฯ ทั้งนั้น

เพียงแค่เวเนซุเอลา ประเทศหลังบ้านสหรัฐฯ ศักยภาพห่างชั้นจากอิหร่านมาก และทรัมป์ร่ำๆ อยากจะใช้กำลังทหารจัดการตามข้อเสนอของพวกที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ก็ยังไม่กล้าบุกเพราะกองทัพยังอยู่สนับสนุนแน่นเหนียวกับผู้นำ นิโคลัส มาดูโร

ทรัมป์แวดล้อมด้วยที่ปรึกษาสายเหยี่ยว เช่นจอห์น โบลตัน ซึ่งพยายามยัดเยียดความคิดให้ทรัมป์เล่นแรงกับเวเนซุเอลา เกาหลีเหนือ และอิหร่าน เป็นคอหอยลูกกระเดือกกับรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ ปอมเปโอ แต่ทั้งคู่ก็ใช่ว่าจะลงรอยกันทุกเรื่อง

ต่างคนก็อยากมีอิทธิพลด้านความคิด แนวนโยบายเหนือทรัมป์ พยายาม “ยัดไส้” แนวนโยบาย และปลูกฝังแนวคิดใส่หัวทรัมป์ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนัก ทรัมป์ต้องออกมาแก้เกี้ยวว่าตัวเองรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย แต่ตัดสินใจด้วยตัวเองทุกเรื่อง

ก็นำไปสู่คำถาม ทรัมป์ตัดสินใจเอง อยู่บนพื้นฐานของความเป็นคนปกติหรือไม่? ตัวทรัมป์เองก็มีปัญหายุ่งเหยิงกับความไม่โปร่งใสในการทำธุรกิจ โดนกล่าวหาว่าแต่งตัวเลขความมั่งคั่งแบบเวอร์ ปกปิดการขาดทุนในการทำธุรกิจถึงพันล้านดอลลาร์ ไม่ให้ใครรับรู้ตัวเลขการเสียภาษี มีเงื่อนงำผลประโยชน์ทับซ้อนในธุรกิจของครอบครัว

ทำให้เกิดความสงสัยว่านโยบายก้าวร้าว ไม่เว้นแม้แต่มิตรประเทศ เป็นเพราะทรัมป์ต้องการแก้ปมปัญหาต่างๆ ของตัวเอง ต้องการเบี่ยงเบนประเด็นด้วยหรือไม่

มีเสียงกล่าวหาว่าทรัมป์ขาดเงินจนต้องแอบเบิกเงินจากมูลนิธิของตัวเองมาแก้ขัด ทั้งๆ ที่คุยโวว่าไม่ขอรับเงินเดือนจากตำแหน่งประธานาธิบดี สร้างภาพความมีสภาพคล่อง ทั้งยังโดนสอบสวนกรณีเงื่อนงำในธุรกรรมด้านการเงินกับกลุ่มชาวรัสเซีย

ความไม่โปร่งใส ไม่น่าไว้ใจในพฤติกรรมของทรัมป์ ทำให้ ส.ส.จากรัฐมิชิแกน สังกัดพรรครีพับลิกัน นายจัสติ นอแมช แสดงความเห็นดังๆ ว่าทรัมป์เข้าข่ายที่น่าจะโดนกระบวนการถอดถอนเพราะมีพฤติกรรม ความสัมพันธ์ธุรกรรมเร้นลับกับรัสเซีย

แม้จะเป็นเสียงเดียว และมิตต์ รอมนีย์ ไม่เห็นด้วย เท่ากับว่ามีเสียงแปลกแยกจากคนในพรรคเดียวกันกับทรัมป์และอาจลามไปถึงคนอื่นๆ ถ้าทนพฤติกรรมทรัมป์ไม่ได้

ความฉาวห้าวกร่างไม่แยกมิตรศัตรูของทรัมป์ทำให้ธุรกิจของทรัมป์มีปัญหา ผู้เช่าอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ในนิวยอร์กพากันย้ายออกเพราะมีปัญหายุ่งยาก เพราะเข้าออกอาคารลำบากด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ทำให้ขาดผู้เช่าและรายได้

นโยบายกีดกัน ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน และจีนก็ตอบโต้ ทำให้ทั้งชาวอเมริกัน และภาคธุรกิจ เกษตรกรเริ่มประสบความลำบากจากค่าใช้จ่ายสูง ต้นทุนสูง ขายสินค้าเกษตร เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าวฟ่าง เนื้อหมู เนื้อวัว ไปจีนไม่ได้

มีผลเสียหายมากมาย ในภาคไฮเทค คาดว่าบริษัทอเมริกันต้องเสียรายได้มากถึง 11 พันล้านดอลลาร์เมื่อถูกห้ามค้าขายกับกลุ่มหัวเว่ยของจีน แต่หัวเว่ยได้สต็อกอะไหล่ ชิ้นส่วนจากสหรัฐฯ ไว้ใช้ได้นาน 1 ปี หลังจากคาดการณ์ว่าทรัมป์จะเล่นแรงแน่ๆ

ทรัมป์รุกหนัก หวังสร้างแต้มต่อก่อนพบปะเจรจากับผู้นำจีนเดือนหน้าในช่วงการประชุม จี 20 ในญี่ปุ่น ก่อนถึงวันนั้นทรัมป์จะมีมาตรการ “กดดันขั้นสูงสุด” อย่างไร และจีนจะสวนกลับอย่างไร ผลกระทบได้ถึงจุดไหนแล้ว ต้องรอดูว่าสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น